|
|
|
|
|
ทัวร์ลาวรหัส : A00861
เดินทางโดย : DD-นกแอร์
โรงแรม :
|
จำนวนวัน :
3 วัน 2 คืน
สะบายดีเมืองลาว เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง นั่งรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน
- หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ชมพระราชวังหลวงพระบาง, วัดพระธาตุพูสี - ล่องเรือแม่น้ำโขง ชมถ้ำติ่ง, ล่องแม่น้ำซอง ชมวิวสุดฟิน เมืองวังเวียง กุ้ยหลินเมืองลาว - เที่ยวนครหลวงเวียงจันทน์ ชมความงามประตูซัย, หอพระแก้ว และพระธาตุหลวง - เปิดประสบการณ์ใหม่ นั่งรถไฟความเร็วสูงลาวจีนเปิดใหม่ ไป-กลับ เวียงจันทน์-หลวงพระบาง
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง Download PDF
วันแรก กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง)-อุดรธานี-หนองคาย-เวียงจันทน์-ประตูซัย-พระธาตุหลวง-หอพระแก้ว-วังเวียง-ล่องแม่น้ำซอง 04.00 น. คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง อาคาร 1 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน นกแอร์ (Nok Air) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร หมายเหตุ เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นระบบ Random ไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ในคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบินหากท่านต้องการระบุที่นั่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมโปรดสอบถามพนักงานขาย 05.55 น. ออกเดินทางบินลัดฟ้าสู่ อุดรธานี โดย นกแอร์ (Nok Air) เที่ยวบินที่ DD088 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม*ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนสายการบินเป็นสายการบินไทยไลออนแอร์ หรือสายการบินแอร์เอเชีย ในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน,การเปลี่ยนแปลงเวลาเดินทางของเที่ยวบิน หรือจำนวนที่นั่งไม่เพียงพอ* 07.00 น. เดินทางถึง สนามบินอุดรธานี ให้ท่านรับสัมภาระให้เรียบร้อย ไกด์นำเที่ยวรอท่านอยู่ด้านนอกที่จุดนัดพบ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ด่านพรมแดนไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย นำท่านเดินทางสู่ นครหลวงเวียงจันทน์ นำท่านชม ประตูซัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครเวียงจันทน์บนถนนล้านช้างจะไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2512เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่สละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติพรรคคอมมิวนิสต์ประตูชัยมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า รัยเวย์แนวตั้งเพราะการก่อสร้างนี้ใช้ปูนซีเมนส์จากประเทศอเมริกาที่ซื้อมาเพื่อสร้างสนามบินใหม่ในเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีนแต่พ่ายเสียก่อนจึงได้นำมาสร้างประตูชัยแทนเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะล้านช้างกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงามและกลมกลืนอย่างยิ่ง กลางวัน บริการอาหารกลางวัน บ่าย จากนั้นนำท่านชม พระธาตุหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัย เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติลาวมีความหมายต่อจิตใจของประชาชนชาวลาวอย่างใหญ่หลวงแทนถึงความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะโดดเด่นที่สุดในอาณาจักรล้านช้างเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนากับสถาปัตยกรรมของอาณาจักรมีลักษณะคล้ายป้อมปราการมีการก่อสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมองค์พระธาตุไว้พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆเอาไว้โดยตลอด ประตูทางเข้าเป็นบานประตูไม้ใหญ่ลงรักสีแดงรอบๆองค์พระธาตุยังมีเจดีย์บริวารล้อมอยู่โดยรอบ จากนั้นนำท่านชม หอพระแก้ว สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2108 โดยพระเชษฐาธิราชกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง เป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์และใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต จากนั้นได้อัญเชิญมาที่ประเทศไทย ปัจจุบันพระแก้วมรกต ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดพระแก้ว ประเทศไทย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วังเวียง เมืองในลุ่มน้ำซองที่เงียบสงบโอบล้อมไปด้วยขุนเขากับสายหมอกยามเช้าที่สวยที่สุด ดังคำล่ำลือที่นักท่องเที่ยวขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองลาว จากนั้นนำท่าน ล่องเรือแม่น้ำซอง ชมธรรมชาติและเก็บภาพบรรยากาศ ทัศนียภาพอันงดงามที่รายล้อมเมืองนั้นเป็นที่ราบที่ถูกขนาบด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ ที่รู้จักในฉายา “กุ้ยหลินเมืองลาว” สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน เย็น บริการอาหารเย็น ที่พัก Tavisouk Hotel ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า, เมืองวังเวียง วันที่สอง วังเวียง-นั่งรถไฟความเร็วสูง-หลวงพระบาง-วัดเชียงทอง-วัดวิชุนราช(พระธาตุหมากโม)-วัดใหม่สุวรรณมาราม-บ้านช่างไห-ถ้ำติ่ง-พระธาตุพูสี-ตลาดมืด เช้า บริการอาหารเช้า 08.45 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟความเร็วสูง เส้นทางรถไฟลาว-จีนมีทั้งหมด 32 สถานีทั้งสถานีรับส่งผู้โดยสารและสถานีขนส่งสินค้า ในส่วนของประเทศลาวได้เปิดรับส่งผู้โดยสารแล้ว 6 สถานี ได้แก่ บ่อเต็น, เมืองไซ, หลวงพระบาง, วังเวียง, โพนฮง และนครหลวงเวียงจันทน์ นำท่านสัมผัสบรรยากาศนั่งรถไฟความเร็วสูง นำท่านออกเดินทางสู่ หลวงพระบาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากตั๋วรถไฟของคณะเป็นระบบ Random ไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนรถไฟได้ในคณะ 09.40 น. จากนั้นนำท่านสู่ วัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและมีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว วัดเชียงทองถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ผนังภายในปิดทองฉลุบนพื้นรักสีดำ เล่าเรื่องพุทธประวัติพระสุธน-มโนราห์ ทศชาติชาดกและภาพนิทานเพื่อนบ้าน พระประธานมีชื่อว่า “พระองค์หลวง”นอกจากวัดเชียงทองจะมีพระอุโบสถที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างแล้ว การตกแต่งลวดลายตามผนังภายในมีการตบแต่งด้วยการนำกระจกสีมาตัดต่อกันเป็นรูปต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ด้านข้างก็ติดเป็นรูปสัตว์ในวรรคดี ยามบ่ายที่แสงแดดส่องสะท้อนลงมาดูสวยงาม สถานที่ที่เราจะไปเยี่ยมชมอีกที่ซึ่งมีความสำคัญและเรื่องราวยาวนานเช่นเดียวกันคือ วัดวิชุนราช ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช (พ.ศ. 2046) นับเป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่ชาวหลวงพระบางให้ความนับถือ ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีรูปทรงคล้ายกับลูกแตงโมผ่าครึ่ง ชาวหลวงพระบาง จึงเรียกชื่อ พระธาตุหมากโม นี้มาจนถึงปัจจุบัน จากนั้นนำท่านชม วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆ ว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือ ตัวอุโบสถ (สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรง หลังคามีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน ผนังด้านหน้าพระอุโบสถตกแต่งด้วยภาพลงรักปิดทองดูเหลืองอร่ามงามตายาวตลอดผนัง เล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก โดยฝีมือช่างหลวงประจำรัชกาลเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ กลางวัน บริการอาหารกลางวัน บ่าย นำท่านเดินทางสู่ บ้านช่างไห ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโท และต้มเหล้าขาว จำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงิน วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้าน อย่างสวยงามเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว จากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือบ้านช่างไห เพื่อล่องเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงสู่ ถ้ำติ่ง ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตร จากพื้นน้ำมีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา การจากนั้นนำท่านขึ้นสู่ เขาพูสี นมัสการ พระธาตุพูสี เจดีย์ธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับความกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว (ดอกลีลาวดี) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว สามารถมองเห็นวิวหลวงพระบางได้โดยรอบ และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินอันสวยงามซึ่งเป็นบรรยากาศที่พลาดไม่ได้เมื่อได้มาเยือนหลวงพระบาง เย็น บริการอาหารเย็น หลังอาหารค่ำอิสระเดินเที่ยวชม ตลาดมืด (NIGHT MARKET) บนถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดถนน ให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี มีทั้งเสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋าถือ, เครื่องประดับ, โลหะเกะสลัก, ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ วางจำหน่ายในราคาที่ต่อรองกันได้ ที่พัก Sunway Hotel ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า, เมืองหลวงพระบาง วันที่สาม ตักบาตรข้าวเหนียว-ตลาดเช้า-พระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑ์)-ศูนย์เครื่องเงิน-นั่งรถไฟความเร็วสูง-เวียงจันทน์-หนองคาย-สนามบินอุดรธานี-ดอนเมือง(กรุงเทพฯ) 05.30 น. ตื่นเช้าทำธุระส่วนตัว จัดแจงเครื่องแต่งกายเพื่อรอ ใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวพระบาง ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ ทั่วเมืองหลวงพระบางจะออกมาบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจและสื่อถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองหลวงพระบาง (ค่าทำบุญของใส่บาตร ไม่รวมในรายการ) เช้า บริการอาหารเช้า นำท่านชม พระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑ์) ลักษณะอาคารเก่าที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมฝรั่งเศสผสมผสานวัฒนธรรมลาว ด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระราชวังแห่งนี้อดีตนั้นเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2518 พระราชวังหลวงพระบาง ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระบาง” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง นำท่านชม ศูนย์เครื่องเงิน ให้ท่านได้ชมงานฝีมือการทำเครื่องเงิน และเครื่องประดับของใช้ต่างๆ ที่มีการออกแบบไว้อย่างสวยงามเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของลาว 10.50 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟความเร็วสูงหลวงพระบาง เส้นทางรถไฟลาว-จีนมีทั้งหมด 32 สถานีทั้งสถานีรับส่งผู้โดยสารและสถานีขนส่งสินค้า ในส่วนของประเทศลาวได้เปิดรับส่งผู้โดยสารแล้ว 6 สถานี ได้แก่ บ่อเต็น, เมืองไซ, หลวงพระบาง, วังเวียง, โพนฮง และนครหลวงเวียงจันทน์ นำท่านสัมผัสบรรยากาศนั่งรถไฟความเร็วสูง นำท่านออกเดินทางสู่ นครหลวงเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากตั๋วรถไฟของคณะเป็นระบบ Random ไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนรถไฟได้ในคณะ 12.55 น. เดินทางถึง เวียงจันทน์ จากนั้นนำท่านสู่ด่านชายแดนลาว-ไทย ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้านานาชนิดให้เลือกซื้อเป็นของฝาก อิสระอาหารเที่ยง สมควรแก่เวลาจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่งประเทศไทยเพื่อเดินทางสู่สนามบินอุดรธานี 19.00 น. ออกเดินทางบินลัดฟ้าสู่ อุดรธานี โดย นกแอร์ (Nok Air) เที่ยวบินที่ DD309 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม*ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนสายการบินเป็นสายการบินไทยไลออนแอร์ หรือสายการบินแอร์เอเชีย ในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน,การเปลี่ยนแปลงเวลาเดินทางของเที่ยวบิน หรือจำนวนที่นั่งไม่เพียงพอ* 20.00 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ เดินทางโดย NOK Airlines (DD) |
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด |