เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี


@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง

@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ยุโรป

 รหัส : Z8882
เดินทางโดย : QR-กาตาร์แอร์เวย์
โรงแรม : 4 ดาว |  จำนวนวัน : 9 วัน 6 คืน
อิตาลี - สวิตเซอร์แลนด์ - ฝรั่งเศส : นครรัฐวาติกัน - เกาะเวนิส - ถ่ายรูปมหาวิหารแห่งมิลาน - สะพานไม้ชาเปล - สิงโตหินแกะสลัก - หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ ริมทะเลสาบ Lake Brienz - เมืองซุก - นั่งรถไฟด่วน TGV เข้าสู่ปารีส - ขึ้นชั้น 2 หอไอเฟิล - พระราชวังแวร์ซายส์ และพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายในแต่ละห้อง เที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว)
พักสวิตเซอร์แลนด์ เมือง Interlaken สถานตากอากาศ 2 คืน - พักเมืองลูเซิร์น 1 คืน - ฟรี น้ำดื่มวันละ 1 ขวด - รวมวีซ่าแล้ว

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - แวะเปลี่ยนเครื่องสนามบินโดฮา
สนามบินลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่ (ฟูมิซิโน) - นครรัฐวาติกัน - เข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - ถ่ายรูปด้านหน้า โคลอสเซียม - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน - วิหารแพนเธออน - ปิซ่า (อิตาลี)
เมืองปิซ่า - หอเอนปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก - เมสเตร้ - นั่งเรือสู่เกาะเวนิส - สะพานถอนลมหายใจ - จัตุรัสซานมาร์โค - วิหารซานมาร์โค (อิตาลี)
เมสเตร้ - มิลาน - ถ่ายรูปมหาวิหารแห่งมิลาน - อินเทอร์ลาเค่น (สวิตเซอร์แลนด์)
พิชิตยอดเขาจุงเฟรา - สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป - ถ้ำน้ำแข็ง 1000 ปี - สวิสสฟิงซ์ - หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ - ลูเซิร์น (สวิตเซอร์แลนด์)
เมืองลูเซิร์น - สะพานไม้ชาเปล - อนุสาวรีย์สิงโต - เดินเล่นชิวๆชมเมือง - เมืองซุก - ดิจอง (ฝรั่งเศส)
ดิจอง - นั่งรถไฟด่วน TGV สู่ปารีส - เข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ในแต่ละห้องข้อมูลแน่นปึ๊ก เที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) - ท่าเรือบาตามูซ - ล่องเรือชมวิวแม่น้ำแซน
ขึ้นหอไอเฟล ชั้น 2 - DUTY FREE - เข้าชม พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ข้อมูลแน่นปึ๊ก เที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) - ช้อปปิ้งร้านปลอดภาษี, ห้างแกลลารี่ ลาฟาแยตต์ (อิสระอาหารเที่ยง) - สนามบินชาร์ลเดอร์โกล - แวะเปลี่ยนเครื่องสนามบินโดฮา
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แนะนำ การเดินทาง : ต้องได้รับวัคซีนที่ได้รับอนุญาตจากองค์การสหภาพยุโรป ได้แก่ * ไฟเซอร์ * จอหน์สัน & จอหน์สัน * โมเดอร์นา * แอสตร้า เซนเนก้า * ซิโนแวค และต้องแสดงหลักฐานผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ทั้งขาไป และขากลับ) (อิตาลีไม่รองรับ Sinopharm, Sinovac)
ไม่รวม ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 20 ยูโร ต่อท่าน - ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 15 ยูโร ต่อท่าน - บริการรับเอกสารประกอบการขอวีซ่าในเขตกรุงเทพฯ 1 ครั้ง (นอกเส้นทาง โปรดส่งเอกสารทาง พัสดุตรงถึง CENTER แผนกวีซ่าด้วยตัวเอง - ค่าตรวจ PCR ทุกกรณี ถ้ามี
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

อิตาลี - สวิตเซอร์แลนด์ - ฝรั่งเศส 9 วัน 6 คืน

ฟรี น้ำดื่มวันละ 1 ขวด - รวมวีซ่าแล้ว

พักสวิสเซอร์แลนด์ 2 คืน พัก Interlaken สถานตากอากาศที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกชื่นชอบมากที่สุด

พักเมืองลูเซิร์น เมืองเล็กๆอันแสนน่ารัก

นครรัฐวาติกัน เที่ยวชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เที่ยวเกาะเวนิส ชมวิวบรรยากาศของเวนิส “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน”

แวะเที่ยวมิลาน มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ พร้อมถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งมิลาน

ชมสัญลักษณ์ประจำเมือง สะพานไม้ชาเปล และ สิงโตหินแกะสลัก

หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ เป็นหมู่บ้านเล็ก ริมทะเลสาบ Lake Brienz จากซี่รี่ย์เกาหลีชื่อดัง Crash Landing On You

เมืองซุก ถ่ายรูปกับ CLOCK TOWER แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ที่มีความสูง 52 เมตร

นั่งรถไฟด่วน TGV เข้าสู่ปารีส และ ขึ้นชั้น 2 ของหอไอเฟิล สัญลักษณ์ของนครปารีสเลิศหรูอลังการโรแมนติค

พระราชวังแวร์ซายส์ และพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย แต่ละห้อง ที่สำคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว)

ไม่รวม ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 20 ยูโร ต่อท่าน - ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 15 ยูโร ต่อท่าน

บริการรับเอกสารประกอบการขอวีซ่าในเขตกรุงเทพฯ 1 ครั้ง

(นอกเส้นทาง โปรดส่งเอกสารทาง พัสดุตรงถึง CENTER แผนกวีซ่าด้วยตัวเอง

ค่าตรวจ PCR ทุกกรณี ถ้ามี

หลังจากท่านทำการจองทัวร์แล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านเข้าใจ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของผู้เดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจองทัวร์ และการยกเลิกทัวร์ ที่ระบุในรายการทั้งหมด

วันแรก กรุงเทพฯ - โรม(อิตาลี)

17.00 น. U คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) สังเกตุโดยมี เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง

20.25 น. Q ออกเดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่ QR 835/ QR 115 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา  บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

วันที่สอง โรม - กรุงวาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - โคลอสเซียม - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน –วิหารแพนเธออน - ปิซ่า

(อิตาลี)

06.20 น. เดินทางถึง สนามบินลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่ (ฟูมิซิโน) หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลีซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่ และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจเมื่อราวกว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ นครรัฐวาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นำท่านเข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก “เพียต้า” ผลงานของศิลปินเอก ไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลี ชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โรมันฟอรั่ม

จากนั้นคณะแวะถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน จากนั้นให้ ท่านถ่ายภาพคู่กับประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม ” รถโค้ชนำท่านวิ่งผ่านชมสถานที่ต่างๆรอบกรุงโรม

 เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1) (อาหารจีน)

บ่าย จากนั้นนำท่านชม น้ำพุเทรวี่ เป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ “เทรวี่” นั้นมาจากคำว่า“ตรีวิอุม” หมายถึงพบกันของถนนสามสาย เป็นอนุสรณ์สไตล์บารอค ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 การก่อสร้างดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งภายหลังการสิ้นพระชนม์สมเด็จสันตะปาปาที่ เออร์บัน ที่ 8ได้หยุดชะงักลง และดำเนินการสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในปี 1762 รวม ใช้เวลาทั้งสิ้น 30 ปี มีทางระบายน้ำเวอร์โก้ บริเวณลานด้านหน้านั้นก่อสร้างมากว่า 2,000 ปี ครั้งสมัยโรมโบราณซึ่งปกครองโดยจักรพรรดิออกัสตัส ซึ่งตรงเวลา 19 ปี ก่อนคริสต์ศักราช รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้น ได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน “เทพแห่งท้องทะเล” ว่ากันว่า หากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ เขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกในสักวัน

จากนั้นให้คณะได้ถ่ายรูปภาพคู่ บันไดสเปน เป็นบันไดในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อ Francesco de Sanctis เชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinità dei Monti เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ใช้สำหรับเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ย่านบันไดสเปน นับว่าเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีและนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ

นำท่านชม วิหารแพนเธออน เป็นสถาปัตยกรรมสำคัญ สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิมาร์คุส วิบซานิอุส อะกริบปา จุดมุ่งหมายในการสร้างไม่ชัดเจนต่อมามีการสร้างใหม่ในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียน ใน ค.ศ. 126 และซ่อมใหญ่ในปี ค.ศ. 202 โดยจักรพรรดิ เซพติมิอุส เซเวรุส และคาราคาลา การก่อสร้างในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียนมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเทวสถานของเทพเจ้าโรมัน 7 องค์หรือเทพแห่งดาวในระบบสุริยะ APOLLO พระอาทิตย์ DIANA พระจันทร์ MARS อังคาร MERCURY พุธ JUPITER พฤหัส VENUS ศุกร์ SATURN เสาร์ ลักษณะเด่นของตัววิหารคือมีหลังคาทรงกลมและโค้งเป็นครึ่งวงกลมวางอยู่บนเสาหินแกรนิตขนาดมหึมา วิหารมีความสูงถึง 43.3 เมตร รายละเอียดของโดมหลังคาภายในวิหาร รวมถึงโครงสร้างที่แข็งแรงและยืนหยัดมานานกว่าสองพันปี ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 7 เป็นต้นมา วิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก อุทิศแด่พระแม่มารีและผู้พลีชีพเพื่อศาสนา

ออกเดินทางสู่ แคว้นทอสคาน่า เมืองปิซ่า ( ประมาณ 359 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 4 ชม. 30 นาที ) ท่านจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของบ้านเรือนแบบอิตาลีและปราสาทตั้งสูงสง่างามอยู่บนเนินเขา และเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดีของเมืองนี้

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2)

(อาหารพื้นเมือง สปาเก็ตตี้ต้นตำหรับอิตาลี + อาหารจานหลัก (เมนคอร์ส) + ของหวาน)

ã พักค้างคืน ณ GALILEI HOTEL หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

วันที่สาม เมืองปิซ่า - หอเอนปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก - เมสเตร้ - นั่งเรือสู่เกาะเวนิส - สะพานถอนลมหายใจ -

จัตุรัสซานมาร์โค - วิหารซานมาร์โค (อิตาลี)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 3)

นำท่านชม หอเอนเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่เมืองปิซ่า ประเทศอิตาลี เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสูง 181 ฟุต เริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ.1174 แต่การก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงเมื่อก่อสร้างไปได้ประมาณ 4-5 ชั้น เนื่องจากพื้นดินใต้อาคารเริ่มยุบลง จากการที่รากฐานของอาคารไม่มั่นคงพอ อย่างไรก็ตามต่อมาได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อปีค.ศ.1350 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโครงสร้างด้านบนไปจากแผนผังเดิมเพื่อถ่วงดุลกับการเอียงของหอ โดยรวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 176 ปี แต่ตัวหอก็ยังเอนไปจากแนวตั้งฉากถึง14 ฟุต ปัจจุบันนี้ได้ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมด้านบนแล้ว เนื่องจากว่าหอจะเอนลงเรื่อยๆ ซึ่งบรรดาวิศวกรกำลังหาทางที่จะหยุดยั้งการเอนและอนุรักษ์ให้มีสภาพเอียงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ชมไปอีกนานๆ สำหรับหอเอนปิซ่านี้ภายในมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายด้วยฝีมือจิตรกรชื่อดังแห่งยุคได้สลักลวดลายไว้สวยงามมาก ณ ที่หอเอนปิซ่าแห่งนี้ เป็นที่ที่กาลิเลโอขึ้นไปทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับแรงดึงดูดของโลก

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4) (อาหารจีน)

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เกาะเวนิส - เมรเตร้ (ประมาณ 327 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 3 ชม. 40 นาที ) เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” มีเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เดินทางสู่ เกาะซานมาร์โค (ระยะเวลาในการนั่งเรือ ประมาณ 30 นาที) ศูนย์กลางของนครเวนิส ระหว่างทางท่านจะได้ชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 บิดาของชาวอิตาเลี่ยน ให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับสะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง “Doge Palace” ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้นอีกด้วย ชม จัตุรัสเซนต์มาร์คโค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิสตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองเมสเตร้

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)

(อาหารพื้นเมือง พิซซ่าต้นตำหรับอิตาลี + อาหารจานหลัก (เมนคอร์ส) + ของหวาน)

ã พักค้างคืน ณ DELFINO HOTEL VENEZIA MESTRE หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่สี่ เมสเตร้ - มิลาน - มหาวิหารแห่งมิลาน - อินเทอร์ลาเค่น ( สวิตเซอร์แลนด์ )

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 6)

นำท่านเดินทางไปยัง เมืองมิลาน ( ประมาณ 265 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 3 ชม. 15 นาที ) เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม นอกจากนี้มิลานยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน (Panettone) อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึง สโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลาน และ สโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน 

ถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3,000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7) (อาหารจีน)

บ่าย นำท่านเดินทางโดยรถโค้ช สู่ เมืองอินเทอร์ลาเค่น ( ประมาณ 293 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 3 ชม. 50 นาที ) เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ , นาฬิกาดอกไม้ , สถานคาสิโน ฯลฯ ให้ท่านเดินเล่นพักผ่อน ชื่นชมบรรยากาศของตัวเมืองที่มีทุ่งหญ้ากว้างกลางเมือง มีสวนดอกไม้เล็กๆ น่ารักสร้างสีสันให้ตัวเมือง รวมทั้งมีอาคารคาสิโนคูซาลอายุกว่า 100 ปีที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และยังเป็นคาสิโนของเมืองอีกด้วย

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8) (ฟองดูว์ ต้นตำหรับสวิตเซอร์แลนด์)

ã พักค้างคืน ณ Metropole หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)

วันที่ห้า พิชิตยอดเขาจุงเฟรา - สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป - ถ้ำน้ำแข็ง 1000ปี - สวิสสฟิงซ์ - หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ -

ลูเซิร์น ( สวิตเซอร์แลนด์ )

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 9)

นำคณะออกเดินทางโดยรถโค้ชมุ่งหน้าขึ้นสู่ เมืองเลาเทอร์บรุนเน่น เพื่อนำท่านขึ้นรถไฟ สายจุงเฟราบาห์เนน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์แบบสวิสเซอร์แลนด์ขนานแท้ ที่มีทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ล่วง บ้านหลังน้อยใหญ่ปลูกแบบน่ารักๆทรงสวิสชาเลต์ ฝูงวัวพื้นเมืองที่กระจัดกระจายแทะเล็มหญ้าอยู่ทั่วบริเวณ ลำธารน้ำธรรมชาติเล็กๆที่ใสสะอาดและฉากหลังที่มีภูเขาหิมะตั้งตระหง่านขาวโพลน ซึ่งจะทำให้คณะได้รับความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง นั่งรถไฟชมวิวท่องเที่ยวธรรมชาติบนภูเขาสูงแห่งแอลป์ แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสายภูเขาที่สถานีไคลน์ไชเด็ก รถไฟที่จะนำท่านเดินทางลอดอุโมงค์ที่ชาวสวิสฯได้ขุดเจาะไว้ที่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนกระทั่งถึง สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป Top of Europe บนยอดเขาจุงเฟรา ซึ่งมีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) จุดสูงสุดคือลานน้ำแข็งขนาดใหญ่เรียกว่า Sphinx นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่สวยงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์ เพราะยอดเขาแห่งนี้ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านถ่ายภาพความประทับใจตามอัธยาศัยกับแบบจุใจ ไม่มีเร่งรีบ

จากนั้นนำท่าน ชม ถํ้านํ้าแข็ง 1,000 ปี  ที่สร้างโดยการเจาะธารน้ำแข็งเข้าไปถึง 30 เมตร พร้อมชมน้ำแข็งแกะสลักรูปร่างต่าง จากนั้นชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสหิมะที่ลานพลาโต Plateau และไม่ควรพลาดการส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกพร้อมซื้อของที่ระลึกต่างๆตามอัธยาศัย

นำท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจ เดินทางสู่ ยุงค์ฟราวยอร์ค-หลังคายุโรป ไปแล้วไม่ได้มาจุดชมวิว จุดนี้เหมือนมาไม่ถึง

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวันเมนูที่ดีที่สุด ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงฟราว (มื้อที่ 10)

บ่าย นำท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจ จากนั้นนำท่านลง จากยอดเขาจุงเฟราไปยังสถานีรถไฟ ไอเกอร์เกลทเชอร์ เพื่อนำท่านขึ้นกระเช้า The V-Cableways (กระเช้าใหม่ล่าสุด)ลงมายังเมืองกลินเดอร์วาวล์ นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ Iseltwald เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ Lake Brienz ซึ่งรายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ของแนวเทือกเขาสูงใหญ่ ในฤดูร้อนก็จะมีแต่สีสันเขียว ๆ สดชื่นสบายตา น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าสวยใส บรรยากาศเงียบสงบ และมาโด่งดังสุดๆจากซี่รี่ย์เกาหลีชื่อดังอย่าง Crash Landing On You ที่มาถ่ายทำ ณ สถานที่แห่งนี้ ให้ท่านเดินเล่นชมเมืองที่สวยงามนี้ หลังจากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ประมาณ 77 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 1 ชม. ) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ อันหมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11)

ã พักค้างคืน ณ ASTORIA LUCERNE หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4)

วันที่หก เมืองลูเซิร์น - สะพานไม้ชาเปล - อนุสาวรีย์สิงโต - เดินเล่นชิวๆชมเมือง - เมืองซุก - ดิจอง (ฝรั่งเศส)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 12)

นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น สะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุหลายร้อยปี นําท่านชม  อนุสาวรีย์สิงโต สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และกล้าหาญของชาวสวิสเซอร์แลนด์ ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในคราวปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศสแกะสลักอยู่บนหน้าผาหิน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง(ไม่ใช่วิ่งชมเมือง) หรือ ช้อปปิ้ง นาฬิกาสวิสฯ อาทิ ROLEX,PANERAI, OMEGA, IWC, PATEK PHILLIP เป็นต้น หรือเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกเช่น มีดสวิสฯ พร้อมสลักชื่อ, สินค้าพื้นเมืองของที่ระลึก, ช็อคโกแลต เป็นต้น

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (ประมาณ 30 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 35 นาที ) เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเมืองซุกเคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์แต่ปัจจุบันซุกคือเมืองที่รวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ โดยเรียกเก็บค่าภาษีในอัตราต่ำที่สุดในโลก ทำให้เป็นข้อได้เปรียบในเชิงการต่อรองราคาทางธุรกิจ และยังติดอันดับเมืองที่สะอาดที่สุดหนึ่งในสิบของโลกอีกด้วย ให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับ CLOCK TOWER ที่มีความสูง 52 เมตร มองเห็นได้มาแต่ไกล สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 หลังคาเป็นสีฟ้าขาวและนาฬิกาที่ตั้งอยู่เป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่สามารถบอกข้างขึ้น ข้างแรมของพระจันทร์ได้ ให้ท่านอิสระเดินเล่นชมบ้านเรือน และทะเลสาบของเมืองซุก

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13) (อาหารจีน)

บ่าย จากนั้นออกเดินทางโดยรถโค้ชข้ามพรมแดนของสวิสเซอร์แลนด์ - ฝรั่งเศส เดินทางผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่สู่เขตแคว้นเบอร์กันดีที่มีการปลูกลูกมัสตาร์ดเพื่อนำมาผลิตมาเป็น “มัสตาร์ด” อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดีของประเทศฝรั่งเศส เดินทางเข้าสู่ เมืองดีจอง (ประมาณ 353 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 3 ชม. 45 นาที ) ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่สวยงามของประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดีชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14) (อาหารพื้นเมือง สไตล์ฝรั่งเศส )

ã พักค้างคืน ณ Novotel Dijon Route des Grands Crus หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5)

วันที่เจ็ด ดิจอง - รถไฟด่วน TGV - พระราชวังแวร์ซายส์ - ล่องเรือแม่น้ำแซน - ถนนชองเอลิเซ่ - ประตูชัยปารีส -

อาหารพื้นเมืองหอยเอสคาโก้อบเนยในร้านสุดหรู (ฝรั่งเศส)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 15)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองปารีส ด้วยรถไฟด่วน TGV เพลิดเพลินและสนุกสนานกับความสะดวกสบาย ด้วยความเร็วกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ไม่ต้องลากกระเป๋าใหญ่ไปให้ลำบาก เพราะเรามีรถบัสขนสัมภาระไปให้ท่าน ) (ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชม. 45 นาที ) จนกระทั่งถึงกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศสบนใจกลางแคว้น อีล-เดอ-ฟรองซ์ จากการตั้งถิ่นฐานมากว่า 2,000 ปี เมืองปารีส มหานครซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองหลวงด้านแฟชั่น ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของทุ่งดอกเรบซีด ไร่องุ่น และหมู่บ้านชนบทของฝรั่งเศสจนกระทั้งเข้าสู่เมืองปารีส

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 16) (อาหารจีน)

บ่าย นำท่านเดินทางไปยัง แวร์ซาย อดีตเมืองหลวงและศูนย์กลางการเมืองการปกครองในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อยู่ห่างจากปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร นำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซาย (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ในแต่ละห้องข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่สำคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) พระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใหญ่ที่สุดในปฐพี ชมความอลังการของพระราชวังซึ่งได้รับการตกแต่งไว้อย่างหรูหราวิจิตรบรรจง ชมความงดงามของห้องต่างๆ อาทิเช่น ห้องอพอลโล, ห้องนโปเลียน ห้องบรรทมของราชินี, ห้องโถงกระจกท้องพระโรง, ห้องสงครามและสันติภาพ รวมถึงเรื่องราวและความเป็นมาของอดีตอันยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้ จากนั้นอิสระให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณอุทยานอันร่มรื่นและหลากหลายด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสีสันสวยงาม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือบาตามูซ เพื่อล่องเรือแม่น้ำแซน ชมวิวทิวทัศน์กันบนดาดฟ้าเรือ ชื่นชมความงามของทัศนียภาพของนครปารีส ชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสองฝั่งของแม่น้ำแซน โบราณสถาน และอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ตลอดทางท่านจะได้ความประทับใจกับความสวยงามของทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีสได้ชื่อว่าเป็นนครที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อาทิเช่น สะพานอเล็กซานเดอร์, ศาลาว่าการ, จัตุรัสคองคอร์ด, โรงกษาปณ์, เกาะอิลเดอลาซิเต้ ศูนย์กลางเมืองแห่งแรก สถานที่ตั้ง มหาวิหารนอเตรอดาม หรือโบสถ์นอเตรอดาม สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างงดงาม ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นครองราชย์ มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และทำให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก (ในกรณีที่น้ำในแม่น้ำแซนขึ้นสูงกว่าปกติหรือมีเหตุการณ์สุดวิสัย เช่น การนัดหยุดงาน เป็นต้น รายการล่องแม่น้ำแซนอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้)

จากนั้นนำท่านไปชม ประตูชัย สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนโปเลียน ก่อนนั่งรถผ่านชมสองฟากฝั่ง ถนนชองป์เซลิเซ่ ต้นแบบถนนราชดำเนินของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าแบรนด์เนมจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลก นำท่านผ่านชม จัตุรัสคองคอร์ด สถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสและยุโรป เป็นลานประหารที่ตั้งกิโยติน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับพันในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศสปี ค.ศ. 1789

ค่ำ ä รับประทานอาหารแบบพื้นเมืองฝรั่งเศส (เมนู หอยเอสคาโก้อบเนย ,ท่านสามารถ เลือก สเต๊กสไตล์ฝรั่งเศส 1 อย่าง อาทิ เป็ดอบซอส/ ปลา / เนื้อวัว / แกะ พร้อมจิบไวน์ฝรั่งเศส ตบท้ายด้วยของหวาน ) (มื้อที่ 17)

ã พักค้างคืน ณ Mercure Paris La Defense 5 เทียบเท่า (คืนที่ 6)

วันที่แปด ขึ้นหอไอเฟลชั้น 2 - DUTY FREE - พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ - ช้อปปิ้ง

เช้า ä  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 18)

นำท่านถ่ายภาพ หอไอเฟล เป็นที่ระลึกจากมุมกว้างซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุดและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นนำท่าน ขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 2 ของหอไอเฟิล สัญลักษณ์ของนครปารีสเลิศหรูอลังการโรแมนติค เป็นหอสูงสร้างด้วยโครงเหล็กทั้งหมด โดยชาวฝรั่งเศสชื่อ กุสตาฟ เอฟเฟล มีความสูง 984 ฟุต ใช้เหล็กทั้งหมด 7 พันตัน สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1887 เพื่อเป็นประติมากรรมฉลองครบรอบ 100 ปีหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส ท่ามกลางเสียงคัดค้านของประชาชนในสมัยนั้นว่า รูปทรงน่าเกลียดอัปลักษณ์เป็นที่สุด หารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่สิบปีต่อมา หอเหล็กสูง 324 เมตร น้ำหนัก 10,000 ตันนี้ จะกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองที่คนทั่วโลกอยากมาเห็น ให้ท่านได้เพลิดเพลิน สนุกสนาน ชมทัศนียภาพอันสวยงามของกรุงปารีส ได้อย่างทั่วถึงและจุใจ 

หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ อลังการ ณ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่สำคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดเก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวตึกที่ตั้งอยู่เคยเป็นพระราชวังมาก่อน โดยกษัตริฟิลิป-ออกัสตัส สร้างเป็นป้อมปราการ จากนั้นพระเจ้าชาร์ลที่ 5 ได้ขยายป้อมปราการลูฟร์ให้เป็นพระราชวัง พระเจ้าหลุยส์ 13 และ14 เคยประทับอยู่ที่นี่ ปัจจุบันลูฟร์เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 40,000 ชิ้น มีตั้งแต่ศิลปะสมัยอีทรัสกัน กรีก โรมัน อียิปต์ภาพเขียนและปติมากรรมยุคเรเนสซองซ์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับพีระมิดแก้ว ซึ่งเป็นทางเข้าหลักออกแบบโดยสถาปนิกเชื้อสายอเมริกัน - จีน

นำท่านชื่นชม ภาพวาดโมนาลิซา ของลีโอนาร์โด ดาวินชี จิตรกรและสถาปนิกอัจฉริยะชาวอิตาเลียน ภาพวาดชวนพิศวงเนื่องมาจากรอยยิ้มอันเปี่ยมด้วยเลศนัยของนางที่อยู่ในภาพ จนทำให้ผู้คนวิจารณ์กันมากว่าแท้จริงแล้วโมนาลิซ่า คือใครกันแน่ เป็นบุรุษหรือสตรี ชมรูปปั้นภาพเทพธิดาวีนัส (Venus deMilo) และศิลปะสำคัญของโลกภายในพิพิธภัณฑ์

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ร้านปลอดภาษี เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าต่างๆ มากมาย อาทิเช่น เครื่องสำอาง, น้ำหอม, เครื่องประดับ, กระเป๋าหนัง และเครื่องหนังอื่นๆ รวมทั้งเสื้อผ้า Brand Name จากฝรั่งเศส

เที่ยง อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัยเพื่อสะดวก และให้เวลากับการช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

บ่าย จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แกลลารี่ ลาฟาแยตต์ ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมทุกยี่ห้อรวมถึง Louise Vuitton ท่านที่ไม่มีความประสงค์ช้อปปิ้งสามารถเดินชมความงามของบ้านเมืองและโรงละครโอเปร่าที่เก่าแก่สวยงาม เพราะย่านช้อปปิ้งอยู่กลางเมือง มีอาคารบ้านเรือนสวยงามมาก ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินชาร์ลเดอร์โกล เพื่อทำการเช็คอิน และทำ TAX REFUND

22.25 น. Q ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ QR 038 / QR 832 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

วันที่เก้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ( กรุงเทพฯ)

19.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP