เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ยุโรป

 รหัส : Z8155
เดินทางโดย : QR-กาตาร์แอร์เวย์
โรงแรม : 4 ดาว |  จำนวนวัน : 8 วัน 5 คืน
อิตาลี - สวิตเซอร์แลนด์ - ฝรั่งเศส : ขึ้นยอดเขาจุงเฟรา Top of Europe - ชมบรรยากาศทะเลสาบโคโม่สุดอลังการ - วิหารดูโอโม่แห่งมิลาน - เมืองซูค - ลูเซิร์น - อินเทอร์ลาเก้น - ดีฌง - ชมหมู่บ้านกอลมาร์ - หอไอเฟล - ล่องเรือบาโตมุชบนแม่น้ำแซน - ช้อปปิ้งถนนฌ็องเซลิเซ่
ไม่รวม ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ - ค่าประกันสุขภาพ กรณีติดโควิด-19 ในระหว่างท่องเที่ยว - ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสาร โปรดส่งเอกสารทาง EMS ตรงถึง Center แผนกวีซ่า

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - แวะเปลี่ยนเครื่องสนามบินกาตาร์ ประเทศกาตาร์
สนามบินสนามบินมิลาโน มัลเปนซา - ทะเลสาบโคโม่ - เมืองโคโม่ - เมืองมิลาน - ดูโอโมแห่งมิลาน - แกลลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล
เมืองซูค - เมืองลูเซิร์น - สะพานไม้ ชาเปล - อนุสาวรีย์สิงโต - ย่านเมืองเก่าของเมืองลูเซิร์น (อิสระอาหารค่ำ)
เมืองกรินเดลวาลด์ - พิชิตยอดเขาจุงเฟรา Top of Europe - ลานพลาโต - ถ้ำน้ำแข็ง - เมืองอินเทอร์ลาเก้น
เมืองกอลมาร์ - เมืองดีฌง - ถ่ายรูปด้านนอกมหาวิหารดีฌง
กรุงปารีส - ล่องเรือบาโต มุช - จัตุรัสทรอคาเดโร - หอไอเฟล - ถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน - ถ่ายรูปด้านนอกพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ - อิสระช้อปปิ้งในกรุงปารีส - ถนนฌ็องเซลิเซ่ - แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (อิสระอาหารค่ำ)
ช่วงเช้าอิสระพักผ่อน - สนามบินชาร์ลเดอโกล กรุงปารีส
แวะเปลี่ยนเครื่องสนามบินกาตาร์ ประเทศกาตาร์ - เดินทางกลับ
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
รายการ อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส : รับเฉพาะผู้เดินทางที่ได้รับการฉีดวึซีนครบ โดส ตามที่องค์การอนามัยโลกรับรอง (WHO) ได้แก่ * ไฟเซอร์ * โมเดอร์นา * แอสตร้า เซนเนก้า * จอหน์สัน & จอหน์สัน (ไม่รับผู้ที่ฉีด * ชิโนแวค * ชิโนฟาร์ม และสูตรไขว้)
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ

15.45 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q สายการกาตาร์ แอร์เวย์ (Qatar Airways) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

19.45 น. ออกเดินทางสู่เมืองมิลาน (Milan) ประเทศอิตาลี โดย เที่ยวบินที่ QR833

23.10 น. เดินทางถึงสนามบินกาตาร์ ประเทศกาตาร์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

วันที่สอง ทะเลสาบโคโม่-โคโม่-มหาวิหารมิลาน-แกลลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล

07.45 น. ออกเดินทางอีกครั้ง โดยเที่ยวบินที่ QR123

06.35 น.  เดินทางถึง สนามบินมิลาโน มัลเปนซา (Milano Malpensa Airport) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และรับสัมภาระ (เวลาในยุโรปช้ากว่าไทย 5-6 ชั่วโมงตามฤดูกาล)

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ระยะทาง 50 กม. ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองโคโม ในแคว้นลอมบาร์เดีย ทางเหนือของประเทศอิตาลี บริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ มีพื้นที่ 146 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลี รองจากทะเลสาบการ์ดาและทะเลสาบมัจจอเร ทางเหนือของทะเลสาบคือ เทือกเขาแอลป์ เปรียบเสมือนป้อมปราการทางธรรมชาติ เสน่ห์ของทะเลสาบแห่งนี้ คือ วิลล่า บ้านพักตากอากาศอันหรูหรา เรียงรายรอบๆ ทะเลสาบโคโม จนกลายเป็นศูนย์รวมชนชั้นสูงและบุคคลมีชื่อเสียงของยุโรป และเป็นยังหนึ่งในทะเลสาบสวยที่สุดในยุโรป

นำท่านชม เมืองโคโม่ (Como) ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โคโม่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ทิศเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบโคโม่ โคโม่เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งรวมชิ้นงานศิลปะชื่อดัง, มีโบสถ์, พิพิธภัณฑ์, สวน, โรงละคร, วังเก่าอยู่มากมาย โดยในปี ค.ศ. 2013 โคโม่มีจำนวนผู้มาพำนักค้างคืนถึง 215,000 คน เมืองโคโม่ยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผ้าไหมของอิตาลีที่มีชื่อเสียง อีกทั้งเมืองแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ไตรภาคชื่อดัง อย่าง Star Wars , James Bond 007

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (Milan) ระยะทาง 50 กม. มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก ในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน มิลาน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน อุตสาหกรรมผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน,มีภาพวาดเฟรสโก้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง,โรงละครโอเปร่า

นำท่านชม ดูโอโมแห่งมิลาน (Milan Duomo) มหาวิหารหินอ่อนแบบกอธิคที่ใหญ่เป็นอันดับ3ในยุโรป สร้างในปี1386 ด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิคผสมผสานกันเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ใช้เวลาสร้างนานถึง500ปี มีความวิจิตรงดงามและประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนับกว่า 3,000 รูป มีหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด บนสุดมีรูปปั้นทองขนาด4เมตรของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่ มีลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่2ทรงม้าคือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ รอบๆเป็นศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ

ให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย แกลลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele)  อาคารศูนย์การค้าที่เป็นอาคารกระจกเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลก ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมิลาน เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ Louis Vuitton,Gucci,Prada Ferragamo, Armani,Versace หรือ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย 

ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน

ที่พัก Klima Hotel Milano Fiere หรือเทียบเท่า

วันที่สาม ซูค-ลูเซิร์น-สะพานไม้ชาเปล-อนุสาวรีย์สิงโต-อินเทอร์ลาเก้น

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูค (Zug) ระยะทาง 247 กม.เมืองที่สวยงามราวกับเทพนิยาย ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศโดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้วเมืองนี้จึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลก เคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดแต่ปัจจุบันคือเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเขตเมืองเก่าที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่13 อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างสวยงามอีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) ระยะทาง 30 กม. เป็นเมืองหลวงของรัฐลูเซิร์นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยความที่ลูเซิร์นเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคกลางของประเทศ ทำให้ลูเซิร์นกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ, การคมนาคม, ทางวัฒนธรรม ของภาคกลาง ภาษาทางการที่ใช้ในลูเซิร์นคือภาษาเยอรมัน ตั้งอยู่ชายฝั่งด้านตะวันตกติดกับทะเลสาบลูเซิร์น มีแม่น้ำร็อยส์ไหลออกมาจากทะเลสาบผ่านกลางเมือง จากเมืองนี้สามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์, เขาพีลาทุส และเขารีกี ลูเซิร์นมีภูมิอากาศเย็นตลอดทั้งปี จุดหมายตาที่สำคัญในเมืองคือคาเพ็ลล์บรึคเคอ

นำท่านชมสัญลักษณ์ประจำเมืองลูเซิร์นซึ่งมี 2 อย่าง คือ สะพานไม้ ชาเปล (Chapel Bridge) เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลกมีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นนำท่านชม อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) หรือที่เรียกว่า เลอเวินเด็งค์มาล เป็นประติมากรรมแกะสลักหินผา ตั้งอยู่ใจกลางนครลูเซิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์  อนุสรณ์นี้รำลึกถึงการเสียชีวิตของทหารสวิสฯผู้ถวายการอารักขาแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในสงครามปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส

นำท่านชม ย่านเมืองเก่าของเมืองลูเซิร์น  โดยเฉพาะบริเวณจัตุรัส Hirchenplatz  สวยงามด้วยอาคารเก่าแก่ที่ตกแต่งด้วยภาพเขียนบนผนังด้านนอก และหน้ามุขกระจก (Oriel)  กำแพงเมือง  (Musegg Wall)  กับหอคอย 9 แห่ง ที่ได้รับการก่อสร้างในปี ค.ศ. 1400 ทอดตัวยาวเหยียดอยู่บนเนินเขาเนือตัวเมืองเป็นจุดขมวิวที่ดีสำหรับคนชอบเดินเที่ยว อาคารหลายแห่งในลูเซิร์นได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยการมอิตาเลี่ยน เช่น ศาลาว่าการเมือง เป็นอาคารสถาปัตยกรรมยุคเรอเนสซองสืสมัยศตวรรษที่ 17 และอาคารทำเนียบรัฐบาลก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมของคริสต์ศตวรรษที่ 16 โบสถ์สำคัญคู่เมืองนี้คือ  โบสถ์หอคอยคู่ Franziskanerkirche  และ Hofkirche (Collegiate Church of St. Leodegar) ซึ่งสร้างขึ้นตอนกลางศตวรรษที่ 8 เป็นโบสถ์แรกในลูเซิร์น โบสถ์เคยถูกไฟไหม้เสียหายเกือบหมดเหลือไว้แต่หอคอยแฝดยอดแหลม  (Twin Towers) เท่านั้น

อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย เพือไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเทอร์ลาเก้น (Interlaken) ระยะทาง 68 กม.

ที่พัก Hotel Central Continental Interlaken หรือเทียบเท่า (2 คืน)

วันที่สี่  อินเทอร์ลาเก้น – กรินเดลวาลด์ - ยอดเขาจุงเฟรา - อินเทอร์ลาเก้น

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald) ระยะทาง 20 กม. ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์แบบสวิสเซอร์แลนด์แท้ๆ ที่มีทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

พร้อมนำคณะเปลี่ยนบรรยากาศโดยการ “นั่งรถไฟชมวิว” ท่องเที่ยวธรรมชาติบนภูเขาสูง แห่งแอลป์แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสายภูเขาที่ สถานีไคลน์ไชเด็ค รถไฟที่จะนำท่านเดินทางลอดอุโมงค์ที่ชาวสวิสฯได้ขุดเจาะไว้ที่ความสูงถึง 3,464 เมตรแล้วนำคณะลงรถไฟ ณ สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป  Top of Europe สถานีบนยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch)ซึ่ง มีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต)นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่สวยงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์นำคณะท่านเข้าชม ถ้ำน้ำแข็ง 1,000ปี Ice Palaceที่สร้างโดยการเจาะธารน้ำแข็งเข้าไปถึง 30 เมตร พร้อมชมน้ำแข็งแกะสลักรูปร่างต่างๆจากนั้นชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสหิมะที่ ลานพลาโต (Plateau) และไม่ควรพลาดการส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลก

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองบนยอดเขาจุงเฟรา

บ่าย นำทุกท่านขึ้น โดมแก้ว ชมวิวจุดสูงสุดของยุโรป เดินผ่านอุโมงค์ถ้ำใต้เทือกเขา เข้าสู่ ถ้ำน้ำแข็ง(Ice Palace) ที่อยู่ใต้อุโมงค์ธารน้ำแข็งลึก 30 เมตรที่ภายในแกะสลักน้ำแข็งเป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างน่าอัศจรรย์ประสบการณ์  น่าตื่นตาตื่นใจกับการเล่นหิมะที่ลานกว้างไกลสุดสายตาบันทึกภาพประทับใจ

นำคณะท่านเดินทางลงจากเขา ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศวิวทิวทัศน์อันงดงาม อีกด้านหนึ่งของ Top of Europe เปลี่ยนรถไฟที่ สถานีไคลน์ไชเด็ค เพื่อเดินทางสู่สถานีสุดท้าย สถานีเลเทอร์บรุนเน่น นำท่านนั่งรถไฟลงจากยอดเขาจุงเฟรา สู่ เมืองเลาเทิร์นบรุนเน่น (Lauterbrunnen) ระหว่างทางท่านจะได้เห็นความสวยงามอีกหนึ่งบรรยากาศ

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเทอร์ลาเก้น (Interlaken) ระยะทาง 11 กม. เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzerseeท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันสวยงาม นำเที่ยวชมย่านโฮอีเวก (Hoheweg) เป็นถนนที่มีความสำคัญและมีชื่อเสียงของการเป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งในอินเตอร์ลาเคน ที่เรียงรายด้วยอาคารโบราณจากยุคศตวรรษที่ 19 ซึ่งส่วนใหญ่บ้านไม้สไตล์สวิสชาเล่ต์อันแสนน่ารัก เที่ยวชมสวนคาสิโน (The Casino gardens) ซึ่งตั้งอยู่ในถนนโฮอีเวก ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงบ่อนคาสิโนแต่ยังมีชื่อเสียงในด้านศูนย์กลางประชุมของอินเตอร์ลาเคน มีภัตตาคารอาหารประจำถิ่น ซึ่งมีไว้บริการนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากอีกด้วย

ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

ที่พัก Hotel Central Continental Interlaken หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า อินเทอร์ลาเก้น – กอลมาร์ – ดีฌง - มหาวิหารดีฌง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ระยะทาง 214 กม. เมืองกอลมาร์เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโอ-แร็งในแคว้นอาลซัสในประเทศฝรั่งเศส เมืองกอลมาร์ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เมืองกอลมาร์ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอาลซัส และได้ชื่อว่าเป็น capitale des vins d'Alsace เมืองหลวงแห่งไวน์แห่งอาลซัส

กอลมาร์เป็นบ้านเกิดของจิตรกรและช่างแกะพิมพ์มาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ กอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้ยังคงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองเก่าก็มีพิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลาง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในโลก

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองดีฌง (Dijon) ระยะทาง 252 กม. เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโกต-ดอร์ในแคว้นบูร์กอญในประเทศฝรั่งเศส ดีฌงเป็นที่ตั้งของมหาวิหารดีฌง ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่มีการผสมผสานของสถาปัตยกรรมยุโรปอย่างหลากหลายในรอบหนึ่งพันปี ตั้งแต่สถาปัตยกรรมแบบกาเปเซียง สถาปัตยกรรมกอธิก และมาถึงยุคเรอเนสซองส์ และตัวอาคารบ้านเรือนในเขตเมืองปัจจุบันมีอายุราวช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 หรือก่อนหน้านั้น สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นแบบดีฌง ได้แก่ หลังคาเบอร์กันดี ที่ผลิตแผ่นหลังคาจากดินเผาเคลือบ หรือ แทร์ราคอตตา (terracotta) อันมีสีสันฉูดฉาด เช่น เขียว เหลือง ดำ ที่จัดเรียงบนหลังคาอย่างสวยงามตามแบบเรขาคณิต

นำท่านถ่ายรูปคู่ มหาวิหารดีฌง (Cathedral of Dijon) หรือ อาสนวิหารนักบุญเบนีญแห่งดีฌง (Cathédrale Saint-Bénigne de Dijon) เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกประจำอัครมุขมณฑลดีฌง สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญเบนีญแห่งดีฌง โดยในสมัยแรกราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 มีสถานะเป็นเพียงโบสถ์แห่งนักบุญเบนีญ และต่อมาในปี ค.ศ. 1731 ในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสได้เป็นที่ตั้งของมุขมณฑลดีฌง และภายหลังได้ปรับยกสถานะเป็นอัครมุขมณฑลดีฌงในปี ค.ศ. 2002 **ถ่ายรูปด้านนอก**

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

ที่พัก Kyriad Gare Hotel Dijon หรือเทียบเท่า

วันที่หก ปารีส – ล่องเรือบาโตมุช – หอไอเฟล – ประตูชัย – พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ – ช้อปปิ้ง ถนนฌ็องเซลิเซ่

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ กรุงปารีส (Paris) ระยะทาง 315 กม. เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อแฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย นำท่าน ล่องเรือบาโต มุช (Bateaux Mouches Cruise) ชมแม่น้ำแซน (Seine River) ที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆตลอดสองฝากฝั่งแม่น้ำ เช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟ และโบสถ์โนตเตรอดาม สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก คำว่า บาโต มูช (Bateaux Mouches) นั้นเป็นคำที่มาจากชื่อเครื่องหมายทางการค้า ของ คอมปานี เดส บาโต มูช ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการล่องเรือในกรุงปารีส เรือที่นำเที่ยวนี้เป็นที่นิยมมากใน ปารีส เรือมีที่นั้งเยอะและจะมีบริเวณที่เปิดและปิดหลังคาให้เลือกนั่งได้

นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสทรอคาเดโร (Place Du Trocadero) บริเวณที่ดีที่สุดในการชมวิวหอไอเฟล (Eiffel Tower) ประติมากรรมเหล็ก สัญลักษณ์ประจำกรุงปารีส ให้ท่านถ่ายภาพอันน่าประทับใจ

  • หมายเหตุ: ราคาทัวร์นี้ไม่รวมค่าขึ้นลิฟต์ของหอไอเฟล

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียน ในศึกเอาส์เตอร์ลิทซ์ในปีค.ศ.1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 

นำท่าน (ถ่ายรูปด้านนอก) คู่กับ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre) หรือในชื่อทางการว่า The Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวตึกที่ตั้งเคยเป็นพระราชวังมาก่อน โดยกษัตริย์ฟิลิป-ออกัสตัส สร้างเป็นป้อมปราการ จากนั้นพระเจ้าชาร์ลที่ 5 ได้ขยายป้อมปราการลูฟร์ให้เป็นพระราชวัง ซึ่งพระเจ้าหลุยส์ 13 และ 14 เคยประทับอยู่ที่นี่ ปัจจุบัน ลูฟร์ เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 40,000 ชิ้น มีตั้งแต่ศิลปะ สมัยอีทรัสกัน  กรีก โรมัน อียิปต์ภาพเขียนและปติมากรรมยุคเรเนสซองซ์ ให้ท่านถ่ายรูปกับปิรามิดแก้ว ซึ่งเป็นทางเข้าหลัก

ได้เวลาอันสมควรให้ท่านได้ อิสระช้อปปิ้งในกรุงปารีส ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแฟชั่นของโลก เป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เต็มไปด้วยร้านค้า และห้างสรรพสินค้า ณ ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs-Élysées) มีครบครั้นทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า,เครื่องประดับ,เครื่องสำอาง,น้ำหอม

ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำจากเกือบทั่วทุกมุมโลกได้ที่เมืองนี้ อาทิ เช่น Louis Vitton, Yves Saint Laurent, Hermès, Gucci, Balenciaga, Escada, Ermenegildo Zegna, John Galliano, Roberto Cavalli, Miu Miu, Chloé, Chanel, Dolce & Gabbana, Giorgio Armani, Loewe, Salvatore Ferragamo, Nina Ricci, Jimmy Choo, Prada ฯลฯ หรือจะเลือกช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางกรุงปารีส แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) หรือ ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer 

อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย เพือไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน

ที่พัก Kyriad Paris Nord Porte De St Ouen หรือระดับเทียบเท่า 

  • โรงแรมอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินใช้เวลาเดินทาง 5นาที

วันที่เจ็ด  กรุงปารีส – สนามบินกรุงปารีส

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังอาหารเช้าเป็นเวลาอิสระให้ท่านได้พักผ่อนและเก็บสัมภาระตามอัธยาศัย หรือจะเดินเล่นเลื่อกซื้อสินค้าของฝากก่อนกลับประเทศไทย 

12.30 น. นำคณะเดินทางสู่ สนามบินกรุงปารีส (Charles de Gaulle Airport)

16.05 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ประเทศไทย โดยสายการกาตาร์ แอร์เวย์ (Qatar Airways) เที่ยวบินที่ QR40

23.25 น. เดินทางถึงสนามบินกาตาร์ ประเทศกาตาร์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

วันที่แปด สนามบินโดฮา –  กรุงเทพ สนามบินสุวรรณภูมิ

 02.20 น. ออกเดินทางอีกครั้ง โดยเที่ยวบินที่ QR836

13.10 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP