โตเกียว - นิกโก้ - ใบไม้แดง 5 วัน 3 คืน

โดยสายากรบิน AIR ASIA X (XJ)

บินแอร์เอเชียเอ็กซ์ น้ำหนักกระเป๋า 20 กก. มีบริการอาหารร้อนและเครื่องดื่มบนเครื่อง

เที่ยวเต็มทุกวัน ** อาหารครบทุกมื้อ พักออนเซ็น 1 คืน - โตเกียว 1 คืน - นาริตะ 1 คืน

Free wifi on bus ** น้ำดื่มบริการบนรถวันละ 1 ขวด

ฟรี! ประกันการเดินทางต่างประเทศ ครอบคลุมการรักษาโควิด-19

ไม่รวม ค่าทิปไกด์ และคนขับรถ 1,200 บาท ต่อท่าน

ค่าวีซ่า และค่าบริการทำวีซ่าVFS (ท่านละ 1575 บาท) - ค่า PCR ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง พร้อมเอกสารรับรองฉบับภาษาอังกฤษ ด้วยแบบฟอร์มของญี่ปุ่น - ค่าภาษีน้ำมันที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม หลังจากออกตั๋วไปแล้ว - ค่าทำ Vaccine Passport หรือ ลงทะเบียน E-Vaccine Passport

ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทางระบบขนส่ง ตรงถึง Center แผนกวีซ่า

 20.00 คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

 23.50 ออกเดินทางโดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ XJ600

>>>บริการอาหารร้อนบนเครื่อง<<<

 08.00 เดินทางถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชั่วโมง โปรดปรับเวลาในนาฬิกาของท่านให้เป็นเวลาท้องถิ่น)

ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ เวลานั้น และประกาศจากรัฐบาลญี่ปุ่น)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu) ในปี ค.ศ. 1995 ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คว่า เป็นรูปปั้นพระพุทธรูปปางยืน ที่หล่อจากทองสัมฤทธิ์ที่สูงที่สุดในโลก ส่วนสูงนั้น 120 เมตร (ส่วนของรูปปั้นสูง 100 เมตร ส่วนฐานสูง 20 เมตร) พระพุทธรูปปางยืนนี้ สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ถ้าเทียบระดับความยิ่งใหญ่นี้ พระพุทธรูปไดบุทสึที่จังหวัดนารา (ส่วนสูง 14.98 เมตร) มีขนาดเพียงฝ่ามือไปเลย และเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็จะรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ที่ทรงพลังของรูปปั้นพระพุทธรูปปางยืนนี้

เกร็ดข้อมูล: พระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ ถูกสร้างขึ้น ในปีค.ศ. 1992 บนพื้นที่บริสุทธิ์ของสุสาน และปีต่อมาก็ถูกทำให้เป็นสวนสาธารณะ กลุ่มนิกายที่พูดถึงนี้ก่อตั้งโดยพระสงฆ์ชินรัน (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1173 – 1262) ที่เป็นกลุ่มนิกายมหายาน ในปี ค.ศ. 1247 ด้วยเหตุที่พระสงฆ์ชินรันมีความประสงค์ จะตั้งแหล่งเผยแพร่ศาสนาในแถบคันโตที่จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ทำให้ภายในตัวเมืองยังคงมีกลิ่นอายของวัดและเรื่องราวต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาหลงเหลืออยู่มาก และอุชิคุ ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ ที่ที่ถูกยกตัวอย่างมาพูดถึงภายในองค์พระพุทธรูปนั้นคุณสามารถพบกับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย เช่น การนั่งเขียนบทสวดมนต์ นิทรรศการ

จัดแสดงการสร้างพระพุทธรูปไดบุทสึ มีส่วนจัดแสดงหัวนิ้วโป้งจำลองของพระพุทธรูปไดบุทสึ การทัศนาข้างในพระพุทธรูปไดบุทสึ บริเวณพระอุระขององค์พระเป็นจุดชมวิวที่สูงจากพื้น 85 เมตร เมื่อลองมองไปบริเวณโดยรอบทั่วทุกทิศในวันที่มีอากาศแจ่มใสจะสามารถมองเห็นวิวสกายทรี และภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ในร้านของฝากที่บริเวณชั้น 4 ภายในองค์พระ พวงกุญแจหรือคริสตัลพระไดหบุทสึ ธูปหอมพระไดบุทสึ หรือสินค้าของพระพุทธรูปไดบุทสึ สามารถหาซื้อได้แค่ที่นี่เท่านั้น

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Hitachi Seaside park เข้าเยี่ยมชม ถ่ายรูปสวนดอกไม้สวยๆ

เกร็ดข้อมูล : Hitachi Seaside Park ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกอำเภอฮิตาจินากะ จังหวัดอิบารากิ สวนแห่งนี้เคยเป็นสนามบินของกองทัพญี่ปุ่น (ชื่อ Mitohigashi) ซึ่งหลังจากจบการทำสงครามได้ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับยิงระเบิดโดยฐานทัพสหรัฐ และเนื่องจากสถานที่ฝึกอยู่ใกล้บ้านคน รวมถึงมีอุบัติเหตุที่เกิดจากการฝึกซ้อมยิงและโยนระเบิดผิดบ่อยครั้ง จนก่อให้เกิดการเจ็บหรือเสียชีวิต จึงทำให้คนในท้องถิ่นประท้วงเพื่อให้ได้สถานที่คืน หลังจากนั้นทางญี่ปุ่นได้รับสถานที่คืนในเดือนมีนาคม ปี 1973 และด้วยเหตุผลที่ว่าคนในท้องถิ่นต้องการสร้าง “สวนเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ” จึงเกิดเป็น “Hitachi Seaside Park” จากสถานที่ที่เคยเป็นเป้าหมายสำหรับการยิงปืนหรือโยนระเบิดจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ปัจจุบันกลายเป็นเนินเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้

 สามารถชมดอกไม้สีสันสวยงามได้ตลอดทั้ง 4 ฤดูที่ประกอบไปด้วย

• ดอก Nemophila Narcissus และ Tulip ในฤดูใบไม้ผลิ
• ดอก Poppy และดอกกุหลาบในต้นฤดูร้อน
• Kochia และ Cosmos ในฤดูใบไม้ร่วง
• Ice Tulip ในฤดูหนาว

อิสระเดินเล่นถ่ายรูปตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จังหวัดโทจิกิ สู่ที่พักที่เมืองมรดกโลกนิกโก้ ความภาคภูมิใจของคนญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดโทจิงิ เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เพราะเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่นถึง 3 แห่งคือ ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ ศาลเจ้าฟุราตะซัง และวัดรินโนจิ นอกยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันงดงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณกลางเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน ทิวทัศน์รอบๆระหว่างทางจะมีสีสันสวยงามมาก

 รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก Kinugawa Onsen Hotel หรือเทียบเท่า

ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นของคนญี่ปุ่น

คินุกาวะออนเซ็น มีคุณสมบัติเป็นออนเซ็นด่างสีใสและอ่อนโยนต่อผิว ทำให้ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุก็สามารถแช่ออนเซ็นได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ เนื่องจากออนเซ็นด่างมีสรรพคุณช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าและความเครียด จึงเหมาะกับการแช่เพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวระหว่างวัน

 รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ น้ำตกเคกอน นำท่านลงลิฟท์สู่จุดชมวิวน้ำตกเคกอน

น้ำตกเคกอน ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (อีกสองแห่งคือน้ำตกนาจิ จังหวัดวากายาม่า และน้ำตกฟุคุโรดะ จังหวัดอิบารากิ) น้ำตกเคกอนมีความสูง 97 เมตร กว้าง 7 เมตร โดยน้ำที่ทำให้เกิดน้ำตกเคกอนนั้นไหลมาจากทะเลสาบชูเซ็นจิที่อยู่ใกล้ๆ กันนั่นเอง ในเดือนตุลาคมท่านจะได้ชมเสน่ห์ของน้ำตกเคกอนผ่านบรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสี น้ำตกเคกอนเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว

จากนั้นนำท่านชม ทะเลสาบชูเซ็นจิ เป็นทะเลสาบธรรมชาติที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันตกของนิกโก พื้นที่นี้อยู่สูงและมีทิวทัศน์ที่งดงามมาก ทะเลสาบแห่งนี้นี่จะตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาไฟนันไต (Mount Nantai) คนที่มาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์สุดสดชื่นๆ พร้อมชมทะสาบงามๆ ทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการระเบิดเมื่อประมาณ 20,000 ที่ผ่านมา ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกลาง-ปลายเดือนตุลาคมจะสวยงามเป็นพิเศษด้วยทัศนียภาพของสีสันของต้นไม้และภูเขา ในช่วงฤดูร้อนก็มีอากาศที่เย็นสบายไม่ได้ร้อนเหมือนที่อื่นๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง 1,269 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

 รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร

ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ เป็นศาลเจ้าที่สักการะบูชาโทกุงาวะ อิเอยาสุ มีอายุกว่า 260 ปี ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ โดยมีเทพประจำศาลเจ้าคือ ท่านโทกุงาวะ อิเอยาสุ โชกุนคนแรกของรัฐบาลโชกุนโทกุงาวะ โชกุนอิเอยาสุได้ทุ่มเทให้กับการพัฒนาประเทศญี่ปุ่นสมัยใหม่เป็นอย่างมาก ท่านเสียชีวิตลงเมื่ออายุ 75 ปี หลังจากผ่านงานพิธีศพตามแบบชินโตที่ภูเขาคุโน จังหวัดชิซูโอกะแล้ว ท่านก็ได้มาเป็นเทพบูชาประจำศาลเจ้านิกโก้แห่งนี้ อาคารต่าง ๆ ของศาลเจ้าในปัจจุบัน ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่โดยโชกุนรุ่นที่สาม ท่านอิเอมิสึ อาคารในศาลเจ้ามีทั้งหมด 55 หลัง เช่น โยเมมง เป็นวิหารหลัก (สมบัติของชาติ) ได้มีการทุ่มเงินจำนวนมหาศาล เพื่อจ้างช่างที่มีฝีมือมาก่อสร้าง สิ่งก่อสร้างแต่ละแห่ง ได้รับการบริจาคน้ำมันเคลือบเงาและสี รวมไปถึงมีการแกะสลักตกแต่งเสาจำนวนมาก อาคารถูกปรับปรุงใหม่ให้ดูสวยงาม หรูหราเป็นประกายเหมือนใหม่อย่างดีที่สุด ในเดือนธันวาคม ปี 1999 ก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม

หลังจากชื่นชมความงดงามและคุณค่าทางศิลปะของศาลเจ้านิกโก้โทโชกุเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น

 รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร

ที่พัก Tokyo Hotel หรือเทียบเท่า

 รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ วัดเซนโซจิ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดอาซากุสะ เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว โดยจะมีถนนนากามิเสะ ที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดที่จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย โดยสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของวัดแห่งนี้ก็คือ โคมสีแดงอันใหญ่ยักษ์ตรงประตูคามินาริมงจึงมีอีกชื่อเรียกว่า วัดโคมแดง ด้วยนั่นเอง

วัดอาซากุสะขึ้นชื่อว่าเก่าแก่มากที่สุดในเมืองโตเกียว ถูกสร้างขึ้นเสร็จเมื่อประมาณปี ค.ศ. 645 ตามตำนานเล่าว่าเมื่อประมาณ ปี 628 สองพี่น้องได้ออกเรือไปตกปลา และตกรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมได้ที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) และแม้ว่าพวกเขาจะพยายามทิ้งรูปปั้นกลับลงสู่แม่น้ำเท่าไหร่ก็ตาม รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมก็จะกลับมาหาพวกเขาอยู่เสมอ จึงได้มีการสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่ค้นพบ และกลายมาเป็นวัดที่ฮอตฮอตอันดับหนึ่งของเมืองโตเกียวอย่างในปัจจุบันนี่เอง

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อะเมโยโกะ หรือ อะเมยะ โยโกโช นั้นเป็นตลาดซึ่งเป็นตรอกยาวประมาณ 500 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟอุเอโนะ และ สถานีรถไฟโอคาชิมาชิ ภายในตลาดอะเมโยโกะมีทั้งร้านขายอาหารสด อาหารแห้ง ผลไม้ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าแฟชั่น ร้านขายเครื่องสำอาง ของใช้ ร้านอาหาร ขนม และร้านค้าอีกสารพัด รวมกันกว่า 400 ร้าน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมของถูกที่นักท่องเที่ยวต้องมาแวะช้อปปิ้งกันที่นี่หลังรับประทานอาหารเสร็จ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ชินจูกุ ย่านช้อปปิ้ง ของกิน ที่เที่ยว ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น อิสระเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

 รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร

ที่พัก Narita Hotel หรือเทียบเท่า

 รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

09.15 น. ออกเดินทางจากสนามบินนาริตะ โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ XJ601

>>>บริการอาหารร้อนบนเครื่อง<<<

14.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ