เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์เนปาล

 รหัส : Z8941
เดินทางโดย : RA-เนปาลแอร์ไลน์
โรงแรม : 4 ดาว |  จำนวนวัน : 4 วัน 3 คืน
กาฐมัณฑุ - นากาก๊อด - โภคครา - บัตตาปูร์ : วัดวิหารทองคำ - วัดเจดีย์มหาพุทธ - พระราชวังบักตาปูร์ - เทือกเขานากาก๊อต - วัดสวยมภูนาทร - วัดพุทธนาท - พระราขวังหนุมานดอร์กา - ช้อปปิ้งถนนทาเมล - ชมการแสดงแบบชาวเนปาลี พร้อมทานอาหารเนปาล 1 มื้อ
ไม่รวม ค่าประกัน และค่าตรวจ RT-PCR ประมาณ 15 USD ต่อท่าน - ค่าทำ Vaccine Passport หรือ ลงทะเบียน E-Vaccine Passport - ทิปสำหรับมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และคนขับรถ ท่านละ 1,000 บาท - ทิปสำหรับหัวหน้าทัวร์ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในการบริการ

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - ท่าอากาศยานตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ - เข้าที่พัก
เมืองปาทัน - วัดวิหารทองคำ - วัดเจดีย์มหาพุทธ - เมืองบักตาปูร์ - พระราชวังบักตาปูร์ - วิหารนาตาโปลา - บ้านปั้นหม้อ - วัดพระแม่อุมาเทวี - เทือกเขานากาก๊อต
นากาก๊อต - กาฐมัณฑุ - วัดสวยมภูนาทร - วัดปศุปฎินาถ - วัดพุทธนาท - พระราขวังหนุมานดอร์กา - กาฐมณฑป - เทพธิดากุมารี - ช้อปปิ้งถนนทาเมล - ชมการแสดงแบบชาวเนปาลี
ท่าอากาศยานตรีภูวัน - กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

นมัสเต เนปาล 4 วัน 3 คืน

กาฐมัณฑุ - นากาก๊อด - โภคครา - บัตตาปูร์

บินตรงจากกรุงเทพ รวมน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 20 กก.

บริการอาหารไทย 1 มื้อ - พักโรงแรม 4 ดาว

ชมการแสดงเนปาลี พร้อมทานอาหารเนปาล 1 มื้อ

ไม่รวม ค่าประกัน และค่าตรวจ RT-PCR ประมาณ 15 USD ต่อท่าน

ค่าทำ Vaccine Passport หรือ ลงทะเบียน E-Vaccine Passport

ทิปสำหรับมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และคนขับรถ ท่านละ 1,000 บาท

ทิปสำหรับหัวหน้าทัวร์ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในการบริการ

หลังจากท่านทำการจองทัวร์แล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านเข้าใจ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของผู้เดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจองทัวร์ และการยกเลิกทัวร์ ที่ระบุในรายการทั้งหมด

สรุปการเดินทาง

วันที่

โปรแกรมการเดินทาง

เช้า

เที่ยง

ค่ำ

โรงแรมที่พัก

1

สนามบินสุวรรณภูมิ – กาฐมัณฑุ

-

-

-

Hotel Yukhang

2

นครปาทัน - นากาโก๊ด - บัตตาปูร์ -พระราชวัง 55 พระแกล - วิหารนาตาโปลา - หมู่บ้านเครื่องปั้น

ä

ä

ä

Hotel The Fort Retreat

3

วัดสวยมภูนาทร - เจดีย์พุทธนาทร - วัดปศุปฎินาทร - เมืองเก่ากาฐมัณฑุ – เทพธิดาตาเลจู – กาฐมณฑป - ช้อปปิ้งถนนทาเมล

ä

ä

ä

Hotel Yukhang

4

กาฐมัณฑุ – กรุงเทพฯ

ä

-

-

วันแรก กรุงเทพฯ - กาฐมัณฑุ

13.45น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 1(ผู้โดยสายขาออก) ประตู 6 เคาน์เตอร์ G9-G11สายการบินรอเยล เนปาล แอร์ไลน์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอย ต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระ

16.45 น. ออกเดินทางสู่เมืองกาฐมัณฑุ โดยสายการบินไทยสมายด์ เที่ยวบินที่ RA402 บินตรงจากประเทศไทยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที (อาหารกลางวันบริการบนเครื่อง)

19.00 น. jถึง ท่าอากาศยานตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

โรงแรมã โรงแรม Hotel Yukhang หรือเทียบเท่า

วันที่สอง เมืองปาทัน – เมืองบักตาปูร์ – พระราชวังบักตาปูร์ - วิหารนาตาโปลา - บ้านปั้นหม้อ - วัดพระแม่อุมาเทวี –

นากาก๊อต

เช้า ä รับประทานอาหารในโรงแรม

vนำท่านเดินทางสู่ เมืองปาทัน (Patan) ในภาษาสันสกฤษ์ แปลว่า ลลิตปุร์ หรือเมืองแห่งความงาม เมืองปาทันได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก 1 ใน 7 ของเนปาล อีกทั้งเป็นศูนย์รวมของศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องงานฝีมือโดยเฉพาะงานทองเหลืองและงานไม้แกะสลัก vนำชมพระราชวังเมืองปาทัน ที่แสดงถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมเนวาลีอย่างชัดเจน vชมวัดวิหารทองคำ The Golden Temple หรือ วัดหิรัญญาวนามหาวิหาร Hiranya Varna Mahavihar เป็นวัดทางพุทธศาสนา สิ่งที่เด่นสะดุดตาคือแผ่นทองคำที่ตีปิดจากยอดหลังคาแล้วทอดยาวเป็นสายลงมายังพื้นล่างที่มีปกคลุมอาคารสูง 3 ชั้น ซึ่งชาวเนปาลที่นับถือพุทธเชื่อว่านี่คือเส้นทองรองรับเสด็จพระพุทธเจ้ายามท่านเสด็จกลับลงมาจากชั้นดางดึง อีกทั้งวัดนี้ไม่อนุญาตให้ฆ่าสัตว์ ภายในวัดจึงมีทั้ง นก หนู และเต้าให้เห็น อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่สวมใส่เครื่องหนัง จำเป็นต้องทอดเอาไว้ด้านนอก ไม่อนุญาตให้นำเข้าไปภายในวัด

vชมวัดเจดีย์มหาพุทธ (Mahaboudhi stupa) เจดีย์แห่งนี้สร้างด้วยจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยได้สร้างตามแบบองค์มหาเจดีย์พุทธคยาในเมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย เมื่อเดินเข้าไปภายในจะพบกับตัวองค์พระเจดีย์ที่ประดับกระเบื้องดินเผาปั้นพระพุทธรูปเป็นแบบนูนสูงปางขัดสมาธิประดับรอบองค์เจดีย์ นับกว่า 10,000 องค์ ด้านหลังจะมีวิหารองค์น้อยที่แผ่นหินสลัก บนภาพสลักเป็นรูปพระนางสิริมหามายาประสูติเจ้าชายสิทธัตถะใต้ต้นสาละ ซึ่งทำจำลองมาจากลุมพินี จากนั้นให้ท่านได้แวะซื้อของที่ระลึก ในหมู่บ้านหัตกรรม ซึ่งจะมีร้านค้าต่าง ๆ อาทิ ร้านจำหน่ายเครื่องประดับ ร้านจำหน่ายพรมของชาวทิเบตที่อพยพมาพำนักในเนปาล พรมที่นี่มีชื่อเสียงมากและเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้ที่ดี นอกจากนี้ ยังมีร้านที่จำหน่ายสินค้าจำพวกไม้และงานทองเหลือง ฯลฯ ที่นี่ราคาอาจไม่ถูกนักแต่คุณภาพดีและเป็น สถานที่ส่งเสริมงานจากกลุ่มแม่บ้าน

เที่ยง ä รับประทานอาหาร ณ Café D Patan

vระหว่างทางจะนำท่านชม เมืองบักตาปูร์ หลวงแห่งที่ 2 ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนกับ องค์กรสหประชาชาติเพื่อเป็นมรดกโลก เมืองนี้มีความงาม ด้านไม้แกะสลัก งานไม้ที่ขึ้นชื่อคือรูปสลักหน้าต่างเป็นรูปนกยูง ซึ่งตัวนกจะแกะให้นูนสูงจากตัวเนื้อไม้และโดยรอบยัง ฉลุลวดลวยต่าง ๆ เอาไว้อีกด้วย อีกทั้งเมืองนี้ได้เคยเป็นฉากในภาพยนตร์ดังอย่าง A Little Buddha และ Seven Years in Tibet ด้วยซอกซอยเล็กๆ และอาคารบ้านเรือนที่สร้างด้วยอิฐ ฉาบด้วยดิน และมีกรอบไม้สวยงามที่ยังคงสถาปัตยกรรมเดิมของชาวเนปาล ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์อย่างน่าหลงใหล นำท่านสู่ย่านเขตเมืองเก่า ชมพระราชวังโบราณ แห่งเมืองบักตาปูร์ ที่ได้สร้างตามแบบศิลปะแบบเนปาลขนานแท้ ประทับใจไปกับความสวยโดดเด่นของ ประตูทองคำ ขอบประตูจะถูกห่อหุ้มด้วยแผ่นทองทำที่มีการสลักรูปเทพเจ้าเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ผู้ที่เดินเข้าออก จนได้สมญานามว่าประตูทองคำ หน้าต่าง 55 พระแกล ตัวอาคารอิฐสีแดงโดดเด่น มีกรอมไม้หน้าต่างสีดำแต่ละบานจะฉลุลวดลายโปร่งตามแบบอินเดีย แต่น่าเสียดายที่บางส่วยของตัวพระราชวังแห่งนี้ ได้ถูกทำลายเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 1934 ต่อมาได้ถูกบูรณะขึ้นด้วยเงินทุนจากทาง UNESCO นำท่านเดินเข้าไปชมด้านในของตัวอาคาร ท่านจะ พบประตูอีกบานหนึ่งซึ่งบนซุ้มประตูมีเครื่องและแกะสลักเป็นลวดลายอ่อนช้อยวิจิตรบรรจง ซึ่งมีอยู่เพียงชิ้น เดียวในโลกเท่านั้น สืบเนื่องจากเมื่อช่างผู้ทำได้เสร็จแล้วพระราชาจะมีพระบัญชาให้ตัดมือทั้ง 2 ข้างทิ้ง และควักนัยน์ตาทั้ง 2 ของช่างผู้นั้นออก ถัดจากที่แห่งนี้ ไม่ไกลจะมีห้องสรง ซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่ง มีชื่อเรียกว่า สระนาคบากศก์ ด้านบนจะมีพญานาคใหญ่แผ่เบี้ยออกเพื่อปกปักรักษาและอำนวยพร ให้กับพระมหากษัตริย์ น้ำในสระนี้ เล่ากันว่าเมื่อถึงฤดูหนาว น้ำในสระจะอุ่น เมื่อเข้าฤดูร้อนน้ำในสระจะเย็น ด้านนอนพระราชวังจะมีเสามัลละ เสาตั้งสูงคล้ายเสาอโศกหัวเสามีรูปปั้นกษัตริย์มัลละนั่งหันหน้าจองมองมาที่พระราชวัง รอบๆบริเวณเป็นลานกว้าง รายล้อมด้วยวิหารเทพเจ้า อาทิวิหารพระวิษณุ วิหารพระพรหม วิหารพระนารายณ์ เป็นต้น นำท่านเดินออกจากตัวพระราชวังเพื่อชมความยิ่งใหญ่ของ วิหารนาตโปลา ซึ่งมีความสูงถึง 98 ฟุต หรือประมาณ 30 เมตร ถือได้ว่าเป็นวิหารที่สูงที่สุดในประเทศเนปาล แต่ละชั้นของบันได จะมีรูปปั้นของเทพต่าง ๆ อาทิ พญา ครุฑ, ยักษ์, คนทัณฑ์ เป็นต้น หากพอมีเวลานำท่านชม หมู่บ้านช่างปั้นหม้อ เพราะนอกจากเมืองนี้ ขึ้นชื่อเรื่องงานไม้แล้ว เรื่องงานปั้นก็งดงามไม่แพ้กัน ให้ท่านได้ชมวัดพระแม่อุมาเทวี ซึ่ง เป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดในเนปาล จากนั้นให้ท่านอิสระถ่ายรูป หรือเดินเลือกซื้อของขวัญของฝาก จนได้เวลาอันสมควรเดินทางสู่เทือกเขานากาโก๊ด

ค่ำ ä รับประทานอาหารในโรงแรม

โรงแรมã The Fort Retreat หรือเทียบเท่า

วันที่สาม นากาก๊อต - กาฐมัณฑุ – วัดสวยมภูนาทร - วัดปศุปฎินาถ – วัดพุทธนาท – พระราขวังหนุมานดอร์กา -

กาฐมณฑป - เทพธิดากุมารี - ช้อปปิ้งถนนทาเมล

เช้า ä รับประทานอาหารในโรงแรม

เช้าตรู่ ให้ท่านได้สูดอากาศยามเช้าตรู่ และเก็บภาพความสวยงามของแสงอาทิตย์ ที่สาดส่องตัดกับหิมะขาวนวลที่ปกคลุมเทือกเขาหิมาลัยทอดตัวยาวละเลียด บ่งบอกถึงเส้นขอบฟ้าและพื้นดินของยอดเขาเอเวอร์เรสท์ เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมากจนไม่อาจจะกระพริบตาได้.. “เทือกเขานากาก๊อต” ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,164 เมตร จากทิศตะวันออกของหุบเขานี้จะ ท่านสามารถมองเห็นภูเขาหิมาลัยโดยรอบซึ่งประกอบด้วยยอดเขา 5 ยอด จากจำนวนยอดเขา 10 ยอดที่สูงที่ในโลกได้แก่ ภูเขาเอเวอร์เรสท์ (EVEREST) โลดเส (LHOTSE) โชยู (CHO YU) มาลาคู (MAKALA) และ มานาสรู (MAMASLU)

เช้า ä รับประทานอาหารในโรงแรม

vนำชมวัดสวยมภูนารท (Swayambhunath) หรือ”วัดลิง”ซึ่งเป็นวัดทางพุทธศาสนาที่สำคัญ ตั้งอยู่ บนยอดเขาแดงทางทิศตะวันตกของเมืองกาฐมัณฑุ เจดีย์นี้มีอายุมากกว่า 2,500 ปี ทั่วบริเวณวัดแห่งนี้ เต็มไปด้วยลิงซึ่งจะลงมาเก็บเมล็ดข้าวที่ชาวเนปาลนำมาถวายที่วัดเป็นอาหาร นมัสการเจดีย์สวยมภูนารท ซึ่งถือว่าเจดีย์นี้เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเนปาล ที่ตัวเจดีย์ตรงบริเวณยอดฐานจะมีรูปดวงตาของพระพุทธเจ้า ชาวเนปาลมีความเชื่อที่ว่าพระเนตร ของพระพุทธเจ้าจะยังคอยมองดูโลกมนุษย์และมีจุดเล็กๆตรงกลางระหว่างคิ้ว ชาวเนปาลเชื่อว่าเป็นดวงตาที่ 3 ซึ่งหมายถึงดวงตาแห่งธรรม และเครื่องหมายที่ตรงจมูกคือเลข 1 หรือโอม โดยในเนปาลคือสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งหรือเอกภาพ…บริเวณโดยรอบมีวิหารสำคัญ 2 หลัง หลังแรกประดิกษฐานพระศรีอริยเมตรัย และอีกหลังเป็นวิหารของพระแม่ปาราวตี ที่ชาวเนปาลมักมาทำการบูชายันต์ด้วยไก่หรือแพะ ตามความเชื่อที่ว่าลูกแรกเกิดหากป่วยไข้ หรือคนในครอบครัวป่วยไข้ หากบูชาพระแม่ปาราวตีท่านจะปัดโรคร้ายให้หายไป ที่วัดสวยมภูนารทยังเป็นที่นิยมที่จะมาชมเมืองกาฐมัณฑุ ซึ่งจะเห็นวิวแบบพาโนรามา ช่างงดงามอย่างยิ่ง

เที่ยง ä รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารครัวไทย

vชมวัดฮินดู วัดปศุปาตินารทหรือวัดหลังคาทองคำ(Pashupatinath Temple) ที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวชมพูทวีปริมฝั่งแม่น้ำบัคมาตี(BAGMATI RIVER)ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญที่สุดของชาวเนปาลที่นับถือศาสนาฮินดู

vนำท่านสักการะ ชม เจดีย์พุทธนาท (Boudhanath) เป็นโบราณสถานในพุทธศาสนานิกายมหายานซึ่งเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในกาฐมัณฑุมี พระเนตรมองเห็นธรรมของพระพุทธเจ้าที่ทรงทอดมองไปได้รอบทิศบนฐานรูปแปดเหลี่ยมและมีกงล้อหมุน vเดินทางสู่ “พระราชวังกาฐมัณฑุ” ซึ่งมี ”พระราชวังหนุมานดอร์กา” (HANUMANDHOKA OR KATHMANDU DURBAR SQUARE) เป็นอาคารแบบยุโรปสีขาวมีหอสูง9 ชั้น เรียกว่า หอพสันตปุร์เป็นพระราชวังที่ใช้ประกอบพิธีกรรมสำคัญในราชวงค์ และยังเป็นสถานที่กษัตริย์เนปาลประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติด้วย ชม หนุมาน ดอร์การูปปั้นหนุมานผู้ทำหน้าที่นายทวารคอยรักษาประตูเข้าพระราชวัง มีเรื่องราวเล่าขนานว่า หนุมานผู้มีฤทธิ์มาก ไม่มีใครกล้าต่อกร ได้อาสาพระเจ้ามัลละได้การที่จะเป็นขื่อคอยค้ำหลังคา ปราสาทราชวังทั้งหมด แต่เจ้าตัวดอร์ก้า สัตว์รูปร่างประหลาด หัวคล้ายแพะ ตัวคล้ายวัวรูปร่างผอมบาง ขอลงประชันว่าหากใครชนะก็จะได้รับเกรียติ์ให้ค่ำชูหลังคาของมหาปราสาทของเหล่าทวยเทพ ต่างประชันรูปร่างที่ใหญ่โต ปรากฏว่าดอร์ก้าชนะเลิศ สร้างความอับอายให้กับหนุมานเป็นอย่างมาก และหนุมานเลยได้แค่นั่งเฝ้าหน้าประตูทางเข้าพระราชวัง เราจึงเห็นผ้าแดงต้องปิดหน้าหนุมาน เพื่อไม่ให้เห็นตัวดอร์ก้านี่เอง อักขระพิศวง ตัวอักษรที่พระเจ้ามัลละได้ประดิษฐ์ขึ้นโดยผสมผสานตัวอักษรจากหลายๆชาติ หลายภาษา อาทิ ทิเบต ภูฎาน อินเดีย สันสกฤศ บาลี เป็นต้น มีความเชื่อว่าหากใครที่สามารถอ่านได้ทุกคำจะมีน้ำศักดิ์สิทธิ์ไหลออกมาจากปากมังกร ชม กาฐมณฑป อาคารไม้เก่าแก่ต้นกำเนิดของชื่อเมืองกาฐมัณฑุ ซึ่งสร้างจากต้นไม้เพียงต้นเดียว และนำ ท่านเข้าเฝ้าเทพธิดากุมารี ที่เชื่อว่าเป็นเทพเจ้าที่มีชีวิตอยู่เพียงหนึ่งเดียวในโลก (ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในพ.ศ. 2522) รูปสลักพระไภรวะ "ไภรพ" หรือ พระอิศวรปางดุร้าย เป็นปางหนึ่งของพระศิวะ ซึ่งชาวไทยเรียกว่า "พระพิราพ" ซึ่งเป็นครูในนาฏกรรม พระอิศวรไภรพนั้นมีอยู่มี ๒ แบบ คือกาฬไภรพ ชาวเนปาล เรียกว่า "กาฬไภราพ" ผิวกายเป็นสีดำ สวมเครื่องประดับสีแดงและเหลือง มีสีแดงที่คนเอามาป้ายทาต่างเลือดสังเวยเปรอะทั้งองค์ พระเนตรของพระองค์โปนถลน เขี้ยงโง้ง พระหัตถ์ทั้ง ๖ ถือดาบและอาวุธต่างๆ รวมทั้งหัวคนด้วย เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ สามารถลงโทษคนพูดเท็จให้เลือดออกจนตายได้ เวลาจะสาบานอะไร ต้องมาสาบานที่กาฬไภรพ และ เศวตไภรพ ชาวเนปาล เรียกว่า "เสโตไภราพ" เป็นแบบเดียวกับกาฬไภรพ แต่แตกต่างกับกาฬไภรพตรงที่ เศวตไภรพนี้ผิวกายจะเป็นสีขาว แต่พระราชวังหนุมานโดก้า จะมีหน้าเศวตไภรพ สีเหลืองทองขนาดใหญ่ อยู่หลังบานหน้าต่างไม้แกะสลัก ที่เปิดเฉพาะในช่วงวัน Holi หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวเนปาล ส่วนใหญ่หลายท่านจะเข้าใจกันว่ากาฬไภรพ และเศวตไภรพ เป็นองค์เดียวกับพระแม่กาลี เพราะเห็นความดุร้าย แยกเขี้ยวยิงฟัน และมีการนำเลือดมาสังเวย แต่ความจริง ไภรพ ก็คือพระนามของพระอิศวรปางดุร้าย

vให้ท่านอิสระซื้อของฝากและของที่ระลึกบนถนนทาเมล (Thamel street) ย่านทาเมลเป็นถนนคนเดิน สินค้าได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าคลุมไหล่ พรม และสินค้าเครื่องประดับ และของแต่งบ้าน เป็นต้น โดยสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าราคาถูก หากพอมีเวลาเชิญท่านช้อปปิ้งสินค้าอิมปอร์ต (ของแท้) จากยุโรปมากมาย ย่านถนน NEW ROAD เช่น ผ้าตัดสูทจากอิตาลี, อังกฤษ และญี่ปุ่น กระเป๋าSamsonite, Dunhill, Dior, Rodeastock, ปากกาดูปองต์, มองบลังน้ำหอมที่มีชื่อเสียงนานาชนิด และเครื่องสำอางค์จากยุโรปที่ตลาด SUPER MARKET และ มีคนกล่าวว่าราคาถูกกว่าฮ่องกงหรือสิงคโปร์

ค่ำ ä รับประทานอาหารเนปาล ณ ร้านอาหาร Bhojan Griha ฟรี การแสดงของชาวเนปาลีที่งดงาม

โรงแรมã โรงแรม Hotel Yukhang หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ กาฐมัณฑุ-กรุงเทพฯ

Optional tour ที่คุณสามารถเลือกซื้อได้ :- ทัวร์ Mt. Flight for Everest Mt. ท่านละ 8900 บาท

เวลา : 06.00-08.00 น.

โปรแกรม : j ขอแนะนำโปรแกรม Mt. Flight บินขมแนวเขาหิมาลัย และยอดเขาเอเวอร์

เรส โดยเครื่องบินจะใช้เวลาบินชม ประมาณ 1 ชั่วโมง เที่ยวบินที่สร้างความประทับใจให้แก่

นักท่องเที่ยวมากกว่าแสนคนต่อปี ตื่นตาตื่นใจกับความอลังการของแนวเขาหิมาลัย บินลัด

เลาะตามไล่เขา เริ่มจากความสูงที่มากกว่า 5000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สถานที่ที่ไม่เคยมีนักเดินเขาท่านไหนสามารถพิชิตได้ ไล่

เรียงตั้งแค่ยอด Gauri-Shankar สูง 7134 เมตร, Melungtse สูง 7023 เมตร, Gyanchungkang สูง 7952 เมตร, Nuptse 7855

เมตร ท้ายสุดแบบใกล้ชิดกับยอดเขาEverest สูง 8848 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นต้น ทุกท่านที่บินเที่ยวบินนี้จะได้รับในการันตี

Certificate จากสายการบินทุกท่าน

เช้า ä รับประทานอาหารในโรงแรม

09.00 น. vออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานตรีภูวัน เพื่อjกลับประเทศไทย โดยสายการบินรอเยลเนปาล แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ RA401 ออกเดินทางเวลา 11.10 น. บินตรงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที (บริการอาหารกลางวันบนเครื่อง)

15.45 น. jเดินทางถึงสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP