ดูทัวร์ยุโรปตะวันออกทั้งหมด
เดินทางโดย : EY-เอทิฮัด แอร์เวย์
โรงแรม :  |  จำนวนวัน : 8 วัน 5 คืน
DREAM EAST EUROPE
“เที่ยวยุโรปตะวันออกกับ 4 ประเทศในฝัน” -ชมความอลังการปราสาทนอยชวานสไตน์ ต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ -เยี่ยมบ้านเกิดของนักดนตรีชื่อดัง โมสาร์ท เที่ยวเมืองหลวงที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม -ชมเมืองมรดกโลกเชสกี้ ครุมลอฟ ชมความสวยงามของปราสาทครุมลอฟ -สโลวาเกีย เมืองบราติสลาวา ปราสาทบราติสลาวา โบสถ์เซนต์เอลิซาเบธ มหาวิหารเซนต์มาร์ติน
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

วันที่หนึ่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี

16:30 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 ประตู 8 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน สายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง

19:30 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ EY407

23:10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี ประเทศ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

วันที่สอง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี-ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก-ปราสาทนอยชวานสไตน์-เมืองมิวนิก-โบสถ์เซนต์ปีเตอร์-มหาวิหารเฟราเอน-จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์-ศาลากลางเก่า

02:30 น.  นำท่านเดินทางสู่ถึง ท่าอากาศยานมิวนิก ประเทศเยอรมัน เที่ยวบินที่ EY005

06:55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิวนิก ประเทศเยอรมัน นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากรและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว

นำท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศเดินทางสู่ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) เพื่อขึ้นถ่ายภาพด้านนอก (ต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่สร้างจากบัญชาของกษัตริย์ลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ที่ต้องการสร้างปราสาทตามเทพนิยาย ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ดวากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่1)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิก (Munich) (ระยะทาง 126 กม. 2 ชม.)  อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์

จากนั้นแวะเก็บภาพความประทับใจกับสัญลักษณ์อีกแห่งที่สำคัญของเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter Church) เป็นโบสถ์คริสต์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค จุดตั้งต้นมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 และผ่านการพัฒนามาหลายครั้ง จวบจนมาถึงปี ค.ศ.1837 ที่พร้อมสมบูรณ์ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง เพดานและแท่นบูชากลางโบสถ์

และเยี่ยมชม มหาวิหารเฟราเอน (Frauenkirche Cathedral) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1468 เป็นทั้งมหาวิหารโกธิคและเป็นโบสถ์เมือง และยังเป็นที่ตั้งของหลุมศพเจ้าชายหลายองค์ในราชวงศ์บาวาเรียรวมถึงจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แลนด์มาร์คใจกลางเมืองที่นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับคนที่มาท่องเที่ยวในมิวนิค มหาวิหารนี้ตั้งอยู่ในย่าน Old Town

ใกล้กับ จตุรัสมาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz) ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่นี่ถูกทำลายและได้บูรณะใหม่ภายหลัง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นตลาดเรียกว่า “ตลาดสี่เหลี่ยม” ภายหลังได้กลายเป็นที่ตั้งของ ศาลากลางเก่า (New Town Hall) ได้รับการออกแบบและตกแต่งในสไตล์โกธิค ในบริเวณจตุรัสประกอบไปด้วย ศาลากลางเก่าที่มีซุ้มประตูและหอคอย ศาลาว่าการ New Town สถาปัตยกรรมเสารูปปั้นของพระแม่มารีสีทอง น้ำพุปลา และหอคอย Glockenspiel ที่มีชื่อเสียงระดับโลก 

เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2)

ที่พัก: Leonardo Royal hotel Munich 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สาม เมืองมิวนิก–เมืองซาลซ์บูร์ก ประเทศออสเตรีย-สวนมิราเบล-มหาวิหารซาลซ์บูร์ก-จัตุรัสศูนย์กลางประวัติศาสตร์-เมืองมรดกโลกเชสกี้ครุมลอฟ ประเทศสาธารณรัฐเช็ก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย (ระยะทาง 140 กม.ใช้เวลา 2 ช.ม) มีวิวทิวทัศน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ของออสเตรีย เนินภูเขาหญ้า สลับทะเลสาบตลอดเส้นทาง

นำท่าน ชมเมืองซาลบูร์ก ที่มีชื่อเสียงในเรื่องสถาปัตยกรรมบาร็อค ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะบริเวณเมืองเก่าจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1997 ซาลบูซ์ร์กตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซาลซัค (Salzach) และ มีอาณาเขตติดกับเทือกเขาแอลป์

จากนั้นนำท่านชม สวนมิราเบล (Mirabell garden) สวนดอกไม้เลืองชื่อสุดโรแมนติกสไตล์ฝรั่งเศส ที่ได้ชื่อว่าร่มรื่นและสวยงามที่สุดในออสเตรีย สวนมิราเบลตั้งอยู่ภายในพระราชวังมิราเบลภายในตกแต่งและออกแบบอย่างเป็นสัดส่วนในรูปแบบเรขาคณิตสไตล์บาโรก (baroque) เติมแต่งด้วยพันธุ์ไม้หลากสี

อีกทั้งยังมีรูปปั้นออตตาวิโอ มอสโต (Ottavio Mosto)  รูปปั้นที่สะท้อนถึงองค์ประกอบ ดิน น้ำ ลม ไฟ และรูปปั้นคนตัวเล็กในสวนที่จำลองมาจากคนจริงในสมัย ค.ศ.1700 รวมถึงน้ำพุม้าปีกาซัส (The Pegasus Fountain) น้ำพุที่สะท้อนความเป็นยุโรปรวมถึงร่อยรอยทางศิลปะที่โดดเด่นและน่าหลงใหล นอกจากนี้ภายในยังมีทัศนียภาพและบรรยากาศที่สวยงาม ด้วยสีสันแห่งไม้ดอกที่พร้อมใจบานสะพรั่งสวยงามดุจภาพวาด

อีกทั้งฉากหลังของไม้ดอกนานาพันธุ์ที่ปรากฏยอดวิหารและป้อมปราการโฮเฮนซาลบวร์ก (Hohensalzburg) บนยอดเขา ความสวยงามดังกล่าวช่วยสร้างบรรยากาศ ความมีชีวิตชีวาจนได้เป็นส่วนหนึ่งในฉากคลาสสิกของภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music ภาพยนตร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานของภาพยนตร์ฮอลลีวูด (Hollywood) บ้านเกิดของโมสาร์ท (Mozart Birthplace) อาคารสีเหลือง คือบ้านเลขที่9 เป็นสถานที่ที่โมสาร์ทเกิดและเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้

โดยตอนแรกครอบครัวโมสาร์ทเช่าห้องเล็กๆ ชั้นสามในอาคารหลังนี้และอยู่รวมกัน 4 คน พ่อ แม่ พี่สาว และตัวเขาเอง จนมีอายุได้ 17 ปี ต่อมาเขาได้ย้ายไปอยู่อีกหลังหนึ่งที่มีพื้นที่มากกว่า ต่อมาจนถึงปัจจุบันทางการได้ขอซื้อทั้งอาคารเพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์โมสาร์ท ที่นี่มีขนาดเล็กกว่าพิพิธภัณฑ์แห่งที่สอง แต่เป็นที่รู้จักมากกว่าเพราะทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าบนถนน Getreidegasse

ภายในบ้านหลังนี้ออกแบบโดย Robert Wilson นักศิลปะชาวอเมริกัน โดยมีการออกแบบให้เหมือนตอนที่โมสาร์ทยังมีชีวิตอยู่ให้มากที่สุด ภายในได้รวบรวมเรื่องราวและเครื่องดนตรีในสมัยเด็กของโมสาร์ท ไม่ว่าจะเป็นไวโอลินหรือเปียโนและยังมีรูปภาพและจดหมายที่เขียนถึงกันในครอบครัวด้วย 

มหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral) เป็นโบสถ์สไตล์บาโรกสมัย ศตวรรษที่17ของอัครสังฆมณฑลโรมันคาธอลิกแห่งซาลซ์บูร์ก อุทิศให้กับนักบุญรูเพิร์ตและนักบุญแวร์จิลิอุส นักบุญรูเพิร์ตก่อตั้งโบสถ์ขึ้นในปี 774 บนพื้นที่ที่เหลืออยู่ของเมืองโรมัน และมหาวิหารแห่งนี้ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1181 หลังจากเกิดเพลิงไหม้ในศตวรรษที่17 โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นใหม่ในสไตล์บาโรกภายใต้การนำของเจ้าชาย-บิชอปวูลฟ์ ดีทริช ฟอน ไรเตเนา

จัตุรัสศูนย์กลางประวัติศาสตร์ (Mozartplatz) ตรงกลางจัตุรัสมีรูปปั้นในความทรงจำของนักแต่งเพลง Wolfgang Amadeus Mozart ที่เกิดในเมืองและหลังจากนั้นก็ได้ตั้งชื่อจัตุรัสแห่งนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าชาย-อาร์คบิชอปวูลฟ์ ดีทริช ฟอน ไรเตเนาซึ่งสั่งให้รื้อถอนบ้านหลายหลังเมื่อต้นศตวรรษที่ 17 เดิมทีส่วนตรงกลางของจัตุรัสเป็น น้ำพุ สไตล์บาโรกที่มีรูปปั้นของนักบุญไมเคิล แต่ถูกถอดออกในปี 1841 เพื่อเปิดทางให้รูปปั้นของโมสาร์ท

ทางด้านทิศเหนือของจตุรัสเป็นที่ตั้งของสำนักงานข้อมูลการท่องเที่ยวของเมือง ด้านหลังImhofstöcklเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองเก่า ซึ่งมีอายุตั้งแต่สมัยของ Prince-Archbishop Paris Lodron ฝั่งตรงข้ามคือNeue Residenz ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์Salzburg ทางด้านตะวันออกของจัตุรัส มีบ้านสามหลังที่มีส่วนหน้าเหมือนกันและสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17  เมืองฮัลล์สัตทท์ (Hallstatt) (ระยะทาง73 กม. ใช้เวลา 1 ชม. 30นาที)

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่4)

อิสระให้ทุกท่านเดินเที่ยวชม เมืองฮัลล์สัตทท์ (Hallstatt) เมืองชนบทเล็กๆ ริมทะเลสาบแห่งนี้มีความเป็นมายาวนานมากๆ ตั้งแต่ ต้นยุคเหล็ก (Early Iron Age) ราวๆ 800-450 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว เดิมเป็นชุมชนของ ชาวเคลติก (Celtic) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเก่าแก่ในภูมิภาคยุโรป ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ริม ทะเลสาบฮัลล์สัตทท์ (Hallstätter See)  ซึ่งล้อมรอบด้วย เทือกเขาแอลป์ ทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNCESO เพราะเป็นหมู่บ้านที่สวยหมดจดครบทุกองค์ประกอบ ทั้งบ้านเมืองสีสันสดใส ธรรมชาติอันงดงาม และประวัติความเป็นมาอันยาวนาน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมรดกโลกเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) ประเทศสาธารณรัฐเช็ก (ระยะทาง 209 กม.ใช้เวลา 3 ชม.) นำท่านชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น เพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ค.ศ.1992 เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที5)

ที่พัก: Hotel Grand 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สี่ เมืองเชสกี้ครุมลอฟ-ปราสาทครุมลอฟ-อนุสรณ์สถาน Jan Hus-กรุงปราก-ปราสาทแห่งปราก-มหาวิหารเซนต์วิตัส-สะพานชาร์ลส์-ย่านเมืองเก่า-โบสถ์ติน-นาฬิกาดาราศาสตร์ปราก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)

นำท่านถ่ายรูปบริเวณรอบนอก ปราสาทครุมลอฟ (Cesky Krumlov Castle) สิ่งก่อสร้างที่เด่นที่สุดในเมืองเชสกี้ครุมลอฟ เมืองเล็กๆ ในสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Vltava River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค Senete Square

และโบสถ์เก่ากลางเมือง อนุสรณ์สถาน Jan Hus ตั้งอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของจัตุรัสเมืองเก่ากรุงปรากในสาธารณรัฐเช็ก อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่แสดงให้เห็นนักรบHussite ที่ได้รับชัยชนะและโปรเตสแตนต์ซึ่งถูกบังคับให้ต้องลี้ภัย 200 อนุสาวรีย์มีขนาดใหญ่มากจนประติมากออกแบบและสร้างวิลล่าและสตูดิโอของตัวเองซึ่งสามารถทำงานได้ มันถูกเปิดเผยในปี 1915 เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 500 ปีของการพลีชีพของ Jan Hus อนุสรณ์ได้รับการออกแบบโดย Ladislav Šaloun

ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ กรุงปราก (Prague) (ระยะทาง 172 กม. ใช้เวลา 2 ชม. 30 นาที) อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กโกสโลวาเกีย  ซึงได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่7)

นำท่านเข้าชม ปราสาทปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslid ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบ ประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 ปราสาทที่เปี่ยมไปด้วยความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม เพราะผ่านกาลเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงมายาวนานกว่า 1,000 ปี ทำให้ปราสาทแห่งนี้ เป็นเหมือนภาพสะท้อนของอารยธรรมในแต่ละยุค ที่เคยเข้ามามีอิทธิพลกับเมืองปราก

โดยอาณาบริเวณของปราสาทปรากนั้น กินพื้นที่มากถึง 70,000 เมตร ภายในเต็มไปด้วยพระราชวัง สวน อาคารทำการ โบสถ์ ฯลฯ ที่มีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมทั้งสไตล์โกธิค (Gothic) เรอเนสซองส์ (Renaissance) สไตล์ในยุคศตวรรษที่20 ตัวปราสาทหลักมีความกว้าง 128 เมตร ยาว 570 เมตร เคยเป็นที่ประทับหลักของกษัตริย์โบฮีเมีย จักรพรรดิโรมัน ฯลฯ

ปัจจุบันถูกใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเช็กอีกด้วย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตัวปราสาทหลักก็ได้รับการบูรณะ ปรับปรุง ต่อเติมเรื่อยมาผ่านความต้องการของผู้ปกครองที่มาประทับหลายคน แต่ก็ยังคงสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ตัวปราสาทกลายเป็นสถาปัตยกรรมจากทุกยุคที่มาผสานกันได้อย่างลงตัว

มหาวิหารเซนต์วิตัส (St.Vitus Cathedral) โบสถ์แห่งนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบโกธิกและเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในประเทศตั้งอยู่ภายในปราสาทปรากและมีสุสานของกษัตริย์โบฮีเมียน และจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก

สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานเก่าแก่สไตล์โกธิกที่ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวาที่เชื่อมระหว่าง ย่านเมืองเก่า (Old Town) และ Little Town สะพานสร้างในปี 1357 ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 มาเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 มีความยาว 520 เมตร กว้าง 10 เมตร มีตอม่อค้ำยัน 16 ตอ

จุดเด่นของสะพานนี้ก็คือรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกที่ตั้งอยู่สองข้างสะพานราว 30 องค์ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้มีรูปปั้นของเซนต์จอห์น เนโปมุก (St.John Nepomuk) เป็นรูปปั้นที่เก่าแกที่สุดบนสะพานสร้างเมื่อปีค.ศ. 1683 สะพานแห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นอีกสัญญลักษณ์หนึ่งของกรุงปราก

โบสถ์ติน (Church of Our Lady before Týn) อาคารทางศาสนาแบบโกธิกที่น่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งในปราก สร้างขึ้นตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 14 ถึงต้นศตวรรษที่ 16 ในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 การตกแต่งภายในได้รับการปรับปรุงใหม่ในสไตล์บาร็อค อาสนวิหารทำหน้าที่เป็นแกลเลอรีขนาดใหญ่ของงานกอธิคเรเนซองส์ และบาโรกยุคแรก ซึ่งน่าสนใจที่สุดซึ่งรวมถึงภาพวาดบนแท่นบูชาของคาเรล เชคเรตา และหลุมฝังศพของนักดาราศาสตร์ไทโค บราห์ ออร์แกนซึ่งมีอายุตั้งแต่ปี 1673 เป็นสถานที่ที่เก่าแก่ที่สุดในปราก

นาฬิกาดาราศาสตร์ปราก (Astronomical clock) เป็นหอนาฬิกาดาราศาสตร์ ตั้งอยู่ที่กรุงปราก เมืองหลวงของประเทศเช็ก ตั้งอยู่ทางกำแพงด้านใต้ของศาลาว่าการในจัตุรัสเมืองเก่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองที่ได้รับความนิยมมาก ส่วนประกอบหลักของหอนาฬิกา ได้แก่ นาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งจะแสดงวิถีการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ด้านล่างของนาฬิกาดาราศาสตร์จะมีหน้าปัดแสดงเดือนในปัจจุบัน และด้านบนสุดมีรูปปั้นสาวกของพระเยซู

เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที8)

ที่พัก: Congress & Wellness Hotel Olsanka 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่ห้า กรุงปราก-เมืองเบอร์โน-จัตุรัสอิสรภาพ-เมืองบาติสลาวา ประเทศสโลวาเกีย-ปราสาทบราติสลาวา-โบสถ์เซนต์เอลิซาเบธ- มหาวิหารเซนต์มาร์ติน-กรุงเวียนนา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบอร์โน (Brno) (ระยะทาง205กม.ใช้เวลา3ชม.) จัดเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากกรุงปราก เมืองหลวงของประเทศเช็กเกียซึ่งเป็นที่รู้จักในอาคารสถาปัตยกรรมศิลปะสมัยใหม่เช่น Villa Tugendhat ตั้งอยู่บนเนินเขาที่เด่นตระหง่านอยู่ในตัวเมือง

จัตุรัสอิสรภาพ (Liberty Square) เป็นจัตุรัสหลักในเบอร์โนในใจกลางเมืองประวัติศาสตร์ สถานที่แห่งการค้าและการรวมตัวกันของชาวเมือง ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 รูปทรงสามเหลี่ยม ปัจจุบันจัตุรัสนี้มีถนนตัดเข้า 7 สายด้วยกัน ในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ซึ่งใช้เวลาหลายปีและมีมูลค่า 180 ล้านคราวน์ มีการซ่อมแซมน้ำพุทรงกลมสีบรอนซ์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 เมตร ตกแต่งโดย แจน สกาเซล ทำให้ที่นี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางแห่งจินตนาการและศูนย์กลางของเมืองทั้งเมือง

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่10)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบราติสลาวา (Bratislava) ประเทศสโลวาเกีย  (ระยะทาง 130 กม.ใช้เวลา 2 ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวาเกีย มีประชากรประมาณ 430,000 คน เป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป บราติสลาวาอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสโลวาเกีย มีพรมแดนติดกับออสเตรียและฮังการีโดยเป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่มีพรมแดนติดกับสองรัฐเอกราช

นำท่านถ่ายภาพด้านนอกกับ ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava castle) เป็นปราสาทหลักของบราติสลาวาเมืองหลวงของสโลวาเกีย เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ที่มีหอคอยอยู่สี่มุม ตั้งอยู่บนเนินเขาหิน Little Carpathians เหนือแม่น้ำดานูบกลางบราติสลาวา ด้วยขนาดและที่ตั้งทำให้เป็นจุดเด่นของเมืองมานานหลายศตวรรษ สถานที่ตั้งสามารถเห็นมุมมองที่ยอดเยี่ยมของบราติสลาวา ออสเตรีย และบางส่วนของฮังการีในวันที่สภาพอากาศดี

มีตำนานหลายเรื่องเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของปราสาท โบสถ์เซนต์เอลิซาเบธ (The Blue church) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อโบสถ์สีน้ำเงิน เนื่องจากสีของส่วนหน้า , โมเสค , majolicas และหลังคาเคลือบสีฟ้า สร้างขึ้นเพื่อถวายแก่อลิซาเบธแห่งฮังการีลูกสาวของแอนดรูว์ที่สอง ผู้เติบโตขึ้นมาในปราสาทเพรสเบิร์ก ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของโรงยิมเนเซียมที่อยู่ใกล้เคียง และทำหน้าที่เป็นโบสถ์ของโรงเรียน (โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย)

มหาวิหารเซนต์มาร์ติน (St.Martin’s cathedral) เป็นโบสถ์ในเมืองบราติสลาวาสโลวาเกียและมหาวิหารแห่งอัครสังฆมณฑลคาธอลิก แห่งบราติสลาวาตั้งอยู่ที่ชายแดนด้านตะวันตกของใจกลางเมืองประวัติศาสตร์ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในบราติสลาวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักในฐานะโบสถ์พิธีบรมราชาภิเษกของราชอาณาจักรฮังการีระหว่างปี 1563 ถึง พ.ศ. 2373

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (ระยะทาง 78 กม.ใช้เวลา 1 ชม.) ผ่านชมเส้นทางธรรมชาติของทิวเขาสูงและพื้นที่อันเขียวชอุ่มของป่าไม้ออสเตรียชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ 

เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที11)

ที่พัก: Best western plus Amedia Wien 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่หก กรุงเวียนนา-พระราชวังเชินบรุนน์-มหาวิหารเซนต์สตีเฟน-พระราชวังฮอฟบวร์ก-โรงโอเปร่า-ถนน Karntner Strasse- Designer Outlet in Parndorf-กรุงเวียนนา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่12)

จากนั้นพาทุกท่านเข้าชม พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) (ระยะทาง 7 กม.ใช้เวลา 15 นาที) เป็นอาคารในสไตล์โรโคโคที่งดงามและใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาชมมรดกโลกที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนหลายล้านคน

พระราชวังเชินบรุนน์ มีความหมายว่า น้ำพุอันสวยงาม เล่ากันว่าพระจักรพรรดิได้ทอดพระเนตรเห็นน้ำใต้ดินผุดขึ้นจากบริเวณนั้น จึงได้นำมาตั้งเป็นชื่อของพระราชวัง โดยพระราชวังอันงดงามแห่งนี้ได้สร้างตามแบบพระราชวังแวร์ซายส์ในประเทศฝรั่งเศส ด้านหน้าของพระราชวังนั้นมีสวนดอกไม้นานาพันธุ์

ภายในตัวพระราชวังที่สุดแสนอลังการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตร มีห้องต่างๆ มากถึง 1,441 ห้อง แต่มีเพียง 40 ห้องเท่านั้นที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของสมเด็จพระจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟ สมเด็จพระจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซาและบรรดาผู้ปกครองแห่งประเทศออสเตรียพระองค์อื่นๆ มาก่อน แต่ละห้องของพระราชวังเชินบรุนน์นั้นตกแต่งอย่างวิจิตรหรูหรา ภายในพระราชวังมีสวนสไตล์บารอกอันยิ่งใหญ่ตระการตา เขาวงกตแสนสวย และสวนสัตว์แห่งศตวรรษที่ 18

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่13)

จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephan’s Cathedral) เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกในอัครมุขมณฑลเวียนนา และเป็นที่ตั้งอาสนะของอาร์ชบิชอปแห่งเวียนนา สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบโรมานเนสก์ และ กอทิก ริเริ่มโดยรูดอล์ฟที่ 4 ยุกแห่งออสเตรีย โบสถ์ที่อุทิศให้กับนักบุญสตีเฟนในบริเวณนี้มาตั้งแต่ปี 1147

นำท่านถ่ายรูปด้านนอกที่ พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) เป็นอดีตพระราชวังหลวงใจกลางกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ส่วนหนึ่งของพระราชวังในปัจจุบันเป็นที่พำนักและทำเนียบของประธานาธิบดีออสเตรีย โรงโอเปร่าแห่งเวียนนา (Vienna State Opera) ได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้านหน้าของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมในสไตล์เรอเนสซองส์ ภายในตกแต่งแบบปิดทอง และประดับประดาด้วยรูปปั้นเชิงสัญลักษณ์ บนเพดานมีภาพวาดที่มีความงดงามชวนหลงใหล

อิสระเดินชม ถนน Karntner Strasse เป็นถนนช้อปปิ้งหลักในเวียนนาและเป็นถนนช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดในยุโรปเชื่อมต่อ State Opera กับ Stephansplatz นอกจากจะมีร้านค้าหลากหลายแบรนด์และร้านแฟชั่นต่างๆแล้วยังได้เห็นอาคารประวัติศาสตร์ต่างๆในกรุงเวียนนา จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ Designer Outlet in Parndorf (ระยะทาง 50 กม. ใช้เวลา 1 ชม.) ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE,  NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย

อิสระอาหารเย็น เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน

เดินทางกลับสู่ เมืองเวียนนา (Vienna) (ระยะทาง 50 กม. ใช้เวลา 1 ชม.)

ที่พัก: Best western plus Amedia Wien 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่เจ็ด กรุงเวียนนา- ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา-ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่14) ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

12.30 น. นำท่านเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ EY147

19:45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี ประเทศ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

22:35 น. นำท่านเดินทางสู่ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เที่ยวบินที่ EY402

วันที่แปด ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

08:05 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

เดินทางโดย Etihad Airways (EY)
ล่องเรือดินเนอร์ล่องเรือดินเนอร์
ทัวร์บุรีรัมย์ทัวร์บุรีรัมย์
ทัวร์เชียงใหม่ทัวร์เชียงใหม่
ทัวร์เชียงรายทัวร์เชียงราย
ทัวร์กาญจนบุรีทัวร์กาญจนบุรี
ทัวร์กระบี่ทัวร์กระบี่
ทัวร์ลำปางทัวร์ลำปาง
ทัวร์นครปฐมทัวร์นครปฐม
ทัวร์น่านทัวร์น่าน
ทัวร์หนองคายทัวร์หนองคาย
ทัวร์อุดรธานีทัวร์อุดรธานี
ทัวร์พะเยาทัวร์พะเยา
ทัวร์เพชรบูรณ์ทัวร์เพชรบูรณ์
ทัวร์พิษณุโลกทัวร์พิษณุโลก
ทัวร์นครสวรรค์ทัวร์นครสวรรค์
ทัวร์อยุธยาทัวร์อยุธยา
ทัวร์ภูเก็ตทัวร์ภูเก็ต
ทัวร์ระนองทัวร์ระนอง
ทัวร์สมุทรสงครามทัวร์สมุทรสงคราม
ทัวร์สระบุรีทัวร์สระบุรี
ทัวร์สุโขทัยทัวร์สุโขทัย
ทัวร์สุพรรณบุรีทัวร์สุพรรณบุรี
ทัวร์ตากทัวร์ตาก
ทัวร์เลยทัวร์เลย
ทัวร์นครศรีธรรมราชทัวร์นครศรีธรรมราช
ทัวร์สุราษฎร์ธานีทัวร์สุราษฎร์ธานี
ทัวร์นครพนมทัวร์นครพนม
ทัวร์อุบลราชธานีทัวร์อุบลราชธานี
ทัวร์มุกดาหารทัวร์มุกดาหาร
ทัวร์สงขลาทัวร์สงขลา
ทัวร์พัทลุงทัวร์พัทลุง
ทัวร์ปัตตานีทัวร์ปัตตานี
ทัวร์สกลนครทัวร์สกลนคร
ทัวร์แม่ฮ่องสอนทัวร์แม่ฮ่องสอน
ทัวร์ชุมพรทัวร์ชุมพร
ทัวร์ประจวบคีรีขันธ์ทัวร์ประจวบคีรีขันธ์
ทัวร์ตราดทัวร์ตราด
ทัวร์สตูลทัวร์สตูล
ทัวร์ตรังทัวร์ตรัง
ทัวร์พังงาทัวร์พังงา
ทัวร์ฉะเชิงเทราทัวร์ฉะเชิงเทรา
ทัวร์นครนายกทัวร์นครนายก
ทัวร์เพชรบุรีทัวร์เพชรบุรี
ทัวร์ปราจีนบุรีทัวร์ปราจีนบุรี
ทัวร์ราชบุรีทัวร์ราชบุรี
ทัวร์อุตรดิตถ์ทัวร์อุตรดิตถ์
ทัวร์ชลบุรีทัวร์ชลบุรี
ทัวร์ลพบุรีทัวร์ลพบุรี
ทัวร์สมุทรปราการทัวร์สมุทรปราการ
ทัวร์อ่างทองทัวร์อ่างทอง
ทัวร์จันทบุรีทัวร์จันทบุรี
ทัวร์บึงกาฬทัวร์บึงกาฬ
ทัวร์ถ้ำนาคาถ้ำนาคา
ทัวร์ชัยภูมิทัวร์ชัยภูมิ
ทัวร์อุทัยธานีทัวร์อุทัยธานี
ทัวร์กาฬสินธุ์ทัวร์กาฬสินธุ์
ทัวร์กำแพงเพชรทัวร์กำแพงเพชร
ทัวร์ขอนแก่นทัวร์ขอนแก่น
ทัวร์ชัยนาททัวร์ชัยนาท
ทัวร์นครราชสีมาทัวร์นครราชสีมา
ทัวร์นนทบุรีทัวร์นนทบุรี
ทัวร์นราธิวาสทัวร์นราธิวาส
ทัวร์ปทุมธานีทัวร์ปทุมธานี
ทัวร์พิจิตรทัวร์พิจิตร
ทัวร์แพร่ทัวร์แพร่
ทัวร์มหาสารคามทัวร์มหาสารคาม
ทัวร์ยะลาทัวร์ยะลา
ทัวร์ยโสธรทัวร์ยโสธร
ทัวร์ร้อยเอ็ดทัวร์ร้อยเอ็ด
ทัวร์ระยองทัวร์ระยอง
ทัวร์ลำพูนทัวร์ลำพูน
ทัวร์ศรีสะเกษทัวร์ศรีสะเกษ
ทัวร์สมุทรสาครทัวร์สมุทรสาคร
ทัวร์สระแก้วทัวร์สระแก้ว
ทัวร์สิงห์บุรีทัวร์สิงห์บุรี
ทัวร์กรุงเทพฯทัวร์กรุงเทพฯ
ทัวร์สุรินทร์ทัวร์สุรินทร์
ทัวร์หนองบัวลำภูทัวร์หนองบัวลำภู
ทัวร์อำนาจเจริญทัวร์อำนาจเจริญ
หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 20042023 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
TOP