เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook
เดินทางโดย : TK-เตอร์กิช แอร์ไลน์
โรงแรม :  |  จำนวนวัน : 8 วัน 5 คืน
TURKEY SUPER ปัง!! (บินภายใน 1 ขา)
สุเหร่าเซนต์โซเฟีย - สุเหร่าสีน้ำเงิน - จตุรัสทักซิม - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ - โชว์ระบำหน้าท้อง - นครใต้ดิน - ปราสาทปุยฝ้าย - เมืองโรมันเฮียราโพลิส - บ้านพระแม่มารี - เมืองโบราณเอฟฟิซุส - ม้าไม้แห่งเมืองทรอยอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของตุรกี
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ

20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ M  สายการบิน TURKISH AIRLINES (TK) มีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง.

23.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES (TK)  เที่ยวบินที่ TK69

วันที่สอง อิสตันบูล (ประเทศตุรกี) - สุเหร่าสีน้ำเงิน - ฮิปโปโดรม - สุเหร่าเซนต์โซเฟีย - พระราชวังทอปกาปี - ตลาดเครื่องเทศ - ถ่ายรูปคู่หอคอยกาลาตา - จัตุรัสทักซิม

05.15 น. เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (ISTANBUL AIRPORT) สนามบินใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรกี  ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศตุรกีช้ากว่าประเทศไทย 4-5 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ในฤดูหนาว ตุรกีจะช้ากว่าไทย 5 ชม. (เริ่มประมาณเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์) และฤดูร้อน (เริ่มประมาณ มีนาคม-กันยายน) ตุรกีจะช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมง

หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว สมควรแก่เวลานำท่านเดินทาง

ชมสุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN  AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 7 ปี ระหว่าง ค.ศ.1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ SULTAN AHMED นั้นเอง ชมความสวยงามอลังการ อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ

สุเหร่าสีน้ำเงิน

ชมจัตุรัสสุลต่านอะห์เมตหรือฮิปโปโดรม (HIPPODROME) สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนตินฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธี

แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์3 ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7

เสาโอเบลิสก์วอลล์

ชมสุเหร่าเซนต์โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA)  หรือชื่อในปัจจุบัน คือ พิพิธภัณฑ์ฮายาโซฟีอา หรือฮาเจียโซเฟีย HAGIA SOPHIA MUSEUM 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกส์ พระเจ้าจักรพรรดิคอนสแตนตินเป็นผู้สร้าง ใช้เวลาสร้าง 17 ปี ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิมและกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง

สุเหร่าเซนต์โซเฟีย

ชมพระราชวังทอปกาปี (TOPKAPI PALACE) ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 พระราชวังทอปกาปึ สร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ในปี ค.ศ.1459 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4 ลานกว้าง และมีอาคารขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ณ จุดที่สร้างพระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัสโกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคน (ราคาทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชมภายในพระราชวัง)

พระราชวังทอปกาป

สู่ตลาดเครื่องเทศ (SPICE MARKET) ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 เป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิสตันบูล สินค้าส่วนใหญ่คือเครื่องเทศเป็นหลัก ทั้งยังมีถั่วชนิดต่าง ๆ รังผึ้ง น้ำมันมะกอก ไปจนถึงเสื้อผ้าเครื่องประดับ ฯลฯ

สไปซ์มาร์เก็ต

สู่หอคอยกาลาตา GALATA TOWER (GALATA KULESI) หรือบางทีเรียกว่า CHRISTEA TURRIS ซึ่งแปลว่า หอคอยแห่งพระคริสต์ ในภาษาละติน เป็นหอคอยหินยุคกลางในเขตกาลาตา-คาราค็อย (GALATA – KARAKÖY) ของนครอีสตันบูล, ประเทศตุรกี เป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญที่โดดเด่นที่สุดของเมือง

ด้วยลักษณะทรงกระบอกสูง ของหอคอยที่โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้า ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงาม ของคาบสมุทร และบริเวณโดยรอบของเมืองอิสตันบูล นอกจากนี้ตลอดแนวถนน ยังเต็มไปด้วยอาคาร และร้านค้า ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ที่สวยงามและแปลกตาอีกด้วย (ราคาทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชมภายในหอคอย)

หอคอยกาลาต้า

จตุรัสทักซิม (TAKSIM SQUARE)  เป็นที่ท่องเที่ยวและการพักผ่อนที่อำเภอที่สำคัญมีชื่อเสียงสำหรับร้านอาหาร, ร้านค้า, และโรงแรม ที่นี่ถือเป็นหัวใจสำคัญของอิสตันบูลสมัยใหม่โดยมีสถานีกลางของเครือข่ายรถไฟใต้ดินอิสตันบูล

ทักซิม สแควร์

อิสระอาหารกลางวัน และอาหารเย็น ตามอัธยาศัย

ที่พัก  GOLDEN WAY HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่สาม เมืองชานัคคาเล่ - ทรอย - แหล่งโบราณคดีเมืองทรอย - ม้าไม้เมืองทรอย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่  ชานัคคาเล่ (CANAKKALE)  เมืองท่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของตุรกีมีดินแดนอยู่ในยุโรปและเอเชียเช่นเดียวกับอิสตันบูล เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 1  เพราะที่ชานัคคาเล่นี้ทหารสัมพันธมิตรได้ยกพลขึ้นบกและทำการรบในสงครามกาลิโปลี (GALLIPOLI)หรือ กัลป์ลิโปลีโดยในทุกๆปีจะมีการจัดงานรำลึกให้กับผู้เสียชีวิตในวัน ANZAC DAY ทุกวันที่ 25 เมษายน ทุกปี ในสงครามโลกครั้งที่1 ตุรกีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่กลับชนะในสงคราม กัลป์ลิโผลี จนทำให้นายพล มุสตาฟา เคมาล ปาชา (MUSTAFA KEMAL PASHA) กลายเป็นมหาวีรบุรุษสำคัญของชาติ ซึ่งต่อมา มุสตาฟา เคมาล ปาชา ก็คือ อตาเติร์ก บิดาแห่งชาติตุรก

นำท่านชม แหล่งโบราณคดีเมืองทรอย (ARCHAEOLOGICAL SITE OF TROY) การขุดค้นซากเมืองทรอยเริ่มโดย นายไฮน์ริช ชลีมานน์ (HEINRICH SCHLIEMANN) นักโบราณคดีชาวเยอรมัน เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870-1890 มีการพบว่าทรอยแบ่งเป็น 9 ยุค ซึ่งรับรองโดย เริ่มตั้งแต่ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล จนถึง ปี ค.ศ. 400

ผลจากข้อสันนิษฐานสามารถสรุปได้ว่า กรุงทรอยนั้นเป็นเมืองโบราณติดชายฝั่งทะเลอิเจียนตอนบน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกีซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดยุทธศาสตร์สำคัญ อันประกอบด้วย ช่องแคบดาร์ดาแนลล์ (DARDANELLES) และคาบสมุทรกัลลิโปลี (GALLIPOLI) ปัจจุบันแหล่งโบราณคดีเมืองทรอยได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนเป้นมรดกโลก

บริเวณกรุงทรอย มีการจัดห้องแสดงแบบจำลองกรุงทรอย และเรื่องราวการค้นพบโดยนักโบราณคดี พร้อมทั้งภาพแผนผังเมืองทรอยที่ถูกสร้างซ้อนทับกันถึง 9 ชั้น มีซากเมืองเก่า กำแพง ประตู และม้าไม้จำลองแห่งทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

แวะถ่ายรูปม้าไม้จำลองเมืองทรอย (WOODEN HORSE OF TROY) ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองชานัคคาเล่ ม้าไม้เมืองทรอยตามเรื่องเล่านั้นเกิดจากการต่อสู้ระหว่างกองทัพกรีกและกรุงทรอย ต่อสู้กันนานนับสิบปี กองทัพกรีกจึงคิดแผนการที่จะตีกรุงทรอยโดยการสร้างม้าไม้

โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในซอกต่างๆของม้าและเข็นไปไว้หน้าเมืองทรอย ชาวเมืองทรอยเห็นก็นึกว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพยอมแพ้ไปแล้วและมอบม้าไม้จำลองเป็นของขวัญ จึงเข็นเข้าไปไว้ในเมือง ตกกลางคืนชาวทรอยนอนหลับหมด ทหารที่ซ่อนอยู่ในม้าก็ออกมาเปิดประตูให้กองทัพกรีกเข้ามาทำการยึด และเผากรุงทรอยจนย่อยยับ

ซึ่งม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอยที่เห็นอยู่ในเมือง ชานัคคาเล่ นี้ได้รับมาจากกองถ่ายทำละคร วอเนอร์ บราเธอร์ ใช้ถ่ายทำละคร เรื่องทรอย เมื่อถ่ายทำเสร็จแล้วจึงยกให้เป็นสมบัติของที่นี่ตั้งแต่ปี 2004 อิสระเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

ม้าไม้เมืองทรอย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร

ที่พัก  IRIS HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ เมืองคูซาดาซี - เมืองโบราณเอฟฟีซุส - บ้านพระแม่มารี

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่  เมืองคูซาดาซี (KUSADASI)  เมืองท่าที่สำคัญทางการค้าอีกเมืองหนึ่งของตุรกีที่เป็นสถานที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  

ชม  เมืองโบราณเอฟฟีซุส (EPHESUS) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาว (Ionia) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน ชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณ ที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต

เมืองโบราณเอฟิซุส

ชมบ้านพระแม่มารี (HOUSE OF VIRGIN MARY) ถูกค้นพบอย่าปาฏิหาริย์ โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมัน ชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช ANNA CATHERINE EMMERICH เมื่อปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลง มีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่งพระสันตปาปา โป๊ป เบเนดิกส์ที่ 6 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่. (ราคาทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชมภายใน)

บ้านพระแม่มารี

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร

ที่พัก  MARINA HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า เมืองปามุคคาเล่ - เมืองเฮียราโพลิส - เนโครโพลิส - ปราสาทปุยฝ้าย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่  เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (COTTON CASTLE) อยู่ในเมืองชื่อเดียวกัน จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี เป็นเนินเขาหินปูนสีขาว มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน ปามุคคาเล่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับฮีเอราโปลิสซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุคคาเล่ ใน พ.ศ. 2531 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม.)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ชมเมืองเฮียราโพลิส (HIERAPOLIS) เป็นเมืองโบราณซึ่งเป็นแหล่งแร่หินปูนขนาดใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่ราว 2,200 ปี ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงกว่า 200 เมตร เมืองโบราณแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.1988 อีกด้วย “เฮียราโพลิส” มีความหมายว่า เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่บนยอดเขาของปามุคคาเล่ กินพื้นที่ยาวร่วม 2,700 เมตร บริเวณทางเข้าของเฮียราโพลิส คือสุสานของบุคคลสำคัญในสมัยโบราณจำนวนมาก พื้นที่บริเวณนี้เรียกว่า

เมืองฮีเยราโพลิส

เนโครโพลิส (NECROPOLIS) ภายในมีซากของสิ่งก่อสร้างต่างๆ จากยุคโบราณอยู่ ภายในเมืองโบราณเฮียราโพลิสมีทั้งโรงละครโรมัน (ROMAN THEATRE) ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 2 สร้างโดยการสกัดเข้าไปในไหล่เขาเพื่อทำเป็นอัฒจันทร์สำหรับให้คนนั่งชมการแสดง การแข่งขัน และมีใช้สำหรับจัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ โรงละครโบราณนี้คนได้มากถึงประมาณ 12,000 คน

นอกจากซากต่างๆ รอบๆ บริเวณแล้ว ที่เฮียราโพลิสยังมีพิพิธภัณฑ์เฮียราโพลิส (HIERAPOLIS MESUEM) ซึ่งในอดีตเคยเป็นโรงอาบน้ำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองในสมัยโบราณ โดยต่อมาได้ถูกปรับปรุงให้พิพิธภัณฑ์เมื่อปี ค.ศ.1984 ซึ่งนอกจากภายในพิพิธภัณฑ์จะจัดแสดงเกี่ยวเฮียราโพลิสแล้ว ยังจัดแสดงเกี่ยวกับที่อื่นๆ ด้วย อาทิเช่น เลาดิเซีย (LAODICEIA), โคลอสเซ่ (COLOSSAE), ทริโพลิส (TRIPOLIS), อัททูด้า (ATTUDA) และสถานที่สำคัญอื่นๆ อีกหลายแห่ง

ชมปราสาทปุยฝ้าย (PAMUKKALE)  น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโพลิสได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 ชมความสวยงามของแอ่งน้ำหินปูนธรรมชาติตัดกับหน้าผาที่กว้างขวางมีลักษณะสวยงามมหัศจรรย์แตกต่างออกไปมากมายคล้ายหิมะ ก้อนเมฆหรือปุยฝ้ายน้ำแร่มีอุณหภูมิประมาณ 33 – 35.5 องศาเซลเซียส อิสระเก็บภาพประทับใจจนถึงเวลาอันสมควร

ปราสาทปุยฝ้าย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร

ที่พัก  TRIPOLIS HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่หก เมืองคัปปาโดเกีย - คาราวานซาราย - ชมโชว์ระบำหน้าท้อง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่  เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA)  มาจากภาษาเปอร์เชีย คัตปาตุกา (KATPATUKA) เมืองมหัศจรรย์ที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 ตั้งอยู่บนพื้นที่ๆ เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน ชื่อ เออร์ซีเยส (ERCIYES) เมืองนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟและถูกลาวาปกคลุมหลายพื้นที่ทับถมกันเป็นระยะเวลายาวนานจนกลายเป็นหิน ผ่านลม,ฝน,พายุ ปัจจุบันเกิดเป็นภูมิประเทศที่มีความสวยงามแปลกตาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและอีกไฮไลท์ของเมืองนี้คือเป็นจุดขึ้นบอลลูนที่มีวิวสวยงาม (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7 ชม.)

เมืองคัปปาโดเกีย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ระหว่างทาง  แวะถ่ายรูป คาราวานซาราย (CARAVANSARAI) ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน

คาราวานซาราย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร

หลังรับประทานอาหาร ชมการแสดงพื้นเมือง+เครื่องดื่มท้องถิ่น  ระบำหน้าท้อง (BELLY DANCE) โชว์ท้องถิ่นที่สวยงาม ศิลปะที่โดดเด่นของชาวตุรกี  (หมายเหตุ การแสดงโชว์พื้นเมืองขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน หากมีการยกเลิกการแสดงทาง บ.ขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งยกเลิกโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)

ที่พัก  UCHISAR KAYA HOTEL (โรงแรมถ้ำ) หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด เมืองคัปปาโดเกีย - * OPTION TOUR ขึ้นบอลลูนชมเมืองคัปปาโดเกีย * - นครใต้ดินชาดัค - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ - MADO CAFÉ - หุบเขาพาซาแบค - หุบเขานกพิราบ – ปราสาทหินยูชิซาร์ - ภูเขาเออร์ซีเยส

เช้ามืด คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ (บริเวณ LOBBY โรงแรม)

  • OPTION TOUR ขึ้นบอลลูนชมเมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA BALLOON VIEW) ขึ้นบอลลูน สัญลักษณ์ของตุรกี ชมพระอาทิตย์ยามเช้า ชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย พาโนราม่าวิว ชมเมืองอารยธรรมโบราณ เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ สัมผัสบรรยากาศมุมสูง เก็บภาพที่สวยงามรอบตัว (ค่าใช้จ่ายท่านสามารถติดต่อสอบถามจอง OPTION และชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์ ประมาณ 230 USD/ท่าน  *การขึ้นบอลลูนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เหมาะสม* โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นสำคัญ)
บอลลูน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ชม นครใต้ดินชาดัค (UNDERGROUND CITY OF CHADAK) เมื่อ 2-3 พันปีก่อนคริสตกาล ชาวคัปปาโดเชียได้มีการสร้างเมืองใต้ดินเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากการบุกรุกของชาวโรมัน ขุดเจาะไปเรื่อยๆ จนใต้พื้นดินคัปปาโดเชียกลายเป็นเมืองอีกหลายๆ เมือง ภายในมีทั้ง โบสถ์คริสจักร โรงเรียนสอนศาสนา โรงเก็บไวน์ คอกไม้ บ่อน้ำ ห้อง โถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร ฯลฯ และยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้ขุดค้น ให้ท่านได้ชมความมหัศจรรย์เมืองใต้ดินและเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลาอันสมควร

ถ้ำใต้ดินคาร์ตัด

ชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (GOREME OPEN AIR MUSEUM) สถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นจากการขุดเจาะถ้ำหินหลายลูกเพื่อทำเป็นโบสถ์สำหรับเป็นศูนย์รวมของผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ เป็นถิ่นฐานที่ตั้งของผู้คนตั้งแต่ก่อนคริสตกาลและยังเป็นสถานที่ซึ่งชาวคริสเตียนยุคแรกใช้หลบหนีภัยการล่าสังหารจากจักวรรดิโรมัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1985 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แบบเปิดที่แสดงเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวคัปปาโดเชียน (CAPPADOCIAN)

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่

แวะร้าน MADO CAFÉ ร้านกาแฟที่ขึ้นชื่อของตุรกี (ฟรี!! ไอศกรีมท่านละ 1 อัน)

แวะถ่ายรูป หุบเขาพาซาแบค (PASABAG VALLEY) กลุ่มภูเขาหินแปลกตารูปกรวยคล้ายมีหมวกวางอยู่บนสุด อดีตเมื่อ 1,500 ปีที่แล้วสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของบาทหลวงไซมอนที่เดินทางมาเพื่อปลีกวิเวก แสวงหาที่ปฏิบัติธรรมและได้มาเจอสถานที่แห่งนี้ (HERMITAGE OF ST.SIMON) และเป็นที่นิยมสำหรับพระอีกหลายองค์ในเวลาต่อมา จนได้รับอีกสมญาว่า THE VALLEY OF THE MONKS

หุบเขาพาซาแบค

แวะถ่ายรูป หุบเขานกพิราบ (PIGEON VALLEY)  จุดชมวิวอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่  ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (UCHISAR CASTLE) และยังมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย

แวะถ่ายรูป ปราสาทหินยูชิซาร์ (UCHISAR CASTLE) เป็นปราสาทหินธรรมชาติตั้งแต่สมัยโรมันไบเซนไทน์ ที่ในอดีตใช้เป็นป้อมปราการสำหรับส่งสัญญาณเตือนภัย ปราสาทหินธรรมชาติแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุ้มค่ากับการมาชมอย่างยิ่ง เพราะนอกจากชมปราสาทหินธรรมชาติอันน่าทึ่งเหล่านี้แล้ว นักท่องเที่ยวจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามแบบพาโนรามาจากที่นี่

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

สู่ภูเขาเออร์ซีเยส (MT.ERCIYES)  ตั้งอยู่ที่เมือง KAYSERI โดยภูเขาแห่งนี้อยู่ท่ามกลางหุบเขาลูกเล็กใหญ่ที่เรียงรายสลับซับซ้อนกันไปมา เกิดเป็นวิวที่สวยงามและอลังกาลเป็นอย่างมาก เนื่องจากภูเขาลูกนี้มีความสูงถึง 2770 เมตร ซึ่งสามารถเดินทางขึ้นไปชมความงดงามบนยอดเขาแห่งนี้ได้ และที่สำคัญยังสามารถทำกิจกรรมได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การนั่งกระเช้าชมบรรยากาศโดยรอบ หรือการปีนเขาเพื่อพิชิตยอดเขาที่ระดับความสูงถึง 3917 เมตร (ราคาทัวร์ไม่รวมค่าขึ้นกระเช้า และกิจกรรมต่างๆ)

ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหาร

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบินไกเซรี

20.15 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล  โดยเที่ยวบินที่ TK2021 

21.50 น. ถึงสนามบินอิสตันบูล  จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย

วันที่แปด สนามบินอิสตันบูล - สนามบินสุวรรณภูมิ

01.45 น. เดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK68 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

15.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ  ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

เดินทางโดย Turkish Airlines (TK)
หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP