|
|
|
|
|
ทัวร์ไทยรหัส : A00239
เดินทางโดย : DD-นกแอร์
โรงแรม :
|
จำนวนวัน :
4 วัน 3 คืน
เที่ยวเหนือสุดคุ้ม
งาช้างดำ- อุโมงค์ลีลาวดี-วัดภูมินทร์ -พระธาตุแช่แห้ง -ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ -ร้านลำดวนผ้าทอ-ถนนหมายเลข 3-ถนนหมายเลข 3-หมู่บ้านทุ่งโฮ้ง-พระธาตุช่อแฮ- Magic Mountain café -วัดศรีโคมคำ-วัดศรีโคมคำ-กว๊านพะเยา-ซุ้มประตูเมืองลับแล-พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล-สวนบัวอมรรัตน์-พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล-พระพุทธชินราช
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง Download PDF
วันแรก กรุงเทพฯ – พิษณุโลก – สวนบัวอมรรัตน์ – วัดพระศรีมหาธาตุ – เมืองลับแล – แพร่ 08.00 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง (กรุณานำบัตรประชาชนไปแสดงด้วย) 10.05 น. ออกเดินทางสู่ จ.พิษณุโลก โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD202 10.55 น. เดินทางถึงสนามบินพิษณุโลก เปลี่ยนการเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศ เดินทางสู่ร้านอาหาร 11.30 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านแพภูฟ้าไทย บ่าย หลังอาหารนำท่าน เดินทางสู่ “สวนบัวอมรรัตน์ อันซีนบัวกระด้งยักษ์” แหล่งปลูกบัวกระด้งยักษ์ขนาดใหญ่ที่แผ่กระจายไปเต็มพื้นที่ของบ่อน้ำและยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศร่มรื่น กิจกรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุด คือ การลงไปบนบัวกระด้ง ให้ได้ลองยืน นั่ง ถ่ายรูปได้อย่างสนุกสนาน เพราะใบบบัวสามารถรองรับน้ำหนักของคนได้ไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว มุ่งหน้าสู่ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ หรือ วัดพระศรี พระประธานองค์ใหญ่ที่ประดิษฐาน ในวิหารคือ “พระพุทธชินราช” ชาวเมืองพิษณุโลกก็นิยมเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” ตามไปด้วย วัดใหญ่นับเป็นพระอารามหลวงที่สำคัญของจังหวัด เพราะเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของชาวเมืองและชาวไทยทั้งประเทศ ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองเมื่อ พ.ศ. 1900 ก่อนเดินทางต่อนำท่านแวะชม เมืองลับแล อำเภอเล็กๆ ในอุตรดิตถ์ ที่มาของตำนานเมืองแม่ม่าย ห้ามพูดโกหก นำท่านชมสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ เช่น ซุ้มประตูเมืองลับแล ที่มีรูปปั้นหญิงสาวยืนอุ้มลูกน้อยสีหน้าเศร้าสร้อย ข้างมีสามีนั่งคอตกในมือถือถุงย่ามใส่ขมิ้นเตรียมเดินทางจากเมืองลับแล บริเวณฐานจารึกข้อความ “ขอเพียงสัจจะวาจา” ที่แสดงถึงตำนานของเมืองลับแล ที่เล่าถึงแม่หม้ายผู้ที่ยอมเสียสละ เพื่อรักษาสัจจะวาจาที่เป็นกฎของเมืองว่าเมืองนี้ห้ามพูดโกหก พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติของเมือง วิถีชีวิต และขนบธรรมเนียมการใช้ชีวิตของผู้คนในเมืองลับแล โดยจำลองผ่านเรือนในแต่ละหลังซึ่งจัดแสดงได้น่าสนใจมาก และสถานที่น่าสนใจอื่นๆ (ขึ้นอยู่กับการประเมินเวลาของไกด์) จากนั้นเดินทางสู่ที่พักโรงแรมภูมิไทย ในตัวเมืองแพร่ เย็น บริการอาหารค่ำ ณ ร้านร่มไม้ใหญ่ จากนั้นให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย วันที่ 2 พระธาตุช่อแฮ – คุ้มเจ้าหลวงแพร่ – บ้านวงศ์บุรี – หมู่บ้านทุ่งโฮ้ง – น้ำตกธารสวรรค์ – วัดศรีโคมคำ – พะเยา 07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในที่พัก 08.00 น. นำท่านไหว้ พระธาตุช่อแฮ เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ เก่าแก่ คู่บ้าน คู่เมืองจังหวัดแพร่และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล บุคคลใดที่มา เที่ยวจังหวัดแพร่แล้วจะต้องมานมัสการพระธาตุช่อแฮ เพื่อเป็นศิริมงคลกับตนเอง จนมีคำกล่าวว่า ถ้ามาเที่ยวจังหวัดแพร่ แต่ไม่ได้มา นมัสการพระธาตุช่อแฮเหมือนไม่ได้มาจังหวัดแพร่ ต่อมานำชม “คุ้มเจ้าหลวงแพร่” เป็นสถาปัตยกรรมสมัย รัชกาลที่ 5 ยุคต้นๆไทยผสมยุโรปไม้แป้นเกล็ด ไม่มีหน้าจั่ว เป็นแบบหลังคาเรือนปั่นหยา คุ้มเจ้าหลวงแพร่ เคยใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเมื่อคราวที่ท่านเสด็จเยี่ยมราษฎรจ.แพร่ นำท่านชม “บ้านวงศ์บุรี” เป็นบ้านของเจ้าพรหม (หลวงพงษ์พิบูลย์)ผู้สืบเชื้อสาย มาจากอดีตเจ้าเมืองแพร่ และเจ้าสุนันทา วงศ์บุรี(พระยาบุรีรัตน์) ก่อสร้างใน ปี พ.ศ. 2440 ลักษณะอาคารเป็นแบบปั่นหยา สองชั้น ก่อสร้างโดยชาวจีนกวางตุ้งที่มีลวดลายไม้แกะสลักประดับตัวบ้านทั่วไปจุดเด่นของอาคารลวดลายไม้แกะสลักที่หน้าจั่ว ชายคา ระเบียง ช่องลมชายน้ำ หน้าต่างและประตู 12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ร้าน Hom 2493 บ่าย หลังอาหารนำท่านแวะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ขึ้นชื่อมากมาย โดยเฉพาะ ผ้าม่อฮ่อม ซึ่งถือกันว่ามีเนื้อดี ทนทาน และสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของชาวเมืองแพร่ ที่โด่งดังไปทั่วประเทศ จนมีคำกล่าวว่า “ใครมาเมืองแพร่ต้องซื้อ หม้อห้อม” ณ หมู่บ้านทุ่งโฮ้ง จากนั้นเดินทางต่อสู่ น้ำตกธารสวรรค์ หรือ น้ำตกบ่อเบี้ย ตั้งอยู่ในเขตของ อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง ตำบลบ้านมาง อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา เป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลางไม่ใหญ่มากนัก เกิดจากลำห้วยหลายสายที่ไหลมารวมกัน และตกลงมาจากหน้าผาเป็น น้ำตกธารสวรรค์ ด้วยบรรยากาศร่มรื่นของบริเวณนี้ ทำให้เหมาะกับการมาพักผ่อน เล่นน้ำเย็นๆให้ชุ่มฉ่ำอย่าง อีกทั้งกระแสน้ำก็ไม่แรงมากนัก น้ำใสสะอาดเป็นสีเขียวมรกต ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมาก เพราะมีต้นไม้มากมายหลายสายพันธุ์ และสวยงดงามมากเช่นเดียวกัน อีกทั้งหากโชคดีท่านอาจจะได้พบฝูงนกยูงคอยรำแพนหางชูช่อคอยต้อนรับผู้มาเยือน จากนั้นนำท่านนมัสการพระเจ้าตนหลวง เป็นพระประธานอยู่ในวิหาร วัดศรีโคมคำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองพะเยาและได้รับการอัญเชิญให้เป็นตาประจำจังหวัดฯ สร้างขึ้นราวในปี พ.ศ. 2034 เชื่อว่าขอลูกได้ทุกราย ขอพร ขอโชคลาภ ก็ไม่ผิดหวังเช่นกัน เย็น บริการอาหารค่ำ ณ ร้านแสงจันทร์ จ.พะเยา จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรม ABIZZ HOTEL กว๊านพะเยา พักผ่อนตามอัธยาศัย วันที่ 3 กว๊านพะเยา – คาเฟ่สุดชิค ภูลังกา – วัดศรีมงคล – ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ร้านลำดวนผ้าทอ - ดอย ซิลเวอร์ –อ.ปัว 06.00 น. นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศล่องเรือแจวชมวิวทิวทัศน์ใน “กว๊านพะเยา” ทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ จุดหมายคือการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ วัดติโลกอาราม ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ.2019-2029 และจมอยู่ใต้น้ำหลายร้อยปี ถือว่าเป็น Unseen ของจังหวัดพะเยาอีกทีหนึ่ง พร้อมบริการอาหารเช้าแบบปิกนิก อำลาจังหวัดพะเยา ออกเดินทางต่อสู่ จ.น่าน ระหว่างทางแวะดื่มเครื่องดื่มเย็นๆสักแก้ว ณ Magic Mountain café คาเฟ่สุดชิคบนภูลังกา เทือกเขาสูงสลับซ้อนกันอยู่ในเทือกเขาสันปันน้ำ มีความสูงราว 900-1,720 เมตร ทำให้เห็นเป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงาม 12.30 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านเรณู บ่าย เดินทางสู่"วัดศรีมงคล" เป็นวัดเก่าแก่ที่มี “หลวงปู่ครูบาก๋ง” หรือพระครูมงคลรังสี เป็นพระสงฆ์ที่ชาวบ้านในแถบนี้ต่างให้ความเคารพนับถือ ด้วยศรัทธาชาวบ้านจึงได้นิมนต์หลวงปู่มาอยู่ประจำที่วัดบ้านก๋ง ก่อนเริ่มพัฒนาวัดโดยชักชวนชาวบ้านบูรณะซ่อมแซมและสร้างกุฏิ วิหาร อุโบสถ ฯลฯ รวมถึงอบรมสั่งสอนชาวบ้านให้หมั่นเข้าวัด รักษาศีล ฟังธรรม มีความสามัคคี จนชาวบ้านต่างเคารพศรัทธา และวัดบ้านก๋งก็มีความเจริญรุ่งเรืองสืบมา และทางวัดทำเป็นจุดชมวิวถ่ายภาพ มีร่มกระดาษให้ถือเพิ่มความเก๋ มองไปด้านล่างเห็นทุ่งนาเขียวขจีมีฉากหลังเป็นภูเขาสูงใหญ่ของดอยภูคา พร้อมกันนั้นมีกระท่อม “ฮักนาน่าน” ซึ่งเป็นร้านกาแฟและสะพานไม้กลางทุ่งนาให้ลงไปชมวิวและถ่ายภาพกันได้อย่างใกล้ชิด หรือจะนั่งกินกาแฟที่ร้านเฮือนโอชากาแฟอิ่มบุญที่วัดแล้วชมวิวทุ่งนาที่ระเบียงก็ได้ นำท่านสัมผัสบรรยากาศท้องทุ่งนา อีก 1 ไฮไลท์ห้ามพลาด แวะ จิบกาแฟริมนาในบรรยากาศไทลื้อ ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ เป็นอีกร้านหนึ่งที่มีความ เก๋ ไก๋ ติดริมนาข้าวแฝงไปด้วยบรรยากาศแบบไทลื้อดั้งเดิม ทั้งนี้ท่านสามารถเลือกซื้อผ้าไทลื้อที่ ร้านลำดวนผ้าทอ เป็นของที่ระลึก และผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหล ลายโบราณ ชื่อดังแห่งปัว อำเภอปัวถือว่าเป็นอำเภอที่มีชาวไทลื้ออยู่มากที่สุดชาวไทลื้อมีประเพณีและวัฒนธรรมเป็นของตนเองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการแต่งกายแบบพื้นบ้าน ได้แก่ ผ้าทอไทลื้อ นับว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอำเภอนี้ ผ้าทอส่วนใหญ่เมื่อทอมาแล้วก็มีการจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน นำท่านชมความงามของเครื่องเงิน ณ ดอย ซิลเวอร์ แหล่งรวมเครื่องประดับเงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง 18.00 น. บริการอาหารค่ำ ณ ร้านร่มไม้ by ยกครก 19.00 น. นำท่านเข้าสู่ที่พักฮักปัว โฮเทล อ.ปัว จ.น่าน พักผ่อนตามอัธยาศัย วันที่ 4 จุดชมวิวดอยภูคา 1715 – บ่อเกลือโบราณ - ถนนหมายเลข 3 – พระธาตุแช่แห้ง – พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน – 07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของรีสอร์ทเช้า จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวดอยภูคา 1715 ท่านจะได้ชม ต้นชมพูภูคา ที่มีแห่งเดียวในโลก ป่าดึกดำบรรพ์ ลานดูดาว และชมต้นเต่าร้างยักษ์ พักผ่อน ถ่ายรูป ตามอัธยาศัย ชมการทำ เกลือสินเธาว์ บ่อเกลือโบราณ อัศจรรย์เกลือภูเขา หนึ่งเดียวในโลก มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่มีที่ใดเหมือน คือเกลือสินเธาว์ ซึ่งมีมาแต่โบราณ และวิธีการทำเกลือปัจจุบันชาวบ้านยังคงต้มแกลือด้วยวิธีแบบดั้งเดิม จะตักน้ำเกลือจากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่สู่บ่อพัก การทำเกลือ ของชาวบ้านบ่อเกลือ นำน้ำเกลือที่ตักจากบ่อมาต้มในกะทะประมาณ 4-5 ชั่วโมง ให้น้ำเกลือระเหยแห้ง จากนั้นก็จะนำไม้พายมาตักเกลือใส่ตะกร้าที่แขวนไว้ อิสระให้ท่านซื้อเกลือและผลิตภัฑณ์ สินค้าแปรรูป เช่น เกลือสปาขัดผิว เกลือแช่เท้า สบู่ดอกเกลือ รวมถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ้าแพรไหม แวะถ่ายรูป ถนนหมายเลข 3 ด้วยถนนที่คดโค้งซ้ายขวาขึ้นไปบนยอดเขาที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอมองดีๆกลับเหมือนหมายเลข 3 ซะงั้น ทำให้เป็นเหมือนจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดแวะถ่ายรูปเก๋ๆไว้อวดเพื่อนๆในโลกโซเชียล 12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านเฮือนฮอม บ่าย นำท่านนมัสการ พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำคนเกิดปีเถาะองค์พระธาตุตั้งอยู่บนเชิงเนิน ปูอิฐ ลาดขึ้นไปยังยอด องค์พระเจดีย์เป็นศิลปะแบบล้านนาไทย ฐานสี่เหลี่ยมซ้อนกันขึ้นไปจนสูง องค์พระธาตุใช้แผ่นทองเหลืองบุรอบฐานแล้วลงรักปิดทอง พระธาตุแช่แห้ง ถือว่าเป็นอนุสรณ์ความรักและความสัมพันธ์ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองจังหวัดน่าน เพื่อชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน “หอคำหลวง” ซึ่งปัจจุบันได้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุที่มีค่าและประวัติศาสตร์ของเมืองน่านโดยเฉพาะ งาช้างดำ (งาช้างสีดำที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก) และหนึ่งในไฮไลท์ของจังหวัดน่าน ยังมีอุโมงค์ลีลาวดี หรือ ซุ้มลีลาวดี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เป็นจุดถ่ายรูปสุดโรแมนติกและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองน่าน โค้งต้อนรับเป็นซุ้มหน้าอยู่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติขึ้นปกคลุมทางเดินสองข้างทาง ทำให้บรรยากาศสงบร่มเย็น เหมาะแก่การพักผ่อน จากนั้นชม วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร นมัสการพระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี จากนั้นหากมีเวลานำท่านเลือกซื้อของฝากก่อนเดินทางสู่สนามบินน่าน 17.40 น. เดินทางสู่สนามบินดอนเมือง จ.กรุงเทพ โดย สายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD177 18.50 น. เดินทางถึงสนามบินดอนเมือง จ.กรุงเทพโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ |
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด |