วันที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินหาดใหญ่ – ปัตตานี – ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว – มัสยิดกรือเซะ– จุดชมวิวสะพานข้ามเขือนบางลาง –วงเวียนหอนาฬิกา – ตู้ไปรษณีย์โบราณ-สตรีทอาร์ตเบตง

04.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบิน THAI VIETJET / BANGKOK AIRWAY/ THAI SMILE  พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

06.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินหาดใหญ่ โดยสายการบิน THAI VIETJET / BANGKOK AIRWAY / THAI SMILE เที่ยวบินที่ XXX (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสายการบิน)

08.05 น. ถึง สนามบินหาดใหญ่ จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถตู้ สู่ จ.ปัตตานี ไหว้ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นศาลเจ้าเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของ จ.ปัตตานีมาตั้งแต่โบราณ ตั้งอยู่ที่ถนนอาเนาะรู อำเภอเมือง ปัตตานี เดิมศาลเจ้านี้มีชื่อเรียกว่า "ศาลเจ้าซูก๋ง" ตามหลักฐานที่จารึกอยู่ในศาลเจ้า ตั้งขึ้นในปีปีพุทธศักราช 2117 ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา แม้ศาลเจ้านี้จะตั้งมาเก่าแก่นับได้หลายศตวรรษ แต่ด้วยบุญญาภินิหารของเจ้าแม่หลิมกอเหนี่ยว ศาลเจ้านี้จึงมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่ศรัทธาของสาธุชนเสมอมามิได้ขาด

จากนั้นพาชม มัสยิดกรือเซะ หรือ มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์   เป็นมัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปีในจังหวัดปัตตานี สันนิษฐานได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 22 ร่วมสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มัสยิดปิตูกรือบัน ชื่อนี้เรียกตามรูปทรงของประตูมัสยิด ซึ่งมีลักษณะเป็นวงโค้งแหลมแบบกอทิกของชาวยุโรป และแบบสถาปัตยกรรมของชาวตะวันออกกลาง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (1)

แวะถ่ายรูป จุดชมวิวสะพานข้ามเขือนบางลาง เป็นอีกสถานที่สำหรับการพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ภูเขาที่โอบล้อมเขื่อนบางลาง กั้นแม่น้ำปัตตานีที่บริเวณบ้านบางลาง จังหวัดยะลา ช่วงเช้าบางวันจะสามารถเห็นหมอกบางๆ บรรยากาศดี โอโซนสูญให้เต็มปลอด

วงเวียนหอนาฬิกาเบตงซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างเก่าแก่อยู่คียงคู่กับเมืองเบตงมาช้านาน หอนาฬิกาแห่งนี้สร้างเป็นสัญลักษณ์จุดศูนย์กลางของเมือง ณ บริเวณจุดตัดของถนนสุขยางค์กับถนนรัตนกิจ ด้วยหินอ่อนขาวนวลอันเลื่องชื่อจากยะลา ซึ่งได้รับการยอมรับในเรื่องของความแข็งแรงดูสง่าน่ามอง

ตู้ไปรษณีย์โบราณ ตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ลักษณะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีเส้นวงรอบของตู้ประมาณ 140 เซนติเมตร มีความสูง 290 เซนติเมตร ด้านบนของตู้ได้บรรจุลำโพงไว้ข้างในและเจาะรูกลมๆไว้รอบๆ เพื่อกระจายเสียงรายงานข่าวสารของทางราชการ มีอายุรวม 86 ปี

สตรีทอาร์ตเบตง (Street Art Betong ) แลนด์มาร์กใหม่ของเบตง เป็นผลงานที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวประทับใจและได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ภาพที่เขียนส่วนใหญ่ จะเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิต ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชาวเบตง รวมไปถึงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่จริงใน อ.เบตง

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร (2)

พักที่ Grand View Landmark Hotel  หรือ เทียบเท่า

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่ 2 ชมสนามบินแห่งใหม่เบตง-ป้ายใต้สุดแดนสยาม-อินเตอร์รังนกของฝาก-ป้ายโอเคเบตง-อุโมงค์ปิยะมิตร-ร้านวุ้นดำกม.4-สวนหมื่นบุปผา-บ่อน้ำร้อนเบตง

เช้า รับประทานอาหารเช้า  (3)

แวะชมและถ่ายรูปด้านนอกอาคารสนามบินเบตง ชมสถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยไม้ไผ่ แวะร้านอินเตอร์รังนกของฝาก ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากจากท้องถิ่น เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้าน สินค้า OTOP,รังนก,ยาจีน,หมี่เหลืองเบตง,ซีอิ้วเบตง ส้มโชกุน, เสื้อยืดสกรีน OK BETONG เป็นต้นให้ท่านได้อิสระซื้อเป็นของฝาก

จากนั้นแวะ จุดเช็คอินป้ายโอเคเบตง เป็นจุดเช็คอินแรกที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวก่อนเข้าสู่ “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” สำหรับบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก สถานที่ตั้ง ทางเข้าตัวเมืองเบตง เส้นทางสาย 410 ถนนสายหลักในการเข้า-อ  อกตัวเมืองเบตง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (4)
ร้านวุ้นดำ กม.4 ต้นตำหรับอร่อยระดับตำนาน พิเศษเสิร์ฟเฉาก๊วยท่านละ 1 ถ้วย เฉาก๊วยใช้วิธีทำแบบทำให้มีกลิ่นหอมและมากไปด้วยสรรพคุณทางยา

ให้ท่านได้อิสระซื้อเป็นของฝากสวนหมื่นบุปผา หรือ สวนดอกไม้เมืองหนาว ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปิยะมิตร 2 สวนดอกไม้นี้อยู่ท่ามกลางภูเขา สวนนี้เกิดขึ้นจากโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้พระราชทานนามสวนแห่งนี้ว่า ว่านฮัวหยวน หรือ แปลเป็นไทยว่า สวนหมื่นบุปผา

อุโมงค์ปิยะมิตร สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่ในอดีตเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์มลา ภายในอุโมงค์มีโรงพยาบาลสนาม ห้องส่งสัญญาณวิทยุระยะไกล ห้องปฏิบัติงานวางแผน ในส่วนของพื้นผิวด้านบนของอุโมงค์มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนา

นำท่านเดินทางไปยัง บ่อน้ำร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ โดยจะมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย อุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส ซึ่งตรงจุดที่มีน้ำเดือดนี้ สามารถต้มไข่ไก่ได้จนสุกภายใน 10 นาที ทางจังหวัดยะลาได้ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบบ่อน้ำร้อน ให้มีความสวยงาม แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ 

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร (5)

พักที่  Grand View Landmark หรือเทียบเท่า

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่ 3 ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง -สะพานแขวนแตปูซู-วัดช้างให้-ล่องเรือทะเลสาบฮาลาบาลา-มัสยิดกลางสงขลา-ตลาดกิมหยง

05.00 น. นำท่านขึ้นสกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ขึ้นชื่อในเรื่องของการชมพระอาทิตย์ขึ้น ควบคู่ไปกับการชมทะเลหมอกอันสวยงาม จุดเด่น คือ ไม่ว่าคุณจะมาฤดูไหน หรือช่วงเวลาไหน ท่านก็มีโอกาสที่จะได้เห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าที่เป็นทะเลหมอกตลอดทั้งปี (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

เช้า รับประทานอาหารเช้า (6)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สะพานแขวนแตปูซู แวะถ่ายรูปกับสะพานไม้ สะพานแขวนแห่งนี้ใช้งานมาหลายสิบปี วัตถุประสงค์หลักที่สร้างขึ้นนั้น ในอดีตชาวบ้านใช้ขนถ่ายสินค้าทางการเกษตร เช่น ผลไม้ ยางพารา และใช้สัญจรของชาวสวนในพื้นที่

จากนั้นพาท่านขอพร วัดช้างให้ หรือ วัดราษฎร์บูรณะ เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตามตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว จึงได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมืองและไพร่พลเดินติดตามไป จนมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำจึงได้ถือเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แต่น้องสาวไม่ชอบ พระยาแก้มคำจึงให้สร้างวัด ณ บริเวณดังกล่าวแทน แล้วให้ชื่อว่า วัดช้างไห้

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (7)

ล่องเรือชมบรรยากาศทะเลสาบฮาลาบาลา และชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมทะเลสาบ นำท่านแวะชม เกาะทวด ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบฮาลาบาลา หรือ กลางเขื่อนบางลาง จ.ยะลา

แวะชมและถ่ายภาพ มัสยิดกลางสงขลา (บริเวณด้านนอก) ศาสนสถานที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่สวยสง่าโดดเด่น บริเวณด้านหน้ามีสระน้ำทอดยาวกว่า 200 เมตร แลดูคล้ายกับศาสนสถานทัชมาฮาลที่อินเดีย จากนั้นออกเดินทางต่อไปยังย่านเมืองเก่าจังหวัดสงขลา

อิสระช้อปปิ้งที่ ตลาดกิมหยง ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากอาทิเช่น อาหารแห้ง กาแฟ ขนมขบเคี้ยว ถั่วต่างๆ เครื่องสำอาง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

เย็น อิสระอาหารเย็น ณ ตลาดกิมหยง ตามอัธยาศัย

พักที่ Centara Hotel Hatyai หรือ เทียบเท่าระดับ  

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่ 4 ย่านเมืองเก่าสงขลา – โรงสีแดง – เขาตังกวน – อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ - สนามบินหาดใหญ่ - สนามบินสุวรรณภูมิ

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก (8)

ชม ย่านเมืองเก่าสงขลา ซึ่งมีถนนสายสำคัญ 3 สายหลักๆ คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และ ถนนนางงาม ถนนที่ประกอบไปด้วยอาคารและสถาปัตยกรรมที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ และยังมีอาคารตึกแถวแบบจีนโบราณของชาวจีนฮกเกี้ยนเรียงรายทั้งสองฟากฝั่งถนน ไปยัง โรงสีแดง หับ โห้ หิ้น" คือ โรงสีข้าวเก่าแก่ในย่านเมืองเก่าของสงขลา ตัวอาคารทาด้วยสีแดงแรงฤทธิ์ มีความขลังแบบคลาสสิก ตั้งอยู่บนถนนนครนอก หากย้อนไปในอดีต "เมืองสงขลา" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยกลุ่มคนเชื้อสายจีนหลายตระกูล อาทิ ณ สงขลา, รัตรสาร, รัตนปราการ

เดินทางต่อไปยัง เขาตังกวน  ขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา บริเวณยอดเขาตังกวนนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองสงขลาได้โดยรอบแบบ 360 องศา

ไปยัง อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งราชนาวีไทย พระบรมรูปของท่านหันหน้าออกทะเลดูเด่นสง่า เป็นที่เคารพนับถือของคนโดยทั่วไปในภาคใต้ ก่อตั้งโดยกลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล จังหวัดสงขลา สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2530 เพื่อให้ชาวเรือ ได้สักการะบูชาก่อนออกไปประกอบอาชีพในทะเล

สมควรแก่เวลาเดินทางไป สนามบินหาดใหญ่ 

กลางวัน อิสระอาหารกลางวัน ณ สนามบิน ตามอัธยาศัย

15.20 น. ออกเดินทางจาก สนามบินหาดใหญ่ โดยสายบิน THAI VIETJET / BANGKOK AIRWAY/THAI SMILE    เที่ยวบินที่ XXX

16.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ