เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ไทย

 รหัส : A00170
เดินทางโดย : DD-นกแอร์
โรงแรม :  |  จำนวนวัน : 3 วัน 2 คืน
น่าน
ศาลหลักเมืองน่าน • วัดภูมินทร์ • วัดพระธาตุช้างค้ำ • พระธาตุแช่แห้ง • บ่อเกลือสินเธาว์ • หมู่บ้านสะปัน • ดอยสกาด • วัดภูเก็ต • กาแฟบ้านไทลื้อ
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

วันที่แรก สนามบินดอนเมือง• น่าน • ศาลหลักเมืองน่าน • วัดภูมินทร์ • พิพิธพันธ์น่าน • วัดพระธาตุช้างค้ำ • พระธาตุแช่แห้ง  วัดพระธาตุเขาน้อย    (-/กลางวัน/อิสระ)

06.30 น. พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง ตึก2 เคาท์เตอร์นกแอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

08.35 น. ออกเดินทางสู่ จังหวัดน่าน โดยเที่ยวบิน DD170

จากนั้น เดินทางถึงจังหวัดน่าน เมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์ป่าเขา และเข้มแข็งทางวัฒนธรรมกับประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่า 700 ปี จึงทำให้น่านกลายเป็นเมืองหมุดหมายสำคัญในการท่องเที่ยว

จากนั้น พาท่านสักการะ เสาพระหลักเมืองน่าน ณ วัดมิ่งเมือง ซึ่งได้รับการสถาปนาวัดใหม่ จากเดิมที่เป็นวัดร้าง โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าครองนครในตอนนั้น สำหรับตัวอุโบสถนั้นพระครูสิริธรรมภาณี ได้บูรณะใหม่ในปี พ.ศ. 2527 เนื่องจากทรุดโทรมเป็นอย่างมาก โดยตัวอาคารเป็นฝีมือของช่างพื้นบ้านของเมืองน่าน และงานลวดลายปูนปั้นจากช่างเชียงแสน ภาพในมีภาพจิตกรรมฝาผนัง บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองน่านตั้งแต่สมัยพญาภูคาเจ้าเมืองน่านองค์ปฐม ซึ่งเดิมศูนย์กลางอยู่ที่อ.ปัว ในปัจจุบันสำหรับเสาหลักเมืองนั้น สมัยโบราณจะเรียกว่า เสามิ่งเมือง หรือ เสามิ่ง โดยสมเด็จเจ้าฟ้าอัตถะวรปัญโญ เป็นผู้โปรดให้ฝังเสาพระหลักเมืองน่านลง เมื่อปีพ.ศ. 2331

จากนั้น พาท่านชม หนึ่งในสถานที่ที่โด่งดังที่สุดของจังหวัดน่าน กับภาพเสียงกระซิบรรลือโลก ณ วัดภูมินทร์ แต่เดิมนั้นมีชื่อว่าวัดพรหมมินทร์ เอกลักษณ์  ที่แตกต่างจากวัดล้านนาทั่วไปคือ โบสถ์และพระวิหารสร้างชอาคารจัตุรมุขหลังเดียวกัน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2139 โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ ซึ่งสันนิฐานกันว่าเป็นโบสถ์แบบจัตุรมุขหลังแรกของไทย พาท่านชม “ฮูบแต้ม” หรือภาพจิตรกรรมภายในวิหาร ซึ่งภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดคือภาพ ‘ปู่ม่านย่าม่าน’ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวเมืองในสมัยนั้น ผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรท้องถิ่นเชื้อสายไทลื้อ เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกระซิบอยู่ และเป็นภาพที่รู้จักกันในชื่อ กระซิบรักบันลือโลก และเป็นที่นิยมกันในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องมาถ่ายรูปกับภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้

พาท่านเข้าชม  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ดัดแปลงจากที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครน่าน มีพื้นที่รวม 14 ไร่ 2 งาน 32 ตารางวา โดยเคยเป็นศาลากลางจังหวัดน่าน ก่อนเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2517 ไฮไลท์สำคัญคือ งามช้างดำ ซึ่งเป็นของคู่บ้านคู่เมือง จนอยู่ในคำขวัญว่า “แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง” ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านยังมี ซุ้มลีลาวดี เรียงกันเป็นแนวยาวให้ท่านได้บันทึกรูปกันอย่างตามอัธยาศัย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องไม่พลาด

จากนั้นชม วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร สร้างขึ้นโดยพญาภูเข่ง เจ้าผู้ครองนครเมืองน่าน อายุมากกว่า 600 ปี ประกอบด้วยวิหารขนาดใหญ่ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย ลักษณะภายในโอ่โถง ประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ มีเสาปูนกลมขนาด 2 คนโอบ ภายในวัดยังประดิษฐานเจดีย์ช้างค้ำ ทรงลังกา สูงตระหง่านมีรูปปั้นรูปช้างครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ลักษณะเหมือนฐานรองรับไว้ด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก เป็นศิลปะที่น่านรับผ่านอาณาจักรสุโขทัย มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์

เที่ยง พาทุกท่านรับประทานอาหารเที่ยง เฮือนฮอม

จากนั้น เดินทางไปยัง วัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน และ ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะ อีกด้วย สันนิษฐานว่า พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย ถือเป็นแบบอย่างสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของช่างสกุลน่าน นอกจากนั้นยังมีสิ่งคู่ควรแก่การสักการะอีกมากมาย อาทิ วิหารพระเจ้าทันใจ วิหารพุทธไสยาศน์ เป็นต้น

จากนั้น พาท่านเข้าชม วัดพระธาตุเขาน้อย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาโดยเป็นที่ประดิษฐานพระเกษาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้านบนยังประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ตรงจุดนี้ท่านยังสามารถชมวิวเมืองน่านได้อย่างสุดลูกหูลูกตา

จากนั้น เดินทางกลับสู่ตัวเมือง เพื่อพาเดิน กาดข่วงเมืองน่าน หรือถนนคนเดินเมืองน่านที่จัดเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋าของที่ระลึก อาหาร ที่เป็นสินค้าของชาวเมืองน่าน ให้ท่านได้เลือกรับประทานอาหารได้อย่างอิสระ โดยหากท่านสนใจลองทานขันโตกเมืองน่านก็สามารถลองทานได้ที่กาดข่วงแห่งนี้

เย็น อิสระเลือกรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมน่านบ้านคุณ / โรงแรมบ้านน่าน

วันสอง ปัว• ถนนลอยฟ้า1081 • บ่อเกลือสินเธาว์ • หมู่บ้านสะปัน • หยุดเวลาคาเฟ่ • ชมวิวจุดชมวิวดอยภูคา 1715 • อำเภอปัว • วัดศรีมงคล • ถนนคนเดินปัว (เช้า/กลางวัน/เย็น)

 

07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อ.บ่อเกลือ อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่มีที่ใดเหมือน เกลือสินเธาว์เพื่อ บริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง อำเภอบ่อเกลือ มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม โอบล้อมด้วย ขุนเขาเขียวขจี บ่อเกลือจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดน่านที่รอคอยนักเดินทางเข้ามาสัมผัสกลิ่นไอของธรรมชาติและตำนานการทำเกลือบนที่สูง

จากนั้น ให้ทุกท่านแวะถ่ายรูปที่ถนน 1081 โดย ถนนสาย สันติสุข - บ่อเกลือ ถนนหมายเลข 1081 ยังมีความสวยงามและได้รับฉายาว่า ถนนลอยฟ้าของจังหวัดน่าน ซึ่งถนนสายดังกล่าว ได้ถูกตัดผ่านสันเขา เป็นระยะทางหลาย 10 กิโลเมตร ทำให้เมื่อขับรถไปนั้น จะเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งตลอด 2 ฝั่งทาง จะเป็นไหล่เขาลงไป และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศธรรมชาติได้ตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ ยังมีทะเลหมอกให้มองเห็นเป็นบางช่วงในระหว่างเส้นทาง นับได้ว่าเป็นอันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดน่านที่ทุกคนห้ามพลาด

จากนั้น พาทุกท่านชม บ่อเกลือสินเธาว์บนภูเขาแห่งเดียวของโลกตรงนี้สำรวจแล้วว่าไม่มีที่ไหนอีก บ่อเกลือเดินทางมาค่อนข้างยาก แต่สวยงามมาก หากพูดในด้านการท่องเที่ยว มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวในเรื่องของธรรมชาติสูงปัจจุบันชาวบ้านยังคงต้มแกลือด้วยวิธีแบบดั้งเดิม จะตักน้ำเกลือจากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่สู่บ่อพักการทำเกลือของ ชาวบ้านบ่อเกลือ นำน้ำเกลือที่ตักจากบ่อมาต้มในกระทะประมาณ 4 - 5 ชั่วโมงให้น้ำเกลือระเหยแห้งจากนั้นก็จะนำไม้พายมาตักเกลือใส่ตะกร้าที่แขวนไว้เหนือกระทะเพื่อให้น้ำเกลือไหลลงมาในกระทะทำอย่างนี้ไปเรื่อยจนน้ำในกระทะแห้ง หมดแล้วจึงตักน้ำเกลือจากบ่อมาใส่ลงไปใหม่ หลังจากนั้นใส่ถุงวางขายกันหน้าบ้าน

เที่ยง พาทุกท่านรับประทานอาหารเที่ยง ร้านข้าวซอยบ่อเกลือ 0613024223

จากนั้น มุ่งหน้าสู่ หมู่บ้านสะปัน จังหวัดน่าน เริ่มกลายเป็นจุดมุ่งหมายยอดฮิตของคนไทยที่ต้องการความเงียบสงบและมาพักผ่อน เพราะธรรมชาติของหมู่บ้านสะปันถือว่าดีและครบเครื่องมาก ไม่ว่าจะเป็นทุ่งนาเขียวๆ โอบล้อมด้วยภูเขาเกือบทุกด้าน ตอนเช้ามีหมอกสวยๆ แถมยังมีน้ำตกให้เที่ยวเล่นอีก โดยรวมถือเป็นอีกที่หนึ่งที่โคตรดีของจังหวัดน่าน

จากนั้น พาท่านไปนั่ง ชิลที่ หยุดเวลาคาเฟ่  คาเฟ่มุมสูงแห่งหมู่บ้านสะปัน  วิวสวยพันล้าน ใครมาเที่ยวที่นี่ต้องไม่พลาดถือว่าเป็นคาเฟ่ที่มุมสวยมี่สุดแห่งหมู่บ้านสะปันเลย ซึ่งความสวยเรียกได้ว่าหยุดเวลา

พาทุกท่าน แวะถ่ายรูปกับ จุดชมวิว 1715 เป็นจุดแวะพักชมวิวที่สวยงาม เป็นจุดชมวิวที่สูง ห่างจากระดับน้ำทะเล 1715 เมตร มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อน มีลานกางเต้นสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนระหว่างทางมีห้องน้ำสะอาดให้บริการ อยู่ถนนเส้นทางระหว่างปัว-บ่อเกลือ

มุ่งหน้าสู่ อำเภอปัว จังหวัดน่าน เมืองเล็กๆ แสนโรแมนติก เหมาะกับการใช้ชีวิตเรียบง่าย และเงียบสงบ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นทุ่งนา ถ้าเรามาช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม แม้ต้นข้าวจะยังไม่โตเต็มที่ เพราะชาวบ้านเพิ่งเริ่มดำนากัน แต่เราจะได้ภาพผืนนาสีน้ำตาลกว้างไกลตัดกับต้นกล้าสีเขียว สวยงามมาก สะกดทุกสายตาของผู้มาเยือนแน่นอน นอกจากธรรมชาติแล้ว แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประเพณี ก็ยังน่าหลงใหล

จากนั้น มุ่งหน้าสู่ วัดศรีมงคล อีกวัดที่ได้รับการตกแต่งแบบไทยล้านนา ซึ่งพระครูมงคลรังสี หรือหลวงปู่ครูบาก๋ง ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้าน เคยได้รับนิมนต์มาอยู่ที่วัดแห่งนี้จนมรณภาพ โดยรอบวัดตกแต่งด้วยโคมไฟกระดาษสา ร่มกระดาษสา ตุง ซึ่งล้วนเป็นข้าวของเครื่องใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านทั้งสิ้น พาท่านสักการะพระประธานในวิหารหลวง และชมจิตรกรรมฝาผนังซึ่งส่วนหนึ่งเป็นรูปมหาอุทกภัยที่เมืองยม พ.ศ. 2424 อีกหนึ่งสิ่งที่โด่ดเด่นคือทัศนียภาพหน้าวัดซึ่งเป็นทุ่งนาอันกว้างขวางมีพื้นหลังเป็นดอยภูคา ให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศกันอย่างอัธยาศัย

เย็น รับประทานอาหารเย็นที่ ร้าน ที่นี่ปัว

จากนั้น พาทุกท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมปัวเดอวิว บูติค รีสอร์ท / โรงแรมชมพูภูคารีสอร์ท /ปัว พาโนราม่า

วันที่สาม • ดอยสกาด • วัดภูเก็ต•  กาแฟบ้านไทลื้อ • สนามบินน่าน • ดอนเมือง (เช้า/กลางวัน/-)

07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

จากนั้นพาทุกท่านเดินทางขึ้นชมวิวรับอากาศหนาวดอยสกาด ที่ว่ากันว่าเป็นหมู่บ้านท่ามกลางสายหมอก ของ   อำเภอปัว จังหวัดน่าน หมู่บ้านเล็กๆ ของชาวไทยภูเขาเผ่าลั๊วะ ที่เกือบทุกหลังจะมีต้นมะแขว่น เครื่องเทศพื้นเมืองของภาคเหนือ รวมถึงต้นชา สายพันธุ์อัสสัม โดยขึ้นอยู่แทบทุกบ้านเลย บวกกับท่ามกลางบรรยากาศสวยๆ เงียบสงบ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ป่าเขา สายหมอก เลยมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีนั่นเอง (สกาดคอฟฟี่เราบริการกาแฟดริปให้ลูกค้า 1ชุดล่ะต่อลูกค้า2ท่าน )

จากนั้น นำทุกท่านเดินทางสู่ วัดภูเก็ต  โดยชื่อของวัดนั้นมาจากชื่อหมู่บ้านที่ชื่อว่าเก็ต มีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์  ประดิษฐานหลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา ที่ศักดิ์สิทธิ์

จากนั้น พาท่านสโลวไลฟ์พร้อมดื่มเครื่องดื่มเติมความสดชื่นที่ ร้านกาแฟไทลื้อ ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนาและขุนเขา ตัวร้านเป็นลักษณะบ้านแบบไทลื้อ และยังมีมุมจิบเครื่องดื่มหลายๆ จุด ซึ่งเก๋ไก๋ไม่ธรรมดา นอกจากนั้นท่านยังสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก ผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหลลายโบราณซื้อเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดีของเมืองปัวได้ ที่ ร้านลำดวนผ้าทอ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ที่ ร้านปลาร้านัว

จากนั้น ได้เวลาอันเป็นสมควรพาทุกท่านเดินทางเข้าสู่สนามบินน่าน 

17.40 น. ออกบินมุ่งหน้าสู่สนามบินดอนเมือง โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD177

18.50 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

เดินทางโดย NOK Airlines (DD)
หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP