เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์อิตาลี

 รหัส : Z9084
เดินทางโดย : TK-เตอร์กิช แอร์ไลน์
โรงแรม : 4 ดาว |  จำนวนวัน : 10 วัน 7 คืน
มอลต้า - ซิซิลี - อิตาลีใต้ A : มอลต้า- วัลเลตตา- มาร์ซักลอกก์ - เอ็มดินา- ฮาการ์กิม- ราบัต - เปียซซา อาร์เมรินา - ปาแลร์โม - มอนเรอาเล - เซฟาลู- ทอร์มินา- ซิซิลี- โคเซนซา- มาเทรา - อัลเบอโรเบลโล (Unesco) - บารี (รวมวีซ่าเชงเก้น และรวมทิปทุกอย่างแล้ว)

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แวะเปลี่ยนเครื่อง สนามบินอิสตันบูล - สนามบินมอลต้า - เที่ยวชมเมืองเก่า 3 เมืองแห่งเกาะมอลต้า - สาธารณรัฐมอลต้า (มรดกโลก) - สวนบารัคคา - เข้าชมวิหารเซนต์จอห์น - AUBERGE DE CASTILLE - เข้าชมพระราชวังแกรนด์มาสเตอร์
เมืองเอ็มดินา - ถ่ายรูปประตูเมือง - ถ่ายรูปจตุรัสเมสคิตา - ถ่ายรูปวิหารเซ็นต์พอล - เข้าชมป้อมปราการเซนต์เอลโม - ชมอนุสรณ์ Siege Bell Memorial
ล่องเรือชมทัศนียภาพความสวยงามของเกาะมอลต้า - ถ่ายรูปถ้ำบลูกรอตโต - ถ่ายรูปกับหน้าผาดิงลี - เมืองราบัต - ถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์ปอล - เข้าชมวิลลาโรมัน
ขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามสู่เมืองปอซซาโล - เมืองปอซซาโล - เมืองเปียซซา อาร์เมรินา - เข้าชมคฤหาสน์ขุนนางโรมัน (มรดกโลก) - เมืองปาแลร์โม - ถ่ายรูป Palazzo dei Normanni - น้ำพุ Fontana della Vergogna
Cappella Palatina - เข้าชมมหาวิหารมอนเรอาเล - เมืองเซฟาลู - เมืองทอร์มินา
เมืองทอร์มินา - ถนนคอร์โซ อัมเบอร์โต้ - เข้าชมโรงละครกรีก - ถ่ายรูปวิหารซานนิโคลา - เมืองวิลลา ซานจิโอวานี - นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามสู่เกาะซิซิลี - เมืองโคเซนซา
เมืองมาเทรา (มรดกโลก) - เมืองอัลเบอโรเบลโล
เมืองบารี - เข้าชมปราสาทซูโว - ช้อปปิ้งเอาท์เลต Molfetta Outlet - สนามบินบารี - แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงอิสตันบูล
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
ไม่รวม ค่าเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋า ท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเองเพื่อป้องกันการสูญหาย - ค่าภาษีน้ำมันสายการบินที่ประกาศปรับขึ้น - ค่าตรวจ PCR (ถ้ามี / ขึ้นอยู่กับมาตรการรัฐกำหนด) - ค่าทำ Vaccine Passport หรือ ลงทะเบียน E-Vaccine Passport - ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทาง พัสดุตรงถึง Center แผนกวีซ่า
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

มอลต้า - ซิซิลี - อิตาลีใต้ A 10 วัน 7 คืน

โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK)

(รวมวีซ่าเชงเก้น และรวมทิปทุกอย่างแล้ว)

มอลต้า- วัลเลตตา- มาร์ซักลอกก์ - เอ็มดินา- ฮาการ์กิม- ราบัต - เปียซซา อาร์เมรินา - ปาแลร์โม

มอนเรอาเล - เซฟาลู- ทอร์มินา- ซิซิลี- โคเซนซา- มาเทรา - อัลเบอโรเบลโล (Unesco) - บารี

หลังจากท่านทำการจองทัวร์แล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านเข้าใจ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของผู้เดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจองทัวร์ และการยกเลิกทัวร์ ที่ระบุในรายการทั้งหมด

กำหนดการเดินทาง วันที่ 28 เม.ย.- 7 พ.ค. 66 // 12-21 พ.ค. 66 // 16-25 มิ.ย. 66 ราคา 114,900 บาท

วันแรก กรุงเทพมหานคร

20.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน U (แถว U 14-18) ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

23.30 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.30 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างบิน

วันที่สอง อิสตันบูล - มอลต้า – วัลเลตตา - มาร์ซักลอกก์

06.10 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน

08.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมอลต้า โดยเที่ยวบิน TK1369 (ใช้เวลาบินประมาณ 3 ช.ม.)

08.35 น. เดินทางถึงสนามบินมอลต้า ประเทศมอลต้า นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเที่ยวชมเมืองเก่า 3 เมืองแห่งเกาะมอลต้า อันได้แก่ เมืองคอสปิคัว (Cospicua), เมืองแซงเกลีย (Senglea) และเมืองวิททอริโอซา (Vittoriosa) ซึ่งเป็นเมืองที่ได้มีสร้างกำแพงป้อมปราการโอบล้อมโดยรอบ นำท่านแวะถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ป้อมปราการโบราณ, โบสถ์ประจำเมือง, ศาลาว่าการเมือง และท่าเรือเมืองเก่า

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านชมเมืองหลวงของสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อของ Jean Parisot De La Valetta ผู้ซึ่งสามารถป้องกันการรุกรานเกาะมอลต้า จากออตโตมานในปี 1565 เมืองวัลเลตตาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1980

นำท่านชม สวนบารัคคา (Barracca Garden) สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี 1824 ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี 1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน

นำท่านเข้าชมวิหารเซนต์จอห์น (St. John’s Cathedral) สร้างโดยอัศวินเซนต์จอห์น เพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือการ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิก และศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 จากนั้น ชม AUBERGE DE CASTILLE อาคารที่มีความสง่างามและใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่ง ในเมืองวัลเลตตา ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของคาบสมุทรซึ่งถูกออกแบบให้เป็นสถานที่หรูหราที่สุด ปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรีของประเทศสาธารณรัฐมอลต้า สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1574 โดยสถาปนิกชาวมอลต้าชื่อ GIROLAMO CASSAR และมีการสร้างบูรณะใหม่อีกครั้งในปี 1741

นำท่านเข้าชมพระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grand Master Palace) อดีตพระราชวังยุคศตวรรษที่ 16 ถือครองโดย อุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลต้า นาม ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แรกเริ่มเดิมทีถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้น และภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง แต่แล้วถูกโอนย้ายเปลี่ยนมือเป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองจากประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 และกลับมาถือครองโดยประเทศมอลต้าภายหลังประกาศเอกราชในปี ค.ศ.1964 และในปัจจุบันถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลต้า สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีแห่งมอลต้า ภายในตัวอาคารตกแต่งแบบนิโอคลาสสิค และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในบางส่วนที่จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ สำหรับจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ และยุทโธปกรณ์ของอัศวินในอดีต

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก La Falconeria Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

วันที่สาม เอ็มดินา - ป้อมปราการเซนต์เอลโม

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอ็มดินา (Mdina) เมืองหลวงเก่าของมอลตา อายุประมาณ 1,500- 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่บนเนินเขาความสูงประมาณ 150 เมตรจากระดับน้ำทะเล สร้างขึ้นในช่วงการปกครองของชาวฟินิเชีย (Phoenician) เมืองนี้ได้รับอิทธิพลของศิลปะยุคกลาง สไตล์เมดิวัล ผสมผสานสถาปัตยกรรมระหว่างอาหรับ และยุโรป จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายนอกเมืองล้อมรอบด้วยกำแพงสูงสีทอง

นำท่านแวะถ่ายรูปกับประตูเมือง (Mdina Gate) สร้างขึ้นในปี 1724 สถาปัตยกรรมบาโรค นำท่านเดินเที่ยวชมภายในเมืองเก่า และนำท่านแวะถ่ายรูปกับจตุรัสเมสคิตา (Mesquita Square) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำซีรีย์ดัง Game of Thornes นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเซ็นต์พอล (St.Paul Cathedral) หรือวิหารเอ็มดินา ขึ้นในศตวรรษที่ 12 เพื่ออุทิศให้แก่นักบุญพอล ต่อมาได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว จึงสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1696-1705 อิสระให้ท่านได้เดินเล่น ถ่ายรูปในเมืองเอ็มดินาได้ตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเข้าชมป้อมปราการเซนต์เอลโม (Fort Saint Elmo) เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 บริเวณด้านล่างเป็นพิพิธภัณฑ์สงครามแห่งชาติ (National War Museum) เป็นสถานที่จัดแสดงเหรียญตรา อาวุธ รถถัง เครื่องบิน และสิ่งของในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากนี้ป้อมแห่งนี้ในอดีต เคยใช้เป็นคุกขังเชลยศึกมาก่อน สำหรับด้านบนมีปืนใหญ่ประจำจุดต่างๆ ตรงนี้เราสามารถชมวิวท่าเรือมาร์ซักลอกก์ และท่าเรือแกรนด์ฮาร์เบอร์ จากนั้นนำท่านชมอนุสรณ์ Siege Bell Memorial ระฆังสีทองขนาดใหญ่สไตล์นีโอคลาสิก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1992 เพื่อสดุดีแก่ผู้เสียสละชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง และในตอนเที่ยงของทุกวัน จะมีการตีระฆังเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์และการสูญเสียของชาวมอลต้าในครั้งนั้น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก La Falconeria Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่สี่ ฮาการ์ กิม- ล่องเรือ- ราบัต

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่าน ล่องเรือชมทัศนียภาพความสวยงามของเกาะมอลต้า นำท่านถ่ายรูปกับถ้ำบลูกรอตโต (Blue Grotto) แห่งเกาะมอลต้า จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับหน้าผาดิงลี (Dingli Cliff) อีกหนึ่งผางามแห่งเกาะมอลต้า 

(การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากอากาศไม่เอื้ออำนวย ทางบริษัทฯ จะจัดกิจกรรมอื่นทดแทน)

กลางวัน รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองราบัต (Rabat) เมืองสําคัญในอดีตของมอลต้า และเป็นแหล่งสําคัญของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมอลต้าอีกด้วย นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์เซนต์ปอล (St Paul Cathedral) อันเป็นสถานที่กล่าวได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของคริสเตียนในเกาะมอลต้า ที่ซึ่งอัครสาวกเซนต์ปอล ได้เคยมาพักเมื่อเดินทางมาถึงเกาะมอลต้า จากนั้นนำท่านเข้าชมวิลลาโรมัน หรือ คฤหาสน์ของขุนนางโรมันโบราณ (Roman Villa) และ พิพิธภัณฑ์โรมัน (Museum of Roman Antiquities) ซึ่งได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนห้องต่างๆของขุนนางโรมันที่มาพำนักอยู่บนเกาะมอลต้าในอดีต

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก La Falconeria Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)

วันที่ห้า อากริเจนโต- ปาแลร์โม

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

05.45 น. นำทานเดินทางเพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามสู่เมืองปอซซาโล

06.30 น. เรือเฟอร์รี่ออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่เมืองปอซซาโล

08.00 น. เรือเฟอร์รี่เดินทางถึงเมืองปอซซาโล

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเปียซซา อาร์เมรินา (Piazza Armeria) (ระยะทาง 131 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชมคฤหาสน์ขุนนางโรมัน (Roman Villa Del Casale) อดีตบ้านพักตากอากาศของขุนนางโรมันสมัยก่อน ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 จุดเด่นของที่นี่คือฝาผนังและพื้นทางเดินที่ประดับประดาไปด้วยงานศิลปะโมเสค มีการไล่แสงสีทำให้ภาพมีมิติอย่างน่าอัศจรรย์และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองปาแลร์โม (Palermo) (ระยะทาง 168 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2.20 ชั่วโมง) เมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองซิซิลี ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ปลายรองเท้าบูทของอิตาลี มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรปจึงตกเป็นเป้าหมายของการยึดครองจากชนชาติที่มีอำนาจเข้มแข็งในช่วงเวลาต่างๆเริ่มตั้งแต่กรีก โรมัน คาร์เทธ อาหรับ นอร์มัง เยอรมัน ฝรั่งเศส และสเปน แต่ละชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาปกครองดินแดนนี้ขณะเดียวกันก็ได้นำเอาศิลปวัฒนธรรมของตนเข้ามาด้วย เกาะนี้จึงมีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานกันหากแต่ลงตัว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยความงามทางธรรมชาติ ของทั้งชายหาด ทะเล และภูเขาไฟ ด้วยความที่อยู่ห่างไกลท่านจะสามารถสัมผัสถึงความเป็นอิตาเลียนดั้งเดิม อย่างที่หาไม่พบอีกแล้วตามเมืองใหญ่ในอิตาลีภาคพื้นทวีป

นำท่านถ่ายรูปกับ Palazzo dei Normanni อดีตราชวังของกษัตริย์นอร์แมน ปัจจุบันใช้เป็นสภาท้องถิ่นประจำเมือง นำท่านชม น้ำพุ Fontana della Vergogna น้ำพุแกะสลักสไตล์เรเนอซองส์ซึ่งสั่งทำจากฟลอเรนซ์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก NH Palermo Hotel **** หรือเทียบเท่า

วันที่หก ปาแลร์โม- เซฟาลู- ทอร์มินา

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชม Cappella Palatina โบสถ์ส่วนพระองค์ของกษัตริย์โรเจอร์ที่ 2 พระราชาซึ่งเคยได้ชื่อว่ามีฐานะล่ำซำที่สุดในยุโรป โดยโบสถ์นี้ยังถือเป็นต้นแบบของวิหาร Monreale ที่สร้างขึ้นในอีก 40 ปีให้หลังด้วย หลังคาโดมประดับด้วยโมเสคทองรูปพระเยซูและเทวดาทั้งแปดนำท่านเข้าชมมหาวิหารมอนเรอาเล (Monreale Duomo) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์แห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นโดยกษัตริย์วิลเลียมที่ 2 ผู้ปกครองดินแดนซิซิลี ในช่วงปี ค.ศ. 1060 ภายในวิหารท่านจะได้พบกับความอลังการของโมเสคทอง ซึ่งว่ากันว่าใช้ทองในการประดับประดาทั้งหมด 2,200 กก.เลยทีเดียว นับเป็นโบสถ์โมเสคที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์โซเฟียที่ตุรกี และที่น่าอัศจรรย์คือ โมเสคที่เห็นทั้งหมดนี้ใช้เวลาสร้างแค่ 8 ปีเท่านั้น

นำท่านเดินทางสู่เมืองเซฟาลู (Cefalu) (ระยะทาง 99 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านชม เมืองเซฟาลู (Cefalu) เมืองทางตอนเหนือของเกาะซิซิลี ในจังหวัดปาแลร์โม เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่ามีหาดทรายที่สวยงาม ทอดผ่านบ้านเรือนริมชายหาด ที่สร้างไล่ระดับขึ้นไปตามแนวเขา นับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะซิลี ให้ท่านได้แวะถ่ายรูปบนหาดเซฟาลู อันเป็นอีกหนึ่งชายหาดที่สวยงามและติดอันดับของเกาะซิซิลี นำท่านเดินทางสู่เมืองทอร์มินา ( Taormina ) (ระยะทาง 232 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Villa Esperia Hotel **** หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด ทอร์มินา– เมสซินา–โคเซนซา

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชมเมืองทอร์มินา (Toarmina) เมืองตั้งอยู่บนเนินเขาชายทะเลงดงามดังภาพวาดที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟ เอ็ดน่าที่ยังคุกรุ่นอยู่ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดบนเกาะซิซิลี นำท่านเดินทางสู่ ถนนคอร์โซ อัมเบอร์โต้ (Corso Umberto) ถนนสายหลักของเมือง อิสระให้ท่านได้ ช้อปปิ้ง โดยสองข้างทางมีร้านอาหาร, ร้านขายของฝากและสินค้าพื้นเมืองมากมาย นำท่านเข้าชมโรงละครกรีก (Greek Theatre) สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล เป็นโรงละครกรีกที่ตั้งอยู่บนจุดที่ดีที่สุดในบรรดาโรงละครกรีกทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก ด้านหลังเป็นวิวของเมืองทอร์มิน่าบนไหล่เขา ทะเลไอโอเนียน และภูเขาไฟเอ็ดน่า โรงละครกรีกแห่งนี้ยังคงถูกใช้งานในช่วงฤดูร้อน โดยเป็นหนึ่งในสถานที่จัดเทศกาลงานศิลปะนานาชาติของเมืองที่มีชื่อว่า ทอร์มิน่า อาร์เต้ นำท่านแวะถ่ายรูปวิหารซานนิโคลา ( Cathedral of San Nicola ) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเทอร์มินา สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางศตวรรษที่ 13 สไตล์บาร็อก โดยชาวสวาเบียน ด้านหน้าคือ น้ำพุ “Baroque Fountain” อิสระให้ท่านชมเมือง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองวิลลา ซานจิโอวานี (Villa San Giovanni) เพื่อนั่งเรือเฟอร์รี่ ข้ามสู่เกาะซิซิลี (Sicily) เกาะ สวรรค์ ของคนอิตาลี เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลีและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีช่องแคบเมสซีนาคั่นระหว่างตัวเกาะกับแผ่นดินใหญ่อิตาลี บนเกาะมีภูเขาไฟเอตนาสูง 3,320 เมตรเป็นจุดที่สูงที่สุดของเกาะ มีประชากรอาศัยอยู่บนเกาะกว่า 5 ล้านคน ซึ่งทั้งเกาะยังมีฐานะเป็นแคว้นปกครองตนเองซิซิลี

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคเซนซา (Cosenza) (ระยะทาง 177 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองทางใต้ของอิตาลี ตรงบริเวณที่แม่น้ำบูเซนโตกับแม่น้ำกราติสไหลมาบรรจบกัน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโคเซนซา มีสถาบันโคเซนเทียน (Cosentian Academy) ที่ถือเป็นสถานศึกษาด้านปรัชญาและวรรณคดีแห่งแรกที่ก่อตั้งในอิตาลีและในยุโรป (ค.ศ. 1511) ปัจจุบันเมืองยังคงเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม มีพิพิธภัณฑ์ โรงละคร ห้องสมุดอยู่หลายแห่ง

นำท่านเที่ยวชมเมืองโคเซนซา อีกหนึ่งเมืองเก่าและเมืองสวยแห่งอิตาลีใต้

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Italiana Hotel Cosenza **** หรือเทียบเท่า

วันที่แปด เมทารา - อัลเบอโรเบลโล

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาเทรา (Matera) (ระยะทาง 203 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นบาซีลีกาตา (Basilicata) หนึ่งใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี ตัวเมืองตั้งอยู่เหนือหุบเขาที่มีแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่าน เมื่อเดินเข้ามาภายในตัวเมืองจะได้พบกับถนนสายเล็กๆที่ปูด้วยหิน ที่ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนอันแสนเก่าแก่ เป็นเมืองที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองใต้ดิน หรือ เมืองมนุษย์ถ้ำ นั่นเอง จนกระทั่งในปี 1993 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก สำหรับนครถ้ำโบราณ Sassi di Matera เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 9,000 ปี นำท่านเที่ยวชมความสวยงามแปลกตาของนครถ้ำแห่งนี้ พร้อมเก็บภาพความสวยงามของลักษณะภูมิประเทศอันแปลกตาของเมืองนี้

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองอัลเบอโรเบลโล (Alberobello) (ระยะทาง 67 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในจังหวัด Bari แคว้นปูเกลีย (Puglia) ประเทศอิตาลี เป็นหมู่บ้านหินปูนของชุมชนโบราณ ที่ชื่อว่า Trulli นำท่านชมความสวยงามของหมู่บ้านหินปูน หลังคาทรงกลวย หรือยอดกลมจึงส่งผลให้หมู่บ้านแห่งนี้มีความสวยงามแปลกตามาก องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1996 อิสระให้ท่านได้มีเวลาเก็บภาพความสวยงามและบรรยากาศของหมู่บ้านโบราณสีขาวแปลกตาที่ยากจะพบเห็นในอิตาลี แต่ยังคงอนุรักษ์ได้อย่างดีเยี่ยม ณ เมืองแห่งนี้

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Grand Hotel La chiusa di chietri Hotel **** หรือเทียบเท่า

วันที่เก้า บารี

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบารี (ระยะทาง 66 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองที่อยู่ใกล้กับทะเลเอเดรียติก จนได้รับสมญานามว่า“แคลิฟอร์เนียตอนใต้ของอิตาลี” เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านการค้า เป็นศูนย์กลางการเดินเรือและศูนย์กลางของอาณาจักรไบแซนไทน์ทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา เนื่องด้วยเซนต์นิโคลัสมาจาริกแสวงบุญที่เมืองนี้ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองได้ถูกทำลายด้วยระเบิดไดนามิก และได้ทำการบูรณะสร้างเมืองขึ้นใหม่ ปัจจุบันจึงเห็นบ้านเรือนที่ทันสมัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังคงสามารถเห็นซากความเจริญในอดีตที่ยังคงเหลือไว้ นำท่านเข้าชมปราสาทซูโว (Svevo Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจมืด (Dark Symbol of Power) ตัวปราสาทสร้างขึ้นในศิลปะแบบนอร์แมน-สวาเบียน ระหว่างปี 1501-1523 โดย อิซเบลแห่งอารากอน และ โบนา สฟอร์ซา เจ้าหญิงแห่งบารี สร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิโรมันในอดีต นำ

กลางวัน รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ช้อปปิ้งเอาท์เลต Molfetta Outlet อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมและเลือกซื้อของฝากได้ตามอัธยาศัย

17.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินบารี

19.55 น. ออกเดินทางจากสนามบินบารี สู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK1466 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.20 ชม.)

บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อน บนเครื่องบิน

23.55 น. เดินทางมาถึงกรุงอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งใน DUTY FREE SHOP ภายในสนามบิน

วันที่สิบ กรุงเทพมหานคร

01.55 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK 68 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง)

สายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า

15.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP