วันแรก : กรุงเทพฯ – อุดรธานี – คำชะโนด - วัดภูตะเภาทอง – วัดเขาช่องชาด

เช้า “เยือนเกาะนาคา คำชะโนด” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนพญานาค 

เชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ดินแดนลี้ลับของพญานาค เป็นที่เคารพยำเกรงและศรัทธาของคนในจังหวัดอุดรธานีและอีสานตอนบน คำชะโนดมีลักษณะเป็น เกาะลอยน้ำ ที่เต็มไปด้วยต้นชะโนด  ป่าคำชะโนดเป็นสถานที่ปรากฏในตำนานพื้นบ้าน เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของพญานาคปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีประทุมมา และสิ่งลี้ลับต่าง ๆ เกาะคำชะโนดไม่เคยจมน้ำ 

โดยมีความเชื่อที่ว่าเพราะมีพญานาคคอยปกปักรักษา มีความเชื่อที่ว่า คำชะโนด เป็นสถานที่ขึ้นลงระหว่างมนุษยพิภพกับนาคพิภพของพญาสุทโธนาคราช ผู้สร้างแม่น้ำโขงและเป็นเจ้าของปลาบึก เมื่อพญานาคสุทโธนาคขึ้นมาบนมนุษยพิภพก็จะเป็นมนุษย์และมีชื่อเรียกว่าเจ้าปู่ศรีสุทโธ เมื่อเข้ามาถึงภายในพื้นที่ของคำชะโนด จะรู้สึกได้ถึงความร่มรื่น อากาศภายนอกที่ร้อน เมื่อมาอยู่ที่นี่จะรู้สึกเย็นอย่างบอกไม่ถูก  

เพราะปกคลุมด้วยป่าต้นชะโนดขนาดใหญ่ บริเวณตรงกลางคำชะโนดจะมีบ่อน้ำที่ลึกมาก น้ำในบ่อไม่เคยแห้งเลย เชื่อกันว่าบ่อน้ำคำชะโนดทะลุไปถึงแม่น้ำโขงได้ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้ดื่มกินรักษาโรคได้ สามารถใช้ลูบหัวเพื่อความเป็นศิริมงคล ด้านหลังของคำชะโนด เป็นทางเดินไม้ชมบรรยากาศของป่าคำชะโนด ที่รายล้อมด้วย ต้นไม้สูงใหญ่ โดยเฉพาะต้นชะ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์ 

11.00 น  แนะนำร้านอาหารท้องถิ่น (ให้ท่านเลือกเมนูอาหารได้ตามใจ และ ชำระค่าใช้จ่ายตรงกับร้านอาหาร)

บ่าย วัดภูตะเภาทอง แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมะและประวัติศาสตร์ถือเป็นอีกหนึ่งวัด UNSEEN ของจังหวัดอุดรธานี  เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตนิกาย โอบล้อมด้วยธรรมชาติ โดยพื้นที่ส่วนมากเป็นลานหินที่เป็นหลุมมีน้ำขัง คล้ายลานสามพันโบก ซึ่งนักวิชาการสันนิษฐานว่า เดิมเป็นทะเล ต่อมาเกิดการยกตัวขึ้นเป็นลานหินและพื้นดิน คาดว่าจะมีกลุ่มคนผู้เลี้ยงสัตว์ หรือนายพรานใช้เป็นเส้นทางในการหากิน 

เนื่องจากมีการพบรอยฝ่ามือคนข้างหินก้อนใหญ่  วัดแห่งนี้ยังมีจุดเด่นที่มีความศักดิ์สิทธิ์ คือ “พญานาคราชสีทอง” ชื่อมุจลินท์ เป็นพญานาคที่ปรากฏในพุทธประวัติที่ปกป้องลมและพายุให้กับพระพุทธเจ้าในช่วงการตรัสรู้สัปดาห์ที่ 6  และ “รอยฝ่ามือแดง” ที่ปรากฏให้เห็นตรงหินก้อนใหญ่สีน้ำตาลส้มทองคล้ายเรือสำเภา สำหรับรอยฝ่ามือแดงนั้น ทางกรมศิลปากรตรวจสอบแล้ว 

และมีผลยืนยันว่ามีอายุประมาณ 2,500 ปี   มีองค์หลวงปู่หินหยก องค์พระพุทธรูปหินหยกปางมารวิชัย  หินฝนยาศักดิ์สิทธิ์ เจ้าแม่ตะเคียนทอง – เจ้าแม่ตะเคียนทิพย์ เพื่อให้สายมูได้มากราบไหว้ทำบุญ ขอพร ขอโชค ขอลาภ ขอสุขภาพ ขอความปรารถนา และ เช่าวัตถุมงคล  

วัดเขาช่องชาด รับพลังธรรมชาติและธรรมะสายบุญ นมัสการหลวงพ่อพระใหญ่ เมื่อท่านเดินขึ้นบันไดพญานาคสีทองจนสุด ท่านจะได้พบและกราบไหว้ขอพรกับองค์พระพุทธรูปปางสมาธิสีขาว (ด้านในฐานบัวหลวงปู่ใหญ่ประดิษฐาน พระศรีอริยเมตไตรยทรงเครื่องปางประทานพร หรือ พระพุทธมหาจักรพรรดิ์เศรษฐี) บนพระเศียรมีลักษณะเป็นเปลวเพลิง เพื่อสื่อถึงแสงแห่งปัญญา (พระใหญ่เขาช่องขาด)  

และ ชมวิวทิวทัศน์ 360 องศา ของเขาช่องชาด ที่เป็นกันชนเขตแดนระหว่างจังหวัดอุดรธานี กับ จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อชมภาพธรรมชาติภายในพื้นที่อำเภอหนองวัวซอได้เกือบทั้งหมด ส่วนอีกฟากทางด้านตะวันตกสามารถมองเห็นอำเภอโนนสัง อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภูได้อย่างชัดเจนและสามารถมองเห็นภูเก้าได้อย่างชัดและสวยงามอีกด้วย ทิศใต้มองเห็นเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก 

สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงาม ของอำเภอหนองวัวซอได้อย่างชัดเจนและมีความสวยงาม สภาพเทือกเขาเขียว ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มองเห็นเจดีย์วัดดอยบันไดสวรรค์ สภาพภูมิประเทศของอำเภอหนองวัวซอ อาทิ ตำบลอูบมุง ตำบลกุดหมากไฟ ตำบลโนนหวาย และตำบลหนองอ้อ  

ได้เวลาสมควร พาท่านเดินทางเข้าเช็คอินที่พัก 2 คืน : โรงแรมเจริญ โฮเทล หรือเทียบเท่า 

โรงแรมเจริญ โฮเทล อยู่ในใจกลางเมือง ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ห้องยิม WIFI และอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สอง   อุดรธานี – บึงกาฬ – ตำหนักปู่อือลือ – เกาะดอนโพธิ์ – ถ้ำนาคา – อุดรธานี

04.30 น. พบกันที่ล๊อบบี้ของโรงแรม  คนขับรถรอต้อนรับและอำนวยความสะดวกคณะตลอดวัน

07.30 น. พบไกด์ท้องถิ่น ณ จุดนัดพบ  และพาท่านมูตลอดวัน
 

จุดที่ 1  ไหว้ขอพรปู่อือลือ ณ ตำหนักปู่อือลือ
ตามตำนานปู่อือลือที่ข้องเกี่ยวกับบึงโขงหลงนั้น เชื่อว่า เกิดจากการล่มเมืองของพญานาค ซึ่งเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลาย บริเวณแห่งนี้ เดิมเป็นที่ตั้งเมือง ชื่อ รัตพานคร มี พระอือลือราชา เป็นผู้ครองนคร และต่อมาเมืองรัตพานครได้ถล่มเป็น "บึงหลงของ" ต่อมานานเข้าคำพูดก็กลายเป็นโขงหลง ส่วนพระอือลือราชาได้ถูกพระยานาคราชจับตัวไว้ พร้อมกับสาปให้พระอือลือราชากลายร่างเป็นนาค เฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์ จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่
 

จุดที่ 2 อัศจรรย์แดนศักดิ์สิทธิ์ ‘ถ้ำนาคา” พิชิตเส้นทางลี้ลับภูลังกา บนเส้นทางสายธรรม-สายพญานาค และ ทางเดินเส้นทางป่าธรรมชาติ คอร์ส 4-5 ชั่วโมง  + อาหารชุดพกพา
“ถ้ำนาคา” ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา ใกล้กับวัดถ้ำชัยมงคล  เหตุที่ถ้ำแห่งนี้ได้ชื่อว่า “ถ้ำนาคา” หรือ “ถ้ำพญานาค” เนื่องจากมีลักษณะของหินและผนังถ้ำดูคล้ายพญานาค ที่มีรูปทรงคล้ายพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัว โดยมีส่วนสำคัญๆ ทั้งส่วนหัว ลำตัว และเกล็ดพญานาค (ตามจินตนาการและความเชื่อของชาวบ้าน) ด้วยเหตุนี้จึงมีตำนานเรื่องเล่าเชื่อมโยงกับความเชื่อของถ้ำแห่งนี้ว่า ถ้ำนาคาคือพญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน และยังมีความเชื่อเกี่ยวกับ “เมืองหลวงของชาวบังบด” ตำนานดินแดนแห่งเมืองบังบด (เมืองลับแล)  จุดที่นักท่องเที่ยวมักมาเยี่ยมชม คือ กราบเคารพศาลปู่  หัวใจพญานาค  ถ้ำหลวงปู่วัง  เศียรนาคาที่ 1 และ เศียรนาคาที่ 3  ก่อนเดินลงจากอุทยานแห่งชาติภูลังกา  ที่บริเวณปากทางขึ้นถ้ำนาคา ยังมีศาลองค์พญานคราชให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้เคารพบูชาอีกด้วย

จุดที่ 3  เดินทางไปยังท่าเรือ....(โดยเรือท้องถิ่น).....เพื่อล่องเรือบึงโขงหลง (เรื่องเล่าว่า เคยเป็นเมืองรัตพานครก ก่อนถล่มเป็น "บึงหลงของ" ต่อมานานเข้า คำพูดก็กลายเป็นของหลง และวัดที่เหลือ 3 วัด ก็คือ วัดดอนแก้ว (วัดแก้วฟ้า) วัดดอนโพธิ์(วัดโพธิ์สัตว์) และ วัดดอนสวรรค์ (วัดแดนสวรรค์) มีความลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 8 เมตร ชาวบ้านบอกว่าสมัยก่อนเคยเป็นวัดมาก่อน)  สู่เกาะดอนโพธิ์ เกาะกลางบึงโขงหลง ซึ่งเกาะแห่งนี้ตามตำนานเชื่อว่าเป็นวังพญานาคราช  เชื่อกันว่าเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ที่ปู่อือลือนาคราชสถิตย์อาศัยอยู่   ให้ท่านได้ไหว้องค์ขาวและองค์ดำ 

บ่ายๆ   แนะนำร้านอาหารท้องถิ่น (ให้ท่านเลือกเมนูอาหารได้ตามใจ และ ชำระค่าใช้จ่ายตรงกับร้านอาหาร) และเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

วันที่สาม   อุดรธานี – กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือ ม่วนอุดรตามใจ ขอแนะนำและไม่ใกล้จากที่พัก

จุดที่ 1 สวนสาธารณะหนองประจักษ์  สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุดรธานี  มีลักษณะเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยต้นไม้และล้อมรอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ  จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวมักแวะเวียนมาถ่ายภาพ คือ ตุ๊กตาเป็ดยางสีเหลือง ที่ลอยโดดเด่นอยู่กลางน้ำ

จุดที่ 2 พิพิธภัณฑ์เมืองอุดร ตั้งอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ภายใต้รูปแบบอาคารโคโลเนียล 2 ชั้น (สมัยรัชกาลที่ 6)  โดยภายในอาคารมีห้องจัดแสดงทั้งหมด 26 ห้อง แหล่งเรียนรู้ที่ใช้เทคโนยีเข้ามาใช้ในพิพิธภัณฑ์เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ โดยจัดแสดงจัดแสดงศิลปะ วัฒนธรรม และวัตถุทางโบราณคดีในท้องถิ่น รวมถึงประวัติศาสตร์ของเมือง

จุดที่ 3 ศาลปู่ย่า ศูนย์วัฒนธรรมไทยจีน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุดรธานี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอุดรเชื้อสายจีนเคารพนับถือมายาวนาน โดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีน และที่ตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน  โดยจำลองบรรยากาศแบบจีน เหมือนยกเมืองจีนมาไว้ใจกลางเมือง เป็นสถานที่สงบ เย็นสบาย เเละสวยงามมาก โซนถ่ายรูปเยอะ และมีร้านน้ำชาผิงอัน ที่มีบริการขายเครื่องดื่มและเบเกอรี่ให้ชิมในบรรยากาศสไตล์จีนด้วย

จุดที่ 4 ร้านจุดสามจุด  ร้านฮอตพิกัดใหม่ที่แนะนำว่าไม่ควรพลาด !  กำเนิดจากตำนานบิงซูที่โด่งดัง จัดเต็มสุดว๊าวตั้งเเต่หน้าร้าน..ทางเข้าร้าน..ข้างร้าน...หลังร้าน....ในร้าน ชั้นสองก็สวย โดยหลังร้านจะเป็นสวนกลางแจ้ง อีกทั้งที่นี่มีบริการกาแฟอีสานมงคล กาแฟดริปของบาริสต้า เมนูอาหารและขนมหลากหลายที่มีให้เลือกเยอะ รอให้เรามาเลือกซื้อเลือกชิม โดยเฉพาะ “มุมถ่ายรูปเยอะม๊ากกก”   

จุดที่ 5 Dose Espresso Factory ร้านกาแฟชื่อดัง “ ที่ผสมผสานความเป็นออสซี่ และอีสาน เพื่อส่งต่อ แรงบันดาลใจ และพลังบวก ผ่านกาแฟที่มีคุณภาพ รสชาติกาแฟและวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแบบที่เราเชื่อ ” บรรยากาศตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ดิบเท่ ภายในร้านมีหลากหลายมุมให้เลือกนั่งเพลินๆ และเหมาะกับถ่ายภาพสไตล์วินเทจ 

12.00 น. โปรดคืนห้องพักก่อนเที่ยง

12.30 น. พบกันที่ล๊อบบี้โรงแรม  คนขับรถเจ้าถิ่นรอพบท่าน เพื่อขับรถพาท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานอุดรธานี