สแกนดิเนเวีย เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน 9 วัน 6 คืน

โดยสายการบินไทย

คำแนะนำ : ก่อนจอง และชำระค่าเดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจอง และการยกเลิกทัวร์อย่างละเอียด เพื่อรักษาสิทธิ์ในการเดินทางของท่าน

ไม่รวมค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม - ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับโควิด - ค่าแปลเอกสาร สำหรับใช้ขอวีซ่า

ค่าทำ Vaccine Passport หรือ ลงทะเบียน E-Vaccine Passport

ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทางระบบขนส่ง ตรงถึง Center แผนกวีซ่า

ค่าทิปหัวหน้าทัวร์, ไกด์ท้องถิ่น, คนขับรถ ไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน

ทางผู้เดินทางจะไม่ฟ้องร้องใดๆ อันเนื่องมาจากได้รับทราบเงื่อนไขก่อนการเดินทางแล้ว

22.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชั้น 4 ประตู 2 ROW D เคาน์เตอร์สายการบินไทย THAI AIRWAYS (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน

01.20 น. ออกเดินทางสู่ เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยเที่ยวบินที่ TG950 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

07.40 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติโคเปนเฮเกน คาสท์รัพ ประเทศเดนมาร์ก นำคณะผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ (**เวลาท้องถิ่นของประเทศเดนมาร์กช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 6 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมาย)

จากนั้น นำท่านชม รูปปั้นนางเงือกน้อย (The Little Mermaid) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญแก่กรุงโคเปนเฮเกน โดย คาร์ล จาค็อบเซน บุตรชายของผู้ก่อตั้งบริษัทเบียร์คาร์ลสเบิร์ก ในปี ค.ศ. 1909 ซึ่งมีความประทับใจในบัลเลต์เรื่อง เงือกน้อยผจญภัย เมื่อรูปปั้นแล้วเสร็จถูกนำไปติดตั้งตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1913 รูปปั้นนี้มีน้ำหนักประมาณ 175 ก.ก. มีขนาดความสูงประมาณ 1.25 เมตร ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกน บนก้อนหินบริเวณท่าเรือนูฮาฟน์

ที่นี่เป็นสถานที่ยอดฮิตที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านคนมาเที่ยว เพื่อเก็บภาพคู่กับรูปปั้น The Little Mermaid และถ้าเรามาถึงโคเปนเฮเกนทั้งทีก็ห้ามพลาดเลยนะคะ

จากนั้นนำท่านชม น้ำพุเกฟิออน (Gefion Fountain) เป็นรูปปั้นของเทพีนอร์ดิกเกฟิออนที่กำลังลากจูงวัวกระทิง 4 ตัว ตามตำนานโบราณของนอร์ส (Norse Mythology) กล่าวว่า เทพีเกฟิออนให้บุตรชายทั้งสี่ แปลงกายเป็นวัว แล้วไถกลบทะเล เทพีนอร์ดิกเกฟิออนทำการไถคราดเพื่อให้เกิดเป็นประเทศเดนมาร์ค รูปปั้นสร้างขึ้นในโอกาสที่โรงผลิตเบียร์คาร์ลส์เบิร์ก อายุครบ 50 ปี ในปี ค.ศ.1897 ออกแบบโดย อันเดอร์ส บุนด์การ์ด (Anders Bundgaard) ศิลปินชาวเดนมาร์ก น้ำพุแห่งนี้ยังเป็นบ่ออธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมไปโยนเหรียญขอพรด้วย

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ พระราชวังอามาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) เป็นพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1750 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเดนมาร์ก Nicolai Eigtved พระราชวังตั้งอยู่ริมน้ำทางเหนือของตัวเมืองโคเปนเฮเกน สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 เพื่อเฉลิมฉลองวาระการครบรอบ 300 ปี ของราชวงศ์โอลเดนบวร์ก และใช้เป็นที่พำนักของเหล่าราชวงศ์ 4 ครอบครัว

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn) ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าคริสเตียนที่ 5 แห่งเดนมาร์ก King Christian V ระหว่างปี ค.ศ. 1670 - 1675 ขุดโดยเชลยศึกชาวสวีเดนจากสงคราม ดาโน-สวีเดน หรือเดนมาร์กเรียกว่าสงครามคาร์ล กุสตาฟ เป็นความขัดแย้งระหว่างสวีเดนและเดนมาร์ก-นอร์เวย์ พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 ทรงรับสั่งให้สร้างท่าเรือใกล้ๆ ตัวเมืองหลวง เพื่อให้สะดวกง่ายต่อการขนย้ายสินค้า และใช้เป็นท่าเรือพาณิชย์สำหรับเรือจากทั่วทุกมุมโลกมาเทียบท่า ปัจจุบันท่าเรือนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารชื่อดัง ผับ และบาร์มากมาย ตึกอาคารถูกทาด้วยสีสันสดใส

14.00 น. ได้เวลาอันสมควรเดินทางสู่ ท่าเรือสำราญ DFDS Scandinavian Seaways เพื่อทำการเช็คอิน

(การนอนบนเรือกรุณาเตรียมกระเป๋าแยกชุดสำหรับค้าง 1 คืนเพื่อความสะดวกสบาย)

17.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงออสโล (OSLO) ประเทศนอร์เวย์ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือมากมาย ร้านอาหาร สปา การแสดงโชว์ และอื่นๆ

19.30 น. รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารบุฟเฟต์บนเรือ เมนูซีฟู๊ดและอื่นๆอีกมากมาย

***โดยอาหารบุฟเฟต์ซีฟู๊ดทางเรือจะจัดเตรียมเมนูอาหารขึ้นอยู่แต่ละฤดูกาล***

ที่พัก DFDS Scandinavian Seaways ห้องแบบมีหน้าต่างเตียงคู่

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

09.45 น. เดินทางถึง ท่าเรือ ณ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ พิพิธภัณฑ์เรือแฟรมโพลาร์ (The Fram Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของการสำรวจขั้วโลกของนอร์เวย์ ภายในจะมีเรือเฟรมเรือไม้ที่ใช้เดินทางสำรวจขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ และเรื่องราวการผจญภัยสำรวจขั้วโลกของเหล่านักสำรวจชาวสแกนดิเนเวียในยุคบุกเบิก

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

จากนั้นชม สวนประติมากรรมวิกเกอร์แลนด์ (Vigeland Sculpture Park) ตั้งอยู่ในอุทยานฟร็อกเนอร์ Frogner เป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดดเด่นไปด้วยผลงานรูปแกะสลักหินและรูปหล่อสำริดจำนวนมากกว่า 200 ชิ้นงาน ที่น่าทึ่งคือ ผลงานทั้งหมดนั้นสรรสร้างโดยศิลปิน Gustav Vigeland เพียงคนเดียว แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของตัวศิลปินเป็นอย่างมาก โดยใช้เวลาในการสร้างรวม 22 ปีเลยทีเดียว ประติมากรรมที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ หินแกรนิต และเหล็กหล่อ รวมถึงประติมากรรมชื่อดัง คือ เด็กน้อยโมโห (The Angry Boy), เสาโมโนลิท (The Monolith) และ วงล้อแห่งชีวิต (The Wheel of Life)

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ ลานกระโดดสกีโฮลเมนโคเลน (HolmenKollen Jump Ski Arena) เนินกระโดดสกีขนาดใหญ่ แท่นกระโดดที่สูงถึง 60 เมตร ที่สามารถบรรจุผู้ชมได้ถึง 30,000 คน และยังได้รับรองมาตรฐานจาก สหพันธ์สกีนานาชาติ (FIS) เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันสกีในช่วงเทศกาล ซึ่งลานกระโดดสกีแห่งนี้ถูกใช้ในการแข่งขัน สกี (Holmenkollen Ski Festival) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1892 และในปี ค.ศ. 1980 ก็ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ที่ใช้แข่งขันสกีระดับโลก (FIS Ski Jumping World Cup)

เย็น รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหารไทย

ที่พัก Radisson Blu Hotel, Alna Oslo หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านอิสระชอปปิ้ง ณ ถนนคนเดินคาร์ลโจฮัน (Karl Johan Street) แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของนอร์เวย์ ตั้งอยู่กลางกรุงออสโล มีสินค้าทุกสิ่งอย่างให้ได้เลือกช้อป ของฝากของขวัญที่น่าซื้อก็คือ ผลิตภัณฑ์จากขนสัตว์ น้ำมันปลา เนยแข็งเทียนไข และของที่ระลึกพื้นบ้านของนอร์เวย์ จะมีการลดราคาสินค้าปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ และเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมได้แก่ ซึ่งลดสูงถึง 50-70 %

นอกจากนี้สุดสายปลายถนนแห่งนี้ท่านสามารถถ่ายรูปกับ พระราชวังหลวงออสโล (Royal Palace) พระราชวังสุดยิ่งใหญ่อายุเกือบ 200 ปี เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1824 เสร็จสมบูรณ์วันที่ 26 เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.1849 ระยะเววลา 25 ปี

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคาร์ลสตาด (Karlstad) ประเทศสวีเดน (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 3 ช.ม.) เมืองเล็กๆตั้งอยู่ริมทะเลสาบแวเนร์น ทางตอนใต้ของประเทศสวีเดน อยู่ระหว่างเมืองสต็อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน และ เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา เนื่องจากเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยคาร์ลสตัด

เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก Scandic Winn, Karlstad หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโอเรโบร (Örebro) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1.20 ช.ม.) ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของทะเลสาบเยลมาเรน ในอดีตเป็นเมืองที่รุ่งเรื่องในด้านการค้า และเป็นศูนย์กลางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของสวีเดน

จากนนั้นนำท่านชม ปราสาทโอเรโบร (Örebro Castle) เป็นป้อมปราการปราสาทยุคกลาง สร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 13 ในส่วนของหอคอยถูกเพิ่มเข้ามาในศตวรรษที่ 14 เพื่อสร้างฐานที่มั่นที่ใหญ่ขึ้น ปราสาทได้รับการขยายในรัชสมัยของราชวงศ์วาซาระหว่างปี ค.ศ. 1573-1627 ตามถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ สต็อคโฮล์ม (Stockholm) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2.30 ช.ม.) เป็นเมืองหลวงของประเทศสวีเดน ะเป็นพื้นที่เขตนครที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศและในภูมิภาคสแกนดิเนเวีย เป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรม สื่อ การเมือง และเศรษฐกิจ

นำท่านสู่จุดชมวิว เนินเขาฟยัลกาทัน (Fjallgatan Hill) จุดชมวิวที่ดีที่สุด สามารถมองเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองของสต็อกโฮล์มได้อย่างดี

จากนั้นนำท่านชม สะพานมงกุฎแห่งกรุงสต็อคโฮล์ม (Skeppsholmsbron) ประดับด้วย Royal crown มงกุฎสีทองอร่ามกลางสะพาน ตัวสะพานมีความยาว 165 เมตร กว้าง 9.5 เมตร ประกอบด้วยถนนกว้าง 5.5 เมตร ขนาบข้างด้วยทางเดิน 2 เมตร และมี 5 ซุ้ม เป็นสะพานเหล็กหลอมแห่งแรกที่สร้างขึ้นในสวีเดน ผลิตโดยบริษัท Motala Verkstad ในปี ค.ศ. 1861 เป็นบริษัท วิศวกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในสวีเดน

เย็น รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Scandic Infra City, Stockholm หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม ศาลาว่าการสต็อคโฮล์ม (Stockholm City Hall) เป็น ใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของสวีเดน คือ Ragnar Ostberg สร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8 ล้านก้อน และมุงหลังคาด้วยหินโมเสค สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1911 ในภายในอาคาร มีโถงสำหรับจัดพิธีการ งานประชุม และงานสังสรรค์ต่างๆ ซึ่งทุกวันนี้ยังมีการใช้งานจัดประชุมงานสำคัญๆอยู่ตลอด และทุกๆ วันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี จะมีพิธีเลี้ยงรับรองผู้ได้รับรางวัลโนเบล (Nobel Prize)

นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก รถไฟใต้ดินสต็อกโฮล์ม (Stockholm metro) เสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะใต้ดินที่ใหญ่ และยาวที่สุดในโลก เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1950 ปัจจุบันมีจำนวน 100 สถานี โดยเป็นสถานีใต้ดิน 47 สถานี และยกระดับ 53 สถานี มีจำนวน 10 เส้นทาง จัดเป็นกลุ่มสาย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสายสีน้ำเงิน แดง และเขียว มีระยะทางยาวกว่า 110 กิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละสถานี จะมีความเป็นเอกลักษณ์ มีธีมโดยเฉพาะ ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ลวดลายสวยงาม ทั้งสวย ทั้งน่าตื่นตาตื่นใจ ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินกว่า 150 คน

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ พระราชวังหลวง (Royal Palace) บริเวณแถบพระราชวัง มีตรอกซอกซอยต่าง ๆ เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายให้ท่านได้ช้อปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านของขายที่ระลึก

จากนั้นนำท่านอิสระชอปปิ้ง ย่านเมืองเก่าแกมล่าสแตน (Old Town Gamla Stan) จัตุรัสใจกลางเมืองเก่าแก่และล้ำค่าทางประวัติศาสตร์อยู่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และยังเป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังหลวงของสต็อคโฮล์ม เต็มไปด้วยร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านค้าของฝาก สตูดิโอ แกลเลอรี่ และพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์รางวัลโนเบลและพิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์

ค่ำ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

ที่พัก Scandic Infra City, Stockholm หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์เรือวาซา (Vasa) เป็นพิพิธภัณฑ์การเดินเรือในสต็อกโฮล์ม แสดงซากเรือรบวาซา ที่เกือบจะคงสภาพเดิมทั้งหมด เรือสร้างถูกขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 17 และอับปางในการเดินเรือครั้งแรกในปี ค.ศ. 1628 เรือรบวาซาใช้ระยะเวลาในการสร้างกว่า 1 ปี มีการติดตั้งอาวุธปืนใหญ่สัมฤทธิ์ที่ออกแบบพิเศษเพื่อเรือรบลำนี้ ไม่ว่าจะเป็น งานแกะสลักขนาดใหญ่ตราแผ่นดินที่ใช้ประดับส่วนของท้ายเรือที่สวยงามปราณีต หัวเรือแกะสลักเป็นรูปสิงห์ น้ำหนักถึง 450 กิโลกรัม มีน้ำหนักโดยรวมมากถึง 1,200 ตัน ส่งผลให้เรือจมลงภายในไม่กี่นาที และถูกทิ้งให้จมอยู่ใต้ทะเลบอลติกนานถึง 333 ปี

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ พระราชวังดร็อตนิงฮ็อล์ม (Drottningholm Palace) ซึ่งคำว่าดร็อตนิง (drottning) แปลว่าราชินี และโฮล์ม (holm) แปลว่าเกาะ ดังนั้นชื่อดร็อตนิงโฮล์มจึงหมายความว่าเกาะของราชินี ตั้งอยู่บนเกาะโลเวิน (Lovön) อยู่ห่างจากศูนย์กลางเมืองสตอกโฮล์มประมาณ 20 นาที ที่ประทับของราชวงศ์สวีเดน พระราชวังในสมัยศตวรรษที่ 17 สร้างขึ้นในช่วงต้นปี ค.ศ. 1600 เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกแบบฝรั่งเศสและฮอลันดา และถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี 1991

อิสระให้ท่านเดินชมสวนสไตล์บารอกขนาดใหญ่บริเวณด้านหลังพระราชวัง จะเจอกับ เต็นต์ยาม (Vakttältet) เป็นอีกสิ่งก่อสร้างที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1782 และจะมี พระราชวังจีน (Kina slott) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1753 โดยจักรพรรดิอดอล์ฟ เฟรดริก (Adolf Fredrik) กษัตริย์สวีเดนช่วงปี 1751 - 1771 โดยเป็นของขวัญแต่งงานที่มอบให้กับราชินีโลวิซา อุลริกา (Lovisa Ulrika)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซิกทูน่า (Sigtuna) เมืองแห่งนี้ปัจจุบันเป็นเพียงเมืองเล็กๆที่มากด้วยความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ เพราะเมืองซิกทูน่า เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประวัติศาสตร์สวีเดน ได้รับฉายาว่า City of Kings, Home of Vikings เมืองของกษัตริย์ บ้านของไวกิ้ง ใจกลางเมืองเป็นสไตล์ยุคกลาง มีซากปรักหักพังของโบสถ์เก่าแก่ และถนนสายหลักเก่า (Stora gatan) และมีร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้าเล็กๆ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย

เย็น รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Scandic Infra City, Stockholm หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินสต็อกโฮล์ม อาร์ลันดา เพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน

13.30 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG963 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

09.35 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

หมายเหตุ: โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสมทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ และเหตุสุดวิสัยต่างๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า เช่น บางสถานที่ในยุโรปอาจปิดในวันอาทิตย์ หรืออาจะมีการปิดปรับปรุง หรืออาจทำการจองไม่ได้เนื่องจากต้องรอกรุ๊ปคอนเฟิร์มก่อนทำการจอง หากวันเดินทางตรงกับวันเหล่านี้ โดยทางบริษัทฯจะคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ และขอขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรมโดยแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า หากทราบเวลาและสถานที่ที่แน่นอนก่อนเดินทาง