เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook
เดินทางโดย : EK-เอมิเรตส์แอร์ไลน์
โรงแรม : 3 ดาว |  จำนวนวัน : 10 วัน 7 คืน
สแกนดิเนเวีย Oslo - Tromso - Senja - Lofoten - Copenhegen : มหาวิหารอาร์กติก - มหาวิหารทรอมโซ - นั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน - กิจกรรม Body Rafting ลอยตัวในมหาสมุทร - ขับ Snowmobile ตะลุยหิมะ - นั่งสุนัขลากเลื่อนบนลานหิมะ - กิจกรรม Crab Safari - หมู่บ้านชาวประมงกริลล์ฟยอร์ด - ขับขี่สโนว์โมบิลตะลุยหิมะ - พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง - เข้าชมวิกเกอร์แลนด์พาร์ค - เข้าชมพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง - พัก 4 ดาว เน้นวิว และจุดชมแสงเหนือจากที่พัก - พักบนเรือสำราญ DFDS 1 คืน - ลิ้มลองปูทะเลสดๆ แบบ Buffet International Buffet บนเรือสำราญ DFDS
ไม่รวม ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ขึ้นอยู่กับความพอใจของท่าน - ค่าอาหาร และเครื่องดื่มนอกเหนือจากที่ระบุ - ค่าภาษีน้ำมันสายการบินที่ประกาศปรับขึ้น - ค่าตรวจ PCR (ถ้ามี / ขึ้นอยู่กับมาตรการรัฐกำหนด) - เจ้าหน้าที่รับเอกสารวีซ่า เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ 1 เที่ยว / นอกพื้นที่ โปรดส่งเอกสารทาง พัสดุตรงถึง Center แผนกวีซ่า

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ - สนามบินเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ - เมืองทรอมโซ, นอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก - มหาวิหารทรอมโซ - นั่งเคเบิ้ลคาร์ สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน - เกาะเซนญา - อ่าวแฮมน์ไอเซนญา
กิจกรรมลอยตัวในมหาสมุทร - ตุงเกอเนสเซท - จุดชมวิวที่เห็นเทือกเขาโอคชอร์นัน - เบิร์กโบทน์ - หมู่บ้านชาวประมงกริลล์ฟยอร์ด - ขับขี่สโนว์โมบิลตะลุยหิมะ - นั่งสุนัขลากเลื่อน
เมืองสตัมซุนด์ - พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง - กิจกรรม CRAB SAFARI
เมืองนัสฟยอร์ด - หมู่บ้านนัสฟยอร์ด - พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง - เมืองนาร์วิค
สนามบินเอเวเนส - บินภายในสู่สนามบินเมืองออสโล - เข้าชมวิกเกอร์แลนด์พาร์ค - ถ่ายรูปหน้าหน้าศาลาว่าการกรุงออสโล - ชมด้านนอกพระราชวังหลวงออสโล - เข้าชมพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง - Check In ขึ้นเรือสำราญ DFDS เส้นทางออสโล - โคเปนเฮเก้น (พักบนเรือ ห้องมีหน้าต่าง)
เมืองโคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก - ถ่ายรูปหน้าพระราชวังอะมาเลียนบอร์ก - น้ำพุเกฟิอ้อน - ถ่ายรูปเงือกน้อยลิดเดิ้ล - ช้อปปิ้งสตร้อยท์ - นูฮาวน์
สนามบินกรุงโคเปนเฮเกน - แวะเปลี่ยนเครื่องสนามบินดูไบ
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

สแกนดิเนเวีย 10 วัน 7 คืน

พัก 4 ดาว เน้นวิว และจุดชมแสงเหนือจากที่พัก

กิจกรรมสุดพิเศษ Body Rafting ลอยตัวในมหาสมุทร ขับ Snowmobile

ตะลุยหิมะ นั่งสุนัขลากเลื่อนบนลานหิมะ

Crab Safari และนำมาทำอาหารกลางวัน - ลิ้มลองปูทะเลสดๆ แบบ Buffet International Buffet บนเรือสำราญ DFDS

ไม่รวม ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ขึ้นอยู่กับความพอใจของท่าน

ค่าอาหาร และเครื่องดื่มนอกเหนือจากที่ระบุ - ค่าภาษีน้ำมันสายการบินที่ประกาศปรับขึ้น

ค่าตรวจ PCR (ถ้ามี / ขึ้นอยู่กับมาตรการรัฐกำหนด)

เจ้าหน้าที่รับเอกสารวีซ่า เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ 1 เที่ยว / นอกพื้นที่ โปรดส่งเอกสารทาง พัสดุตรงถึง Center แผนกวีซ่า

หลังจากท่านทำการจองทัวร์แล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านเข้าใจ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของผู้เดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจองทัวร์ และการยกเลิกทัวร์ ที่ระบุในรายการทั้งหมด

1 กรุงเทพ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น4 สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

2 กรุงทพ-ออสโล-ทรอมโซ

01.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบิน เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK385 (01:05-05:00) // EK159 (07:45-12:00) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 16.55 ชั่วโมง (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

12.00 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ (ปลายเดือน มี.ค.-ต.ค เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง พ.ย.-ต้นเดือน มี.ค. เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

*** อิสระอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบริเวณสนามบิน CASH BACK ท่านละ 30 ยูโร ***

XX.XX น. ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองทรอมโซ โดยสายการบินในประเทศนอร์เวย์ (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

XX.XX น. นำท่านสู่เมืองทรอมโซ(Tromso) เมืองในฝันของคนล่าแสงเหนือในประเทศนอร์เวย์(Norway) ทางตอนเหนือของคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตอาร์กติกเซอร์เคิล นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวในกลุ่มนอร์ดิก ซึ่งตั้งอยู่ในยุโรปเหนือ เมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงดงามของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญทั้ง แสงเหนือ และพระอาทิตย์เที่ยงคืนในดินแดนแถบนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวอย่างมาก

*** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนด หรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น ***

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

ที่พัก Hotel Radisson Blu Tromso หรือระดับเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

3 ทรอมโซ-มหาวิหารอาร์กติก-มหาวิหารทรอมโซ-นั่งเคเบิ้ลคาร์ชมวิว-เซนญา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านชม มหาวิหารอาร์กติก(Arctic Cathedral) สถานที่อันโดดเด่น ที่นักท่องเที่ยวต้องมากันให้ได้ เพราะเป็นวิหารที่ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ มีโครงสร้างและรูปทรงแปลกตา แรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ภาคเหนือของนอร์เวย์ ที่นี่มีชื่อเสียงมากในทรอมโซ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1965 และยังเป็นสถานที่ที่ชมความงดงามของแสงเหนือ และพระอาทิตย์เที่ยงคืน

นำท่านชม มหาวิหารทรอมโซ(Tromso Cathedral) มหาวิหารไม้ที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเก่าแก่ที่สุด และยังเป็นหนึ่งในโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ โดยมหาวิหารถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1861 ในแบบสไตล์กอธิคที่มีความงดงามมาก

จากนั้นนำท่านนั่งเคเบิ้ลคาร์(Fjellheisen Cable Car) สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน(Mt Storsteinen) เป็นยอดเขาสูงที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 420 เมตร มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียงที่มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกันโดยมีร่องน้ำซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง กลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ ด้านทิศตะวันออกมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เกาะเซนญา(Senja Island) ระยะทาง 180 กม. เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอับดับสองของประเทศนอร์เวย์ จากนั้นนำท่างสู่ อ่าวแฮมน์ไอเซนญา(Hamn I Senja) เพื่อเข้าสู่ที่พัก

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรม

พักที่ Hotel Hamn I Senja หรือระดับเทียบเท่าระดับ http://www.hamnisenja.no/ เป็นห้องพักสไตล์อ

พาร์ทเม้นท์ หันหน้าออกทะเล ภายในหนึ่งหลังอาจมี 2-3 ห้องนอนและห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน มีพื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งเล่นเป็นส่วนกลาง (หมายเหตุ: ทางบริษัทขอสงวนสิทธิในการจัดห้องพัก ตามลำดับการจอง)

4 ซนญา-กิจกรรมลอยตัวในมหาสมุทร-จุดชมวิวตุงเกอเนสเซท-เบิร์กโบทน์

หมู่บ้านชาวประมงกริลล์ฟยอร์ด-ขับขี่สโนว์โมบิล-สุนัขลากเลื่อน-นาร์วิค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านสู่กิจกรรมลอยตัวในมหาสมุทร(Body Rafting in a Maelstrom) ถือเป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดที่เกาะเซนญา ให้ท่านได้ใส่ชุดหุ้มฉนวนกันความร้อน พร้อมชูชีพเพื่อลอยตัวอยู่ในมหาสมุทรใกล้กระแสน้ำวนที่ไม่เป็นอันตราย ให้ท่านได้สัมผัสความสนุกสนานไปกับประสบการณ์ใหม่ สนุกสนานเพลิดเพลินพร้อมเก็บภาพความประทับใจ (เนื่องจากชุดนี้เป็นชุดป้องกันแบบพิเศษ น้ำไม่สามารถเข้าสู่ภายในได้ เป็นลักษณะเหมือนชุดชูชีพ ทำให้ลอยคออยู่ในแม่น้ำน้ำแข็งได้ และไม่รู้สึกหนาวเลย)

จากนั้นนำท่านสู่ตุงเกอเนสเซท(Tungeneset) จุดชมวิวที่เห็นเทือกเขาโอคชอร์นัน(Okshornan) อย่างสวยงาม จุดชมวิวที่เป็นทางเดินเรียบชายทะเล ให้ท่านได้เก็บภาพที่งดงามของเกาะเซนญาอีกมุม

นำท่านสู่เบิร์กโบทน์(Bergsbotn Panorama) จุดชมวิวที่เป็นสะพานไม้ยาว 44 เมตร รายล้อมด้วยขุนเขาและสามารถชมวิวของเบิร์กฟยอร์(Bergsfjord) ที่อยู่เบื้องล่างแบบพาโนรามา

จากนั้นนำท่านสู่หมู่บ้านชาวประมงกริลล์ฟยอร์ด(Gryllefjord Fishing Village) ซึ่งมีประชากรอาศัยอยูประมาณ 400 คน ให้ท่านได้เดินเล่นชมวิถีชีวิตชาวบ้าน พร้อมชมบ้านเรือนความงามของชนพื้นเมืองเรียบชายฝั่งทะเลและฟยอร์ด

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านสัมผัสกิจกรรมอันดับหนึ่งของการท่องเที่ยวแบบตะลุยหิมะ ด้วยการขับขี่สโนว์โมบิล(Snowmobile) พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะหรือน้ำแข็ง โดยท่านจะได้รับคำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง สนุกสนานและปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวแบบสโนว์โมบิล และนำท่านนั่งสุนัขลากเลื่อน ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของ หรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ทั้งนี้เนื่องจากสุนัขมีน้ำหนักเบา คล่องตัว ว่องไว แข็งแรง อดทนต่อความหนาวเย็น และความอดอยากในฤดูหนาวได้ดี รวมทั้งมีความอดทนต่อความเหนื่อยล้าเป็นที่หนึ่ง จึงทำให้สามารถลากเลื่อนด้วยความเร็วเป็นเวลาติดต่อกันนานๆ ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์องศา สุนัขลากเลื่อนยังเป็นกีฬายอดนิยม โดยมีมัชเชอร์ (Musher) เป็นผู้บังคับเลื่อนในการแข่งขันแต่ละครั้งจนแพร่หลายไปยังหลายประเทศแถบขั้วโลก ให้ท่านสัมผัสประสบการณ์กับสุนัขลากเลื่อน จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารในโรงแรม

พักที่ Hotel Quality Grand Royal, Narvik หรือระดับเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

5 นาร์วิค-หมู่เกาะโลโฟเทน-สตัมซุนด์-พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง-กิจกรรม CRAB SAFARI-เลคเนส

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองสตัมซุนด์(Stamsund) หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ Vestvågøy นำท่านชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง(Lofotr Viking Museum) เนื่องจากบริเวณหมู่เกาะโลโฟเทน มีการค้นพบว่าเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งในอดีต บนเกาะจึงมีพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งที่แสดงเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งไว้มากมาย ซึ่งรูปแบบพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบโดยใช้โครงเรือไวกิ้งโบราณและภายในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวไวกิ้ง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เปิดประสบการณ์ใหม่กิจกรรม CRAB SAFARI โดยเรือยางออกไปเพื่อชมทัศนียภาพริมชายฝั่ง และนำปูทะเลขึ้นมาเพื่อนำไปทำอาหารกลางวัน ถือเป็นเจ้าแรกในหมู่เกาะโลโฟเทน ที่จัดกิจกรรม CRAB SAFARI เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานเพลิดเพลิน

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร ให้ท่านลิ้มลองปูสดๆ แบบ Buffet

พักที่ Hotel Scandic Leknes Rofoten หรือระดับเทียบเท่าระดับ

6 เลคเนส-นัสฟยอร์ด-หมู่บ้าน Å-พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง-นาร์วิค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางเมืองนัสฟยอร์ด(Nusfjord) เมืองเล็กๆที่มีทัศนียภาพอันน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในหมู่เกาะโลโฟเทน ที่มีวิวภูเขาสลับกับแม่น้ำ และภาพสะท้อนวิวเทือกเขาบนผืนน้ำ ให้ท่านเดินชมหมู่บ้านนัสฟยอร์ด(Nusfjord Fisherman Village) ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดและยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยมอีกแห่งของนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้มีกระท่อมชาวประมงทั้งสีเหลืองและแดง อีกทั้งยังอนุรักษ์บ้านเมืองเก่าไว้เป็นอย่างดี และได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO)

จากนั้นนำท่านสู่หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดบนหมู่เกาะโลโฟเทน อันเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว

นำท่านชมพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง (Norwegian Fishing Village Museum) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะโลโฟเทน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีสถานที่ต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม อาทิ โรงงานผลิตน้ำมันตับปลาคอดร้านขายเบเกอรี่ และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ให้ท่านได้เดินเล่นชมหมู่บ้าน และเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองนาร์วิค(Narvik) เมืองทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่แวดล้อมด้วยภูเขา และ ทะเลอันกว้างใหญ่ มีชื่อเสียงในเรื่องของพื้นที่การเล่นสกีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยสามารถดึงดูด นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการดูแสงเหนือ พร้อมกับ แนวชายฝั่งฟยอร์ดและวิวภูเขาที่รายล้อมเมืองอย่างสวยงาม

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารในโรงแรม

พักที่ Hotel Quality Grand Royal, Narvik หรือระดับเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

7 นาร์วิค-ออสโล-วิกเกอร์แลนด์พาร์ค-ย่านเมืองเก่า-ศาลาว่าการ-พระราชวังหลวง-พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง

พักบนเรือสำราญ DFDS

เช้า รับประทานอาหารเช้า (แบบกล่อง)

ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินเอเวเนส เพื่อเดินทางสู่เมืองออสโล

06.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองออสโล โดยสายการบินนอร์วีเจียนแอร์ไลน์(DY) เที่ยวบินที่ DY361

(ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

08.30 น. นำท่านสู่เมืองออสโล(Oslo) ประเทศนอร์เวย์(Norway) หนึ่งในเมืองสำคัญทางวัฒนธรรมในยุโรป ตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ด (fjord) ที่ชื่อออสโลฟยอร์ด ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะ 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmøya นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ บางส่วนของภูมิทัศน์ธรรมชาติที่งดงามที่สุดในนอร์เวย์ล้อมรอบเมือง

นำท่านเข้าชมวิกเกอร์แลนด์พาร์ค หรือ สวนประติมากรรมวิกเกอร์แลนด์(Vigeland Sculpture Park) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะฟรอกเนอร์ ความพิเศษของสวนแห่งนี้อยู่ที่ผลงานศิลปะประติมากรรม การแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชาวนอร์เวย์ชื่อดัง อีกทั้งสวนนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก จุดที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่คือ เสาโมโนลิท (Monolith) ที่มีความสูงประมาณ 17 เมตร รอบเสาแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ เป็นรูปปั้นคนจำนวนมากมายปีนป่ายกันอยู่บนเสานี้ เพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุดของชีวิต โดยใช้เวลาในการสร้างรวม 22 ปีเลยทีเดียว ส่วนบริเวณรอบๆ จะมีกลุ่มรูปปั้นที่ทำจากหินแกรนิต แสดงอารมณ์ต่างๆ ในหลากหลายท่าทาง แสดงความสัมพันธ์ของมนุษย์ในแต่ละวัย ให้ท่านได้อิสระเดินเล่นถ่ายรูป

จากนั้นนำท่านชมเมืองออสโล ถ่ายรูปหน้าหน้าศาลาว่าการกรุงออสโล(Oslo City Hall) ตัวอาคารด้านนอกเป็นอิฐสีน้ำตาลแดงอยู่ริมน้ำ เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ด้านในโถงกว้างขนาดใหญ่ แบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่น สถานที่ทำงานของส่วนราชการ สถานที่ประชุมของสภาเมือง และสถานที่จัดเก็บชิ้นผลงานศิลปะเก่าแก่และโบราณวัตถุต่างๆ ที่สำคัญศาลาว่าการกรุงออสโลใช้เป็นสถานที่ประกาศและพิธีมอบรางวัลโนเบลสาขาต่างๆ ของโลก

จากนั้นนำท่านชมด้านนอกพระราชวังหลวงออสโล(Royal Palace Oslo) มีอายุเกือบ 200 ปี เป็นที่ประทับของพระราชา พระราชินี และราชวงศ์ ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของถนนคาร์ล โยฮันส์ เกต (Karl Johans Gate) เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1824 เสร็จสมบูรณ์วันที่ 26 เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.1849 ระยะเวลา 25 ปี ถือเป็นสมบัติของรัฐและเป็นที่ทำงานของพระมหากษัตริย์ รวมถึงเป็นที่ประทับของราชวงศ์ต่างๆ จะเปิดให้เข้าไปเดินชมบรรยากาศภายในเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง(The Viking Ship Museum) จัดแสดงประวัติความเป็นมาของหนึ่งในพาหนะชิ้นสำคัญที่สุดของโลกอย่างเรือไวกิ้งโบราณไว้ทั้งหมด 3 ลำ มีการขุดพบในปี 1867 หรือประมาณ 150 ปี สันนิษฐานว่าเรือไวกิ้งที่ขุดค้นพบสร้างขึ้นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยยังอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ มีเพียงบางลำเท่านั้นที่แตกหักไปบ้างจากเรี่ยวแรงของรถแทรกเตอร์ The Oseberg Ship เรือที่สร้างด้วยไม้โอ๊กและมีขนาดความยาวถึง 22 เมตร มีส่วนกว้างของลำเรือ 5 เมตร สันนิษฐานว่าจะสร้างในปี 820 ขนาดลำเรือใหญ่ขนาดต้องใช้ฝีพายประมาณ 30 คน แต่ที่ทำให้ทีมผู้ขุดค้นเรือฮือฮากันมากคือการพบร่างหญิงสาวสองร่างบนเรือที่ทำให้นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าเรืออาจเคยถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีศพของชาวไวกิ้ง The Gokstad Ship ซึ่งยาวกว่าลำแรกเพราะวัดความยาวได้ 23 เมตรในขณะที่มีความกว้างเท่ากัน สร้างขึ้นในปี 900 พร้อมกับเรือที่พบเป็นลำที่ 3 The Tune Ship ซึ่งได้รับความเสียหายไปมากในระหว่างการค้นพบจนเหลือเพียงแค่ซากเรือและกระดูกงู

14.00 น. นำท่าน Check In เรือสำราญ DFDS เส้นทางออสโล-โคเปนเฮเก้น เรือสำราญอันโอ่อ่าขนาดใหญ่ ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น ผับ บาร์ ห้องซาวน์น่า ร้านค้าปลอดภาษี ห้องเล่มเกมส์ เป็นต้น เชิญพักผ่อนเดินเล่นบนเรือ ก่อนขึ้นชมวิวสวยยามเมื่อเรือถอนสมอ และรับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ในเรือ พร้อมพักค้างคืนบนเรือสำราญนี้ ชมทัศนียภาพอันสวยงามบนดาดฟ้าเรือ หรือช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี

(ห้องคู่พักบนเรือ มีหน้าต่างทุกห้อง ท่านสามารถชมวิวทะเลอันกว้างใหญ่ได้จากหน้าต่างในห้องพัก)

8 โคเปนเฮเกน-พระราชวังอะมาเลียนบอร์ก-น้ำพุเกฟิอ้อน-เงือกน้อยลิดเดิ้ลเมอร์เมด-สตร้อยท์นูฮาวน์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารบนเรือ

10.00 น. เดินทางถึงเมืองโคเปนเฮเกน(Copenhagen) เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก และเป็นเมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก(Denmark) ประเทศที่มีความสุขที่สุดอันดับ 2 ของโลก และถูกเรียกขานเมืองนี้ว่าเป็นเมืองในเทพนิยาย โคเปนเฮเกน เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกติดชายฝั่งทะเล เมืองที่เก่าแก่ในทวีปยุโรปและยังถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวียน

นำท่านชมกรุงโคเปนเฮเกน(Copenhagen) เมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของยุโรปที่ก่อตั้งขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ

นำท่านถ่ายรูปบริเวณลานกว้างหน้าพระราชวังอะมาเลียนบอร์ก(Amalienborg Palace) ซึ่งเป็นสถานที่ประทับของบรรดาเหล่าพระราชวงศ์แห่งเดนมาร์ก พระราชวังแห่งนี้ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมร็อคโคโค ด้านหน้าของพระราชวังจะมีการเปลี่ยนทหารยามหน้าวังทุกวัน เหมือนกับพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมในอังกฤษ อาคารของพระราชวังตั้งต่อกันคล้ายเป็นวงกลม บริเวณตรงกลางเป็นลานกว้างซึ่งรถสามารถแล่นผ่านไปมาได้อย่างสบาย เนื่องจากพระราชวังแห่งนี้ไม่มีรั้วกั้น จัตุรัสด้านหน้าของพระราชวังท่านจะพบกับอนุสาวรีย์ของกษัตริย์เดนมาร์กทรงม้า ดูสง่างามยิ่งนัก

นำท่านถ่ายภาพกับน้ำพุเกฟิอ้อน(Gefion Fountain) อนุสาวรีย์ที่เป็นที่มาแห่งตำนานในการสร้างประเทศ ลักษณะเป็นน้ำพุรูปปั้นผู้หญิงกำลังถือแส้ไล่วัว 4 ตัว ที่มีตำนานเล่าขานกันว่า เทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้พระนางกอบกู้ชาติ พระราชินีเกฟิอ้อน จึงแปลงร่างลูกชาย 4 คนให้เป็นโคเพื่อไถพื้นดินขึ้นมาจากใต้น้ำ จนเกิดเป็นประเทศเดนมาร์ก

นำท่านถ่ายภาพกับเงือกน้อยลิดเดิ้ล เมอร์เมด(The Little Mermaid) ตำนานแห่งความรักของเงือกน้อยสัญลักษณ์ที่สำคัญของกรุงโคเปนเฮเกน จากงานการประพันธ์อันลือชื่อของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน (Hans Christian Andersen) แอเรียล คือ ตัวละครสำคัญที่ทำให้กรุงโคเปนเฮเกนได้รับฉายาอีกอย่างหนึ่ง นอกจากสวรรค์แห่งเมืองท่า ว่าเป็นเมืองแห่งความรักในเทพนิยายอีกด้วย นอกจากจะนั่งอวดโฉมอยู่ริมชายหาดแล้ว แอเรียล ยังปรากฏตัวอยู่ในโปสการ์ด และของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็น แม็กเน็ต แก้วน้ำ พวงกุญแจทั่วกรุงโคเปนเฮเกนอีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินเล่นบริเวณจุดเริ่มต้นของถนนช้อปปิ้งสายสำคัญของเมืองที่เรียกว่าสตร้อยท์(The Stroget) ตามภาษาแดนิช เป็นถนนช้อปปิ้งสายที่ยาวที่สุดของโลกอีกด้วย ถนนสายนี้เชื่อมต่อกับจัตุรัสคองนูโทรว์ซึ่งมีพระบรมรูปทรงม้าของพระเจ้าคริสเตียนที่ 5 อยู่ตรงจุดกึ่งกลาง ตลอดทางของถนนคนเดินความยาวราว 2 กิโลเมตร มีสินค้าให้เลือกหลากหลายชนิด ทั้งสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ ยิ่งพระอาทิตย์ใกล้ตกดินบรรยากาศที่ถนนคนเดินแห่งนี้ ยิ่งเต็มไปด้วยความคึกคัก และสีสัน ทั้งคนในเมืองที่ออกมาเดินเล่น และนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ นอกจากสินค้าแบรนด์เนมแล้ว ยังมีสินค้าของที่ระลึกให้เลือกสรรมากมายอีกเช่นเดียวกัน อิสระให้ท่านช้อปปิ้งเพลิดเพลินกับการเดินเล่น และถ่ายภาพบรรยากาศของเมืองตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่นูฮาวน์(Nyhavn) แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมือง เพราะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกที่สวยงามทันสมัยประกอบกับมีเรือใบ และเรือสินค้าโบราณที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมอย่างดีถูกนำมาจอดทอดสมออยู่ริมสองข้างฝั่งแม่น้ำ บริเวณแห่งนี้ยังเคยเป็นที่พำนักของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์ซัน ราชานักเขียนแห่งโลกนิทานผู้เลื่องชื่อที่มีผลงานมากมาย อาทิ เงือกน้อย ลูกเป็ดขึ้เหล่ และอื่นๆ ซึ่งมีคนว่ากันว่าเขาเขียน นิทานเรื่องแรกในปี ค.ศ.1835 ที่บ้านของเขาในนูฮาวน์นี้เอง ยิ่งทำให้ย่านนูฮาวน์เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องไปเยี่ยมชมกันให้ได้

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hotel Radisson Blu Scandinavia, Copenhagen หรือเทียบเท่าระกับ 4 ดาว

9 โคเปนเฮเกน-สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินกรุงโคเปนเฮเกน เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ

14.20 น. ออกเดินทางจากเมืองโคเปนเฮเกน กลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK152 (14.20-23.45) / EK376 (03.30(+1)-12.35) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 15.45 ชั่วโมง (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

10 กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)

12.35 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP