Spectacular Persia Yazd (WED) 10 วัน 8 คืน

ออกเดินทางทุกวันพุธ บินภายในประเทศ 2 เที่ยว

พร้อมบริการ On Board to On Ground ท่องเที่ยวแบบ VIP

** รายละเอียดการเดินทาง **

DAY 1 : สนามบินสุวรรณภูมิ-กรุงเตหะราน

18.00 น. ท่านผู้โดยสารโปรดทราบขอ ให้ทุกท่านรวมตัวกันที่

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ณ จุด ๆ นี้

พวกเราชาว จะคอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกทางด้านเอกสารการเดินทาง และ

สัมภาระการเดินทางของท่านให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง

21.30 น. ขณะนี้เราพร้อมแล้ว ที่จะพาทุกท่านสู่ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน

โดย Mahan Air เที่ยวบินที่ W5 050

DAY 2 : กรุงเตหะราน

01:15 น. ถึงแล้ว...ท่าอากาศยานกรุงเตหะราน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากรเรียบร้อย

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ โรงแรม Espinas Hotel หรือเทียบเท่า มาตรฐานประเทศอิหร่าน 5 ดาว

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้วให้ทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยเพื่อเตรียมพร้อมในการท่องเที่ยวช่วงบ่าย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านไปชม พระราชวังเนียวาราน Niavaran Palace ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเตหะราน

สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์คาจาร์ Qajar Dynasty สร้างในสวนที่มีความสวยงาม บนเนื้อที่กว่า 11 เฮกเตอร์ ภายในบริเวณประกอบด้วยสถานที่สำคัญ 5 แห่ง ได้แก่ Niavaran Private Palace, Ahmad Shahi Pavilion, Sahebqarnieh Palace, Jahan Nama Museum และ Private Library ช่วงต้นสมัยราชวงศ์คาจาร์ ใช้พระราชวังแห่งนี้ในการประทับช่วงฤดูร้อน ภายหลังการปฏิวัติที่นี่ก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งต่อที่ Tajrish Bazaar ตลาดกลางใจกรุงเตหะราน

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ โรงแรม Espinas Hotel หรือเทียบเท่า 5 ดาว

DAY 3 : กรุงเตหะราน-เมืองชีราซ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

ท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบิน เมห์ราบัด สนามบินสำหรับเดินทางภายในประเทศ ออกเดินทางไป เมืองชีราซ โดยสายการบิน Mahan Air เที่ยวบินที่ W5-1089 (09.00 – 10.40) เป็นหนึ่งในเมืองโบราณของเปอร์เซียที่มีความเก่าแก่มากกว่า 4,000 ปี ปัจจุบันเมืองชีราซเป็นที่รู้จักว่าเป็นเมืองของกวีเอกของโลก อย่าง ฮาเฟซ (Hafez) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารอาหาร

นำท่านไปชม อนุสรณ์สถานท่านฮาเฟซ (Mausoleum of Hafez) ซึ่งมีชื่อเต็มว่า ซัมซุดดิน มูฮัมหมัด ฮาเฟซ เป็นกวีเอกที่มีชื่อเสียง เกิดที่เมืองชีราซเมื่อปี ค.ศ.1324 และเสียชีวิตเมื่อปีค.ศ. 1391 ฮาเฟซมีความสามารถในการแต่งบทกวีที่ได้ความไพเราะ ที่เข้าใจวิถีชีวิตของผู้คน และแต่งกวีที่ใช้คำง่ายๆขึ้นมาให้เป็น

คติสอนคนให้เป็นคนดีอนุสรณ์สถานที่ฝังศพของนักกวีที่ยิ่งใหญ่ที่สร้างได้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปีค.ศ.1936-1938 เพื่อให้เป็นที่รำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน นำท่านไปถ่ายภาพด้านนอก ป้อมคาริม ข่าน (Karim Khan Fort) ที่คาริม ข่านได้สั่งให้สร้างที่พักอาศัย และเป็นศูนย์กลางการบริหารงานขึ้นที่ใจกลางเมือง ที่พักอาศัยนี้ถูกออกแบบมีลักษณะเหมือนป้อม มีพื้นที่ประมาณ 12,800 ตรม. มีกำแพงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน ภายในยังตกแต่งด้วยต้นไม้เพื่อให้มีความร่มรื่น

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

พักค้างคืน ณ โรงแรม Shiraz Grand Hotel หรือเทียบเท่า 5 ดาว

DAY 4 : เมืองชีราซ-เมืองยาซ์ด

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

นำทุกท่านไปเยี่ยมชม สุเหร่าสีชมพู Pink Mosque หรือ Nasir Al Molk Mosque เป็นสุเหร่าที่สำคัญที่สุดของอิหร่านตอนใต้ ได้ชื่อว่าเป็นสุเหร่าที่สวยมาก สร้างสรรค์โดย มีร์ซา ฮาซาน อลี นาซีร์ อัล มอล์ค ในปี ค.ศ. 1876 และเสร็จในปี ค.ศ. 1887 ซึ่งมี ฮัจญ์ โมฮัมหมัด ฮาสซาน เป็นสถาปนิกออกแบบ และ มีร์ซา เรซา เป็นผู้ตกแต่งพวกกระเบื้องต่าง ๆ จากนั้นนำท่านออกเดินทางเพื่อไปยัง เมืองโบราณเปอร์เซโปลิส Persepolis มหานครที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเปอร์เซีย ตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ สร้างโดยกษัตริย์ดาริอุสมหาราช ประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงรัชสมัยของดาริอุสที่ 3 มหานครแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงต่อเติมมาตลอดระยะเวลา 150 ปี ลักษณะเป็นป้อมปราการ และมีศูนย์กลางที่ประกอบไปด้วยพระราชวังต่าง ๆ รวมถึงห้องโถงใหญ่ ซึ่งเป็นที่เก็บทรัพย์สมบัติ และสิ่งของมีค่า ในปี ค.ศ. 331 ก่อนคริสตกาล มหานครแห่งนี้ก็ถูกกองทัพของอเล็กซานเดอร์ มหาราช บุกเข้าทำลายเผาผลาญจนพินาศ ร่องรอยความงดงามของสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่

โอฬารตระการตา ที่บ่งบอกถึงเรื่องราวและสัญลักษณ์ต่าง ๆ อีกมากมาย จากนั้น นำท่านไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสุสานที่ฝังศพของกษัตริย์ สุสาน 4 กษัตริย์ Naqsh-e Rostam เป็นสุสานของกษัตริย์แห่งราชวงศ์ Achamanid ตั้งแต่ยุคสมัยของพระเจ้าดาริอุสที่ 1

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารอาหาร

นำทุกท่านออกเดินทางไปยัง เมืองยาดซ์ ( ระยะทาง 377 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4.30 ชม.) ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็น เส้นทางสายไหม (Silk Road) ในช่วง ค.ศ. 1272 มีศูนย์กลางการค้าแพรพรรณ ผ้าไหม ผ้าทอมือ และพรม ซึ่งมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

พักค้างคืน ณ โรงแรม Dad Hotel หรือเทียบเท่า 5 ดาว

DAY 5 : เมืองยาซ์ด

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

นำทุกท่านไปเยี่ยมชม Jame’s Mosque สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดย กษัตริย์ของราชวงศ์ อัล อี บูเยห์ และได้ถูกขยาย ได้ใหญ่ขึ้ นในปี ค.ศ.1324-1365 มีเสามินาเรท์คู่ของสุเหร่าที่สูงที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่น

ในอิหร่าน ภายในตกแต่งสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมของเปอร์เซีย สถานที่แห่งนี้ ยังคงถูกใช้ประกอบ

พิธีมาจนทุกวันนี้

จากนั้นนำท่านไปชม อนุสรณ์สถาน อาเมียร์ เช็คห์แมก  Amir Chakhmaq Monument เป็น จัตุรัสอยู่กลางเมือง สร้างขึ้ นโดยจาดิน อัล อาเมียร์ เช็คห์แมก ในขณะที่ท่านเป็นผู้ว่าการของยาซ์ดในสมัย ของราชวงศ์ตีมูร์ สถานที่แห่งนี้ มีรูปแบบและการ ออกแบบที่เข้ากับความสวยงามซึ่งมีนํ้าพุอยู่ตรงกลาง เมื่อเวลาพลบคํ่าก็จะมีแสงสีส้มที่สวยงามที่ออกมาจาก ส่วนโค้งข้างในมัสยิด

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารอาหาร

นำทุกท่านเข้าชม Zoroastrianism Fire Temple วิหารไฟ ถือเป็นศูนย์กลางของการนับถือศาสนา โซโลอัสเตอร์ ถูกสร้างขึ้น ค.ศ. 470 วิหารแห่งนี้ถูกรักษาให้ไฟสว่างไสว อยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่การสร้างวิหารขึ้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลาหลายร้อยปี จากนั้นนำท่านไปชม Silent tower หอคอยแห่งความเงียบ ซึ่งเคยถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีศพ ตามหลักศาสนา โซโลอัสเตอร์ เพราะมีความเชื่อว่าคนที่ตายไปแล้วไม่ควรที่จะนำไปฝัง แต่ต้องนำศพมายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อให้พระทำพิธีและนำศพนั้นไปยังหอคอยเพื่อมห้นกอีแร้งได้จิกกินเนื้อจนเหลือแต่กระดูกที่สะอาด แล้วจึงนำไปฝังหรือเก็บใส่ในสุสานที่ได้จัดเตรียมไว้

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

พักค้างคืน ณ โรงแรม Dad Hotel หรือเทียบเท่า 5 ดาว

DAY 6 : เมืองยาซ์ด-เมืองอิสฟาฮาน

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

นำท่านเดินทางไปยังเมือง อิสฟาฮาน (ระยะทาง 319 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองอิสฟาฮาน ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมเปอร์เซีย เป็นไฮไลต์ของการมาเยือนอิหร่าน ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ให้ท่านได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ดื่มด่ำกับงานศิลปะ หัตกรรม อาหาร และสถาปัตยกรรมอันงดงาม

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารอาหาร

นำท่านไปยัง จัตุรัสนัค เอ ฌะฮาน Naqsh-E-Jahan จัตุรัสที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจัตุรัสเทียนอันเหมิน มีความกว้าง 165 เมตร และมีความยาวถึง 500 เมตร รวมเนื้อที่ประมาณ 80,000 กว่าตารางเมตร ใหญ่กว่าจัตุรัสแดงในกรุงมอสโคว์ถึง 2 เท่า ในอดีตเป็นสนามแข่งโปโล หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า จัตุรัสอิหม่าม Imam Square นับว่าเป็นอัญมณีแห่งโลกมุสลิมที่ผนวกรวมทั้งแนวความคิด ปรัชญา และสถาปัตยกรรมที่สวยงามเอาไว้ในที่เดียวกัน เช่น มัสยิดอิหม่าม Imam Mosque เป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1612 โดยมียอดโดมสูง 30 เมตร และมีเสามินาเรตที่มีความสูง 40 เมตร มัสยิดชีคห์ ลอทฟอลลาห์ Sheikh Lotfollah Mosque สร้างโดยชาห์ อับบาสที่ 1 เช่นเดียวกัน ซึ่งจะใช้เป็นมัสยิดส่วนพระองค์และราชวงศ์เท่านั้นโดยเฉพาะตัวโดม ซึ่งถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศ พระราชวังอาลี คาปู Ali Ghapou Palace ถูกสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 1 โดยมีการสร้างเพิ่มเติมจนมีทั้งหมด 6 ชั้น ตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมโดยช่างฝีมือชั้นยอดจิตรกรชั้นครูในสมัยนั้น พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับและรับรองแขกบ้านแขก

เมือง พร้อมกันนี้ชั้นบนสุดยังตกแต่งเป็นห้องสำหรับฟังเพลงและเล่น

ดนตรี

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

พักค้างคืน ณ โรงแรม Abbasi Hotel หรือเทียบเท่า 5 ดาว

DAY 7 : เมืองอิสฟาฮาน

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

นำท่านไปปยัง มัสยิด เสาโยก ( Shaking minarates) เป็นมัสยิดที่มองจากภายนอกอันแสนจะธรรมดา แต่ได้ซ่อนภูมิปัญญาของชาวเปอร์เซียเอาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง นั่นก็คือมัสยิดแห่งนี้สามารถยืนยงคงทนถาวรอยู่ได้ถึง 600 กว่าปี จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังเชเฮล โซตุน Chehel Sotun Palace หรือ วัง 40 เสา ซึ่งความจริงแล้วมีเสาเพียง 20 ต้นเท่านั้น อีก 20 ต้นคือเสามโนที่มองผ่านเข้ามาทางสระน้ำหน้าพระราชวังจะเป็นเงาในน้ำอีก 20 ต้น ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1657 โดยสถาปนิก ชื่อ ชีคห์ บาไฮ ล้อมรอบไปด้วยสวนเขียวชอุ่มดอกไม้ชูช่อสวยงามในฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะดอกกุหลาบที่ห้อยเป็นพวงระย้าส่งกลิ่นหอมชื่นใจพระราชวังแห่งนี้สร้างในสมัยชาฮ์ อับบาสที่ 2 แต่ได้มีการออกแบบมาตั้งแต่สมัยชาฮ์อับบาสที่ 1 เพื่อเป็นที่พักผ่อนของกษัตริย์และบรรดานางสนม ต่อมาใช้เป็นที่ต้อนรับอาคันตุกะหรือแขกเมือง มีสระน้ำขนาดใหญ่ยาว 100 เมตร กว้าง 16 เมตร อยู่ด้านหน้าชมการแกะสลักลวดลายประตู หน้าต่าง ภาพฝาผนังปูนปั้น ชมภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้ตำหนักที่บอกเล่าเรื่องราวราชสำนัก และ ประวัติศาสตร์การทำสงคราม

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารอาหาร

นำท่านออกเดินทางไปยัง ชุมชนของชาวอาร์เมเนียน ชมความสวยงามของ วิหารแวงค์ (Vank Church) ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวอาร์เมเนียนที่นับถือศาสนาคริสต์ ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1655 ในรูปแบบผสมผสานศิลปะของยุโรปและของเปอร์เซีย

นำท่านไปชม สะพานคาจู (Khaju Bridge) ซึ่งถูกสร้างได้สวยงามตามแบบที่ไม่เคยพบเห็นในที่ใดมาก่อน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1650 โดยกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 2 ที่มีความกว้าง 12 เมตร และยาวถึง 132 เมตร เพื่อสำหรับข้ามแม่น้ำซายันเดห์ ในขณะเดียวกันก็ใช้เป็นเขื่อนด้วย

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

พักค้างคืน ณ โรงแรม Abbasi Hotel หรือเทียบเท่า 5 ดาว

DAY 8 : เมืองอิสฟาฮาน-กรุงเตหะราน

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

นำทุกท่านเดินทางไปยังสนามบินเพื่อเดินทางต่อสู่ กรุงเตหะราน โดย Mahan Air เที่ยวบินที่ W5 4532

(09:30 – 10:35 ) จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังภัตตาคารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน

 เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารอาหาร

นำท่านไปชม พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับตำหนัก Sa’Ad Abad Palace ในสถานที่นี้ประกอบไปด้วย ตำหนักถึง 7 ตำหนักด้วยกัน มีเนื้อที่กว้างใหญ่ประมาณ 410 เฮกต้าร์ แต่ละที่ก็สวยงามตามท้องเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำหนักเขียวและตำหนักขาวในอดีต ตำหนักขาว White Palace เป็นที่ประทับของกษัตริย์ชาร์ ปาห์ลาวี กษัตริย์องค์สุดท้ายก่อนถูกโคไมนีปฏิวัติ และเป็นที่เก็บสะสมของมีค่ามากมาย อาทิเช่น พรมเปอร์เซียที่มีชื่อเสียง เครื่องประดับต่าง ๆ และเครื่องปั้นดินเผา และ ตำหนักเขียว Green Palace ซึ่งสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป โดยใช้หินอ่อนสีเขียว ภายในประดับด้วย สถาปัตยกรรมกระจกที่งดงามตระการตาอย่างมาก

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

พักค้างคืน ณ โรงแรม Espinas Hotel หรือเทียบเท่า 5 ดาว

DAY 9 : กรุงเตหะราน-กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

จากนั้นไปต่อกันที่ พระราชวังโกเลสตาน Golestan Palace หรือ วังสวนกุหลาบ วังที่ต้องมา เป็นวังเก่าแก่ย้อนไปตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาฟาวิด เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีร่องรอยสิ่งก่อสร้างที่หลงเหลืออยู่ คือ ป้อมสูง Citadel ที่เอาไว้สำหรับส่องดูข้าศึก และสถานอาบน้ำแบบเติร์ก ตัวอาคารเป็นแบบตะวันตก ที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนั้นมีการสร้างเพิ่มเติมเข้ามาสมัยกษัตริย์ราชวงศ์รองสุดท้ายของเปอร์เซีย คือ ราชวงศ์คาจาร์ กษัตริย์นัสเซอร์ อัล-ดิน ชาห์ ได้เสด็จเยือนยุโรปแล้วเห็นความเจริญ และความสวยงามทสถาปัตยกรรม แล้วเกิดความประทับจิตรประทับใจจึงนำศิลปะยุโรป เข้ามาผสมกับวิถีชีวิตของชาวอิหร่าน ดังเช่น ตำหนักแบบนีโอคลาสสิคของยุโรป จากนั้นให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากของที่ระลึกตามอัธาศัยที่ Tehran Bazaar

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารอาหาร

จากนั้นนำท่าน แวะถ่ายรูปกับ หอคอยมิลาด ทาวเวอร์ (Milad Tower) ซึ่งเป็นหอคอยแห่งความภาคภูมิใจของคนอิหร่านทั้งมวล เนื่องจากหอคอยแห่งนี้ออกแบบก่อสร้างโดยสถาปนิคชาวอิหร่านเองทั้งหด เป็นหอคอยที่สูงเป็นอันดับ 6 ของโลกด้วยระดับความสูงถึง 435 เมตร และออกเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อตรวจสอบเอกสาร

เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ ( บริการ Snack Box สำหรับมื้อค่ำ )

21.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสารการบิน Mahan Air เที่ยวบินที่ W5-051

DAY 10 : กรุงเทพฯ

07.25 น. เดินทางมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

คำแนะนำ : “สุภาพสตรี” กรุณาเตรียมเสื้อแขนยาวที่มีความยาวคลุมสะโพก ควรเป็นเสื้อแบบหลวมๆ ที่ไม่เน้นสรีระ และเตรียมผ้าคลุมศีรษะไปด้วย ปัจจุบันสายการบินไม่มีนโยบายแจกผ้าคลุมผมบนเครื่องบิน ลักษณะผ้าคลุมผมที่เตรียมไปอาจเป็นผืนยาวแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบผ้าพันคอที่สามารถพับเป็นสามเหลี่ยม “สุภาพบุรุษ” ใส่ชุดสุภาพ (ห้ามใส่กางเกงขาสั้น กางเกงสามส่วนหรือกางเกงชาวเล)

เอกสารวีซ่า ประเทศอิหร่าน เอกสารที่ใช้ดังนี้

1 รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว 2 รูป

2 พาสปอร์ตตัวจริง

3 สำเนาทะเบียนบ้าน

4 เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้, ในกรณีที่ท่านทำงานประจำ โปดสแกนนามบัตร