คลาสสิค เยอรมนี 8 วัน 6 คืน

ขาไป โดยสายการบินสวิสแอร์ LX - ขากลับ โดยสายการบิน ออสเตรียนแอร์ไลน์ OS

• เข้าชมปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น 1 ในปราสาทเทพนิยายของประเทศเยอรมัน
• ชมเมืองสตุ๊ทการ์ท เมืองแห่งอุตสาหกรรมรถยนต์
• ชมเมืองโรเทนเบิร์ก เมืองแห่งตลาดคริสมาสต์
• ช็อปปิ้งจุใจ ณ เวอร์ไทม์ วิลเลจ เอ้าเลท

• ชมเมืองวูซเบิร์ก เมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านไวน์ขาว (Unesco)
• ชมเมืองแบมเบิร์ก ลิตเติ้ลเวนิส แห่งประเทศเยอรมัน (Unesco)
• ชมเมืองเออเฟิร์ธ เมืองแห่งหอคอย
• ชมเมืองไลป์ซิก เมืองแห่งพิพิธภัณฑ์ และคอนเสิร์ตฮอลล์
• ชมเมืองเดรสเด้น เมืองเก่าแสนสวย (Unesco)
• ชมเมืองกอร์ลิซ เมืองตะวันออกสุด แห่งประเทศเยอรมัน
• ชมกรุงปราก เมืองเก่า (Unesco) เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าและเก็บภาพความประทับใจ
• เข้าชมปราสาทปราก (Unesco)

กำหนดการเดินทาง วันที่ 27 ธ.ค. 65 -3 ม.ค. 66 (รวมค่าวีซ่า) ราคา 89,900 บาท

พักโรงแรมระดับ 4 ดาว พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมือง และจีน ตลอดการเดินทาง

พิเศษ! อิ่มอร่อยกับเมนูขาหมูเยอรมัน

แผนที่การเดินทาง

ตารางการเดินทาง

วันแรก กรุงเทพ - ซูริค

09.30 น. พบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์สายการบินสวิสแอร์ (LX) แถว G 1-6 (Row G 1-6) ประตู ทางเข้าที่ 4 อาคารผู้โดยสารชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

12.45 น. ออกเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยเที่ยวบิน LX181 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11.45 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับความบันเทิง อาทิ ภาพยนตร์ และเพลง ผ่านจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการมื้ออาหารระหว่างเที่ยวบินสู่เมืองซูริค

19.35 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Zurich Messe **** หรือเทียบเท่า

วันที่สอง ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น - สตุ๊ทการ์ท

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เพื่อเข้าชม ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Castle) (ระยะทาง 166 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง) ปราสาทแสนสวยที่ตั้งอยู่บนเขาโฮเฮนโซลเลิร์น ซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 2,800 เมตร ในแคว้นบาเดินของประเทศเยอรมัน ปราสาทที่สร้างตั้งแต่ยุคกลาง โดยท่านเคาน์โซลเลิร์นเพื่อเป็นป้อมปราการในช่วงศตวรรษที่ 11 และได้มีการตกแต่งอย่างหรูหรา จนได้รับสมญานามว่า Crown of all castles in Swabia และได้ถูกทำลายลงในปีค.ศ. 1423 ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดย พระเจ้าเฟรดเดอริก วิลเลี่ยมที่ 4 แห่งปรัสเซีย ในสไตล์นีโอโกธิค ซึ่งภายในยังคงตกแต่งได้อย่างหรูหรา จนได้รับสมญานามว่าเป็น 1 ในปราสาทแห่งเทพนิยายของเยอรมัน

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองสตุ๊ตการ์ท (Stuttgart) (ระยะทาง 86 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงของแคว้น Baden - Wurttemberg ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมัน และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอย่างมากทางด้านอุตสาหกรรมรถยนต์อีกด้วย นำท่านชมชลอสส์พลาทซ์ (Schlossplatz) จตุรัสใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองสตุ๊ตการ์ท ที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ สถานีรถไฟ ปราสาทใหม่ เป็นต้น

นำท่านถ่ายรูปคู่กับปราสาทใหม่ (Neues Castle) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1746 ในสถาปัตยกรรมแบบบารอกและถูกใช้เป็นที่พำนักของกษัตริย์แห่งWurttemberg จากนั้นนำท่านชม จตุรัสเมืองเก่า (Schillerplatz) ที่ถูกตั้งชื่อตามกวีเอกชาวเยอรมัน Friederich Schiller อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจ และเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Holiday Inn Stuttgart **** หรือเทียบเท่า  

วันที่สี่ โรเทนเบิร์ก - วูซเบิร์ก

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโรเทนเบิร์ก (Rothenburg ob der Tauber) (ระยะทาง 149 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง) เมืองเล็กที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Tauber ถูกก่อตในสมัยศตวรรษที่ 10 สถาปัตยกรรมในเมืองนั้นมีความงดงามเป็นอย่างยิ่งที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวของสไตล์บี่ารอคและเรเนซองก์ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่อยู่บนเส้นทางสายโรแมนติคอีกด้วย นำท่านแวะถ่ายรูปคู่กับศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองก์ จากนั้นนำให้อิสระแก่ท่านในการเดินเที่ยงชมเมืองและตลาดคริสต์มาสที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เวอร์ไทม์ วิลเลจ เอ้าเลท (Wertheim Village Outlet) (ระยะทาง 92 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 1.10 ชั่วโมง) ให้ท่านเพลิดเพลินกับการ ชอปปิ้งเอาท์เลท ที่รวบรวมร้านค้าชั้นนำไว้อย่างมากมาย อาทิเช่น COACH, FRED PERRY, POLO RALPH RAUREN, SUPERDRY, TOMMY HILFIGER, TIMBERLAND, VERSACE, TAG HEUER, SWAROVSKI เป็นต้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองวูซเบิร์ก (Wurzburg) (ระยะทาง 32 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน เป็นเมืองที่มีความงดงามอย่างมากทางด้านสถาปัตกรรมแบบบารอก ที่สวยที่สุดในเยอรมัน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่ออย่างมากในการทำไวน์ขาว

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mercure Wurzberg **** หรือเทียบเท่า  

วันที่สี่ แบมเบิร์ก - เออเฟิร์ท

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองแบมเบิร์ก (Bamberg) (ระยะทาง 94 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองสวยตามแบบสถาปัตยกรรมบารอกและร็อคโคโค่ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย บนริมฝั่งแม่น้ำเร็กนิทซ์ (Regnitz) จนได้รับสมญานามจากนักท่องเที่ยวว่า ลิตเติ้ล เวนิส (Little Venice)

นำท่านถ่ายรูปคู่กับศาลาว่าการเมืองแบมเบิร์ก (Bamberg Town Hall) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1467 ผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบโกธิก บารอก และร็อคโค่โค่ จึงทำให้ศาลาว่าการแห่งนี้สวยเด่นเป็นสง่าอยู่กลางแม่น้ำเร็กนิทซ์ นำท่านถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารแบมเบิร์ก (Bamberg Cathedral) มหาวิหารสไตล์โรมาเนสก์ที่ถูกสร้างในปีค.ศ. 1002 และมีการแกะสลักตกแต่งได้อย่างวิจิตรทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งยังเป็นที่ฝังพระศพพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 แห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งแบมเบิร์กยังถูกยกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก้ในปีค.ศ. 1993

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเออเฟิร์ท (Erfurt) (ระยะทาง 173 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองที่พระเซนต์โบนิเฟส ได้พยายามเปลี่ยนแปลงชาวเยอรมันให้หันมาเป็นชาวคริสเตียน และได้ก่อตั้งเขตปกครองโดยบาทหลวงที่เป็นอิสระขึ้นในปี ค.ศ. 742 ถึงแม้ไม่นานก็ถูกรวมเข้ากับแคว้นไมนซ์ในยุคกลาง เมืองเออเฟิร์ทนั้นร่ำรวยจากการส่งต้นโวดขายซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับย้อมผ้าเป็นสีน้ำเงินเข้ม อีกทั้งตลาดสวนไม้ประดับได้พัฒนาขึ้นมา จนก่อให้เกิดการจัดนิทรรศการสวนดอกไม้เป็นการถาวร นำท่านชมมหาวิหารเออเฟิร์ท (Erfurt Catherdral) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 742 ต่อมาได้มีการสร้างวิหรแบบโรมันเนสก์ในค.ศ. 1154 อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ กลอริโอซา (GLORIOSA) หรือที่รู้จักกันในนามของระฆังแห่งเออเฟิร์ธ (Erfurt Bell) หนึ่งในระฆังโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และวอล์ฟราม (WOLFRAM) เชิงเทียนที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวชมเมืองตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Radisson Blu Erfurt **** หรือเทียบเท่า  

วันที่ห้า ไลป์ซิก - เดรสเด้น

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองไลป์ซิก (Liepzig) (ระยะทาง 162 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองที่เกอเธ่นักประพันธ์ชื่อดังของเยอรมัน ยกให้เป็นลิตเติลปารีส จากความงดงามของสถาปัตยกรรมทั้งยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงเต็มไปด้วยนิสิต นักศึกษา และบาร์เครื่องดื่มต่างๆ ร้านกาแฟ ร้านอาหารดีๆ มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่ได้รับการพัฒนาให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อให้สมกับที่ประเทศเยอรมันต้องการให้ไลพ์ซิกเป็นศูนย์กลางของเยอรมนี (CENTER OF GERMANY)

นำท่านชมอนุเสาวรีย์การรบแห่งสหประชาชาติ (Monument to the battle of nations) อนุเสาวรีย์ที่มีความสูง 91 เมตร สร้างเสร็จขึ้นในปีค.ศ. 1913 ในวาระที่ครบรอบ 100 ปี เพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารหาญที่ร่วมรบ และมีชัยชนะต่อกองทัพของนโปเลียนในยุทธการที่ไลป์ซิกในปีค.ศ. 1813

นำท่านชมจตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) เป็นย่านที่มีอาคารสไตล์เรเนซองก์ ซึ่งถูกใช้เป็นศาลาว่าการเมืองเก่า ที่ว่าสวยงามที่สุดแห่งนึงของประเทศเยอรมัน ปัจจุบันถูกใช้เป็นที่ตั้งของตลาด และการจัดงานต่างๆ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเดรสเด้น (Dresden) (ระยะทาง 120 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำเอลเบ้ (Elbe River) และเมืองอันเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี ที่มีความสวยงามของอาคารและบ้านเรือนเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นเมืองแห่งนี้ได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร ก่อนที่จะมีการบูรณะและซ่อมแซมสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่ จนเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมื่องหนึ่งของประเทศเยอรมันในปัจจุบัน

นำท่านถ่ายรูปคู่กับ มหาวิหารแห่งเดรสเด้น (Dresden Frauenkirche) มหาวิหารของศาสนาคริสต์ โปรเตสแตนต์ นิกายลูเทอแรน ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 ก่อนที่จะได้รับการบูรณะภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ตามสไตล์บารอกอันสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็น 1 ในมหาวิหารที่มีโดมใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

จากนั้นนำท่านชมความงามของ The Furstenzug (Procession of Princes) กำแพงที่มีความยาวประมาณ 101 เมตร และสูง 10.46 เมตร ประดับด้วยกระเบื้องซึ่งบรรยายถึงขบวนเสด็จของกษัตริย์แห่งแซกโซนี่ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 จนองค์สุดท้ายในศตวรรษที่ 20 ซึ่งถือได้ว่าเป็นกำแพงที่ประดับด้วยกระเบื้องที่ยาวที่สุดในโลก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Radisson Blu Park Hotel **** หรือเทียบเท่า

วันที่หก กอร์ลิซ - กรุงปราก

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอร์ลิซ (Gorlitz) (ระยะทาง 109 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองที่ตั้งริมฝั่งแม่น้ำนีไอส์ (Neisse) และเป็นเมืองทิศตะวันออกสุดของประเทศเยอรมัน อีกทั้งยังมีอาณาเขตติดกับประเทศโปแลนด์ เพียงแค่ข้ามผ่านแม่น้ำนีไอส์จากเมืองสกอร์เซเลค ประเทศโปแลนด์ (Zgorzelec) เท่านั้น เมืองแห่งนี้ยังเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมต่างๆ กว่า 3,500 แห่ง จึงทำให้เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่สวยที่สุดอีกแห่งนึงของประเทศเยอรมัน อีกทั้งยังเคยเป็นเมืองเจ้าภาพในการจัดเทศกาลต่างๆ รวมไปถึงถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ต่างๆ อาทิ Inglorious Bastards, Monuments Men และ Around the world in 80 days นอกจากนี้เมืองแห่งนี้เป็นเมืองนึงที่ไม่ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย นำท่านเดินเที่ยวชมเมืองกอร์ลิซ และความสวยงามของหมู่ตึกสไตล์บารอก (Barockhaus) ซึ่งเป็นหมู่ตึกที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม และเคยเป็นหมู่ตึกที่เคยถูกใช้เป็นย่านการค้าที่สำคัญของเมือง อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูงอีกด้วย ปัจจุบันหมู่ตึกเหล่านี้ถูกจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดที่เก็บหนังสือไว้มากกว่า 150,000 เล่ม (ไม่รวมค่าเข้าชมในตัวตึก) นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ศาลาว่าการเมือง (Gorlitzer Rathaus) ที่ตั้งอยู่ตรงย่านตลาดเมืองเก่า ซึ่งตัวอาคารมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบ เรเนซองส์ บารอก และนีโอเรเนซองส์ และนำท่านเดินเที่ยวชมเมือง และเก็บภาพตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำเดินทางสู่ กรุงปราก หรือเรียกกันในภาษาท้องถิ่นว่า “ปราฮา (Praha)” (ระยะทาง 168 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปราว 2,000 ปี ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สถาปัตยกรรมแบบ โรมันเนสก์ โกธิค เรเนซองส์ บารอคกรวมทั้งศิลปะรูปแบบต่างๆทำให้กรุงปรากเป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันและองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้กรุงปรากเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรมปีค.ศ. 1992 ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะคู่รัก นำท่านเดินสู่ สะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ที่สุดของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองปรากสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 และถูกเรียกว่า “สะพานปราก” ได้เปลี่ยนชื่อสะพานตามพระนามของพระเจ้าชาร์ลในปีค.ศ. 1870 บนสะพานประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28 องค์ และชาวคริสต์เชื่อว่าหากเดินผ่านสะพานแห่งนี้และขอพรจากนักบุญจอห์นเพื่อความเป็นสิริมงคล อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย นำท่านชมย่านจัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) ที่คลาสสิกโดยเฉพาะอาคารศาลาว่าการเมืองของกรุงปราก ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาทิ โรงละครโอเปร่า, พิพิธภัณฑ์, หอคอยดินปืน ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีเยี่ยม จากนั้น นำท่านเดินทางสู่จัตุรัสใจกลางเมือง จัตุรัสเมืองเก่าสตาเรเมสโต (Staré Mesto) สถานที่นัดพบของชาวปราก บริเวณโดยรอบล้วนเป็นอาคารและวิหารเก่าแก่อายุกว่า 600-700 ปี ที่มีความงดงามโดดเด่นจน ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้ป็นมรดกโลก บริเวณจัตุรัสแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ วิหารตินส์ และ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ที่ทุกๆ ชั่วโมงจะมีตุ๊กตาสาวกพระคริสต์ (12 Apostles) ออกมาเดินผ่านหน้าต่างเล็กๆ ด้านบนหอคอยจนครบ 12 องค์ บริเวณใกล้เคียงกันนี้ ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวยิวที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป อิสระให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย อาทิ มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์หรือ ร้านค้าแบรนด์เนมอื่นๆ หรือจะเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองน่ารักสไตล์เช็กและโบฮีเมียนที่มีให้เลือกมากมาย เช่น เครื่องแก้วสีต่างๆ ที่ประดับด้วยเงิน, ตุ๊กตาหุ่นกระบอก, งานผ้าปัก รวมถึงชิ้นงานแกะสลักต่างรูปแบบ ฯลฯ จากนั้นให้อิสระแก่ท่านได้เดินชมเมือง และซื้อของฝากตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Vienna House Diplomat **** หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด ปราสาทปราก

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมปราสาทแห่งกรุงปราก (Prague Castle) ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็กสร้างขึ้นใน ปี ค.ศ.885 โดยเจ้าชายบริโวจ เพื่อเป็นที่พักของเหล่าราชนิกูล ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นที่พักของประธานาธิบดีเช็ก จากนั้นนำท่านชมความใหญ่โตและสวยงามของตัวปราสาท และนำท่านเข้าชมโบสถ์เซนต์ไวตัส (Saint Vitus Cathedral)โบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ในศิลปะแบบโกธิค มีการก่อสร้างเรื่อยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนมาเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1929 ที่ประดับตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกสีที่งดงามเป็นเรื่องราวของนักบุญและคริสต์ศาสนา อีกทั้งยังเป็นที่เก็บมงกุฎเพชรที่ทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้กรุงปรากกลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโบฮีเมียและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

12.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินปราก (PRG) มีเวลาให้ท่านได้ทำคืนภาษี (Tax Refund) และเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ณ ร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน

14.35 น. เดินทางออกสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียด้วยเที่ยวบิน OS708 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10นาที) 

15.30 น. เดินทางถึงกรุงเวียนนา เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่องกลับกรุงเทพฯ

23.20 น. เดินทางออกสู่กรุงเทพฯ ด้วยเที่ยวบิน OS25 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10ชั่วโมง)

วันที่แปด กรุงเทพฯ

14.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ