ดูทัวร์อเมริกาใต้ทั้งหมด
เดินทางโดย : TK-เตอร์กิช แอร์ไลน์
โรงแรม :  |  จำนวนวัน : 24 วัน 20 คืน
ที่สุดแห่งทริปพิเศษ…..กับการเยือน 8 ประเทศแห่งทวีปอเมริกาใต้ อาร์เจนติน่า - ปารากวัย - อิกัวซู (บราซิล) - อุรุกวัย ชิลี - โบลีเวีย - เปรู- โคลอมเบีย
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF
แกรนด์ อเมริกาใต้ 24 วัน
อาร์เจนติน่า – ปารากวัย – อิกัวซู (บราซิล) – อุรุกวัย
ชิลี – โบลีเวีย – เปรู– โคลอมเบีย
ที่สุดแห่งทริปพิเศษ…..กับการเยือน 8 ประเทศแห่งทวีปอเมริกาใต้
24 ธันวาคม 2566 – 16 มกราคม 2567
(รวมวีซ่า และ ทิปทุกอย่างแล้ว พร้อมสะสมไมล์ Star Alliance)
24 ธ.ค. 2566 กรุงเทพมหานคร
20.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน U (แถว U 14-18) ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
23.30 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.15 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า
25 ธ.ค. 2566 อิสตันบูล – บัวโนสไอเรส (พักค้าง 3 คืน)
06.10 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน TK015 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินอิสตันบูล
10.05 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล สู่ สนามบินบัวโนสไอเรส (ใช้เวลาบินประมาณ 18.20 ชั่วโมง)
********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******
สายการบินมีบริการอาหารกลางวัน และ อาหารค่ำบนเครื่องบิน
22.25 น. เดินทางถึงสนามบินบัวโนสไอเรส นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Libertador Buenos Aires Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
26 ธ.ค. 2566 ยื่นวีซ่าปารากวัย – ลาส ปัมปาส – ดินเนอร์พร้อมโชว์พื้นเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่สถานทูตปารากวัย ประจำกรุงบัวโนสไอเรส เพื่อยื่นวีซ่า
(ขั้นตอนการยื่นวีซ่าอาจใช้เวลา หากเสร็จเร็วจะพาท่านเที่ยวชมเมืองบัวโนสไอเรส หากไม่มีเวลาจะนำท่านเที่ยวชมในวันถัดไป)
นำท่านเดินทางสู่จตุรัสคองเกรส ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติ (Parliament House) นำท่าน ผ่านชมถนน 9 กรกฎาคม (Avenida 9 de Julio) ซึ่งชาวอาร์เจนตินาอ้างว่าถนนสายนี้เป็นถนนที่กว้างที่สุดในโลก ผ่านชมที่ตั้งของเสาโอบิลิกส์ (Obelisk El Obelisco) สร้างขึ้น ในปี 1936 ณ ส่วนกลางของถนนแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ธงอาร์เจนตินาถูกเชิญสู่ยอดเสาเป็นครั้งแรก เป็นที่จัดประชุมทางการเมือง งานดนตรี และเป็นสถานที่ฉลองชัยชนะของทีมฟุตบอลอาร์เจนตินา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (Argentinean BBQ : Beef/ Lamb / Chicken)
บ่าย นำท่านเดินทางออกนอกเมืองบัวโนสไอเรส เพื่อสัมผัสประสบการณ์ฟาร์มทัวร์ (Estancia) วิถีการดำรงชีวิตในรูปแบบกสิกรรมและการทำฟาร์มของชัวอาร์เจนตินา นำท่านสัมผัสประสบการณ์ขี่ม้า (Horse riding) กับการเป็นคาวบอย คาวเกิร์ล ในการทำกสิกรรมแบบดั้งเดิมของชาวบ้าน รวมถึงสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านนอกเมือง พร้อมสัมผัสทุ่งหญ้าและฝูงวัว ฝูงแกะ อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆในฟาร์ม และ วิวทิวทัศน์นอกเมืองบัวโนสไอเรส และชมการแสดงพื้นเมือง (Gaucho Traditional Show) สมควรแก่เวลานำท่านกลับสุ่เมืองบัวโนสไอเรส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพร้อมชมโชว์พื้นเมือง (Dinner with show)
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Libertador Buenos Aires Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
27 ธ.ค. 2566 บัวโนสไอเรส
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ (Museum of Fine Arts) ซึ่งเปิดแสดงในปี ปี 2547 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงผลงานของโกยา แรมแบรนดท์ แวนโก๊ะ โรแด็ง มาเนต์ และชากาล ตลอดจนศิลปินอื่นๆ นับเป็นสถานที่จัดเก็บผลงานของศิลปินระดับโลกอันเลื่องชื่อหลายต่อหลายท่าน ภาพวาดแต่ละภาพประเมินค่ามิได้ อิสระให้ท่านได้ชมผลงานจากศิลปินระดับโลกที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้เวลานำท่านสู่คาเฟ่ ทอร์โทนี (Café Tortoni) เป็นคาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี 1858 เป็นคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่แห่งกรุงบัวโนสไอเรส คาเฟ่แห่งนี้เป็นที่พักปะ ของชนชั้นสูงในอดีต ให้ท่านได้ลิ้มลองกาแฟ พร้อมเก็บภาพความสวยงามของคาเฟ่เก่าแก่แห่งนี้ ได้เวลานำท่านเที่ยวชมเมืองบัวโนสไอเรส นำท่านแวะถ่ายรูปกับทำเนียบประธานาธิบดีหรือที่มีชื่อเรียกว่า “คาซา โรซาดา” (Casa Rosada) แปลว่าบ้านสีชมพูหรือบ้านสีกุหลาบเพราะใช้หินสีชมพูก่อสร้าง ตั้งตระหง่านอยู่หน้า จัตุรัสมาโย (Plaza De Mayo) อิสระให้ท่านเก็บภาพความงามของเมืองและสถาปัตยกรรม อาคารสำนักงานต่างๆที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะยุโรป นำท่านเข้าชมมหาวิหารโรเซอร์เรตต้า (The Metropolitan Cathedral) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1677 และได้พังทลายลงในปี 1753 และได้มีการบูรณะโบสถ์แห่งนี้ขึ้นมาใหม่โบสถ์แห่งนี้เป็นที่ฝังศพของ นายพลโฮเซ่ เดอ ซานมาร์ติน นักปฎิวัติผู้ยิ่งใหญ่และผู้นำอิสรภาพสู่อาร์เจนตินา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเข้าชม El Zanjon de Granados ซึ่งเป็นคฤหาสน์โบราณ ที่ขุดค้นพบโถงทางเดินยาว และห้องต่างๆ สำหรับคฤหาสน์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1860 เป็นที่อยู่อาศัยของคหบดีผู้มั่งคั่งสมัยก่อน ภายนอกเห็นเป็นเพียงห้อง 3 คูหาเท่านั้น แต่ภายในได้มีการขุดค้นพบอุโมงค์ และโถงห้องต่างๆ เป็นทางยาว นำท่านเข้าชมความสวยงามของคฤหาสน์โบราณแห่งนี้
นำท่านเดินทางสู่สถานทูตปารากวัย เพื่อรับเล่มพาสปอร์ต จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับสะพาน Puente de la Mujer (สะพานสตรี) ที่สวยงามซึ่งเปิดตัวในปี 1991 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวสเปน Santiago Calatrava สะพานคนเดินเชื่อมระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตกของท่าเทียบเรือและหมุน 90 องศาเพื่อให้เรือแล่นผ่านได้ นำท่านชมบริเวณท่าเรือ Puerto Madero ซึ่งเป็นส่วน waterfront สถานที่จอดเรือยอร์ชและเรือใบ รวมถึงเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมือง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Libertador Buenos Aires Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)
28 ธ.ค. 2566 บัวโนสไอเรส – อาซุนซิออน (ปารากวัย)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
06.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
09.05 น. ออกเดินทางสู่สนามบินอาซุนซิออน โดยเที่ยวบิน..... (ใช้เวลาเดินทาง 1.50 ชั่วโมง)
10.55 น. เดินทางถึงสนามบินอาซุนซิออน นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองอาซุนซิออน (Asuncion) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศปารากวัย ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำปารากวัย โดยแม่น้ำปารากวัยและอ่าวอาซุนซิออนทางตะวันตกเฉียงเหนือแยกเมืองออกจากประเทศอาร์เจนตินาทางตอนใต้ ส่วนที่เหลือของเมืองล้อมรอบด้วยจังหวัดเซนตรัล นำท่านถ่ายรูปกับพระราชวังโลเปซ (Palacio de Lopez) ซึ่งเป็นทำเนียบประธานาธิบดีแห่งปารากวัย สร้างขึ้นในปี 1867 จากนั้นนำท่าน เข้าชมพิพิธภัณฑ์เดลบาโร (Museo del Barro) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงและจัดเก็บวัตุโบราณล้ำค่าต่างๆจากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองและถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญต่างๆเช่น จตุรัสฮีโร (Panteon Nacional de los Heroes), วิหาร Cathedral De Nuestra Senora de la Asuncion
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Palmaroga Hotel **** หรือเทียบเท่า
29 ธ.ค. 2566 อาซุนซิออน – น้ำตกอิกวาสุ (1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก) (บราซิล)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่พรมแดนปารากวัย (ระยะทาง 360 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.45 ชั่วโมง) ระหว่างทางให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพสองข้างทาง ชมวิถีชิวิตความเป็นอยู่ของชาวปารากวัย ระหว่างทางแวะให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านชมความงดงามและความยิ่งใหญ่ของน้ำตกอิกวาสุ (Iguaza Fall) ซึ่งเป็นคำมาจากภาษากวารานี (Guarani) ชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม แปลว่า “สายน้ำอันยิ่งใหญ่” ค้นพบโดยนักสำรวจชาวสเปนชื่อ AI VARO NUNES CABEZA DE VECA เมื่อปี ค.ศ. 1542 น้ำตกอิกวาสุตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศอาร์เจนตินา เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้และขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลกโดยใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการ่าประมาณ 30 เท่า อย่างไรก็ตามขนาดของน้ำตกใกล้เคียงกับน้ำตกวิกตอเรียในทวีปแอฟริกา น้ำตกอิกวาสุเกิดจากแม่น้ำอิกวาสุซึ่งไหลมาจากที่ราบสูงปารานา ตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบต่ำกว่า จึงกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เป็นแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต ประกอบด้วยน้ำตกใหญ่น้อยอีกกว่า 275 แห่ง ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคมปริมาณน้ำมีมากถึงกว่า 13.6 ล้านลิตรต่อวินาที แต่ในช่วงฤดูร้อน คือระหว่างเมษายนถึงเดือนตุลาคม ปริมาณน้ำจะลดลงเหลือ 2.3 ล้านลิตรต่อวินาที บริเวณรอบๆ น้ำตกจะเกิดละอองน้ำอยู่ตลอดเวลาและมีเสียงดังไปไกลกว่า 24 กิโลเมตร บนฝั่งประเทศบราซิลจะมองเห็นน้ำตกได้ทั่วถึงและงดงาม นำท่านสัมผัสบรรยากาศ น้ำตกอิกวาสุ (ฝั่งบราซิล) ซึ่งเป็นฝั่งที่ท่านสามารถมองเห็นน้ำตกได้ทั่วถึงและงดงามที่สุด ท่านจะได้สัมผัสกับความงามแสนมหัศจรรย์ของธรรมชาติ น้ำตกทรงเกือกม้าที่เกิดจากแม่น้ำริโออิกวาสุทั้งสายไหลมาจากหน้าผาเบื้องบนตกลงสู่หุบเหวย่อยๆ กว่า 30 แห่ง พลังน้ำตกที่ตกลงมากระทบก้อนหินเบื้องล่างก่อให้เกิดละอองน้ำกระเซ็นกระจายไปทั่วปรากฏเป็นรุ้งกินน้ำสีสวยสดใส ซึ่งท่านสามารถเดินเข้าไปสัมผัสกับพลังของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Wdynham Foz Iguazu Hotel **** หรือเทียบเท่า
30 ธ.ค. 2566 อิกวาสุ – มอนเตวิดิโอ (อุรุกวัย)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
10.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินอิกวาสุ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบ Lunch Box
12.55 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิกวาสุ โดยเที่ยวบิน .... (ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง)
14.55 น. เดินทางถึงสนามบินมอนเตวิดิโอ ประเทศอุรุกวัย
นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองมอนเตวิเดโอ (Montevideo) เมืองหลวง ศูนย์กลางความเจริญทางการค้า และยังเป็นเมืองท่าและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศอุรุกวัย มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษในเวลาสั้นๆ ในปี ค.ศ. 1807 และมีส่วนเกี่ยวข้องกับยุทธนาวีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุทธนาวีแม่น้ำพลาตา นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซึ่งตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าซิอูดัดวีเอยาห์ (Ciudad Vieja) ได้เวลานำท่านเข้าชมมหาวิหาร Iglesia de las Carmelitas ซึ่งเป็นวิหารสไตล์โกธิคตั้งตระหง่านในเมืองมอนเตวิเดโอ นับเป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์อีกแห่งหนึ่งของชาวอุรุกวัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hampton by Hilton Montevideo Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
31 ธ.ค. 2566 คาซาปูเอลโบ – ปุนตาเดล เอสเต - รูปปั้นมือลามาโน
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองปุนตาเบลลินา (Punta Bellena) (ระยะทาง 133 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม.) นำท่านถ่ายรูปกับคาซาปูเอลโบ (Casapueblo) อาคารหลังสีขาวสูง 9 ชั้น ครั้งหนึ่งอาคารหลังนี้เคยเป็นสตูดิโอของจิตรกรคาร์ลอส (Carlos Paéz Vilaró) และปัจจุบันกลายเป็นโรงแรม หอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ และคาเฟ่แล้ว อาคารนี้งดงามมากถึงขนาดได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองปุนตาเดล เอสเต (Puta Del Este) เป็นเมืองรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เมืองนี้เปรียบได้กับเมืองแซ็ง-ทรอเป (Saint-Tropez) ของประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากจะมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมานอนอาบแดดและเที่ยวบาร์และคลับริมชายหาดในยามค่ำคืน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านถ่ายรูปกับประติมากรรม La Mano หรือ The Hand โดยศิลปินชาวชิลี Mario Irarrázabal เป็นภาพนิ้วมือมนุษย์ห้านิ้วที่โผล่ขึ้นมาจากทรายบางส่วน และตั้งอยู่บน Parada ที่หาดบราวา ในปุนตา เดล เอสเต เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในอุรุกวัย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปและเก็บภาพตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านผ่านชมเมืองปุนตา เดล เอสเต สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับเมืองมอนเตวิดิโอ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hampton by Hilton Montevideo Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
1 ม.ค. 2567 มอนเตวิดิโอ - ซานเตียโก (ชิลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมและแวะถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภาแห่งอุรุกวัย (Palacio Legislativo) ซึ่งเป็นอาคารที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งประชาธิปไตยแห่งแรกของทวีปอเมริกาใต้ อาคารรัฐสภาแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1925 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการประกาศอิสรภาพครบ 100 ปีของอุรุกวัย นำท่านถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมือง (Colonial Town Hall) ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล เป็นกลุ่มอาคารโบราณที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุรุกวัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเที่ยวชมจัตุรัสอิสรภาพ (Plaza de Independencies) เป็นจัตุรัสใจกลางเมืองสร้างที่สำคัญอีกแห่งของอุรุกวัย ตรงกลางมีอนุสาวรีย์ของนายพล Jose Gervasio Artigas และด้านล่างเป็นสุสานของท่านอีกด้วย จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับปราสาทซัลโว (Palacio Salvo) เป็นอาคารโบราณที่สูงที่สุดในเมืองสร้างขึ้นในปี 1928 และเรียกได้ว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในละตินอเมริกาในยุคนั้น
15.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน
18.46 น. ออกเดินทางจากสนามบินมอนเตวิดิโอ โดยเที่ยวบิน ... ใช้เวลาบิน 2.40 ชั่วโมง
21.25 น. เดินทางถึงสนามบินซานเตียโก ประเทศชิลี
นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Laquinta by Wyndham Santiago Aeropuerto **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
2 ม.ค. 2567 ซานเตียโก - แคนย่อนมายโป
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่แคนย่อนมายโป (Canjon del Maipo) (ระยะทาง 56 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ช.ม.) เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่ในแนวเทือกเขาแอนดีส ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองซานเตียโก และมีแม่น้ำหลายสายซึ่งไหลมาบรรจบกัน นอกจากนี้บนเขายังเป็นที่ตั้งของธารน้ำแข็งซานฟรานซิลโกอีกด้วย ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นปอดของชาวเมืองซานเตียโก เนื่องจากมีธรรมชาติพิสุทธิ์ และอากาศดีมาก ได้เวลานำท่านเยี่ยมชมโรงบ่มไวน์ในภูมิภาคแห่งนี้ให้ท่านได้ลิ้มลองไวน์ชิลี อันเลื่องชื่อ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมลิ้มลอง ปูยักษ์ (King Crab)
บ่าย นำท่านสู่ย่านจตุรัสพลาซ่า เดอะ อาร์ม (Plaza De Arm) อันเป็นจตุรัสที่ตั้งของสถาปัตยกรรมโบราณต่างๆมากมาย นำท่านเข้าชมมหาวิหารแห่งซานเตียโก (Cathedral of Santiago) เป็นมหาวิหารที่สร้างด้วยศิลปะนีโอคลาสสิคสร้างตั้งแต่ปี 1748 แล้วเสร็จในปี 1800 นำท่านเข้าชมความงดงามภายในมหาวิหารแห่งนี้ นำท่านถ่ายรูปด้านหน้าของพระราชวังโมนิดา (La Moneda Palace) ซึ่งปัจจุบันคือ ทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศชิลี และใช้เป็นสถานที่ราชการของกระทรวงต่างๆของประเทศชิลี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและถ่ายรูปบริเวณลานด้านหน้า พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดย โจแอนควิน โทเอากา สถาปนิกชาวอิตาเลียน สร้างขึ้นในปี 1784-1805 ในแบบสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค และมีเสาโรมันขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นซุ้มประตู ความสวยงามและเก่าแก่ของพระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ อีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Laquinta by Wyndham Santiago Aeropuerto **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
3 ม.ค. 2567 ซานเตียโก – คาลามา – ซานเปโตร เดอ อาตาคามา - วัลเลย์ ออฟ เดอะมูน
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม (Box Breakfast)
06.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน
07.53 น. ออกเดินทางสู่เมืองคาลามา โดยเที่ยวบิน ..... ใช้เวลาเดินทาง 2.08 ชั่วโมง
10.15 น. เดินทางถึงสนามบินคาลามา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองซานเปโตร เดอ อาตาคามา (San Pedro de Atacama) (ระยะทาง 101 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ช.ม.) เมืองท่องเที่ยวกลางทะเลทรายอาตาคามา (Atacama Desert) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเอล โลอา (El Loa) ของ ภูมิภาคอันโตฟากัสตา (Antofagasta)ในภาคเหนือของชิลี ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของประเทศชิลี นำท่านสัมผัสความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติกับวัลเลย์ออฟเดอะมูน หรือ หุบเขาดวงจันทร์ (Valley de la luna) ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นภูเขาหินเหมือนพื้นผิวดวงจันทร์ จึงได้ชื่อว่าหุบเขาดวงจันทร์ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติได้ตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Casa Atacama Hotel **** หรือเทียบเท่า
4 ม.ค. 2567 อาตาคามา - โบลิเวีย
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ด่านพรมแดนชิลี – โบลิเวีย ผ่านพิธีการตรวจเอกสารออกจากประเทศชิลี และ ตรวจคนเข้าเมืองประเทศโบลีเวีย นำท่านสัมผัสประสบการณ์นั่งรถ 4 WD มุ่งหน้าสู่เมืองทางตอนใต้ของประเทศโบลิเวีย มุ่งสู่ Eduardo Avaroa National Reserve ระหว่างทางนำท่านแวะถ่ายรูปกับทะเลสาบ Joyas Altoandinas หรือที่รู้จักในนาม Jewels from the highland ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของนกฟลามิงโก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน แบบ Picnic
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบเวอเด (Laguna Verde) หรือทะเลสาบมรกต (Green Lake) ทะเลสาบสีเทอควอยส์ อีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่รังสรรค์ความแตกต่างและความมหัศจรรย์ให้กับโบลิเวีย ทะเลสาบที่สะท้อนผิวน้ำสีเขียวมรกตสวยงามยิ่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความน่าประทับใจ นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบโคโลราดา (Laguna Colorada) หรือที่รู้จักในชื่อ ทะเลสาบแดง (Red Lagoon) เนื่องจากบริเวณทะเลสาบแห่งนี้มีสาหร่ายสีแดงขึ้นเป็นจำนวนมากจึงทำให้มองดูเหมือนน้ำในทะเลสาบเป็นสีแดง นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่อยู่ของฝูงนกฟลามิงโก กว่า 3 สายพันธุ์ และเป็นทะเลสาบที่เรียกได้ว่าตั้งอยู่บนที่สูงที่สุด เนื่องจากตั้งอยู่เหนือระดับ 4,800 เมตร ให้ท่านได้เก็บภาพความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งโบลิเวีย ที่สวยงามยิ่งและเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดชมหากได้มาเยือนโบลิเวีย อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามของทะเลสาบโคโลราดา และฝูงนกฟลามิงโกตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางผ่านทะเลทรายดาลิ (Desierto de Dali) ทะเลทรายที่ภูมิประเทศส่วนใหญ่คล้ายนำก้อนกรวดเล็กๆมาโรยหลายพันตารางกิโลเมตร อีกหนึ่งทัศนียภาพอันแปลกตาแห่งโบลิเวีย ท่านจะสัมผัสกับเนินทรายสลับเป็นทิวแถวสุดลูกตา นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ทางธรรมชาติที่น่าพิศวงแห่งโบลิเวีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Siloli Dessert Hotel Tayka del Desierto or Mullku Vueva Hotel หรือเทียบเท่า
5 ม.ค. 2567 หุบเขาหิน “วัลเลย์ ออฟ รอค” - วิลลามาร์ – ซานคริสโตบอล - อูยูนิ
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาหิน (Valley of Rocks) อีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามแห่งประเทศโบลิเวีย ภูมิประเทศอันเกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติ การกัดเซาะของลมผ่านก้อนหินขนาดต่างๆก่อให้เกิดประติมากรรมหินทางธรรมชาติในรูปแบบต่างๆมากมาย ความสวยงามเปรียบได้กับแกรนด์แคนย่อนแห่งอเมริกา อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางต่อสู่เมืองวิลลามาร์ (Villamar) เมืองทางตอนใต้ของโบลิเวีย เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่แปลกตา ทุ่งหญ้าสลับกับเนินหินและเนินดิน และมีแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่าน นับเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีธรรมชาติแบบทุ่งหญ้าที่ราบสูง อิสระให้ท่านเดินเล่นและเก็บภาพธรรมชาติที่แตกต่างอีกแห่งของโบลิเวีย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองซานคริสโตบอล (San Cristobal) หมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลสาบเกลือแห่งนี้ นำท่านชมความสวยงามของโบสถ์เล็กๆประจำหมู่บ้านแห่งนี้ “โบสถ์ซานคริสโตบอล” (San Cristobal Church) หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางการทำเหมืองของโบลิเวีย ตลอดสองข้างทางท่านจะได้สัมผัสทัศนียภาพสองข้างที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ทั้งภูมิประเทศแบบทะเลเกลือ และเนินดินอันเป็นที่อยู่ของต้นกระบองเพชร ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองอูยูนิ (Uyuni)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Colchani Hotel Kuna Salada หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
6 ม.ค. 2567 ทะเลเกลือ Uyuni ทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านสัมผัสประสบการณ์นั่งรถ 4 WD มุ่งหน้าสู่ ทะเลสาบน้ำเค็มอูยูนิ (Uyuni) พื้นที่ซึ่งเวิ้งว้างกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา โดยมีน้ำทะเลตื้นๆ ที่ขังอยู่ที่พื้น ได้สะท้อนฟ้าสีครามเบื้องบน ทั้งยังทอดตัวยาวไปจรดกับแผ่นฟ้ายังที่แห่งหนึ่งไกลลิบๆ สุดสายตา ทำให้สถานที่แห่งนี้เสมือนแดนสวรรค์ในความคิดของใครหลายคน  ทะเลสาบน้ำเค็มอูยูนิ (Uyuni) เป็นทะเลสาบน้ำเค็ม หรือ ทะเลสาบแห้ง (salt flat หรือ dry lake) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ประมาณ 11,000 ตารางกิโลเมตร และอยู่เหนือระดับน้ำทะเลราว 3,600 เมตร บนเทือกเขาแอนดีส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ด้วยความสูงถึงเพียงนี้จึงราวกับว่า Uyuni เป็นดินแดนที่อยู่ท่ามกลางฟากฟ้าและก้อนเมฆ ยามปกติจะเป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่ที่มีน้ำทะเลขังอยู่เพียงตื้้นๆ ส่วนในบางฤดู น้ำอาจระเหยออกจนกลายเป็นทะเลเกลือขาวโพลนซึ่งให้ความสวยงามไปอีกแบบ อิสระให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มาเยือนทะเลเกลือหรือทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมเก็บภาพผืนน้ำสะท้อนอันสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของทะเลเกลือแห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน แบบกล่อง Pinic Box
บ่าย นำท่านเดินทางสู่อินคาฮัวซิ (Incahuasi Island) หรือที่รู้จักในนามเกาะปลา (Fish Island) เป็นเกาะหินที่เกิดขึ้นใจกลางทะเลเกลือแห่งนี้เกิดจากการทับถมของซากปะการังเป็นเนินขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็นเนินหินเดียวที่เกิดขึ้นในบริเวณทะเลสาบเกลือแห่งนี้ และเป็นเนินที่เต็มไปด้วยต้นกระบองเพชร นำท่านถ่ายรูปความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอีกแห่งของทะเลเกลือ ได้เวลานำท่านกลับสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Colchani Hotel Kuna Salada หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
7 ม.ค. 2567 อูยูนิ - ลาปาซ
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
06.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน
09.15 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสาปาซ โดยเที่ยวบิน (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง)
10.15 น. เดินทางถึงสนามบินลาปาซ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชม กรุงลาปาซ เมืองหลวงประเทศโบลิเวีย ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 7 เมืองมหัศจรรย์แห่งใหม่ของโลกในปี 2014 ทั้งนี้กรุงลาปาซ เป็นเมืองที่ตั้งสูงที่สุดในโลก ซึ่งเมืองหลวงแห่งนี้ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีส นำท่านขึ้นกระเช้าไฟฟ้า (Cable car) เพื่อชมกรุงลาปาซจากมุมสูง ให้ท่านได้สัมผัสความสวยงามของเมืองที่ได้รับการขนานนามว่าสูงที่สุดในโลกและเป็นเมืองมหัศจรรย์อีกแห่งหนึ่งของโลก เป็นเมืองหลวงที่สร้างโดยมนุษย์มีเทือกเขาแอนดีสโอบล้อม อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความน่าประทับใจจากมุมสูง ได้เวลานำท่านเที่ยวชมกรุงลาปาซ นำท่านชมจตุรัสมูริลโล (Plaza Murillo) จัตุรัสใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาและหน่วยงานราชการต่างๆ ตลอดจบ โบสถ์เก่าแก่ประจำเมือง นำท่านถ่ายรูปกับ โบสถ์ซานฟรานซิสโก (San Francisco Church) อาคารรัฐสภา และ สถานที่ทางราชการที่สำคัญที่ยังคงสถาปัตยกรรม โคโลเนียลอันสวยงาม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mitru Express Hotel Lapaz**** หรือเทียบเท่า
8 ม.ค. 2567 ลาปาซ - ล่องเรือทะเลสาบติติกากา - ปูโน (เปรู)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบติติกากา (Titicaca lake) ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีส ระหว่างพรมแดนของประเทศโบลิเวีย (แคว้นลาปาซ) และเปรู (แคว้นปูโน) ถือได้ว่าเป็นทะเลสาบที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 3,810 เมตร และยังเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้เมื่อเทียบจากปริมาณน้ำ ซึ่งปริมาณน้ำมากมายเหล่านี้มาจากแม่น้ำสายหลัก 5 สาย ธารน้ำแข็งที่ละลาย น้ำฝน และลำธารขนาดเล็กอีกกว่า 20 แห่ง ก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำริโอ เดอ ซากัวเดโร รวมแล้วทะเลสาบแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 8,372 ตารางกิโลเมตร นำท่านสัมผัสประสบการณ์ล่องเรือในทะเลสาบติติกากา จากฝั่งโบลิเวียเดินทางข้ามพรมแดนไปยังอีกฟากหนึ่งของทะเลสาบติติกากา เข้าสู่ประเทศเปรู
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองปูโน เมืองที่ระดับความสูงกว่าน้ำทะเล 3,830 เมตร หากมีเวลา นำท่านถ่ายรูปกับจัตุรัส Plaza Republicana de Puno หรือ จัตรัสอิสรภาพแห่งปูโน จากนั้นนำท่านถ่ายภาพกับหมู่อาคารโบราณและโบสถ์ประจำเมืองปูโน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นผ่อนคลายอิริยาบถตามอัธยาศัย นำท่านแวะนมัสการรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ พระแม่มารีแห่งคันดาลาเรีย (Virgin de la Candelaria) หรือ พระแม่สีดำ (Dark Virgin or Black Madonna) ที่ มหาวิหารคันดาลาเรีย นำท่านแวะชมโขดหินรูปเสือพูม่า ซึ่งเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบติติกากา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Sonesta Posada Puno Hotel หรือเทียบเท่า
9 ม.ค. 2567 ปูโน – คูซโก้ (พักค้าง 3 คืน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองคูซโก้ (Cuzco) เมืองหลวงของอาณาจักรอินคา ที่แผ่ขยายอำนาจจนกินพื้นที่ 2 ใน 3 ของอเมริกาใต้ ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 3,400 เมตร และเป็นแหล่งอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ลึกลับน่าทึ่ง เป็นชุมชนเก่าแก่ของจักรวรรดิอินคาอันรุ่งเรือง ซึ่งยังคงทิ้งร่องรอยความเจริญไว้ให้เห็นเป็นซากปรักหักพักโบราณและโบราณวัตถุต่างๆระหว่างการเดินทางทางนำท่านแวะชมเมือง Pucara ซึ่งเป็นเมืองสำคัญของอาณาจักรอินคา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินเที่ยวชมเมือง Andahuaylillas เป็นเมืองหน้าด่านก่อนถึงคูซโก เป็นอีกเมืองสำคัญของอาณาจักรอินคา ให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถในการเที่ยวชมเมืองนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางต่อสู่เมืองคูซโก้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Sonesta Cuzco Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
10 ม.ค. 2567 มาชูปิคชู
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโอลันตาทัมโบ เพื่อขึ้นรถไฟสู่นครโบราณของอาณาจักรอินคา มาชู ปิคชู (Machu Picchu) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ล่าสุดของโลก โดยรถไฟไต่ขึ้นเทือกเขาแอนดิสอันยิ่งใหญ่ ระหว่างทางท่านจะได้ชมความงามและความลึกลับของบรรยากาศโดยรอบที่เข้ากับสถานที่ ข้างทางเป็นแม่น้ำอูรูบัมบา (Urubamba) ไหลแรงคดเคี้ยวขนานไปกับทางรถไฟสู่ปลายทางที่สถานีที่ เมืองอควาส์ กาเลียนเต้ส์ (Aquas Calientes) จากนั้นเดินทางโดยรถบัสสู่ มาชู ปิคชู (Machu Picchu) นครที่หายสาบสูญไปของอาณาจักรอินคา บนยอดเขาสูงที่ถูกหมอกปกคลุมอยู่เสมอ จนถึงปี 1911 นครแห่งนี้จึงปรากฏสู่สายตาชาวโลกในลักษณะสภาพบ้านเมือง บ้านเรือน พระราชวัง วิหาร ซึ่งยังคงสภาพเดิมที่ดีราวกับได้รับการอนุรักษ์ดูแลไว้อย่างน่าอัศจรรย์ นครโบราณแห่งนี้ถูกค้นพบโดยฮิรัม บิงแฮม ซึ่งตั้งใจจะหาเมืองโบราณสองเมืองที่ปรากฎชื่ออยู่ในเอกสารโบราณ แต่กลับมาพบเมืองที่ไม่ปรากฎอยู่ในเอกสารใดทั้งสิ้น จึงได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อภูเขาอันเป็นที่ตั้งคือ Machu Picchu ซึ่งมีความหมายว่า Old Mountain และ ยังมียอดเขา Huayna Picchu หรือ New Mountain ขนาบข้าง ตัวโบราณสถานมาชู ปิคชู ซ่อนอยู่บนยอดเขาสูงเฉียดฟ้า และ ณ ที่แห่งนี้คือเมืองที่ไม่กี่ร้อยปีมานี้ยังมีผู้คนอาศัย ก่อนจะถูกทิ้งร้างไปเมื่อสเปนเข้ามาปกครองในสมัยศตวรรษที่ 15 อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจตามอัธยศัย
กลางวัน       รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
***** อิสระให้ท่านชม เก็บภาพ ความสวยงามของเมืองโบราณแห่งอาณาจักรอินคา ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ควรพลาดที่จะได้มาเยือน*****
บ่าย               ออกเดินทางโดยรถไฟกลับสู่เมืองโอลันตาทัมโบ ท่านจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อีกฟาก ของรถไฟ ตลอดเส้นทาง
การไต่ลงจากเทือกเขาแอนดิส พร้อมความภูมิใจและความประทับใจที่ครั้งหนึ่งท่านได้มาเยือน เมืองโบราณอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอินคา เมืองโบราณที่หายสาบสูญมานาน และได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคูซโก้
ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Sonesta Cuzco Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
11 ม.ค. 2567 หุบเขาสายรุ้ง (Rainbow mountain)
เช้า รับอาหารเช้าแบบ Breakfast Box
นำท่านเดินทางสู่ภูเขาสีรุ้ง (Apu Winicunca) หรือที่รู้จักในนาม Rainbow Mountain แห่งประเทศเปรู ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีส ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศเปรู ซึ่งอยู่ที่ระดับความสูง 5,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล  ริ้วสีเขียวคราม ม่วงอ่อน และสีทอง ซึ่งทอดเรียงรายไปตามแนวเขา ทำให้เกิดเป็นภูเขาสายรุ้งนั้น เกิดจากการผสมตัวของแร่ธาตุต่างๆ มาเป็นระยะเวลาหลายล้านปี (การเดินทางไปชมภูเขาสีรุ้งต้องตื่นแต่เช้ามืด ซึ่งไกด์ท้องถิ่นจะทำการนัดเวลาอีกครั้ง ทั้งนี้ขอให้ท่านประเมินร่างกายในการเดินทางในระดับความสูงประมาณ 4,500 – 5,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล หากลูกค้าท่านใดไม่ไหว แนะนำให้รอคณะทัวร์และเดินเล่นในเมืองคูซโก้แทน)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบ Picnic
บ่าย นำท่านเดินแทรกกิ้งขึ้นภูเขาสีรุ้ง หรือ หากท่านใดเดินไม่ไหว จะมีม้าของชาวบ้านคอยให้บริการนักท่องเที่ยว (ค่าใช้จ่ายประมาณ 20-30 USD ต่อท่าน ซึ่งไม่ได้รวมในค่าทัวร์) เมื่อถึงภูเขาสีรุ้ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและดื่มด่ำกับธรรมชาติแห่งเทือกเขาแอนดีส ที่รังสรรค์สีสันตระกานตาให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสและมาเยือน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองคูซโก้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Sonesta Cuzco Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)
12 ม.ค. 2567 คูซโก้ - ลิมา
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชมเมืองคูซโก้ เมืองหลวงของอาณาจักรอินคา ที่แผ่ขยายอำนาจจนกินพื้นที่ 2 ใน 3 ของอเมริกาใต้ ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 3,400 เมตร และเป็นแหล่งอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ลึกลับน่าทึ่ง เป็นชุมชนเก่าแก่ของจักรวรรดิอินคาอันรุ่งเรือง ซึ่งยังคงทิ้งร่องรอยความเจริญไว้ให้เห็นเป็นซากปรักหักพักโบราณและโบราณวัตถุต่างๆ นำท่านชมย่านเมืองเก่าของเมืองคูซโก้ เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1983 นำท่านชมกำแพงหิน หรือที่รู้จักในนาม 12 Side Stone ที่สร้างขึ้นโอบล้อมเมืองเก่าคูซโก้ กำแพงนี้สร้างจากภูมิปัญญาของชาวอินคาโบราณ โดยการนำหินก้อนใหญ่มาเรียงกันสร้างเป็นกำแพงเมืองขนาดใหญ่ นับได้ ว่าเป็นอีกสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองเก่าคูซโก้ นำท่านเดินชมความสวยงามของเมืองคูซโก้ นำท่านสู่จัตุรัสอาร์ม (Arms Square) หรือที่รู้จักในนาม จัตุรัสนักรบ (Square of the warrior) และเป็นที่ตั้งของ โบสถ์ลาคัมปาเนีย (Church of la Compania de Jesus) โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1576 และได้รับการยกย่องว่าเป็นโบสถ์ที่สร้างแบบสถาปัตกรรมโคโลเนียล บาโร๊คที่สวยงามคู่เมืองคูซโก้มานาน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความประทับใจของเมืองคูซโก้ อดีตเมืองราชธานีที่รุ่งเรืองที่สุดของอเมริกาใต้
10.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินคูซโก้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบ Lunch box
13.15 น. ออกเดินทางสู่สนามบินลิมา โดยเที่ยวบิน .... (ใช้เวลาบิน 1.30 ช.ม.)
14.45 น. เดินทางถึงสนามบินลิมา
นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์โบสถ์ซานคริสโตบอล (Museo Convento San Francisco) และ คาตาโคม (Catacumbus) ซึ่งใต้ฐานของโบสถ์เป็นที่เก็บกระดูกนับพัน นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจอีกแห่งในกรุงลิมา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Costa desol Wyndham Lima Airport Hotel **** หรือเทียบเท่า
13 ม.ค. 2567 ลิมา - โบโกตา
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชม กรุงลิมา (Lima) เมืองหลวงที่ยังคงรักษาความเป็นละตินอเมริกาไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดเมืองหนึ่ง เมืองลิมาตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1535 โดยชาวสเปนชื่อฟรานซิสโก ปิซาโร และ ในปี ค.ศ.1991 องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้ลิมาเป็นเมืองมรดกทางวัฒนธรรม นำท่านผ่านชม จตุรัส อาร์มาส (Plaza De Armas)  แวะถ่ายรูปกับทำเนียบรัฐบาล (Lima Parliament) ซึ่งเด่นสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล  นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทองคำ (Gold Museum) ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมศิลปะวัตถุซึ่งทำด้วยทองคำของชาวเปรูมาตั้งแต่อดีตกาล
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารญี่ปุ่น
บ่าย นำท่านถ่ายรูปกับThe Basilica Cathedral of Lima เป็นโบสถ์คาทอลิคที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ.1535 นำท่านผ่านชมย่านที่พักอาศัยชานเมืองแถวมิราโฟลเรสและซานอิสโตรซึ่งมีชื่อเสียงด้านความงามของบ้านและสวน
15.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน
18.45 น. ออกเดินทางสู่สนามบินโบโกตา โดยเที่ยวบิน .... (ใช้เวลาบิน 3.20 ชั่วโมง)
21.50 น. เดินทางถึงสนามบินโบโกตา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Garden Inn Bogota Airport Hotel **** หรือเทียบเท่า
14 ม.ค. 2567 โบโกตา – อิสตันบูล
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม กรุงโบโกตา (Bogota) เมืองหลวงของโคลอมเบีย นำท่านชมจัตุรัสโบลิวาร์ (Plaza de Bolivar) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง และยังเป็นที่ตั้งอนุเสาวรีย์ ไซมอน โบลิวาร์ ผู้นำแห่งการเคลื่อนไหวให้ประเทศในเขตอเมริกาใต้ปลดแอกตัวเองจากการเป็นเมืองขึ้นของประเทศมหาอำนาจผู้ล่าอาณานิคม จนได้รับหรือที่รู้จักในนาม “สงครามโบลิวาร์” โดยศิลปินชาวอิตาเลี่ยนได้เป็นผู้รังสรรค์รูปปั้นนี้ในปี 1846 บริเวณจัตุรัสแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารที่ทำการของรัฐบาล โดยทางทิศเหนือเป็นที่ตั้งของพระราชวังแห่งความยุติธรรม (Palace of Justice) อาคารที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์แห่งความยุติธรรมของประเทศ ส่วนทางทิศใต้ของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของรัฐบาลและอาคารรัฐสภาของโคลอมเบีย นำท่านถ่ายรูปกับหมู่อาคารในแบบโคโลเนียลสเปน ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและยังคงสภาพสมบูรณ์จวบจนปัจจุบัน ทางตะวันออกของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของวิหารแห่งโบโกตา (Primary Cathedral of Bogota) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก สร้างในศตวรรษที่ 17 และยังคงความงามจนปัจจุบัน
นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทองคำ (Gold Museum – El Museo del Oro) แห่งโคลอมเบีย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับ และ วัสดุอื่นๆจากทองคำในช่วง Pre-Hispanic มีชิ้นงานล้ำค่าจัดแสดงกว่า 55,000 ชิ้น นอกจากนี้ในส่วนชั้นสอง และ ชั้นสามของพิพิธภัณฑ์ยังจัดแสดง ข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่สามารถขุดพบในประเทศโคลอมเบีย สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองในอดีต
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
13.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินโบโกตา
16.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK800
(ใช้เวลาบินประมาณ 16.05 ชั่วโมง) บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อน บนเครื่องบิน
********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******
15 ม.ค. 2567 อิสตันบูล - กรุงเทพมหานคร
16.30 น. เดินทางมาถึงสนามบินอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง
อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และ ของฝาก ณ สนามบินอิสตันบูล
18.35 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK58 (ใช้เวลาบิน 9.15 ชั่วโมง)
สายการบินมีบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน
16 ม.ค. 2567 กรุงเทพมหานคร
07.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)
อาร์เจนติน่า – ปารากวัย – อิกัวซู (บราซิล) – อุรุกวัย
ชิลี – โบลีเวีย – เปรู– โคลอมเบีย

อัตราค่าบริการ

24 ธ.ค.66-16 ม.ค. 67

ราคาผู้ใหญ่ หรือ (เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน) พักห้องคู่

499,900

พักเดี่ยวเพิ่มจากราคาทัวร์ท่านละ

60,000

เด็กอายุ 2 - 12 ปี (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน)

459,900

ไม่เอาตั๋วเครื่องบิน ลดราคา (เฉพาะเส้นทาง BKK-IST-EZE//BOG-IST-BKK)

50,000

ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ เริ่มต้นที่ท่านละ (ราคายืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น)

155,000

**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่
สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 10/5/2023) **
ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
  1. กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  2. กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กก. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 กก.
โปรแกรมท่องเที่ยวอเมริกากลาง (ตามที่ระบุไว้ในรายการ) อัตรานี้รวมถึง
  1. ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TK และ อื่นๆ (กระเป๋าเดินทาง นน. ไม่เกิน 23 กก./ท่าน)
  2. ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ
  3. ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  1. ค่าที่พักตลอดการเดินทาง
  2. ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ ตามระบุในรายการ
  3. เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  4. ค่าวีซ่าปารากวัย, อุรุกวัย, โบลีเวีย
  5. ค่าทิปต่างๆ
อัตรานี้ไม่รวมถึง
  1. ค่าวีซ่าโคลอมเบีย หากท่านมี Valid Schengen Visa / Valid US visa สามารถเข้าโคลอมเบียได้ โดยไม่ต้องยื่นวีซ่า หากท่านไม่มีวีซ่าต้องยื่นขอวีซ่าโคลอมเบีย ท่านละ 5,500 บาท
  2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  3. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
การชำระเงิน งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 100,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังได้รับการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 90 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
กรณียกเลิก
  1. แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)
  2. แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  3. แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%
  4. ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)
*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
หมายเหตุ :
  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 10 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง
  2. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจลาจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว
  4. เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
  6. ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  7. เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
ตั๋วเครื่องบิน
  1. การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น
  2. ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  3. ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  4. เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
โรงแรมและห้อง
  1. ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง
(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  1. โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  2. ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
  1. กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  2. วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  3. หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
  1. สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  2. สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  3. ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  4. กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
  1. ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  2. กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย
  3. กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
เอกสารประกอบการขอวีซ่า ปารากวัย, อุรุกวัย, โคลอมเบีย, โบลิเวีย
สถานฑูตไม่อนุญาตให้ดึงเล่มพาสปอร์ต หากได้ยื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าท่านรู้ว่าต้องใช้เล่มกรุณาแจ้งบริษัททัวร์ฯ เพื่อขอยื่น
วีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และให้แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทางมาด้วย
(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ และกรุณาอย่าดื้อและยึดติดกับการยื่นในสมัยก่อน )
  1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
  1. เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
  2. เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
  3. เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูตและประเทศ)
  1. กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
  2. กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
  3. กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน
  4. กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
  5. กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
  6. กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
  1. หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
  2. Bank Statement ให้ธนาคารออกย้อนหลัง 6 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน และยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (ปรับสมุดและสำเนา 15 วันก่อนยื่นวีซ่า)
************* ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น **************
หมายเหตุ : หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่นจากเดือน 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี
  1. บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย
หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้
  1. หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีฝากประจำ (Fixed account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
  2. สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน
หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
  1. หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย)
  2. กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
  1. จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
  2. หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2
(สถานฑูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)
ล่องเรือดินเนอร์ล่องเรือดินเนอร์
ทัวร์บุรีรัมย์ทัวร์บุรีรัมย์
ทัวร์เชียงใหม่ทัวร์เชียงใหม่
ทัวร์เชียงรายทัวร์เชียงราย
ทัวร์กาญจนบุรีทัวร์กาญจนบุรี
ทัวร์กระบี่ทัวร์กระบี่
ทัวร์ลำปางทัวร์ลำปาง
ทัวร์นครปฐมทัวร์นครปฐม
ทัวร์น่านทัวร์น่าน
ทัวร์หนองคายทัวร์หนองคาย
ทัวร์อุดรธานีทัวร์อุดรธานี
ทัวร์พะเยาทัวร์พะเยา
ทัวร์เพชรบูรณ์ทัวร์เพชรบูรณ์
ทัวร์พิษณุโลกทัวร์พิษณุโลก
ทัวร์นครสวรรค์ทัวร์นครสวรรค์
ทัวร์อยุธยาทัวร์อยุธยา
ทัวร์ภูเก็ตทัวร์ภูเก็ต
ทัวร์ระนองทัวร์ระนอง
ทัวร์สมุทรสงครามทัวร์สมุทรสงคราม
ทัวร์สระบุรีทัวร์สระบุรี
ทัวร์สุโขทัยทัวร์สุโขทัย
ทัวร์สุพรรณบุรีทัวร์สุพรรณบุรี
ทัวร์ตากทัวร์ตาก
ทัวร์เลยทัวร์เลย
ทัวร์นครศรีธรรมราชทัวร์นครศรีธรรมราช
ทัวร์สุราษฎร์ธานีทัวร์สุราษฎร์ธานี
ทัวร์นครพนมทัวร์นครพนม
ทัวร์อุบลราชธานีทัวร์อุบลราชธานี
ทัวร์มุกดาหารทัวร์มุกดาหาร
ทัวร์สงขลาทัวร์สงขลา
ทัวร์พัทลุงทัวร์พัทลุง
ทัวร์ปัตตานีทัวร์ปัตตานี
ทัวร์สกลนครทัวร์สกลนคร
ทัวร์แม่ฮ่องสอนทัวร์แม่ฮ่องสอน
ทัวร์ชุมพรทัวร์ชุมพร
ทัวร์ประจวบคีรีขันธ์ทัวร์ประจวบคีรีขันธ์
ทัวร์ตราดทัวร์ตราด
ทัวร์สตูลทัวร์สตูล
ทัวร์ตรังทัวร์ตรัง
ทัวร์พังงาทัวร์พังงา
ทัวร์ฉะเชิงเทราทัวร์ฉะเชิงเทรา
ทัวร์นครนายกทัวร์นครนายก
ทัวร์เพชรบุรีทัวร์เพชรบุรี
ทัวร์ปราจีนบุรีทัวร์ปราจีนบุรี
ทัวร์ราชบุรีทัวร์ราชบุรี
ทัวร์อุตรดิตถ์ทัวร์อุตรดิตถ์
ทัวร์ชลบุรีทัวร์ชลบุรี
ทัวร์ลพบุรีทัวร์ลพบุรี
ทัวร์สมุทรปราการทัวร์สมุทรปราการ
ทัวร์อ่างทองทัวร์อ่างทอง
ทัวร์จันทบุรีทัวร์จันทบุรี
ทัวร์บึงกาฬทัวร์บึงกาฬ
ทัวร์ถ้ำนาคาถ้ำนาคา
ทัวร์ชัยภูมิทัวร์ชัยภูมิ
ทัวร์อุทัยธานีทัวร์อุทัยธานี
ทัวร์กาฬสินธุ์ทัวร์กาฬสินธุ์
ทัวร์กำแพงเพชรทัวร์กำแพงเพชร
ทัวร์ขอนแก่นทัวร์ขอนแก่น
ทัวร์ชัยนาททัวร์ชัยนาท
ทัวร์นครราชสีมาทัวร์นครราชสีมา
ทัวร์นนทบุรีทัวร์นนทบุรี
ทัวร์นราธิวาสทัวร์นราธิวาส
ทัวร์ปทุมธานีทัวร์ปทุมธานี
ทัวร์พิจิตรทัวร์พิจิตร
ทัวร์แพร่ทัวร์แพร่
ทัวร์มหาสารคามทัวร์มหาสารคาม
ทัวร์ยะลาทัวร์ยะลา
ทัวร์ยโสธรทัวร์ยโสธร
ทัวร์ร้อยเอ็ดทัวร์ร้อยเอ็ด
ทัวร์ระยองทัวร์ระยอง
ทัวร์ลำพูนทัวร์ลำพูน
ทัวร์ศรีสะเกษทัวร์ศรีสะเกษ
ทัวร์สมุทรสาครทัวร์สมุทรสาคร
ทัวร์สระแก้วทัวร์สระแก้ว
ทัวร์สิงห์บุรีทัวร์สิงห์บุรี
ทัวร์กรุงเทพฯทัวร์กรุงเทพฯ
ทัวร์สุรินทร์ทัวร์สุรินทร์
ทัวร์หนองบัวลำภูทัวร์หนองบัวลำภู
ทัวร์อำนาจเจริญทัวร์อำนาจเจริญ
หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 20042023 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
TOP