เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ไทย

 รหัส : A00132
เดินทางโดย : VAN-รถตู้ปรับอากาศ
โรงแรม :  |  จำนวนวัน : 4 วัน 2 คืน
เลทส์โก อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ คำชะโนด ถ้ำนาคา
บึงโขงหลง-ศาลปู่อือลือนาคราช-ถ้ำนาคา-เขาสามวาฬ-ภูทอก-วัดผาตากเสื้อ-SKYWALK-วัดป่าภูก้อน
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

วันแรก  ปั๊มน้ำมัน ปตท. ดินแดง-วิภาวดี (ตรงข้าม ม.หอการค้าไทย)

20.00 น. พร้อมกัน ณ ปั๊มน้ำมัน ปตท. ดินแดง-วิภาวดี (ตรงข้าม ม.หอการค้าไทย) จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ จังหวัดบึงกาฬ (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 10 ชั่วโมง 30 นาที) แหล่งที่เที่ยวทางธรรมชาติ ชมขุนเขา ชมดอกไม้ เป็นเมืองที่เหมาะกับการพักผ่อนอย่างเงียบสงบ ที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่แท้จริง

วันที่สอง บึงกาฬ - บึงโขงหลง - ศาลปู่อือลือนาคราช - ถ้ำนาคา

07.00 น. เดินทางมาถึง ณ  จังหวัดบึงกาฬ  เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนสุดของประเทศไทย  เป็นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองที่สำคัญของจังหวัดแถบลุ่มแม่น้ำโขง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ร้านอาหาร

พาท่านเดินทางสู่ นำชมและถ่ายภาพ บึงโขงหลง ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดยเฉพาะนกน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ทั้งห่านป่า นกเป็ดน้ำ นกยาง นกกระเต็น มีจุดดูนกอยู่ดอนสวรรค์ เป็นแหล่งพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ มองเห็นภูลังกาเป็นฉากหลัง จากนั้น คณะถ่ายภาพคู่กับ ศาลปู่อือลือนาคราช พญานาคผู้ถูกสาบแห่งบึงโขงหลง

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

นำท่านเดินทางไปยัง ถ้ำนาคา เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ค่ะ โดยตั้งอยู่ใกล้กับ วัดถ้ำชัยมงคล ความสวมงามของที่นี่ก็คือ รูปทรงของหินขนาดใหญ่ ที่มีรูปร่างคล้ายกับ งูยักษ์ หรือ พญานาค และทำให้ถ้ำแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ และเรื่องลึกลับ  ภายในถ้ำ จะพบกับหินที่มีรูปร่างคล้ายกับลำตัวของพญานาค ซึ่งดูๆไปจะคล้ายๆ กับเกล็ดของงูขนาดใหญ่ และปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียว ดูสวยงาม แปลกตา และก็น่าพิศวงด้วยเช่นกัน 

นอกจากนี้ ยังมีการพบหินที่มีลักษณะเหมือนเป็นส่วนหัวของงูยักษ์ในบริเวณที่ไม่ไกลกันมากจากตัวถ้ำอีกด้วย เป็นการท่องเที่ยวดูธรรมชาติที่ที่สร้างสรรค์ความแปลกตา สวยงาม และลึกลับ น่าค้นหาเป็นที่สุด เส้นทางสำหรับการเดิน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร โดยทางเดินเป็นทางเดินดินสลับกับบันได และมีบางช่วงจะต้องดึงเชือก เส้นทางเดินป่าชัดเจนมีป้ายบอกทางและมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆเพื่อแนะนำและรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ข้อแนะนำสำหรับ ถ้ำนาคา

  • ควรแต่งการให้พร้อมสำหรับเดินป่า 
  • ควรเตรียมน้ำดื่มอย่างน้อย 2 ขวด /เกลือแร่ /กระเป๋าสะพายหลัง หรือกระเป๋าที่ไม่ต้องใช้มือหิ้ว /ยาดม /ยาหม่อง  และผลิตภัณฑ์ป้องกันยุง /ถุงมือ /เสื้อกันฝนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
  • ในกรณีสำหรับผู้สูงอายุ หากร่างกายไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคไขข้อ ไม่แนะนำ
    • ห้ามนำกระดาษทิชชู่ หลอดดูดน้ำ ถุงพลาสติก กล่องโฟม ดอกไม้ธูปเทียนเครื่องเซ่นไหว้ ขึ้นเขาโดยเด็ดขาด
    • เตรียมเงิน 100 บาท เพื่อลงทะเบียนมัดจำขยะที่ด่านทางขึ้นค่ะ
    • ในกรณีที่ถ้ำนาคาประกาศปิดให้เข้าชมอันเนื่องมาจากนโยบายหรือเงื่อนไขของทางอุทยานแห่งชาติภูลังกา ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับโปรแกรมไปยัง นำท่านเดินทางไปยัง วัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก) ตั้งอยู่ในบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง จ.บึงกาฬ

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร

พักที่ THE ONE HOTEL หรือระดับเทียบเท่าเดียวกัน

วันที่สาม เขาสามวาฬ - ภูทอก - หนองคาย - วัดผาตากเสื้อ - SKYWALK - วัดโพธิ์ชัย - อุดรธานี - วัดป่าภูก้อน - ถนนคนเดินอุดรธานี

04.30 น. ตื่นเช้า ชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิวหินสามวาฬ โดยรถของชาวบ้านท้องถิ่น หินสามวาฬ มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อน มีอายุประมาณ  75 ล้านปี เมื่อมองดูจากมุมสูงในระยะไกล หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ ที่ประกอบด้วยพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ ซึ่งเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน 

พร้อมนำท่านชมพระอาทิตย์ขึ้น หากอากาศดีเราจะได้สัมผัสทะเลหมอกอย่างสวยงาม จากนั้น อิสระให้ท่านถ่ายภาพแห่งความประทับใจตามอัธยาศัย ณ จุดชมวิวผาถ้ำฤๅษี จากนั้น คณะเดินทางสู่ กำแพงภูสิงห์ นำคณะกราบนมัสการ หลวงพ่อพระสิงห์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของภูสิงห์ ณ ลานสิงห์หมอบ ซึ่งมีก้อนหินลักษณะคล้ายสิงห์กำลังหมอบอยู่ จนได้เวลาอันสมควร คณะเดินทางกลับสู่ที่พัก

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางไปยัง วัดเจติยาศรีวิหาร หรือวัดภูทอก ตั้งอยู่ในบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง จ.บึงกาฬ โดยมีพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เป็นผู้ก่อตั้ง ภูทอก ภาษาอีสานแปลว่าภูเขาที่โดดเดี่ยว ภูทอกนั้นมี 2 ลูก คือภูทอกใหญ่และภูทอกน้อยส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยสามารถชมได้คือภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวชม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูทอก 

จุดเด่นของภูทอกก็คือสะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบๆ ภูทอก โดยใช้เพียงแรงงานคนสร้างบันได เวียนไปมารอบภูทอกแบบ 360 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็มจากชั้น 1-7 จะมีบันไดไม้ให้เดินแบบ ตรงทอดยาวจนถึงจุดสูงสุดของยอดภูทอก และตั้งแต่ชั้นที่ 3 เป็นต้นไปนักท่องเที่ยวสามารถเดินชม แบบสะพานเวียนรอบเขาซึ่งจะ ได้เห็น มุมมองที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ บันไดที่ทอดขึ้นสู่ยอดภูทอกนี้เปรียบเสมือนเส้นทางธรรมที่น้อมนำสัตบุรุษให้พ้นโลกแห่งโลกียะ สู่โลกแห่งโลกุตระหรือโลกแห่งการหลุดพ้นด้วยความเพียรพยายามและมุ่งมั่น ภูทอก

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง หนองคาย (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) จากนั้นนำท่านไปยัง วัดผาตากเสื้อ และ SKYWALK เป็นวัดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มองจากบนผาลงมามองเห็นความเป็นอยู่ของชาวไทย-ลาว ภายในวัดมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สามารถเดินลัดเลาะตามหน้าผาเพื่อชมธรรมชาติและ ทิวทัศน์ที่สวยงาม

ที่วัดมีชื่อว่า “วัดผาตากเสื้อ” เป็นวัดแห่งหนึ่งที่นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแล้วยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม เนื่องจากเป็นตั้งอยู่ที่สูงบนยอดเขาสูง หากขึ้นไปบนผาจะเห็นว่ามีวิวที่สวยงามสามารถที่จะมองเห็นด้านล่างทั้งฝั่งไทย ซึ่งเป็นอำเภอสังคมและทางฝั่งลาวที่มีแม่น้ำโขงกั้นอยู่ หากไปช่วงหน้าหนาวที่ผาแห่งนี้เป็นอีกจุดหนึ่งมีทะเลหมอกด้วย ภาพวิวจะพบกับเขาต่างๆที่เกิดขึ้นสลับซับซ้อนและมีแม่น้ำสวยงาม

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

นำท่านเดินทางสู่ วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) จากเดิมชื่อ “วัดผีผิว” เนื่องจากวัดนี้เคยใช้เป็นที่เผาผีหรือเผาศพ และว่ากันว่ามีผีดุ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวัดโพธิ์ชัย ในสมัยรัตนโกสินทร์แล้วจึงยกฐานะขึ้นมาเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2524 ปัจจุบันเป็นสถานที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย ที่หล่อด้วยทองสุกอันเป็นเนื้อทองคำถึง 92 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีพระพุทธลักษณะอันงดงามอย่างมาก โดยมีตำนานที่เล่าสืบกันมาถึงประวัติของหลวงพ่อพระใสว่าสร้างขึ้นโดยพระธิดา 3 องค์ ของพระไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์แห่งล้านช้างซึ่งได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ และขนานนามพระพุทธรูปตามนามของตนเองไว้ด้วยว่า “พระสุก” ประจำพระธิดาคนโต “พระเสริม” ประจำพระธิดาคนกลาง และ “พระใส” ประจำพระธิดาคนสุดท้อง ซึ่งมีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ จังหวัดอุดรธานี และพาท่านเดินทางไปยัง วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี เป็นที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ มีต้นไม้ ลำธาร สัตว์ป่า และต้นไม้นานาชนิด วิหารของวัดป่าภูก้อน งดงาม ตระการตาแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ 

โดยพระวิหารมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ ที่มีประตูทางเข้าออกวิหาร 3 ด้าน ภายในวิหารจะถูกตกแต่งอย่างงดงามเป็นอย่างมากทีเดียว โดยจะแฝงไปด้วยเรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้า รอบๆทั่วผาผนังมีภาพพุทธประวัติและภาพทศชาติ มีการตกแต่งรูปแบบภาพปั้นนูนต่ำ หล่อด้วยทองแดง ซึ่งเป็นภาพของพระพุทธเจ้าในองค์ชาติทั้ง 10 ชาติ ด้านบนของทุกภาพจะถูกแกะสลักด้วยบทสวดอิติปิโสช่องละท่อนด้วยสีเขียวเข้มบนพื้นหินอ่อนสีขาว ถือว่าเป็นผนังวิหารที่มีเอกลักษณ์งดงามยิ่งนัก

นำท่านเพลิดเพลิน ถนนคนเดินอุดรธานี ซึ่งจะมีการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม งานหัตถกรรม งานศิลปะ สินค้าหายาก และสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น และส่วนของลานกิจกรรมมีการส่งเสริมกลุ่มนักเรียน นักศึกษาให้แสดงความสามารถทางดนตรี เปิดให้บริการวันศุกร์ และ เสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น.

  • เพื่อความเพลิดเพลินในการท่องเที่ยว ให้ท่านอิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

พักที่ BROWN HOUSE HOTEL หรือระดับเทียบเท่าเดียวกัน เป็นโรงแรมสไตล์อีสาน ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้าน   ไม้เก่าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มินิมอลลิสต์ตามวิถีการดำรงชีวิตของคนในท้องถิ่นและดั้งเดิมของชาวอีสาน

วันที่สี่ เกาะคำชะโนด - พิพิธภัณฑ์อุดรธานี - วัดโพธิสมภรณ์ - ศูนย์วัฒนธรรมไทยจีน - กรุงเทพฯ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางไปยัง เกาะคำชะโนด เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และดินแดนลี้ลับ จุดเชื่อมต่อระหว่างเมืองบาดาลและโลกมนุษย์ สถานที่แห่งนี้ปรากฏในตำนานพื้นบ้านที่เชื่อกันว่าเป็นที่สิงสถิตของพญานาคราชปู่ศรีสุทโธ และองค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี และสิ่งลี้ลับต่างๆ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจรวมศรัทธาของคนในจังหวัดอุดรธานีและอีสานตอนบน คำชะโนดมีลักษณะเป็นเกาะลอยน้ำ เมื่อเข้ามาถึงภายในพื้นที่ของคำชะโนด จะรู้สึกได้ถึงความร่มรื่น ร่มเย็น เพราะปกคลุมไปด้วยต้นชะโนดทั่วบริเวณ ให้ท่านได้กราบไหว้ศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธขอโชค ขอพร ขอลาภ ตามอัธยาศัย

คำแนะนำการสักการะบูชา

  • บริเวณด้านหน้าทางเข้าเกาะคำชะโนด มีร้านให้จำหน่ายบายศรี หรือเครื่องถวายต่างๆ จากนั้นเมื่อเดินเข้าไปยังเกาะคำชะโนดมีจุดไหว้สักการะต่างๆ ดังนี้
    • จุดที่ 1  ศาลาทำพิธีที่มีรูปปั้นของพ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา (บริเวณจุดนี้จะมีพ่อพราหมณ์คอยให้คำแนะนำในการทำพิธี)
      • สำหรับท่านใดที่ต้องการบน หรือขอพรให้พ่อปู่แม่ย่าช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ทางด้านขวาของศาลาทำพิธี จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ นอกจากนี้สำหรับท่านที่ต้องการบน และขอพรสามารถรับชุดบนได้ที่จุดให้บริการ โดยทำบุญตามกำลังทรัพย์ของท่าน 
        หมายเหตุ: ชุดบน ประกอบไปด้วย จานใส่ดอกดาวเรือง เทียน ใบเขียนคำบนหรือคำอธิษฐานของท่าน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมอบกระดาษหนึ่งใบสำหรับเก็บไว้ และรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมตัวหากคำอธิษฐานของท่านเป็นจริง
      • สำหรับท่านใดที่นำบายศรีพญานาคมาถวายให้หันหน้าของบายศรีพญานาคเข้าหาตัวเรา หลังจากกล่าวบูชาจบ พ่อพราหมณ์จะนำบายศรี ไปวางไว้ที่หน้าของพ่อปู่ และแม่ย่า แต่ท่านใดที่ประสงค์นำกลับ สามารถนำกลับได้
    • จุดที่ 2  หลังเสร็ตสิ้นพิธี จากตรงศาลาของพ่อปู่และแม่ย่าทางด้านขวาจะเป็นต้นไทรใหญ่เพื่อไปกราบไหว้พ่อปู และแม่ย่าอีกครั้งที่ต้นไทรใหญ่
    • จุดที่ 3  ศาลเจ้าตรงต้นมะเดื่อยักษ์ ต้นมะเดื่อขนาดใหญ่อายุนับ 100 ปี ที่เชื่อกันว่าเป็นขุมทรัพย์ของพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา ผู้มักนิยมมากราบไหว้ขอพร (ให้ถูกหวย)
    • จุดที่ 4  บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีความเชื่อว่า เป็นจุดเชื่อมต่อกับโลกบาดาล มีน้ำผุดตลอดทั้งปี

ทั้งนี้จุด และพิธีการกราบไหว้สักการะต่างๆ ขึ้นอยู่กับระเบียบการจัดการของทางคำชะโนด ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร พิเศษ!! บริการท่านด้วยเมนูแหนมเนือง

นำท่านเดินทางไปยัง พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี อาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล แบบยุโรป ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับ ความเป็นมาจังหวัดอุดรธานีตั้งแต่ประวัติศาสตร์โบราณคดีธรรมชาติวิทยา ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ศิลปะวัฒนธรรม รวมถึงพระประวัติและพระเกียรติคุณของกรมหลวงประจักษ์ศิลาปาคมผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานีโดยการทำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วย เสนอปรับบรรยากาศให้มีมุมถ่ายภาพชิคๆ ชิลๆ ทำให้การท่องเที่ยวชมพิพิธภณัฑ์น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

จากนั้นเดินทางไปสักการะ วัดโพธิสมภรณ์ เป็นพระอารามหลวง ที่ตำบลหมากแข้ง มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์  ซึ่งสร้างในสมัยปลายรัชกาลที่ 5 โดยมหาอำมาตย์ตรีพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร(โพธิ เนติโพธิ) ตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลอุดร ได้ชักชวนราษฎรในหมู่บ้านหมากแข้งสร้างวัด ซึ่งเหล่าชาวบ้านต่างนิยมเรียกว่า วัดใหม่ ต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ ได้ทรงประทานนามว่า “วัดโพธิสมภรณ์” ให้เป็นอนุสรณ์แก่ท่าน พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร ผู้สร้างวัดนี

 

จากนั้นนำมายัน ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ศูนย์ที่รวมการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม และหลักปรัชญา ของคนไทยเชื้อสายจีนเอาไว้ โดยภายในจะตกแต่งด้วยสวนสไตล์แบบจีน มีไม้มงคลจีนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ต้นเครามังกร ต้นหลิว ต้นไผ่ดำ หงส์ฟู่ ที่ล้อมรอบอยู่ที่บริเวณสระบัว มีกลิ่นอายความเป็นจีนอย่างมากเลยค่ะ ส่วนด้านในนั้น อาคารพิพิธภัณฑ์คุณธรรม ที่เล่าถึงเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดอุดรธานี

นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ 

18.00 (เวลาโดยประมาณ) เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ

เดินทางโดย รถตู้
หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP