เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์จอร์แดน

 รหัส : Z9318
เดินทางโดย : TK-เตอร์กิช แอร์ไลน์
โรงแรม : 4 ดาว |  จำนวนวัน : 14 วัน 11 คืน
เที่ยวคุ้ม 2 ประเทศ อียิปต์ - จอร์แดน : ชมความยิ่งใหญ่ของ 1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเมืองเพตรา - พอกโคลน เดดซี - เมาท์เนโบ - มาดาบา - ปราสาทโชบัค - ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน - ไคโร - พีระมิดกีซา - อเล็กซานเดรีย - ล่องเรือสำราญแม่น้ำไนล์ - ASWAN - อาบูซิมเบล - LUXOR

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แวะเปลี่ยนเครื่องอิสตันบูล - อัมมาน - มาดาบา - ทะเลเดดซี
เพตรา - มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอลคาซเนท์
ปราสาทครูเสดโชบัค - อัมมาน - ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน - วิหารเฮอร์คิวลิส
สนามบินอัมมาน - บินภายในสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ - The Egyptian Museum - Downtown Cairo
มหาพีระมิดกีซา - ซัคคาร่า - Al-Azhar Park
อเล็กซานเดรีย - ป้อมปราการซิทาเดล - Abu Al-Abbas Al-Mursi - ไคโร
Mainyal Palace - Salah EL Din Citadel & Mohamed Ali Mosque - ศูนย์กลางการทำ กระดาษปาปีรุส - ขึ้นรถไฟตู้นอนสู่ Aswan
วิหารฟิเล - ล่องเรือเฟลุกะ ในแม่น้ำไนล์ - พักบนเรือสำราญ พร้อมชมการแสดงพื้นเมือง
อาบูซิมเบล - คอมออมโบ - พักบนเรือสำราญ
นั่งรถม้าสู่วิหารเอ็ดฟู - กลับขึ้นเรือ - ท่าเมืองลักซอร์ - ชมวิหารลักซอร์ - พักบนเรือ
Valley of the Kings - วิหารฮัคเชฟซุต - อนุสาวรีย์แห่งเมมนอน Colossi of Memnon - มหาวิหารคาร์นัค - บินภายในสู่กรุงไคโร - เข้าที่พัก
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ - โรงงานผลิตหัวน้ำหอม - ตลาดข่านเอลคาลีลี - สนามบิน กรุงไคโร - แวะเปลี่ยนเครื่องอิสตันบูล
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
ไม่รวม ค่ายกขนกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ โดยเฉลี่ย 1 USD ต่อท่าน - ค่าทิปพนักงานขับรถ, ทิปหัวหน้าทัวร์, ทิปไกด์ท้องถิ่น+อื่นๆ 150 USD ต่อทริป ต่อผู้เดินทาง ชำระพร้อมค่าทัวร์ส่วนเหลือ - ค่าประกันสุขภาพการเดินทาง กรณีป่วยเข้าต้องรักษาตัวเข้าโรงพยาบาลในต่างประเทศ - ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว - ค่าทำ Vaccine Passport หรือ ลงทะเบียน E-Vaccine Passport - ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทางระบบขนส่ง ตรงถึง Center แผนกวีซ่า
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

เที่ยวคุ้ม 2 ประเทศ อียิปต์ - จอร์แดน 14 วัน 11 คืน

โดยสายการบิน Turkish airlines

บินรอบเดียวเที่ยว 2 ประเทศ ไม่ต้องบินซ้ำไปมา ด้วยสายการบิน 5 ดาว เวลาสวย

โปรแกรมจัดอย่างลงตัวไม่เหนื่อย รวบรวมทุกไฮไลท์

จอร์แดน ชมความยิ่งใหญ่ของ 1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเมืองเพตรา พักผ่อนพอกโคลน เดดซี

เมาท์เนโบ - มาดาบา - ปราสาทโชบัค - ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน

อียิปต์ ตามรอยอารยธรรมโบราณดินแดนไอยคุปต์ หนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

ไคโร - พีระมิดกีซา - อเล็กซานเดรีย - ล่องเรือสำราญแม่น้ำไนล์ - ASWAN - อาบูซิมเบล - LUXOR

**เดินทางเข้าประเทศจอร์แดนและอียิปต์ไม่ต้องใช้PCR ใช้วัคซีนพาสปอร์ต์ครบ 2 เข็มทุกยี่ห้อ **

วันแรก ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

19.00 น. พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน Turkishairlines อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศสนามบินสุวรรณภูมิโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางทำผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ

23.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกีQเที่ยวบินที่ TK69

วันที่สอง กรุงเทพฯ - อัมมาน - มาดาบา - ทะเลเดดซี

05.15 น ถึงสนามบินอิสตันบูล

06.55 น ออกเดินทางสู่ออกเดินทางสู่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน Qเที่ยวบินที่ TK820

09.10 น. ถึงท่าอากาศยาน QUEEN ALIA ประเทศจอร์แดน นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทางและรับสัมภาระเรียบร้อย

นำทุกท่านสู่เมืองมาดาบาหรือเมืองแห่งโมเสกเป็นเมืองในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเล็ม (The Holy Land) ว่ากันว่าที่นี่มีงานศิลปะโมเสกที่สวยงามมากชมดินแดนศักดิ์สิทธิ์เมาท์เนโบที่ตั้งอยู่บนยอดเขาซึ่งเป็นสถานที่ที่โมเสสเสียชีวิต ปัจจุบันยังมีหลุมพระศพสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ชมโบสถ์อนุสรณ์โมเสส (The Moses Memorial Church) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงโมเสส สถานที่แห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 300-400 ในยุคไบแซนไทน์ ตอนต้นคริสต์ศักราช ให้ทุกท่านได้ชมวิวทิวทัศน์และเก็บภาพประทับใจที่จะมองเห็นทัศนียภาพทั้งแม่น้ำจอร์แดน ทะเลเดดซี นครเจริโค เมืองเบธเลแฮม และเมืองเยรูซาเล็ม และชมโบสถ์กรีกออร์โธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ บนพื้นโบสถ์มีแผนที่ทำด้วยกระเบื้องโมเสกสีสวยงามจำนวนกว่า 2 ล้านชิ้น ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 6 หรือราว ๆ ปี ค.ศ. 600 ในยุคไบแซนไทน์ แผนที่นี้แสดงให้เห็นพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในอดีต

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำทุกท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี (Dead Sea) ทะเลสาบเดดซีเป็นทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใน ในระหว่างเขตแดนของจอร์แดนและอิสราเอลทะเลที่ถูกบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และมีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ และด้วยความหนาแน่นของน้ำในทะเลสาบเดดซีนี้เองที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงสามารถลอยตัวอยู่ในทะเลสาบดังกล่าวได้ ทะเลสาบแห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องการรักษาโรคและการบำรุงรักษาผิวพรรณน้ำในทะเลเดดซีเป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุต่าง ๆ เพราะการที่ไม่มีพื้นที่เชื่อต่อกับแม่น้ำสายอื่นให้ไหลออกได้ทำให้แร่ธาตุต่าง ๆมารวมกันอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้เป็นจำนวนมากและทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดจากทะเลสาบเดดซี อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สมบูรณ์และสามารถช่วยเรื่องสุขภาพได้ โดยเฉพาะเรื่องผิวพรรณ ทั้งโคลนจากเดดซี เกลือจากเดดซีที่มีความเค็มมากกว่าเกลือที่อื่นหลายเท่าตัวหนักก็มักจะนำมาใช้ในทางการประทินผิวและรักษาผิวพรรณ ทั้งนี้สามารถช่วยรักษาได้ทั้งรังแค โรคผิวหนังรวมทั้งพิษทั้งแมลงกัดต่อย ช่วยให้ผิวนุ่มขึ้น ดูแล้วคล้ายกับว่าสถานที่แห่งนี้ กลายเป็นแหล่งรวมแร่ธาตุอิสระให้ทุกท่านได้เดินเล่นริมหาดทะเลเดดซี ลงเล่นน้ำทะเลพิสูจน์ว่าสามารถลอยตัวในน้ำทะเลได้จริงหรือไม่ พอกโคลนทะเลเดดซีเพื่อบำรุงผิวและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือดื่มด่ำกับการทำสปาทรีทเมนต์ด้วยผลิดภัณฑ์จากทะเลเดดซี อิสระให้ทุกท่านได้พักผ่อนหย่อนใจตามอัธยาศัย (การลงเล่นน้ำในทะเลนั้นมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่าง ๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์) **กรุณาเตรียมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเพื่อลงเล่นน้ำ *

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ HOLIDAYINN DEAD SEA 4* หรือเทียบเท่า

วันที่สาม เพตรา - มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอลคาซเนท์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเพตรา มหานครศิลาทรายสีชมพูที่แกะสลักขึ้นจากภูเขาทั้งลูก สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเดดซี กับอ่าวอะกาบะ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายใต้อ้อมกอดของหุบเขาวาดี มูซา ที่สูงชันประดุจเป็นปราการอันยิ่งใหญ่ ถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำของผู้คนและสูญหายไปจากแผนที่นานนับพันปี จนกระทั้งในปี ค.ศ. 1812 เมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบเห็นและออกมาเขียนหนังสือ เล่าขานถึงความสวยงามและความมหัศจรรย์ของนครแห่งนี้ เพตราแห่งนี้จึงเริ่มปรากฏแก่สายตาชาวโลกอีกครั้งและในปี ค.ศ.1985 องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เพตราเป็นเมืองมรดกโลก โดยกล่าวอธิบายไว้ว่า "เป็นหนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ" (one of the most precious cultural properties of man's cultural heritage) และยังได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านขี่ม้า (รวมค่าบริการและค่าทิปให้แก่เคนจูงม้าเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รวมค่าขี่ลา, ขี่อูฐ, รถม้าลาก ฯลฯ สนในกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์ และบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกกรณี หากท่านใดสละสิทธิ์ในการรวมกิจกรรมนี้)ให้ท่านนั่งม้าลัดเลาะไปตามพื้นหินและทรายกว่า 600 เมตร มุ่งหน้าไปในเส้นทางมหัศจรรย์ที่ทางเข้าออกของเมืองเพตรา พร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่งที่มีรูปร่างหน้าตาต่างกันออกไป จากนั้นเดินเท้าเข้าสู่เมืองบริเวณซอกเขาเรียกว่าซิค SIQ เป็นหุบเขาสูงกว่า 250 ฟุต ที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการกัดเซาะของน้าเมื่อหลายล้านปีก่อนจนเกิดเป็นช่องทางเดินเล็ก ๆ ระหว่างหุบเขา ชมสีสันความสวยงามของหินสีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ และยังมีภาพศิลปะแกะสลักจากภูเขา อาทิ รูปปั้นแกะสลักต่าง ๆ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าต่าง ๆ รูปกองคาราวานอูฐ, รูปชาวนาบาเทียน, ท่อส่งลำเลียงน้ำเข้าสู่เมือง ฯลฯ เข้าเขตหน้าผาสูงชั้นสองข้างทางสู่มหานครแห่งศิลาทรายสีชมพู ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (Al-Khazneh) ที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่องอินเดียน่า โจนส์ ภาค 3 ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า และ หนังฟอร์มยักษ์อย่าง ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ภาค 2 สถานที่แห่งนี้ถูกสันนิษฐานว่า สร้างในราวศตวรรษที่ 1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้น มหาวิหารถูกแกะสลักจากภูเขาสีชมพูทั้งลูก อย่างกลมกลืนได้สัดส่วนและสวยงามน่าอัศจรรย์ เป็นอาคารสองชั้น ชมโรงละครโรมันโบราณ (Roman Theatre) ที่แกะสลักจากภูเขา โดยมีแนบราบของที่นั่งเท่ากันและมีความสมดุลได้อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานว่าเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเธียน ต่อมาในสมัยที่โรมันเข้ามาปกครองได้สร้างต่อเติม มีที่นั่ง 32 แถว สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 3,000 คน อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ P4 QUATRO 4*หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ ปราสาทครูเสดโชบัค - อัมมาน - ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน - วิหารเฮอร์คิวลิส

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านสู่ SHOUBAK ปราสาทครูเสดโชบัค หรือที่รู้จักกันในพวกนักรบครูเสดชื่อ มอนทรีลแห่งตะวันออก (MONTREAL) สร้างขึ้นโดยกษัตร์บอลด์วินที่ 1 แห่งเยรูซาเลม ในปี ค.ศ. 1115 เพื่อใช้เป็นป้อมปราการควบคุมเส้นทางกองคาราวานที่จะเดินทางจากดามัสกัสไปอิยิปต์ ในอดีตเมืองแห่งนี้มีชาวคริสต์อาศัยอยู่ ราว 6,000 คน และในปี ค.ศ. 1189 ได้ถูกทาลายลงโดยนักรบมุสลิมภายใต้การนาทัพของ ซาลาดิน (SALADIN) บริเวณข้างล่าง หรือเขาข้างปราสาทโชบัค ท่านสามารถมองเห็นบ้านช่อง สภาพการอยู่ภายในถ้ำหลงเหลืออยู่

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองอัมมาน (Amman) เมืองหลวงของประเทศจอร์แดน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันซับซ้อนสะท้อนให้เห็นในความหลากหลายของประชากรและสถาปัตยกรรมหลากรูปแบบโบสถ์และมัสยิดต่างๆ ทำให้รู้ว่าเมืองแห่งนี้ประกอบไปด้วยประชากรหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม แม้ในท่ามกลางศูนย์การค้าสมัยใหม่ของเมือง ท่านจะได้สัมผัสรากเหง้าของวัฒนธรรมอันเก่าแก่ในตลาดโบราณที่มีสีสัน ซากปรักหักพังตั้งแต่ยุคโรมัน พิพิธภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและอนุสาวรีย์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของเมือง ชม โรงละครโรมัน อายุกว่า 2,000 ปี ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของนครอัมมาน แต่ปัจจุบันก็ยังทำให้ผู้ที่พบเห็นได้ทึ่งกับการวางแผนทางด้านงานวิศวกรรมของโรมัน อันชาญฉลาดและมีดีไซน์ที่น่าจดจำ โรงละครโรมันแห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมากที่สุดในอัมมาน โรงละคร มีความลาดเอียงลึกลงไป เอื้อให้เสียงที่ได้ยินรอบตัวนั้นมีคุณภาพเยี่ยม การออกแบบสุดสร้างสรรค์นี้สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 6,000 คน สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 สมัยการปกครองของ แอนโทนิอุส ปิซุส (Antoninus Pius) ชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel) บนยอดเขาสูงสุดในกรุงอัมมาน ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้านการเมืองต่าง ๆ รอบเมือง แม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพังแต่ยังสวยงามและมีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยยุคหิน เผยให้เห็นอิทธิพลด้านสถาปัตยกรรมที่มาจากยุคเหล็ก รวมถึงยุคโรมัน ยุคไบแซนไทน์และยุคอุมัยยะฮ์

จากนั้นนำท่านชม วิหารเฮอร์คิวลิส (Temple of Hercules) ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.162-166 วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าวิหารที่อยู่ในโรมโบราณเสียอีก เดินผ่านทางเข้าที่เป็นแนวเสาระเบียง ไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ข้างใน จากนั้นเคลื่อนตัวไปที่หินขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณปลายหน้าผา ตรงนี้จะเป็นจุดชมวิวพาโนรามาอันสวยงามของเมือง ใกล้กันนั้นมีมือรูปกำปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนเผยให้เห็นความขาวโพลนจนแทบไม่มีเลือด ผ่านชม พระราชวังของพระมหากษัตริย์อับดลุลาห์ที่สอง (Raghadan Palace) ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามที่สุดในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูแลตรวจตราอย่างเข้มงวด

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ OLIVE TREE HOTEL 4*หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า อัมมาน - ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงไคโร ประเทศอียิปต์

08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอัมมาน

10.00 น. เหินฟ้าสู่กรุงไคโร โดยสายการบิน Egypt airlines  Qที่ยวบินที่ MS720

10.25 น. ถึงสนามบินนานาชาติกรุงไคโร ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระในการเดินทางเรียบร้อยแล้ว

นำท่านชมThe Egyptian Museum พิพิธภัณฑ์อียิปต์เป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีที่เก่าแก่ที่สุดในตะวันออกกลาง และเป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุฟาโรห์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึง 120,000 ชิ้น ก่อตั้งขึ้นโดย ออกุสต์ มาริเอตต์ นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของอียิปต์ ที่เก็บสะสมสมบัติของฟาโรห์ ศิลปวัตถุ และโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่ปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ เปิดโอกาสให้เข้าชม และศึกษาตำนานบทหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย

นำท่านเดินชมบรรยายกาศ Downtown Cairo เป็นหัวใจทางการค้าของเมืองไคโรที่ทันสมัยตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงซึ่งได้ให้ความสำคัญของการวางผังเมืองสไตล์ยุโรปในกรุงไคโร ปัจจุบันยังคงคึกคักไปด้วยร้านค้า เช่น ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านกาแฟ อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับและเดินเล่นตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่ที่พัก ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ MAMLOUK PYRAMIDS HOTEL 4* หรือเทียบเท่า

วันที่หก มหาพีระมิดกีซา – ซัคคาร่า - Al-Azhar Park

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านชมยิ่งใหญ่ของมหาพีระมิดกีซาหรือ The Great Pyramid of Giza อายุกว่า 5,000 ปี ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมศพของพระศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ หรือ ฟาโรห์ พีระมิดของฟาโรห์ในยุคราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งประกอบไปด้วยพีระมิดของฟาโรห์คูฟู (Khufu) คาเฟร (Khafre) และเมนคาอูเร (Menkaure) ซึ่งพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดก็คือของฟาโรห์คูฟู ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเองเมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ 25,800 ปี นับอายุจนถึงปัจจุบันก็กว่า 4,500 ปี ถือเป็นปิรามิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 20 ปีก่อสร้างด้วยหินปูนมากว่า 2.5 ล้านก้อน โดยแต่ละก้อนมีน้ำหนัก 2 ถึง 70 ตัน และกำลังแรงงานกว่าแสนคนตัดจากแท่งหินขนาดใหญ่มาก หินแต่ละก้อนวางชิดติดกันแบบแนบสนิทมาก แม้แต่กระดาษก็สอดไม่ผ่าน  นำท่านชม สฟิงซ์ ซึ่งแกะสลักจากเนินหินธรรมชาติมีส่วนหัวเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์และลำตัวเป็นสิงโต สฟิงซ์ ( Sphinx ) ซึ่งแกะสลักด้วยหินก้อนใหญ่เป็นรูปสิงโตหมอบ แต่ศีรษะเป็นมนุษย์ส่วนใบหน้านี้เป็น ใบหน้าของพระเจ้าคีเฟรน ซึ่งได้รับการนับถือพระเจ้าแห่งพระอาทิตย์ สฟิงซ์นี้สูงถึง 18 เมตร ยาว 73 เมตร อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ **(กรณีท่านใดสนใจขี่อูฐกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์ ราคา ประมาณ $ 20 เหรียญต่อท่านต่อหนึ่งตัว)**

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (บุฟเฟ่ต์)

นำท่านเดินทางสู่เมืองซัคคาร่า ชมพีรามิดขั้นบันไดเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานโบราณของเชื้อพระวงศ์สมัยอียิปต์โบราณเป็นเดิมเมืองหลวงของราชอาณาจักรอียิปต์โบราณ ในบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของพีระมิดจำนวนหลายหลัง รวมถึงพีระมิดขั้นบันไดของฟาโรห์ดโจเซอร์ (Step Tomb) สร้างด้วยหินที่สมบูรณ์ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พีระมิดแห่งโจเซอร์ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ที่สามแห่งอียิปต์ ซึ่งต่อมาพีรามิดนี้ได้เป็นต้นแบบพีรามิดในยุคต่อมา และบริเวณนี้ยังเป็นสุสานฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณจำนวนอีกสิบหกพระองค์ รวมถึงเจ้าพนักงานระดับสูงในสมัยโบราณได้สร้างอนุสาวรีย์พิธีศพส่วนตัวในสุสานแห่งนี้ตลอดช่วงสมัยการปกครองของฟาโรห์ และยังใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนามานานกว่า 3,000 ปี ทั้งในสมัยปโตเลมีและโรมัน พีรามิดแห่งนี้เป็นต้นแบบของพีรามิดในยุคต่อมา อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่ Al-Azhar Park เป็นอุทยานสวนสาธารณะที่ยิ่งใหญ่1 ใน16 พื้นที่สาธารณะที่ยิ่งใหญ่ของโลก ตั้งอยู่บนเนินเขาที่รายล้อมไปด้วยย่านประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของกรุงไคโร สร้างโดย Aga Khan IV เพื่ออุทิศให้เป็นโอเอซิสแห่งกรุงไคไร อิสระให้ท่านเดินเล่นชมทัศนียภาพและชมวิวพาโนรามา 360 องศาของกรุงไคโร และสัมผัสบรรยากาศความงามของอุทยานแห่งนี้พร้อมกับชมวิถีชีวิตการพักผ่อนของคนท้องถิ่น

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ( Seafood Menu )

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ MAMLOUK PYRAMIDS HOTEL 4* หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด อเล็กซานเดรีย - ป้อมปราการซิทาเดล - Abu Al - Abbas Al-Mursi

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอเล็กซานเดรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เดิมทีเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่าราคอนดาห์ เมื่อ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล จนเมื่อ 332 ปี ก่อนคริสตกาลหรือประมาณ 2,300 กว่าปีก่อนพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชมาพบ จึงให้มีการปรับปรุงขยายเมืองเพื่อเป็นเมืองหลวงและตั้งชื่อให้คล้องจองกับชื่อของพระองค์ เมืองอเล็กซานเดรียนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญในตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของราชินีเลอโฉมชื่อก้องโลก พระนางคลีโอพัตรา และนายทหารโรมัน มาร์ค แอนโทนี และปัจจุบันเมืองนี้ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก นำท่านเข้าชมป้อมปราการซิทาเดล Citadel of Qaitbay เดิมเป็นป้อมปราการป้องกันสมัยศตวรรษที่ 15 สร้างขึ้นในปี 1477 ถึง 1479 โดย Sultan Al-Ashraf Sayf al-Din Qa'it Bay ป้อมปราการตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของปลายด้านเหนือของเกาะฟารอสที่ปากอ่าวตะวันออก ถือเป็นป้อมปราการป้องกันที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Fish Market restaurant

ชมAbu Al-Abbas Al-Mursi มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในอเล็กซานเดรียและสวยที่สุดในอียิปต์ และเป็นมัสยิดที่สำคัญและงดงามที่สุดในอเล็กซานเดรียด้วยการออกแบบสไตล์อาหรับอย่างสวยงาม ตกแต่งซุ้มสีครีม แนวเสาของซุ้มโค้งยาวทำจากหินแกรนิตและพื้นทำด้วยหินอ่อนที่สวยงาม ด้านบนเป็นโดมขนาดใหญ่สี่หลัง และหอคอยสูงสุเหร่า สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2318 เพื่อรำลึกถึงชีวิตชีคอันดาลูเซียซึ่งถูกฝังอยู่ในสถานที่นี้ เป็นหนึ่งในมัสยิดที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุด

อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับไคโร

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ MAMLOUK PYRAMIDS HOTEL 4* หรือเทียบเท่า

วันที่แปด Mainyal Palace - Salah EL Din Citadel & Mohamed Ali Mosque - รถไฟตู้นอน - Aswan

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ชม Mainyal Palace พิพิธภัณฑ์พระราชวังของเจ้าชายมูฮัมหมัดอาลีเป็นพระราชวังในสมัยราชวงศ์อลาวียาตั้งอยู่บนเกาะ Rhoda บนแม่น้ำไนล์ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่สวยงามและสำคัญที่สุดในอียิปต์ โดดเด่นด้วยการออกแบบทางสถาปัตยกรรมสไตล์อิสลามสมัยใหม่ผสมผสานกับเปอร์เซียและมัมลุก นอกจากนี้ยังออกแบบตกแต่งลวดลายด้วยของซีเรีย โมร็อกโก และอันดาลูเซีย รวมถึงออตโตมัน อาคารจึงมีกลมกลืนระหว่างประเพณีสถาปัตยกรรมอิสลามอย่างงดงามและลงตัว ด้านนอกแยกเป็นอาคารส่วนต้อนรับ หอนาฬิกา ซาบิล มัสยิด พิพิธภัณฑ์ล่าสัตว์ ห้องนั่งเล่น โถงบัลลังก์ พิพิธภัณฑ์ส่วนตัว และห้องโถงสีทอง ที่รายล้อมความร่มรื่นของสวนสไตล์เปอร์เซียและสวนสไตล์อังกฤษสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของเจ้าชายและรัชทายาทแห่งอียิปต์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านชม Salah EL Din Citadel & Mohamed Ali Mosque ป้อมปราการแห่งไคโร หรือ ป้อมปราการแห่งศอลาฮุดดีน เป็นป้อมปราการสมัยอิสลามในยุคกลางในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ สร้างโดย Salah ad-Din (Saladin) และเป็นที่ตั้งของรัฐบาลในอียิปต์และเป็นที่พำนักของผู้ปกครองมาเกือบ 700 ปีตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ถึงศตวรรษที่ 19 สถานที่ตั้งบนแหลมของเนินเขา Mokattam ใกล้ใจกลางกรุงไคโรมีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ที่มองเห็นเมืองและเหนือเส้นขอบฟ้า ในปี 2519 ได้รับการประกาศโดยยูเนสโกให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกไคโรแห่งประวัติศาสตร์ (อิสลาม) ชมมัสยิดใหญ่ของ Muhammad Ali Pasha หรือ Alabaster Mosque เป็นมัสยิดที่ตั้งอยู่ใน Citadel of Cairo ในอียิปต์ สร้างโดย Muhammad Ali Pasha ระหว่างปี 1830 ถึง 1848 เป็นมัสยิดออตโตมันตั้งอยู่บนยอดของป้อมปราการ ซึ่งเป็นมัสยิดที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดในไคโร

จากนั้นนำท่านชมศูนย์กลางการทำ กระดาษปาปีรุส ซึ่งเป็นกระดาษชนิดแรกของโลกทำจาก ต้นกก (Papyrus) ใช้บันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้าและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในสมัยอียิปต์โบราณ ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่นำคณะเดินทางสู่ สถานีรถไฟ เดินทางเมืองAswan (รถไฟตู้นอน)

เย็น รับประทานอาหารค่ำบนรถไฟ (Dinner Box)

วันที่เก้า วิหารฟิเล - ล่องเรือสำราญแม่น้ำไนล์

เช้า บริการอาหารเช้าบนรถไฟ (Breakfast Box)

09.30 น. เดินทางถึงเมืองAswan

นำท่านชมวิหารฟิเล (Philae Temple)หรือวิหารไอซิส เป็นวิหารงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอียิปต์ ตั้งอยู่บนเกาะ Aglika เป็นเกาะที่เงียบสงบสร้างเพื่ออุทิศให้เทพธิดาแห่งความรัก ชมเสาหินโอเบลิสก์แกะสลักจากหน้าผาซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ (The Unfinished Obelisk) เป็นแท่งหินมหึมาที่สกัดเกือบเสร็จแล้ว แต่มีรอยราวจึงทิ้งค้างไว้เช่นนั้น แท่งหินนี้เป็นของพระนางฮัทเชปซุท หากไม่แตกร้าวจะเป็นเสาโอเบลิสก์ที่สูง 41 เมตร หนัก 1,200 ตัน เสาโอเบลิสก์นี้เป็นอนุสาวรีย์ชนิดหนึ่งของอียิปต์โบราณสร้างเพื่อบูชาแด่เทพอามุน-ราหรือสุริยะเทพ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเช็คอิน เรือสำราญแม่น้ำไนล์

เที่ยง รับประทานอาหารบนเรือสำราญ (บุพเฟ่ต์ )

16.00น. ท่านใดสนใจล่องเรือล่องเรือเฟลุกะ (เรือใบอียิปต์)และชมหมู่บ้าน Nubian Village ติดต่อสอบถาม

หัวหน้าทัวร์

ค่ำ รับประทานอาหารบนเรือสำราญ (บุพเฟ่ต์ ) อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญตามอัธยาศัย พร้อมชมการโชว์

และการแสดง

วันที่สิบ อาบูซิมเบล - คอมออมโบ

เช้า (Breakfast Box)

05.00 น. ออกเดินทางสู่ มหาวิหารอาบูซิมเบล (ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัส 3 ชม)

08.30 น. นำท่านชมความยิ่งใหญ่มหาวิหารอาบูซิมเบล ซึ่งประกอบด้วยวิหารใหญ่ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 และวิหารของเนเฟอร์ตารีซึ่งเป็นมเหสีที่รักของพระองค์ วิหารอาบูซิมเบลงดงามยิ่งใหญ่และมีชื่อก้องโลกเพราะเมื่อมีการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ที่อัสวาน ทำให้วิหาร 17 แห่งจมอยู่ใต้น้ำจนองค์การยูเนสโก้ต้องมาช่วยยกให้และมหาวิหารอาบูซิมเบลก็ถูกยกขึ้นสูงจากพื้นดิน 65 เมตร ซึ่งเป็นงานที่ยากมากใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี สิ้นค่าใช้จ่าย 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในวิหารใหญ่มีห้องบูชาและมีรูปสลัก 4 องค์นั่งอยู่ หนึ่งในนั้นคือ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 พร้อมด้วยเทพเจ้าต่างๆ อีก 3 องค์ และทุกปี วันที่ 22 ก.พ. และวันที่ 22 ต.ค. ลำแสงแรกของพระอาทิตย์จะสาดส่องเข้าไปต้องรูปสลัก และว่ากันว่าวันที่ 22 ก.พ. ตรงกับวันประสูติของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ขณะที่วันที่ 22 ต.ค. ตรงกับวันขึ้นครองราชย์ของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความเจริญทางวิทยาการทางการคำนวณของชาวอียิปต์โบราณ อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เรือสำราญ

เที่ยง บริการอาหารกลางวันบนเรือสำราญ (บุพเฟ่ต์ )พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ

ขณะที่เรือล่องไปเมืองคอมออมโบ (KomOmbo) ชุมชนที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำไนล์ บ้านเรือนส่วนใหญ่สูงเพียง 1 หรือ 2 ชั้น ระหว่างทางผ่านแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญริมแม่น้ำ นำท่านชม วิหารคอม-ออม-โบ ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่ล้ำออกมาถึงแม่น้ำไนล์ สามารถเห็นวิวของแม่น้ำไนล์อันงดงาม คำว่า “คอม” เป็นภาษาอาหรับ หมายถึงภูเขาเล็กๆ วิหารนี้เกือบเป็นวิหารอะโครโพลิสของกรีก หินที่ใช้สร้างแตกต่างกับวิหารอื่นๆ อาจเป็นเพราะถูกปกคลุมด้วยทรายเป็นเวลานาน การวางแบบของพื้นที่แปลกและเป็นเฉพาะตัว เป็นวิหารของเทพเจ้าสององค์ คือ เทพโซเบค (Sobek) เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีรูปร่างเป็นมนุษย์แต่เศียรเป็นจระเข้ และ เทพเจ้าฮาโรเอริส (Haroeris) เทพเจ้าแห่งการแพทย์อียิปต์โบราณ วิหารนี้สร้างบนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำไนล์ เป็นบริเวณที่มีจระเข้ ชุกชุมในสมัยโบราณ วัดนี้จึงบูชาเทพโซเบก ซึ่งมีหัวเป็นจระเข้ และมีจระเข้มัมมี่เก็บรักษาไว้ ชมภาพแกะสลักพระนางคลีโอพัตรา ซึ่งเป็นรูปแบบของเครื่องแต่งกายในการทำภาพยนตร์ และภาพแกะสลักที่สำคัญ คือ ภาพแกะสลักการแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะภาพการคลอดลูกของหญิงอียิปต์โบราณ และปฏิทินโบราณ มีร้านค้ามากมายตั้งอยู่ตลอดแนวท่าเรือ ขายเสื้อผ้าและสินค้าพื้นเมือง

ค่ำ รับประทานอาหารบนเรือสำราญ (บุพเฟ่ต์) พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ พร้อมชมการโชว์และการแสดง ขณะที่เรือแล่นมุ่งหน้าสูเมืองเอ็ดฟู

วันที่สิบเอ็ด เอ็ดฟู - วิหารลักซอร์

06.00น. นำท่านนั่งรถม้าสู่วิหารเอ็ดฟู ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด ตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส (Horus) มีเศียรเป็นเหยี่ยวเป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ มองได้ไกลเหมือนตาเหยี่ยว อดีตวิหารถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบถึงยอดตัวเสาและหัวเสาเป็นเวลานานหลาย ปี ค.ศ. 1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังแข็งแรง แน่นหนา ขนาดของวิหารยาว 137 เมตร มีเสาใหญ่แบบไพรอนที่วัดได้ 79 เมตรตรงด้านหน้าและสูง 36 ม. วิหารนี้มีขนาดใหญ่และสวยงาม อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจได้เวลา อันสมควรแก่นำท่านนั่งรถม้ากลับเรือสำราญ

08.00 น รับประทานอาหารเช้าบนเรือสำราญ (บุพเฟ่ต์ )พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ ขณะที่เรือแล่นมุ่งหน้าสูเมืองลักซอร์

เที่ยง บริการอาหารกลางวันบนเรือสำราญ (บุพเฟ่ต์ )

17.00น. เรือเทียบท่าเมืองลักซอร์

นำท่านชมวิหารลักซอร์ (The Temple of Luxor) ซึ่งสร้างถวายแก่เทพอมอนรา กษัตริย์แห่งเทพ เช่นกัน วิหารแห่งนี้ได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 1883 ภายในบริเวณวิหารประกอบด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่และรูปสลักหินแกรนิตขนาดมหึมาสลักเป็นรูปฟาโรห์รามเซสที่ 2 และมหาราชินีเนเฟอตารี ชมเสาโอบิลิสก์ เสาหินแกรนิตขนาดใหญ่ซึ่งแกะสลักด้วยอักษรอียิปต์โบราณ(เฮโรกริฟฟิค) เพื่อสรรเสริญเทพเจ้าอมอนรา ซึ่งท่านอาจจะได้เห็นเสาเช่นนี้อีกที่ ปลาซเดอลาทริออง (Place de la Triamph) เมืองปารีสประเทศฝรั่งเศส ภาพสลักที่วิหารแห่งนี้ก็ถือได้ว่าน่าสนใจไม่น้อย เช่น ภาพขบวนนักรบเดินแถว ที่สลักอย่างแตกต่างกันว่าเป็นนักรบชนชาติใดบ้าง เห็นแล้วก็ชวนให้นึกถึงภาพสลักขบวนนักรบที่ปราสาทหินในเขมร (ที่ว่าของกลุ่มเสียมสยาม จะเดินแตกแถวกัน) นอกจากนั้น ด้านหน้าวิหารจะมีถนนสฟิงซ์หน้าแพะ (Sphinx Avenue) ยาว 3 กิโลเมตรใช้เป็นทางเชื่อมระหว่างวิหารลักซอร์กับวิหารคาร์นัค

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ บนเรือ(บุพเฟ่ต์ ) พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญพร้อมชมการโชว์และการแสดง

วันที่สิบสอง Valley of the Kings -วิหารฮัคเชฟซุต - Colossi of Memnon - มหาวิหารคาร์นัค - บินภายใน - ไคโร

05.00 น สำหรับท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ หมายเหตุ ท่านใดสนใจติดต่อสอบถามหัวหน้าทัวร์

เช้า รับประทานอาหารเช้าบนเรือสำราญ (บุพเฟ่ต์ ) เช็คเอาท์เรือสำราญ

08.00น. นำสู่ทางเดินทางสู่ หุบผากษัตริย์(Valley of the Kings) เป็นที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 63 พระองค์ ตั้งอยู่ที่เทือกเขาทีบัน อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ (West Bank) หรือ นครธีบส์ในสมัยอียิปต์โบราณ อดีตเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของคนตาย หรือ นครของผู้วายชนม์ (Necropolis of Thebes) เต็มไปด้วยกลุ่มโบราณสถานที่มีประวัติน่าพิศวง ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ท่านสามารถเลือกเข้าชมได้เพียง 3 สุสาน ด้านหน้าทางเข้าสุสานฟาโรห์บนยอดเขานั้นดูคล้ายปลายแหลมยอดปิรามิด เป็นการเลือกหวงซุ้ยในการฝั่งศพ ให้คล้ายว่าฝังอยู่ใต้ปิรามิด สุสานเหล่านี้เป็นสุสานที่ถูกเลือกให้เป็นสุสานที่เก็บ มัมมี่และสมบัติของกษัตริย์ถึง 63 สุสาน แต่ละสุสานมีขนาดใหญ่เล็กต่างกัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาครองราชย์ สุสานเริ่มสร้างเมื่อฟาโรห์ครองราชย์ และปิดเมื่อฟาโรห์สิ้นพระชนม์ ภายในหลุมมีจิตรกรรมที่งดงามสีสดใสราวกับเพิ่งวาดเสร็จไม่นานนี้ (หมายเหตุ:ไม่รวมค่าเข้าสุสานของฟาโรห์ตุตันคามอน ท่านละ 300 อิยิปปอนด์ ถ้าต้องการชมกรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์)

นำท่านชมวิหารฮัคเชฟซุต (Temple of QueeHatshepsut) ออกแบบโดยสถาปนิก ชื่อ “เซเนมุท” กว่า 3,500 ปีมาแล้วที่ประดิษฐานพระศพของ ฟาโรห์หญิงฮัตเชพซุต รู้จักในนาม “ราชินีหนวด” ฟาโรห์หญิงองค์เดียวในประวัติศาสตร์อียิปต์ ที่รุ่งเรืองมากในสมัยของพระองค์ ชมอนุสาวรีย์แห่งเมมนอน (Colossi of Memnon) หรือสุสานของฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ 3 อดีตเคยใช้เป็นวิหารประกอบพิธีศพของอาเมนโฮเทปที่ 3 ประมาณ 2,000 กว่าปี ก่อน เกิดเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ทำให้ตัววิหารพังลงมา เหลือเพียงรูปสลักหินทรายขนาดใหญ่ 2 รูป สูง 20 เมตร

หมายเหตุ : กรณีท่านใดสนใจเข้าชม Valley of Queen และ Nefetari Tomb ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสุสานที่สวยที่สุดใน

อียิปต์ กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า 4 วันก่อนเข้าชม เนื่องจากมีการจำกัดผู้เข้าชมต่อวัน

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านชม มหาวิหารคาร์นัค (The Temple of Karnak) เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัววิหารหลังเดียวมีเนื้อที่ถึง 60 เอเคอร์ ซึ่งใหญ่พอที่จะนำโบสถ์ขนาดใหญ่ของยุโรปไปวางได้ถึง 10 หลัง มหาวิหารแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในสมัยฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 เพื่อถวายแด่เทพอมอน-รา เมื่อกว่า 3,600 ปีมาแล้ว หลังจากนั้นฟาโรห์องค์ต่างๆ ก็เริ่มสร้างเพิ่มเติม ทำให้วิหารมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมาก แต่เห็นความยิ่งใหญ่ของวิหารแล้ว ขอให้ทุกท่านลองจินตนาการดูว่าชาวอียิปต์โบราณใช้วิธีใดในการขนย้ายเสา และหิน พร้อมทั้งการแกะสลักลวดลาย ซึ่งเมื่อท่านเห็นความสูงแล้วก็จะยิ่งทำให้นึกไม่ออกก็เป็นได้ ว่าเขาใช้วิธีทำอย่างไร อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จากนั้นนำทานสู่สนามบิน

19.45น เหินฟ้าสู่กรุงไคโร โดยสายการบิน Egyptairlines Qเที่ยวบินที่ MS069

20.55น. ถึงสนามบินนานาชาติกรุงไคโร

อาหารค่ำ Dinner box

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ  RAMSES HILTON 4* หรือเทียบเท่า

วันที่สิบสาม พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ - ตลาดข่านเอลคาลีลี - อิสตันบูล

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ เป็นสถานที่ที่รวมศิลปวัตถุโบราณมากมายที่สุด ชมมัมมี่ของพระมหากษัตริย์ทั้ง 11 พระองค์ และโลงศพทองคำแท้พร้อมหน้ากากทองคำ ของฟาโรห์ตุตันคาเมนอันดังก้องโลก และสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ อาทิเช่น เตียงบรรทม พัด ของเล่นต่าง ๆ รถศึกและเก้าอี้บรรลังก์ทองคำ ซึ่งภาพบนพนักเก้าอี้ที่โรแมนติกมากเป็นภาพของฟาโรห์ตุตันคาเมนประทับอยู่บนเก้าอี้และมีพระมเหสีของพระองค์กำลังทาน้ำมันหอมให้ ทั้งคู่ใส่รองเท้าแตะคนละข้างอันแสดงถึงความรักความเผื่อแผ่อันลึกซึ้ง นอกจากนี้ท่านยังจะได้ชมสมบัติอันล้ำค่าอื่นๆ อีกจำนวนมากเช่น แหวน สร้อยข้อมือ สร้อยคอ ฝีมือประณีต สิ่งของทั้งหมดล้วนมีอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี 

จากนั้นนำท่านชมโรงงานผลิตหัวน้ำหอม ซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่สมัย พระนางคลีโอพัตรา และที่นี้ยังเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตหัวน้ำหอมขนาดใหญ่ให้กับยี่ห้อแบรนด์เนมดัง ๆหลายยี่ห้อ ได้เวลาอันสมควร

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตคารท้องถิ่น

นำท่านสู่ “ตลาดข่านเอลคาลีลี” ตลาดสำคัญทางการค้าขายของพื้นเมืองและแหล่งสินค้าที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงไคโร ท่านสามารถเลือกซื้อของพื้นเมืองสวยๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำหอมที่ทำด้วยมือ สินค้าต่างๆ เครื่องทองรู ปพรรณและเพชรพลอยลวดลายแบบอาหรับ พรม และของที่ระลึกแบบพื้นเมือง ได้เวลอันสมควรแก่เวลานำคณะเดินทางสู่ สนามบิน กรุงไคโร (อิสระอาหารค่ำ)

20.45 น. เดินทางสู่ อิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK695

วันที่สิบสี่ อิสตันบูล - กรุงเทพ

01.45 น. เดินทางสู่ กรุงเทพ โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 68

15.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดีภาพและความประทับใจ 

****หมายเหตุ รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก****

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP