เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook
เดินทางโดย : LX-สวิสแอร์
โรงแรม : 3 ดาว |  จำนวนวัน : 10 วัน 8 คืน
ซูริค, น้ำตกไรน์, ดาวอส, เซนต์โมริตส์, อันเดอร์มัท, นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอกซ์เพรส เซอร์แมท, บริค, ขึ้นเขาแมทเทอร์ฮอร์น, มองเทรอ, เวเว่ย์, โลซานน์ เจนีวา, เนอชาแตล, เบิร์น, อินเตอร์ลาเคน, ขึ้นเขาจุงเฟรา , ลูเซิร์น, ซูริค ซูริค, น้ำตกไรน์, ดาวอส, เซนต์โมริตส์, อันเดอร์มัท, นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอกซ์เพรส เซอร์แมท, บริค, ขึ้นเขาแมทเทอร์ฮอร์น, มองเทรอ, เวเว่ย์, โลซานน์ เจนีวา, เนอชาแตล, เบิร์น, อินเตอร์ลาเคน, ขึ้นเขาจุงเฟรา , ลูเซิร์น, ซูริค
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF
คลาสสิค สวิตเซอร์แลนด์ 10 วัน 8 คืน
***บินตรงซูริค โดย...สายการบินสวิส อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ส***
ตุลาคม 2566 – มกราคม 2567
เริ่มต้น 149,900 บาท (ไม่รวมค่าวีซ่า แต่รวมทิปทุกอย่างแล้ว)
ซูริค, น้ำตกไรน์, ดาวอส, เซนต์โมริตส์, อันเดอร์มัท, นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอกซ์เพรส
เซอร์แมท, บริค, ขึ้นเขาแมทเทอร์ฮอร์น, มองเทรอ, เวเว่ย์, โลซานน์
เจนีวา, เนอชาแตล, เบิร์น, อินเตอร์ลาเคน, ขึ้นเขาจุงเฟรา , ลูเซิร์น, ซูริค
ราคาทัวร์ 149,900 บาท : 8-17 ต.ค. 66/ 11-20 ต.ค. 66
ราคาทัวร์ 158,900 บาท : 24 ธ.ค.-2 ม.ค. 67*/ 27 ธ.ค.- 5 ม.ค. 67/ 29 ธ.ค- 7 ม.ค. 67/ 30 ธ.ค.- 8 ม.ค. 67
เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ กับ เส้นทางสุดคลาสสิค ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
วันแรก กรุงเทพมหานคร – ซูริค
09.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินสวิสแอร์ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
12.45 น. ออกเดินทางสู่นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (บินตรง) โดยสายการบินสวิสแอร์ เที่ยวบิน LX181 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.45 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินมีบริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินตรง สู่นครซูริค
19.35 น. เดินทางถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Zurich Airport Mess **** หรือเทียบเท่า
วันที่สอง ซูริค – น้ำตกไรน์ – ดาวอส – เซนต์โมริตส์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) (ระยะทาง 50 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เมืองที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมเรอเนซองซ์ และอาคารสไตล์คลาสสิก นำท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของน้ำตกไรน์ น้ำตกที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา อิสระให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณและเก็บภาพความงามตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองดาวอส (Davos) (ระยะทาง 172 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชม.) เมืองนี้ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Economic Forum (WEF) ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของทั่วโลก ในทุกๆปี เมืองดาวอส (Davos) ตั้งอยู่เขตรอบแม่น้ำ Landwasser ซึ่งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ระหว่าง ภูเขา Plessur และ ภูเขา Albula ที่ความสูง 1,560 เมตร (5,120 ฟุต) ซึ่งเป็นเมืองที่สูงที่สุดในยุโรป และเมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองสกีรีสอร์ท ที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ และสูงที่สุดในยุโรป นอกจากนี้เมืองนี้ยังโด่งดัง เรื่องของอากาศที่ดี สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การรักษา และฟื้นตัวจากโรคปอด เมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย โดยในธนบัตรที่ระลึกฉบับละ 20 บาท ที่ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดพิมพ์ขึ้นโดย ได้เชิญพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในหลวง ร.9 เมื่อสมัยยังทรงพระเยาว์ ซึ่งทรงฉาย ณ โรงแรมเซโฮฟ (Seehof hotel) ซึ่งอยู่ที่เมืองดาวอส (Davos) มาเป็นภาพประธาน นำท่านแวะถ่ายรูปกับโรงแรมเซโฮฟ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเซนต์โมริตส์ (St. Moritz) (ระยะทาง 67 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองที่อยู่ในหุบเขา Engadine ของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูงที่ 1,775 เมตรเหนือน้ำทะเล ซึ่งทางตะวันออกของเทือกเขามียอดภูเขา Piz Bernina ตระหง่านสูงที่สุด ที่ระดับ 4,049 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เมืองเซนต์โมริตส์ แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่อยู่บนเขา และส่วนที่ราบโดยมีทะเลสาบขั้นอยู่ตรงกลาง เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงและศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตัวเมืองตั้งอยู่ในรัฐเกราบึนเดิน(Graubünden) เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ตั้งอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับเซนต์โมริตส์ (Lake St. Moritz) ซึ่งจะพบกับความงดงามของน้ำใสสีเขียวมรกตในช่วงฤดูร้อน แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง อิสระให้ท่านได้เดินเล่น หรือเลือกซื้อของฝาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนม หรือ สินค้าพื้นเมือง ในย่านจัตุรัสพลาซาดาสโกวล่า (Plazza da Scoula) หรือจะเดินเล่นชมความงามของเมืองสกีรีสอร์ทแห่งนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Hotel Davos / Hotel Europa St. Mortiz **** หรือเทียบเท่า
วันที่สาม อันเดอร์มัท - นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส – เซอร์แมท – บริค
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองอันเดอร์มัท (Andermatt) (ระยะทาง 224 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)หมู่บ้านในรัฐอูรี สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่เรียกว่าอัวร์เซอเริน อันเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำร็อยส์ อันเดอร์มัทถือเป็นหมู่บ้านที่เป็นจุดบรรจบกันของช่องเขาที่สำคัญสามช่องเขา ได้แก่ ช่องเขาโอเบอร์อัลพ์ทางทิศตะวันออก, ช่องเขาก็อทฮาร์ททางทิศใต้ และช่องเขาฟัวร์คาทางทิศตะวันออก เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่อากาศดีอีกแห่งและมีทัศนียภาพที่สวยงาม ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามสองข้างทาง นอกจากนี้อันเดอร์มัทยังเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาขึ้นรถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นรถไฟที่นั่งชมวิวทิวทัศน์และบรรยากาศของเมืองเล็กๆตลอดเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งของสวิตเซอร์แลนด์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านสัมผัสบรรยากาศ นั่งไฟสายโรแมนติกสายกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) รถไฟที่ได้ชื่อว่าวิ่งช้าที่สุดในโลก และเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้สัมผัส ตลอดการนั่งรถไฟกว่า 3 ชั่วโมงจากเมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) สู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ระหว่างทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกโอบล้อมอยู่ในอ้อมกอดของหุบเขาและสายน้ำสีฟ้าครามสดใสของทะเลสาบ หรือจะเป็นทัศนียภาพของภูเขาที่พาดผ่านกลางเทือกเขาแอลป์ ยอดเขาความสูงกว่า 3,000 เมตร ที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและเก็บภาพธรรมชาติอันสวยงามและขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟสิ้นสุดการเดินทาง ณ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) ตั้งอยู่เชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์นยอดเขาแหลมสูงชันสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ ครอบคลุมพื้นที่สกีฤดูหนาวและฤดูร้อนที่กว้างใหญ่ เมืองเซอร์แมทนี้ถือว่าเป็นเมืองที่ปราศจากมลภาวะโดยสิ้นเชิงเพราะเป็นเมืองที่ห้ามนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเข้าไปในตัวเมืองเด็ดขาด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Badehotel Salina Maris / Alex Hotel Brig / Alpen Hotel Zermatt**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
วันที่สี่ เซอร์แมท – เคเบิ้ลสู่ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่าน นั่งกระเช้าสู่แมทเทอร์ฮอร์นกลาเซียร์พาราไดซ์ (Matterhorn Glacier Paradise) เพื่อชมภูเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่มีชื่อเสียงในเทือกเขาแอลป์ (Alps) ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ภูเขาที่สูงกว่า 4,478 เมตร รูปทรงพีระมิดตั้งอยู่บนพื้นที่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงามไม่เว้นแต่ละวัน “ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น” นี้มีความสวยงาม มีเสน่ห์ เป็นเครื่องหมายการค้าของลูกอม “ริกัวล่าร์” และ “พาราเมาต์พิกเจอส์” โดยบริษัทภาพยนตร์ พาราเมาต์พิกเจอส์ ของฮอลลีวูด ได้นำมาเป็นตราสัญลักษณ์ของบริษัทอีกด้วย ท่านสามารถชมวิวสวยของภูเขาที่มีรูปทรงงดงามที่สุดในสวิสด้วยความสูงของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่มีความสูงกว่า 4,478 เมตร จึงสามารถมองเห็นยอดเขาสูงยอดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้ชัดเจน อิสระให้ท่านเดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นได้เวลานำท่านนั่งกระเช้าเดินทางกลับสู่ เมืองเซอร์แมท (การให้บริการของกระเช้า ขึ้นกับสภาวะอากาศ ณ วันนั้นๆ ขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการหากสภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวย)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บน Matterhorn Glacier Paradise
(***หากห้องอาหารไม่สามารถรองรับคณะได้ บริษัทจะนำท่านรับประทานอาหารที่เมืองเซอร์แมทแทน)
บ่าย นำท่านเที่ยวชมความงามของเมืองเซอร์แมทเมืองที่ปราศจากรถยนต์และไร้มลพิษอีกแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเก็บภาพความสวยงามของเมืองที่มีฉากหลังคือ ยอดเขาแมเทอร์ฮอร์น หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้า และ ของฝาก หรือ นาฬิกา และ สินค้าแฟชั่นที่มีให้เลือกชม ณ เมืองแห่งนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Badehotel Salina Maris / Alex Hotel Brig / Alpen Hotel Zermatt**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
วันที่ห้า มองเทรอ – ปราสาทชิลยอง – เวเวย์ – โลซานน์ – เจนีวา
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 12 นาที นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอ (Montreux) (ระยะทาง 139 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม.) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือนริมทะเลสาบ นำท่านเข้าชมปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ซาวอย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) เมืองเล็กๆระหว่างทางสู่เมืองโลซานน์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับรูปปั้นชาร์ลี แชปลิน (Chaplin Statue) ผู้เป็นศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตได้เคยใช้บั้นปลายชีวิตที่เมืองนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) นำท่านชมเมืองโลซานน์ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านผ่านชมอพาทเม้นท์หมายเลข 16 (Apartment no.16 ) บนถนนทิซโซ (Avenue Auguste Tissot) ซึ่งในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และบุตรธิดาที่สามพระองค์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระยะเวลาสองปี ระหว่างปี พ.ศ. 2476-2478 นำท่านเดินชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์เมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ (Le PavillonThailandais) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเดอนองตูเขตเมืองโลซานน์ จัดสร้างโดยรัฐบาลไทย สร้างขึ้นจากไม้สัก และมียอดศาลาสูง 9 เมตร เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงครองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์รอบ 75 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จไปประกอบพิธีเปิดศาลาและส่งมอบอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2552
ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เจนีวา (Geneva) (ระยะทาง 68 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวาไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรน (Rhone river) โดยทะเลสาบเจนีวานั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี สำหรับ กรุงเจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร นำท่านชมน้ำพุเจดโด กลางทะเลสาบเลคเลมังค์ น้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าสูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเจนีวา โดยสามารถมองเห็นได้จากทุกจุดในเมือง น้ำพุเจดโดเป็นน้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา" โดยน้ำพุสามารถพุ่งได้สูงสุดประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) น้ำพุถูกติดตั้งในปี 1886 นำท่านถ่ายรูปกับนาฬิกาดอกไม้ที่สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Geneva Hotel/ Movenpick Hotel & Casino Geneva **** หรือเทียบเท่า
วันที่หก เจนีวา – เนอชาแตล – เบิร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเนอชาแตล (Neuchatel) เมืองแห่งปราสาทของสวิส ตั้งอยู่บนชายฝั่งของทะเลสาบเนอชาแตล (Lake Neuchatel) ทะเลสาบที่มีชื่อเดียวกันกับเมืองและรัฐ นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทเนอชาแตล (Chateau de Neuchatel) ปราสาทเก่าแก่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง โดยปราสาทตั้งอยู่บนยอดเนินเขาเล็กๆใจกลางเมืองเก่า จากนั้นนำถ่ายรูปกับโบสถ์คอลเลกีอาเลอ (Collegiale de Neuchatel) โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและอยู่ติดกันกับปราสาทเนอชาแตล ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 ในสไตล์ Roman rhenan โดยมีหลังคาเป็นแบบโกธิก ภายในได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และมีการบูรณะมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆของเมืองอีกแห่ง ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเบิร์น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Berne) (ระยะทาง 53 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นำท่านชมกรุงเบิร์นซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191 - 1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน และดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมเป็นหอนาฬิกาพร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Holiday Inn Westside Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด เบิร์น – อินเตอร์ลาเคน – ขึ้นเขาจุงเฟรา (มรดกโลก)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) หรือ เมืองระหว่างทะเลสาบ (ระยะทาง 62 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาล (Grindelwald) อันได้ชื่อว่าเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ใน หุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามและโรแมนติกที่สุด นำท่านสู่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อขึ้นรถไฟสายจุงเฟราบาห์เนนสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของสวิส ระหว่างทางก่อนถึงจุงเฟรานั้น ท่านสามารถพบเห็นบ้านสไตล์สวิสน่ารักๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีทั้งบ้านสีน้ำตาลเข้มตัดกับหน้าต่างสีแดงสด, สีครีมอ่อนตัดกับประตูหน้าต่างสีเขียวสด สวยงามแปลกตาและมีเสน่ห์ วิวธรรมชาติที่สลับกันระหว่างสีเขียวของภูเขา ทุ่งหญ้า กับพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ระหว่างการเดินทางรถไฟจะจอดให้ท่านได้ชมความงดงามของเทือกเขาแอลป์ จนถึงยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งมีความสูงถึง 13,642 ฟุต เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป (Top of Europe)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเขาจุงเฟรา
บ่าย นำท่านชม กลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร นำท่านชมถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 กม. และหนา 700 เมตร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางจากจุงเฟราสู่ เมืองเวนเก้น และเมืองเลาเท่นบรุนเน่น โดยรถไฟอีกด้านหนึ่งของยอดเขา (แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไชเด็ด จุดเปลี่ยนรถไฟ ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาเมื่อปี 2440)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (ลิ้มลองเมนูฟองดู)
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Du Nord Interlaken/ The Hey Interlaken ***** หรือเทียบเท่า
วันที่แปด ลูเซิร์น – ซุก – ซูริค
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ระยะทาง 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม นำท่านเดินเล่นและถ่ายรูปกับสะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านชมรูป แกะสลักสิงโตร้องไห้ หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสะพานไม้มากนัก อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆริมทะเลสาบที่มีประวัติยาวนานและสวยงามอีกแห่งของสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าซุก (Old town) ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนโบราณได้เป็นอย่างดี นำท่านแวะถ่ายรูปกับหอนาฬิกาดาราศาสตร์ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 อิสระให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศเมืองเก่าได้แบบเต็มอิ่ม สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Zurich Airport Mess **** หรือเทียบเท่า
วันที่เก้า ซูริค - กรุงเทพมหานคร
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านถ่ายรูปกับ Munsterbrucke ซึ่งเป็นสะพานข้ามถนนและทางเดินทางในเมืองเก่า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำลิมมัต และเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์ Crash Landing on You นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีวิหาร Fraumunster and Gross Munster อีกด้วย จากนั้นนำท่านสู่ Linderhof Strasse ซึ่งเป็น ฉากเปิดเรื่อง และเป็นจุดชมวิวเมืองซูริคอันเลื่องชื่อ พร้อมกับวิวแม่น้ำลิมมัต อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ Lindt Home of Chocolate ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตลินด์ ส่งออกที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ ให้ท่านได้เลือกซื้อช็อกโกแลตเป็นของฝากได้ตามอัธยาศัย
15.00 น. นำท่านสู่สนามบิน เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund
18.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ LX180 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.50 ชั่วโมง)
วันที่สิบ กรุงเทพมหานคร
10.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)
หมายเหตุ กรุ๊ป 28 ก.ค. -6 ส.ค. 2566 เที่ยวบินขากลับ เป็น OS566/ OS25 (ออกจากซูริค 20.45 น. ถึงไทย 14.40 น.)
กรุ๊ป 24 ธ.ค. – 2 ม.ค. 2567 เที่ยวบินขากลับ เป็น LX1582/ OS25 (ออกจากซูริค 17.50 น. ถึงไทย 12.20 น.)
10 วัน 8 คืน คลาสสิค สวิตเซอร์แลนด์
เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ กับ เส้นทางสุดคลาสสิค ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ราคาทัวร์ 149,900 บาท : 8-17 ต.ค. 66/ 11-20 ต.ค. 66
ราคาทัวร์ 158,900 บาท : 24 ธ.ค.-2 ม.ค. 67*/ 27 ธ.ค.- 5 ม.ค. 67/ 29 ธ.ค- 7 ม.ค. 67/ 30 ธ.ค.- 8 ม.ค. 67

อัตราค่าบริการ

ตค.

ปีใหม่

ผู้ใหญ่พัก 2 ท่านต่อห้อง หรือ เด็กอายุมากกว่า 11 ปีบริบูรณ์ พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน หรือ พัก 3 ท่านต่อห้อง ราคาท่านละ

149,900

158,900

พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ

26,000

31,000

เด็กอายุ 2-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน เสริมเตียง

145,900

154,900

ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ (LX) เริ่มต้นที่ท่านละ

(ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่งconfirm เท่านั้น)

100,000 – 170,000

ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักคืน (BKK-ZRH-BKK)

30,000

35,000

**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ
และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 17/7/2023) **
ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
  1. สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง กรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
  2. กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  3. กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กก. , กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 7 กก.
โปรแกรมท่องเที่ยว (ตามที่ระบุไว้ในรายการ) อัตรานี้รวมถึง
  1. ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน LX (กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ น้ำหนัก ไม่เกิน 23 กก./ท่าน)
  2. ค่าภาษีสนามบิน,ค่าภาษีน้ำมัน,ค่าประกันภัยทางอากาศ
  3. ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 80 ปี) ประกันครอบคลุมการติดเชื้อ Covid 19
  1. ค่าภาษีในทุกประเทศ (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)
  2. ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  3. ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  4. เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และทิปต่างๆ
อัตรานี้ไม่รวมถึง
  1. ค่าวีซ่าเชงเก้น 4,500 บาท (เรียกเก็บจากอินวอยซ์)
  2. ค่าเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋า ท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเองเพื่อป้องกันการสูญหาย
  3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  4. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  1. แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)
  2. แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  3. แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%
  4. ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%
  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง
  2. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจลาจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว
  4. เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
  6. ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  7. เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
  1. การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายบการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เชคอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น
  2. ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  3. ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  4. เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
  1. โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  2. ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
  1. กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  2. วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  3. หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
  1. สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  2. สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  3. ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  4. กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
  1. ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  2. กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย
  3. กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
  1. เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
  2. เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
  3. เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)
  1. กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
  2. กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
  3. กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน
  4. กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
  5. กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
  6. กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP