ละตินอเมริกาตอนบน 15 วัน 11 คืน

บินสู่ปานามา // ไมอามี่ โดย เตอร์กิช แอร์ไลน์ส สะสมไมล์ Star Alliance

ปานามา - ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก - กายอานา - เฟรนช์เกียนา

 ซูรินาม - กัวดาลุป - ไมอามี่

กำหนดการเดินทาง วันที่ 29ธันวาคม2565-12มกราคม2566 ราคาเริ่มต้นท่านละ 399,900.-

Optional ต่อทริป 5 วัน : โดมินิกัน รีพลับพลิค - เฮติ (บินเพิ่มอีก 2 เที่ยวบิน)

พักค้างเพิ่มอีก 4 คืน ในราคา 65,000 บาท

(29 ธันวาคม 2565 - 16 มกราคม 2566)

ไม่รวม ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม แนะนำให้ท่านดูแลกระเป๋าด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันการสูญหาย

ค่าวีซ่าอเมริกา (รับเฉพาะท่านที่มีวีซ่าอเมริกาแล้ว)

ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว

ค่าทำ Vaccine Passport หรือ ลงทะเบียน E-Vaccine Passport - ค่าตรวจ PCR (ถ้ามี ตามที่รัฐกำหนด)

ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทางระบบขนส่ง ตรงถึง Center แผนกวีซ่า

หลังจากท่านทำการจองทัวร์แล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านเข้าใจ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของผู้เดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจองทัวร์ และการยกเลิกทัวร์ ที่ระบุในรายการทั้งหมด

29 ธ.ค. 2565 กรุงเทพ - อิสตันบูล

20.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน M ประตูทางเข้าที่ 6 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

22.55 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศเตอร์เคีย โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.15 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการ อาหารเช้าและอาหารกลางวัน ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล

30 ธ.ค. 2565 อิสตันบูล - ปานามา (พักค้าง 1 คืน)

05.45 น. เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน TK801 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินระหว่างแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน

09.30 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล (IST) สู่ สนามบินปานามา (PTY) โดยเที่ยวบิน TK801 (ใช้เวลาบินประมาณ 16.40 ชั่วโมง)

18.10 น. เดินทางถึงสนามบินปานามา นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Las Americas Golden Tower **** หรือเทียบเท่า

***** เที่ยวบินสำหรับการเดินทางสู่ กายอานา, เฟร้นซ์กายอานา, ซูรินาม และ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก

มีค่อนข้างจำกัดมาก ดังนั้นจึงไม่สามารถเลือกเวลาได้มากนัก****

31 ธ.ค. 2565 ปานามา - ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชมกรุงปานามาซิตี้ (Panama city) เดิมปานามาเคยตกเป็นอาณานิคมของสเปน ได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1821 ภายหลังได้รวมกับโคลัมเบีย เวเนซุเอลา และเอกวาดอร์ เป็นสาธารณรัฐ จนเมื่อปี ค.ศ. 1903 จึงได้แยกประเทศ โดยมี “ปานามา ซิตี้” เป็นเมืองหลวงนำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าที่เรียกว่า Casco Viejo ซึ่งปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี 1997 นำท่านชมเมืองเก่าบริเวณ ซานฟิลิป (San Felipe) ซึ่งมีอาคารบ้านเรือนรูปแบบโคโลเนียล สไตล์สเปน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1519 เมื่อพวกสเปนเข้ามายึดครอง นำท่านชมโบสถ์เก่าแก่ , ย่านจัตุรัสกลางเมือง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองและเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก ได้เวลานำท่านชมเส้นทางอมาดอร์ คอสเวย์ (Amador Causeway) ซึ่งเป็นเหมือนสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่างเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะเนาส์, เกาะเปอร์ริโก, เกาะฟลาเมนโก เป็นทางเชื่อมที่สร้างด้วยความยาวกว่า 3 กิโลเมตร และมีทัศนียภาพที่สวยงามมากอีกแห่งของปานามา

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ คลองปานามา ณ ประตูกั้นน้ำมิราฟอร์เรส (Miraflores Locks) นำท่านชมนิทรรศการพร้อมชม 3D วิดีโอ เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของคลองปานามา ซึ่งเป็นคลองเดินเรือสมุทรความยาว 77 กิโลเมตร สร้างขึ้นบริเวณคอคอดปานามาในประเทศปานามาเพื่อเชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาที่ต้องไปอ้อมช่องแคบเดรกและแหลมฮอร์น ทางใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ คิดเป็นระยะทางกว่า 22,500 กิโลเมตร ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการเดินเรือระหว่างสองมหาสมุทร โดยถูกใช้เป็นเส้นทางเดินเรือหลักสำหรับการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ ตั้งแต่เปิดทำการคลองปานามาประสบความสำเร็จและเป็นกุญแจสำคัญในการขนส่งสินค้า

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารจีน

18.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินปานามา เพื่อเช็คอิน

21.02 น. ออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติปิอาร์โก ประเทศตรินิแดด แอนด์ โตเบโก (ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง)

หมายเหตุ : เที่ยวบินบินตรงมีเที่ยวเดียว และให้บริการ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เท่านั้น

1 ม.ค. 2566 ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก - พอร์ต ออฟ สเปน (พักค้าง 2 คืน)

01.03 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติปิอาร์โก ประเทศตรินิแดด แอนด์ โตเบโก

นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก

 นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Hilton Hotel Trinidad **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำแกสพารี (Gasparee Cave) ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนที่ภายในมีหินงอก หินย้อยที่ก่อตัวเป็นรูปร่างต่างๆ และภายในถ้ำยังเป็นที่เก็บน้ำ หากช่วงมีแดดสะท้อนกับพื้นน้ำเป็นสีเทอควอย์ สวยงามมาก อิสระให้ท่านได้ชมความสวยงามภายในถ้ำตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านชม ป้อมปราการคิงส์จอร์จ (Fort King George) ป้อมปราการที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 โดยการสนับสนุนจากกองทัพอังกฤษ เพื่อป้องกันการรุกรานจากการล่าอาณานิคมของฝรั่งเศสในช่วงนั้น ได้เวลานำท่านเดินทางเข้าชม 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งพอร์ตออฟสเปน (The Magnificent Seven in Port of Spain) หมู่อาคารโบราณ 7 หลังประกอบด้วยปราสาทคิลลานีย์ (Stollmeyer’s Castle), Whitehall, Queen’s Royal College, Ambard’s House, Archbishop’s Palace, Hayes Court, Mille Fleurs อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Hilton Hotel Trinidad **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

2 ม.ค. 2566 ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก - กายอานา

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พอร์ต ออฟ สเปน (Port of Spain) เมืองหลวงของประเทศ และเป็นย่านศูนย์ความเจริญและอุดมด้วยอาคารบ้านเรือนโบราณยุควิคตอเรียและจอร์เจียน ในสไตล์นีโอคลาสสิค นำท่านชมความสวยงามของอาคารโบราณที่ยังคงหลงเหลือให้ได้เห็นกลิ่นอายของความเจริญในยุคการล่าอาณานิคมของสเปน นำท่านชม จัตุรัสคริสโตเฟอร์โคลัมบัส (Christopher Columbus Square), อาคารรัฐสภา และ จัตุรัสอิสรภาพ (Independence Square) และเที่ยวชมเขตเมืองเก่า (Old Town) สำหรับสาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก เป็นชาติที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน เป็นรัฐที่เป็นหมู่เกาะ ประกอบด้วย 2 เกาะเป็นหลักคือ เกาะตรินิแดด เกาะโตเบโก และเกาะเล็กอื่น ๆ อีก 21 เกาะ โดยตรินิแดดเป็นเกาะที่ใหญ่กว่าและมีประชากรมากกว่า ในขณะที่โตเบโกมีขนาดเล็กกว่า และมีประชากรน้อยกว่า ในภาษาอังกฤษ พลเมืองมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า Trinidadians (ชาวตรินิแดด) หรือ Tobagonians (ชาวโตเบโก) หรือ Citizens of Trinidad and Tobago (ชาวตรินิแดดและโตเบโก) แต่ก็มีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า Trinis หรือ Trinbagonians ได้เวลานำท่าน เช้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (National museum) ซึ่งเป็นแหล่งสะสมวัตถุโบราณที่ขุดพบในพื้นที่รอบเกาะตรินิแดด และ โตเบโก สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีตตลอดจนความรุ่งเรืองในยุคที่นักล่าอาณานิคมเข้ามาปกครองโซนแคริบเบี้ยน

11.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

12.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเช็คอิน

14.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเชดดี จาแกน ประเทศกายอานา (ใช้เวลาเดินทาง 1.10 ชั่วโมง)

15.50 น. เดินทางถึงสนามบิน ประเทศกายอานา นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านสู่โรงแรมที่พักเพื่อเช็คอิน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Guyana Mariott Hotel **** หรือเทียบเท่า

3 ม.ค. 2566 ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก - กายอานา

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชม เมืองจอร์จ ทาวน์ (George Town) เมืองหลวงของประเทศกายอานา และเป็นเมืองที่ได้รับสมญานามว่าอุดมไปด้วย สถาปัตยกรรมแบบบริติช โคโลเนียล เนื่องจากอาคารสถาปัตยกรรมสวยงามที่ยังคงตั้งตะหง่านสะท้อนให้เห็นถึงการเข้ามาปกครองประเทศของอังกฤษในช่วงยุคล่าอาณานิคมได้เป็นอย่างดี

นำท่านชมอาคารโบราณยุคโคโลเนียล จากนั้นนำท่านเข้าชมโบสถ์เซ็นต์จอร์จ (St. George Cathedral) สร้างขึ้นในปี 1892-1899 เป็นโบสถ์ไม้สีขาวสวยงามมาก

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ ตลาดสตาโบรก์ (Stabroek Market) ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองจอร์จทาวน์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่าน เข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกายอานา (Guyana National Museum) พิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บแร่ธาตุในท้องถิ่น ดิน ไม้ซุง ผลไม้ เมล็ดพืช เหงือก เรซิน สีย้อมและยา รวมทั้งพืชและสัตว์ในประเทศ โดยนักสำรวจชาวอังกฤษ Robert Schomburgk , นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน Carl Ferdinand Appun คุณแบรตต์และดับบลิวเอช แคมป์เบลล์ได้มอบของขวัญ (รวมถึงไม้พื้นเมือง 55 ชนิด แร่ธาตุจากอังกฤษ และตัวอย่างพฤกษศาสตร์และธรณีวิทยา) ได้เวลานำท่านเดินทางชมสะพานลอยน้ำเดเมอร์รารา (Demerara Harbour Floating Bridge) สร้างขึ้นในปี 1978 ซึ่งในขณะนั้นได้ชื่อว่าเป็นสะพานลอยน้ำที่ยาวที่สุดในโลก สะพานนี้มีความยาวประมาณ 2 ก.ม. ข้ามแม่น้ำเดเมอร์รารา

16.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเช็คอิน

18.30 น. ออกเดินทางจากสนามบินกายอานา สู่สนามบินปารามิโรโบ (ประเทศซูรินาม)

(ใช้เวลาบินประมาณ 45 นาที)

หมายเหตุ เที่ยวบิน บินตรง มีสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบินเท่านั้น

20.15 น. เดินทางถึงสนามบินปารามิโรโบ ประเทศซูรินาม นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Courtyard by Marriott Paramaribo Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

4 ม.ค. 2566 ปารามาริโบ (ซูรินาม)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชม เมืองปารามาริโบ (Paramaribo) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของซูรินาม ศูนย์ประวัติศาสตร์ใช้เวลาพัฒนาห้าศตวรรษ ในปี 2022 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก อาคารเกือบทั้งหมดในบริเวณนี้เป็นไม้ ส่วนใหญ่สร้างขึ้นในสไตล์โคโลเนียลดัตช์ มีมัสยิดและโบสถ์ที่สวยงามหลายแห่งในศูนย์กลางประวัติศาสตร์มีโบสถ์ยิว นำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภาสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 และได้รับรูปแบบปัจจุบันในปี 1730 นี่เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมดัตช์ในซูรินาม ตั้งอยู่บน Independence Square พร้อมด้วยหน่วยงานราชการอื่นๆ อาคารรัฐบาลแห่งนี้อยู่ในส่วนพื้นที่มรดกโลกของซูรินามด้วย จากนั้นนำท่านชมมัสยิดไม้ Keizerstrat สร้างขึ้นในปี 1932 เฉพาะในปี 1984 เท่านั้นที่ถูกแทนที่ด้วยหินก้อนหนึ่ง จากนั้นนำท่านชมโบสถ์เซนต์ปีเตอร์แอนด์ปอลล์ (St. Peter & Paul Cathedral) เป็นโบสถ์ไม้โรมันคาทอลิก สร้างขึ้นในปี 1809 โดยชาวดัชต์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทาง เข้าชมฟอร์ท ซีแลนด์ (Fort Zeelandia) พิพิธภัณฑ์ป้อมปราการในปารามาริโบ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1640 โดยชาวฝรั่งเศสได้สร้างป้อมไม้ขึ้นตรงจุดนี้ ซึ่งในช่วงสมัยอาณานิคมของอังกฤษได้รับการเสริมกำลังและกลายเป็นป้อมปราการวิลละบี และถูกยึดครองโดยชาวดัตช์ในปี 1667 และเปลี่ยนชื่อเป็นป้อม Zeelandia ได้เวลานำท่าน ชมวัดอารยาเดวาเกอร์ (Araya Dewaker Hindu Temple) เป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในซูรินาม พิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 ตัวอาคารมีรูปทรงแปดเหลี่ยมซึ่งให้ความรู้สึกว่าเป็นทรงกลม หมายถึงรูปทรงกลมของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก หอคอยสามหลังเป็นสัญลักษณ์ของปริมาณที่ประกอบกันเป็นจักรวาล นั่นคือ พระเจ้า มนุษย์ และธรรมชาติ

จากนั้นนำท่านสู่ ย่าน Water Kant หรือ ย่านถนนริมแม่น้ำ (River Boulevard) อิสระให้ท่านได้เดินเล่นเก็บภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวซูรินาม และหมู่อาคารสไตล์ดัดต์ ซึ่งสร้างริมแม่น้ำ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Courtyard by Marriott Paramaribo Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

5 ม.ค. 2566 ปารามาริโบ (ซูรินาม)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ป้อมปราการ Nieuw-Amsterdam ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซูรินาม ห่างจากเมืองหลวง 11 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงด้านป้อมปราการ นี่คือป้อมปราการห้าเหลี่ยมซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวอเมริกันได้เสริมกำลังและติดตั้งปืนใหญ่ที่ยืนหยัดอยู่ที่นี่มาจนถึงทุกวันนี้ นำท่านเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการ Niew Amsterdam

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ สะพาน Jules Wijdenbosch bridge เป็นสะพานข้ามแม่น้ำซูรินามระหว่างเมืองหลวงปารามาริโบ และเมียร์ซอก สะพานนี้เป็นส่วนหนึ่งของ East-West Link และตั้งชื่อตามอดีตประธานาธิบดี Jules Wijdenbosch สะพานนี้สร้างโดยสถาปนิกชาวดัตช์ Ballast-Nedam โดยมีความยาว 2 เลน ยาว 1504 เมตร และเปิดใช้เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2000 นำท่านเดินเล่นในเมืองและตลาดท้องถิ่น ที่ชาวเมือง

ซูรินามนำสินค้ามาขาย รวมถึงชมวิถีการดำรงชีวิตของชาวซูรินาม

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Courtyard by Marriott Paramaribo Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)

6 ม.ค. 2566 ปารามาริโบ (ซูรินาม) - เฟร้นช์เกียนา (พักค้าง 2 คืน)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัลพินา (ระยะทาง 147 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) เป็นเมืองชายแดนเพื่อข้ามประเทศสู่เฟร้นเกียนา ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำมาโรนี (Maroni River) ตรงข้ามกับเมืองแซงต์โลรองต์ดูมาโรนี ประเทศเฟร้นช์เกียนา ระหว่างทางท่านได้เห็นทิวทีศน์และทัศนียภาพของเมืองเล็กๆของซูรินาม

นำท่านผ่านพิธีการตรวจเข้าเมือง (immigration check)

นำท่านข้ามเรือเฟอร์รี่สู่ท่าเรือเมืองแซงต์โลรองต์ดูมาโรนี ประเทศเฟร้นช์เกียนา

เดินทางถึงท่าเรือเมืองแซงต์โลรองต์ดูมาโรนี ประเทศเฟร้นช์เกียนานำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเที่ยวเมืองแซงต์โลรองต์ดูมาโรนี (Saint Laurent du Maroni) นำท่านชม Camp de la Transportation ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังนักโทษที่ถูกฝรั่งเศสส่งตัวมาใช้แรงงานในช่วงปี 1858 และหากเป็นนักโทษอุกฉกรรจ์ จะถูกคุมขังบนเกาะเดวิล (Devil’s island) นำท่านชมคุกโบราณที่ใช้คุมขังนักโทษในช่วงศตวรรษที่ 19

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกาแยน (Cayenne) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเฟรนช์เกียนา ซึ่งเป็นจังหวัดโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัด และมีพื้นที่ติดกับทะเล (ระยะทาง 257 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Mercure Cayenne Royal Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

7 ม.ค. 2566 กาแยน (เฟรนช์เกียนา)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชมป้อมปราการ Ceperou เดิมเป็นป้อมปราการไม้ สร้างเพื่อป้องกันเมืองกาแยน เริ่มสร้างป้อมปราการไม้นี้ในปี 1643 และผ่านการรุกรานจากการล่าอาณานิคมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดัชต์, อังกฤษ, โปรตุเกส และ ฝรั่งเศส ช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่ละยุคของนักล่าอาณานิคม ก็ได้มีการบูรณะซ่อมแซมป้อมปราการแห่งนี้เรื่อยมา กระทั่งในปี 1809-1817 ได้ถูกรุกรานจากชาววาอูบัน (Vauban) ทำให้ป้อมโดนทำลายเสียหายมาก เหลือเพียงร่องรอยเพียงไม่มากจวบจนถึงปัจจุบัน

ได้เวลานำท่าน เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรังโคนี (Musee Department De Franconie) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงภาพวาดทางประวัติศาสตร์, พืชพันธุ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต ตลอดจนวิถีชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองในอดีต

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ศูนย์อวกาศกิอานิ (Guiana Space Center) โดยในปี 1964 รัฐบาลฝรั่งเศสได้เลือกให้พื้นที่ของเฟร้นช์เกียนา เป็นที่ตั้งของศูนย์อวกาศในการปล่อยจรวดขึ้นสำรวจอวกาศของฝรั่งเศส และภายในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์อวกาศ (Space Museum) ซึ่งจัดแสดงการปล่อยจรวด และความก้าวหน้าของฝรั่งเศสในด้านอวกาศอีกด้วย (หมายเหตุ : ต้องรอประกาศอีกครั้ง เรื่องการเข้าชม)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Mercure Cayenne Royal Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

8 ม.ค. 2566 กาแยน (เฟรนช์เกียนา) - ปวงต์ อา ปิตร์ (กัวดาลูป) (พักค้าง 2 คืน)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชมเพลส เดส ปาลมิสเทส (Place des Palmistes) ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมืองล้อมไปด้วยหมู่อาคารโบราณ และยังเป็นที่ทำการของหน่วยงานราชการต่างๆ นำท่านแวะถ่ายรูปกับหมู่อาคารและบ้านเรือนหลากสีสัน จากนั้นนำท่านชม โบสถ์แห่งกาแยน (Cayenne Cathedral) หรือ โบสถ์เซ็นต์เซเวียร์ โบสถ์สไตล์โคโลเนียล โรมันคาทอลิก สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 โบสถ์แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น อนุสาวรีย์ของฝรั่งเศส อีกด้วย สมควรแก่เวลานำท่านสู่โรงแรมที่พัก

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

13.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเพื่อเช็คอิน

15.35 น. ออกเดินทางจากสนามบินกาแยน สู่สนามบิน ปวงต์ อา ปิตร์ (ใช้เวลาบินประมาณ 3.35 ชั่วโมง)

18.10 น. เดินทางถึงสนามบินปวงต์ อาปิตร์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว La Creole Beach Hotel & Spa **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

9 ม.ค. 2566 ปวงต์ อา ปิตร์

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติกัวเดอลูป (National Park of Guadeloupe) เพลิดเพลินกับธรรมชาติป่าเขตร้อนและน้ำตกในอุทยานซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นพื้นที่มรดกโลกอีกด้วย (World Biosphere Reserve by UNESCO) นำท่านชม สวนพฤกษศาสตร์ Domaine Valombreuse เพลิดเพลินไปกับกล้วยไม้ป่าสีสันแปลกตาและต้นโกโก้, ปาล์มโกรฟและพืชแปลกใหม่ที่น่าตื่นเต้นล้อมรอบด้วยพันธุ์ไม้ที่อุดมสมบูรณ์และภูมิทัศน์เขตร้อนธรรมชาติ อิสระให้ท่านชมบรรยากาศอันร่มรื่นของพืชพันธ์เขตแคริบเบี้ยนโดยรอบสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมือง ปวงต์ อา ปิตร์ (Pointe-à-Pitre) เมืองซึ่งใหญ่ที่สุดแห่งเกาะกัวดาลุป หนึ่งในอาณาเขตปกครองของประเทศฝรั่งเศสในทะเลแคริบเบี้ยน ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดยคณะเดินเรือชาวอังกฤษ และต่อมาได้เติบโตขึ้นมาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของหมู่เกาะโดยรอบที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์, อาคารสาธารณะที่น่าสนใจ, ตลาด และท่าเรือเก่าทางประวัติศาสตร์มากมาย นำท่านชมอาคาร Memorial Acte ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงถึงการค้าทาสในช่วงยุคล่าอาณานิคม และแสดงถึงวิถีการดำเนินชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองในอดีต จากนั้น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว La Creole Beach Hotel & Spa **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

10 ม.ค. 2566 ปวงต์ อา ปิตร์ - ไมอามี่ - อิสตันบูล

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรรม

06.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเพื่อเช็คอิน

09.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเที่ยวบิน .... (ใช้เวลาบินประมาณ 3.30 ชั่วโมง)

11.30 น. เดินทางถึงสนามบินไมอามี่

นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย

บ่าย นำท่านสัมผัสประสบการณ์นั่งเรือแอร์โบ๊ท (Air Boat) ล่องหนองน้ำทางตอนใต้ของไมอามี่ ภายในอุทยานแห่งชาติ Everglade ซึ่งระหว่างทางท่านจะได้เห็นสัตว์พื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำนี่ ไม่ว่าจะเป็น อัลลิเกเตอร์ (ลักษณะคล้ายจระเข้), นกนานาชนิด, เต่า และ สัตว์ต่างๆที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำกลาส (River of Gras)

17.00 น. นำท่านกลับสู่ สนามบินไมอามี่

นำท่านเช็คอินสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ส

21.55 น. ออกเดินทางจากสนามบินไมอามี่ สู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK078

********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******

11 ม.ค. 2566 อิสตันบูล

17.05 น. เดินทางมาถึงสนามบินอิสตันบูล

20.55 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK64 (ใช้เวลาบิน 8 ชั่วโมง)

สายการบินมีบริการอาหารค่ำระหว่างเที่ยวบิน

12 ม.ค. 2566 กรุงเทพมหานคร

10.10 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Optional Tour สำหรับท่านที่ต้องการไปเที่ยวต่ออีก 2 ประเทศ (Dominican Republic / Haiti)

10 ม.ค. 2566 ปวงต์ อา ปิตร์ - สาธารณรัฐโดมินิกัน - ซานโตโดมิงโก (พักค้าง 2 คืน)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรรม

06.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเช็คอิน

09.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินโดมินิกัน ริพลับบลิค โดยเที่ยวบิน .... (ใช้เวลาบินประมาณ 3.15 ชั่วโมง)

12.45 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติลาสอเมริกานาส ประเทศสาธารณรัฐ โดมินิกัน (Dominican Republic)

นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองซานโต โดมิงโก สาธารณรัฐโดมินิกัน เมืองหลวงของประเทศ และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐโดมินิกันด้วย ถูกค้นพบในปี ค.ศ.1496 พร้อมๆกันกับหมู่เกาะแคริบเบี้ยนอื่นๆ โดยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส และน้องชายของเขา บาโทโลมิโอ โคลัมบัส ซึ่งได้ตั้งชื่อเกาะแห่งนี้ว่า ลา นูเอว่า อิซาเบลล่า เพื่อเป็นเกียรติแก่ราชินีแห่งประเทศสเปน แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ซานโต โดมิงโก เพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญเซนต์ โดมินิค ประเทศนี้นับเป็นประตูสู่แคริบเบี้ยน และถูกยกย่องให้เป็นเมืองที่ปกครองโดยชาวยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดของทวีปอเมริกา และถูกเปลี่ยนมือการปกครองสลับไปมาตามยุคสมัย ทั้งโดยสเปนและฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกรับรองโดยองค์กรยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1990 นำท่านแวะถ่ายรูปกับ The National Palace ซึ่งเป็นที่พำนักของประธานาธิบดี สาธารณรัฐโดมินิกัน จากนั้นนำท่านเที่ยวชม The Colonial Zone ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาคารสถาปัตยกรรมในสมัยศตวรรษที่ 16 บ้านเรือนและอาคารมีความงดงามมาก นำท่านเข้าชม โบสถ์ซานต้ามาเรีย (Santa Maria Church) โบสถ์เก่าแก่ยุคศตวรรษที่ 16 และเป็นโบสถ์แรกของชาวอเมริกัน นอกอาณาเขตแผ่นดินใหญ่ จากนั้นนำท่านเข้าชม Alcaza de Colon ซึ่งเป็นปราสาทแห่งแรกของชาวอเมริกัน เดิมเป็นที่ปราสาทที่พำนักของ Don Dego Colon บุตรชายของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Sheraton Hotel Santo Dominco **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

11 ม.ค. 2566 สาธารณรัฐโดมินิกัน (ลาโรมานา)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองลา โรมานา สาธารณรัฐโดมินิกัน (ระยะทาง 120 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) เมืองขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐโดมินิกัน เมืองลาโรมานา นับเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพักผ่อนในวันหยุดของนักท่องเที่ยว เหตุเพราะขึ้นชื่อด้วยหาดทรายที่สวยงาม นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำ Cueva de las Maravillas ถ้ำที่ถูกค้นพบโดยบังเอิญด้วยลูกเสือท้องถิ่นเมื่อปี ค.ศ.1926 ภายในถ้ำมีบ่อน้ำใต้ดิน และตามผนังยังมีร่องรอยจารึกทางโบราณคดีของชาวไทน่า ชนเผ่าพื้นเมืองแห่งโดมินิกัน

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านอัลทอส เดอร์ชาบอง (Altos de Chavon) หมู่บ้านสมัยศตวรรษที่ 16 และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกแห่งเมืองราโลมานา ภายในมีทั้งโบสถ์ และ อาคารสถาปัตยกรรมโบราณที่สร้างจากหิน ซึ่งมีลักษณะคล้ายสถาปัตยกรรมแบบอิตาลี และยังมีโรงละครกลางแจ้ง (Amphitheater) ซึ่งสามารถจุคนได้ประมาณ 5,000 คน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของหมู่บ้านมรดกโลกอัลทอส เดอร์ชาบอง สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองซานโตโดมิงโก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Sheraton Hotel Santo Dominco **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

12 ม.ค. 2566 สาธารณรัฐโดมินิกัน - เฮติ

เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบ Breakfast box

05.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเช็คอิน

07.45 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเฮติ โดยเที่ยวบิน .... (ใช้เวลาบิน 45 นาที)

หมายเหตุ : สายการบิน มีบินวันละ 1 เที่ยวบิน เท่านั้น

07.30 น. เดินทางถึงสนามบินปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเดินทางสู่เมืองปอร์โตแปรงซ์ (Port Au Prince) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในเฮติ กรุงปอร์โตแปรงซ์ตั้งอยู่บริเวณอ่าวกอนาฟว์ อ่าวที่เมืองตั้งอยู่ยังเป็นท่าเรือทางธรรมชาติ ที่ยังคงมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจตั้งแต่อารยธรรมของชาวอาราวัก ได้ตกอยู่ในอาณานิคมของฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1979 และยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเฮติ ผังเมืองมีลักษณะคล้ายกับแอมฟิเทียเตอร์ มีเขตการค้าติดกับน้ำ ขณะที่เขตอยู่อาศัยตั้งอยู่บนเขา นำท่านเที่ยวชมเมืองหลวงปอร์โตแปรงซ์ (Port Au Prince) จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแพนทิออน (Musee du Pantheon National Haitien) ซึ่งภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของชนพื้นเมือง และการเข้ายึดครองของฝรั่งเศส สำหรับประเทศเฮตินับได้ว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์กว่า 200 ปี แต่ต้องประสบปัญหาหนักจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 2010 นำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์อิสรภาพ (Independence monument) ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่ยังสร้างไม่เสร็จเนื่องจากขาดเงินลงทุนในการก่อสร้าง นำท่านผ่านชมอาคารทำเนียบประธานาธิบดี (National palace), จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ Toussaint Louverture ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านสู่จุดชมวิวเมืองปอร์โตแปรงซ์ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวเมืองหลวงจากมุมสูงได้อย่างสวยงาม อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่โบสถ์นอร์ทเทอร์ดาม (Norther dam Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และไม่สามารถบูรณะขึ้นมาใหม่ได้ จึงมีเพียงซากปรักหักพังและตัวโบสถ์ที่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของศาสนจักร และ ศาสนาคริสต์ในเฮติ ได้เวลานำท่านเข้าชมโบสถ์ประจำเมือง (Cathedral) ที่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านเพเทียน (Patian Ville) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีภาพเขียนแสดงและจำหน่ายเป็นจำนวนมาก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Marriott Port Au Prince **** หรือเทียบเท่า

13 ม.ค. 2566 เฮติ - ไมอามี่

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ป้อมปราการป้อม Jacques และป้อมปราการ Alexandre (ระยะทาง 25 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นป้อมปราการแห่งหนึ่งของระบบป้องกันที่จักรพรรดิ Jean-Jacques Dessalines สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันการกลับมาของฝรั่งเศสภายหลังการได้รับเอกราชของเกาะเฮติ สำหรัลป้อมปราการ Alexandre ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Alexandre Pétion และ Jacques เพื่อเป็นเกียรติแก่ Jean-Jacques Dessalines ป้อม Jacques สร้างเสร็จในหนึ่งปีและติดอาวุธด้วยปืนใหญ่และลูกระเบิด ป้อมอเล็กซานเดรขนาบข้างด้วยป้อมปราการสี่มุม สำหรับป้อมปราการอเล็กซองเดรถูกทิ้งร้าง หลังจากการเสียชีวิตของฌอง-ฌาค เดสซาลิเนสในปี ค.ศ. 1806 นำท่านชมป้อมปราการเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี แห่งเกาะเฮติ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรม

12.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเช็คอิน

15.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเที่ยวบิน .... (ใช้เวลาบินประมาณ 2.25 ชั่วโมง)

17.55 น. เดินทางถึงสนามบินไมอามี่ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Hilton Miami Airport Hotel **** หรือเทียบเท่า

14 ม.ค. 2566 ไมอามี่ - อิสตันบูล

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรรม

08.00 น. นำท่านสู่สนามบินไมอามี่

นำท่านเช็คอินสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ส

11.00 น. ออกเดินทางจากสนามบินไมอามี่ สู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK158

********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******

15 ม.ค. 2566 อิสตันบูล

06.15 น. เดินทางมาถึงสนามบินอิสตันบูล

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมพระราชวังโดลมาบาชเช (Dolmabahce Palace) สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกออตโตมัน-อาร์เมเนียน ชื่อบัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานยุโรปและตะวันออก จุดเด่นคือ โคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่ นำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Private Boat) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black sea) เข้ากับทะเลมาร์มารา (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตรจนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจนกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่ มาใช้และไม่เคยปรากฏว่ากรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อนเลย ทั้งนี้เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี้เอง ปี ค.ศ. 1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัสซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น ขณะที่ล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็น พระราชวังโดลมาบาชเช หรือ บ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (ไทย)

บ่าย นำท่านขึ้นชมหอคอยกาลาตาทาวเวอร์ (Galata Tower) จุดชมวิวมุมสูงแห่งเมืองอิสตันบูล ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพเมืองอิสตันบูลโดยรอบ พร้อมเก็บภาพความสวยงาม จากนั้นนำท่านสู่“แกรนด์บาร์ซาร์” (Grand Bazar) ตลาดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยกลาง ค.ศ. 15 เป็นตลาดค้าพรมและทองที่ใหญ่ที่สุดของตุรกี มีร้านค้ากว่า 4,000 ร้านให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกีอย่างจุใจ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (Kebab House)

20.55 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK64 (ใช้เวลาบิน 8 ชั่วโมง)

สายการบินมีบริการอาหารค่ำระหว่างเที่ยวบิน

16 ม.ค. 2565 กรุงเทพมหานคร

10.10 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ