เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ยุโรป

 รหัส : Z8448
เดินทางโดย : QR-กาตาร์แอร์เวย์
โรงแรม : 4 ดาว |  จำนวนวัน : 10 วัน 7 คืน
ฝรั่งเศส - สวิตเซอร์แลนด์ - อิตาลี : พระราชวังแวร์ซายส์ และพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ในแต่ละห้อง เที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) - ขึ้นชั้น 2 ของหอไอเฟิล - นั่งรถไฟด่วน TGV เข้าสู่ดีจอง - สะพานไม้ชาเปล - แวะเที่ยวมิลาน - เกาะเวนิส - นครรัฐวาติกัน - พักสวิสเซอร์แลนด์ 2 คืน - พัก Interlaken สถานตากอากาศ - พักเมืองลูเซิร์น
ไม่รวม ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 20 ยูโรต่อท่าน - ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 16 ยูโรต่อท่าน - ค่าตรวจ PCR (ทุกกรณี ถ้ามี เป็นไปตามมาตรการแต่ละประเทศ) - ค่าทำ Vaccine Passport - มีเจ้าหน้าที่รับเอกสารวีซ่า ในเขตกรุงเทพฯ 1 ครั้ง ถ้าอยู่นอกพื้นที่โปรดส่งเอกสารทางพัสดุ ตรงถึง แผนกวีซ่า - ค่าอาหารนอกเหนือจากที่ระบุ - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - แวะเปลี่ยนเครื่องสนามบินโดฮา
สนามบินชาล์เดอโกล์ล ฝรั่งเศส - พระราชวังแวร์ซายส์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย VIP ไม่มีต่อคิว) - พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย VIP ไม่มีต่อคิว) - ล่องเรือแม่น้ำแซน - ชมเมืองนครปารีส - อาหารพื้นเมืองหอยเอสคาโก้ อบเนยในร้านสุดหรู
ขึ้นหอไอเฟลชั้น 2 - ประตูชัย - ช้อปปิ้งห้างแกลลารี่ ลาฟาแยตต์
ปารีส - นั่งรถไฟด่วน TGV สู่ดิจอง - อินเทอร์ลาเก้น (สวิตเซอร์แลนด์)
ยอดเขาจุงเฟรา Top of Europe - นั่งกระเช้า The V-Cableways (ใหม่ล่าสุด) สู่เมืองกลินเดอร์วาวล์ - ลูเซิร์น - สะพานไม้ชาเปล - อนุสาวรีย์สิงโต (สวิตเซอร์แลนด์)
ลูเซิร์น - มิลาน - ถ่ายรูปมหาวิหารแห่งมิลาน - เวนิส
เวนิส - นั่งเรือสู่เกาะเวนิส - สะพานถอนลมหายใจ - จัตุรัสซานมาร์โค - วิหารซานมาร์โค ปีซ่า - หอเอนปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ปีซ่า - โรม - วาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - ถ่ายรูปด้านนอก โคลอสเซี่ยม - ถ่ายภาพคู่กับประตูชัยคอนสแตนติน (อิสระอาหารค่ำ)
โรม - จัตุรัส นาโวน่ - วิหารแพนเธออน - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน - สนามบินฟิอุมมิชิโน่ - แวะเปลี่ยนเครื่องสนามบินโดฮา
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แนะนำ การเดินทาง : ต้องได้รับวัคซีนที่ได้รับอนุญาตจากองค์การสหภาพยุโรป ได้แก่ * ไฟเซอร์ * จอหน์สัน & จอหน์สัน * โมเดอร์นา * แอสตร้า เซนเนก้า * ซิโนแวค และต้องแสดงหลักฐานผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ทั้งขาไป และขากลับ)
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

ฝรั่งเศส - สวิตเซอร์แลนด์ - อิตาลี 10 วัน 7 คืน

โดยสายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์

พระราชวังแวร์ซายส์ และพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ในแต่ละห้อง ที่สำคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว

ขึ้นชั้น 2 ของหอไอเฟิล สัญลักษณ์ของนครปารีสเลิศหรูอลังการโรแมนติค // นั่งรถไฟด่วน TGV เข้าสู่ดีจอง

แวะเที่ยวมิลาน มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ พร้อมถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งมิลาน

เที่ยวเกาะเวนิส ชมวิวบรรยากาศของเวนิส “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน”

นครรัฐวาติกัน เที่ยวชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

พักสวิสเซอร์แลนด์ 2 คืน พัก Interlaken สถานตากอากาศที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกชื่นชอบมากที่สุด

พักเมืองลูเซิร์น เมืองเล็กๆอันแสนน่ารัก ชมสัญลักษณ์ประจำเมือง สะพานไม้ชาเปล และ สิงโตหินแกะสลัก

ไม่รวม ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 20 ยูโรต่อท่าน - ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 16 ยูโรต่อท่าน

ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับใบรับรองโควิด-19 ของแต่ละประเทศ (ในบางประเทศถ้าไม่มีจะไม่สามารถเข้าร้านอาหาร หรือโรงแรมได้)

ค่าทำ Vaccine Passport - ค่าลงทะเบียน THAILAND PASS

ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทาง EMS ตรงถึง แผนกวีซ่า

ค่าตรวจ RT-PCR (ทุกกรณี ถ้ามี ตามมาตรการรัฐ) - ค่าแพ็คเกจ Test & go (ถ้ามี ตามมาตรการรัฐ)

กำหนดการเดินทาง ระหว่างเดือนพ.ค.-พ.ย. 65 เริ่มต้น ท่านละ 97,900.-

วันแรก กรุงเทพฯ - ปารีส

17.30 น. U คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) พบกับเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระในการเดินทาง

20.30 น. Qออกเดินทางสู่ มหานครปารีส โดยเที่ยวบินที่QR 833 / QR 041แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา  บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

วันที่สอง ปารีส - พระราชวังแวร์ซายส์ - พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ - ล่องเรือแม่น้ำแซน - ชมเมือง– อาหารพื้นเมืองหอยเอสคาโก้

อบเนยในร้านสุดหรู

07.25น. เดินทางถึง สนามบินชาล์เดอโกล์ล หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว รถโค้ชปรับอากาศมาตรฐานยุโรปนำท่านเดินทางไปยัง แวร์ซายส์ อดีตเมืองหลวงและศูนย์กลางการเมืองการปกครองในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อยู่ห่างจากปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร

นำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซาย (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ในแต่ละห้องข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่สำคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) พระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใหญ่ที่สุดในปฐพี ชมความอลังการของพระราชวังซึ่งได้รับการตกแต่งไว้อย่างหรูหราวิจิตรบรรจง ชมความงดงามของห้องต่างๆ อาทิเช่น ห้องอพอลโล, ห้องนโปเลียน ห้องบรรทมของราชินี, ห้องโถงกระจกท้องพระโรง, ห้องสงครามและสันติภาพ รวมถึงเรื่องราวและความเป็นมาของอดีตอันยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้ จากนั้นอิสระให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณอุทยานอันร่มรื่น และหลากหลายด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสีสันสวยงาม

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ นครปารีส นครหลวงของฝรั่งเศส ศูนย์กลางแห่งแฟชั่นชั้นนำของโลก ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำแซน

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1) (อาหารจีน)

บ่าย หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ อลังการ ณ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่สำคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดเก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวตึกที่ตั้งอยู่เคยเป็นพระราชวังมาก่อน โดยกษัตริฟิลิป-ออกัสตัส สร้างเป็นป้อมปราการ จากนั้นพระเจ้าชาร์ลที่ 5 ได้ขยายป้อมปราการลูฟร์ให้เป็นพระราชวัง พระเจ้าหลุยส์ 13 และ14 เคยประทับอยู่ที่นี่ ปัจจุบันลูฟร์เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 40,000 ชิ้น มีตั้งแต่ศิลปะสมัยอีทรัสกัน กรีก โรมัน อียิปต์ภาพเขียนและปติมากรรมยุคเรเนสซองซ์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับพีระมิดแก้ว ซึ่งเป็นทางเข้าหลักออกแบบโดยสถาปนิกเชื้อสายอเมริกัน - จีน นำท่านชื่นชม ภาพวาดโมนาลิซา ของลีโอนาร์โด ดาวินชี จิตรกรและสถาปนิกอัจฉริยะชาวอิตาเลียน ภาพวาดชวนพิศวงเนื่องมาจากรอยยิ้มอันเปี่ยมด้วยเลศนัยของนางที่อยู่ในภาพ จนทำให้ผู้คนวิจารณ์กันมากว่าแท้จริงแล้วโมนาลิซ่า คือใครกันแน่ เป็นบุรุษหรือสตรี ชมรูปปั้นภาพเทพธิดาวีนัส (Venus deMilo) และศิลปะสำคัญของโลกภายในพิพิธภัณฑ์

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือบาตามูซ เพื่อล่องเรือแม่น้ำแซน (ใช้ระยะเวลาล่องเรือประมาณ 1 ชม.) ชมวิวทิวทัศน์กันบนดาดฟ้าเรือ ชื่นชมความงามของทัศนียภาพของนครปารีส ชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสองฝั่งของแม่น้ำแซน โบราณสถาน และอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ตลอดทางท่านจะได้ความประทับใจกับความสวยงามของทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีสได้ชื่อว่าเป็นนครที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อาทิเช่น สะพานอเล็กซานเดอร์, ศาลาว่าการ, จัตุรัสคองคอร์ด, โรงกษาปณ์, เกาะอิลเดอลาซิเต้ ศูนย์กลางเมืองแห่งแรก สถานที่ตั้ง มหาวิหารนอเตรอดาม หรือโบสถ์นอเตรอดาม สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างงดงาม ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นครองราชย์ มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และทำให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก (ในกรณีที่น้ำในแม่น้ำแซนขึ้นสูงกว่าปกติหรือมีเหตุการณ์สุดวิสัย เช่น การนัดหยุดงาน เป็นต้น รายการล่องแม่น้ำแซนอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้)

ค่ำ ä รับประทานอาหารแบบพื้นเมืองฝรั่งเศส (เมนู หอยเอสคาโก้อบเนย ,ท่านสามารถ เลือก สเต๊กสไตล์ฝรั่งเศส 1 อย่าง อาทิ เป็ดอบซอส/ ปลา / เนื้อวัว / แกะ พร้อมจิบไวน์ฝรั่งเศส ตบท้ายด้วยของหวาน ) (มื้อที่ 2)

ã พักค้างคืน ณ Mercure Paris La Villette หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

วันที่สาม ขึ้นหอไอเฟลชั้น 2 - ประตูชัย - ช้อปปิ้งห้างแกลลารี่ ลาฟาแยตต์

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)

นำท่านถ่ายภาพ หอไอเฟล เป็นที่ระลึกจากมุมกว้างซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุดและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นนำท่าน ขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 2 ของหอไอเฟิล สัญลักษณ์ของนครปารีสเลิศหรูอลังการโรแมนติค เป็นหอสูงสร้างด้วยโครงเหล็กทั้งหมด โดยชาวฝรั่งเศสชื่อ กุสตาฟ เอฟเฟล มีความสูง 984 ฟุต ใช้เหล็กทั้งหมด 7 พันตัน สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1887 เพื่อเป็นประติมากรรมฉลองครบรอบ 100 ปีหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส ท่ามกลางเสียงคัดค้านของประชาชนในสมัยนั้นว่า รูปทรงน่าเกลียดอัปลักษณ์เป็นที่สุด หารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่สิบปีต่อมา หอเหล็กสูง 324 เมตร น้ำหนัก 10,000 ตันนี้ จะกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองที่คนทั่วโลกอยากมาเห็น ให้ท่านได้เพลิดเพลิน สนุกสนาน ชมทัศนียภาพอันสวยงามของกรุงปารีส ได้อย่างทั่วถึงและจุใจ นำท่านไปชม ประตูชัย สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนโปเลียน ก่อนนั่งรถผ่านชมสองฟากฝั่ง ถนนชองป์เซลิเซ่ ต้นแบบถนนราชดำเนินของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าขายของดีราคาแพงจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลก

เที่ยง อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัยเพื่อสะดวก และให้เวลากับการช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

บ่าย นำท่านสู่ ร้านสินค้าปลอดภาษี ย่านออสมันบูโลวาร์ด เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่คืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ อาทิเช่น เครื่องสำอาง, น้ำหอม, เครื่องประดับ, กระเป๋าหนัง และเครื่องหนังอื่นๆ รวมทั้งเสื้อผ้า Brand Name จากฝรั่งเศส จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แกลลารี่ ลาฟาแยตต์ ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมทุกยี่ห้อรวมถึง Louise Vuitton ท่านที่ไม่มีความประสงค์ช้อปปิ้งสามารถเดินชมความงามของ บ้านเมืองและโรงละครโอเปร่าที่เก่าแก่สวยงาม เพราะย่านช้อปปิ้งอยู่กลางเมืองมีอาคารบ้านเรือนสวยงามมาก 

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4)  (อาหารไทย)

ã พักค้างคืน ณ Mercure Paris La Villette หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่สี่ ปารีส - รถไฟด่วน TGV - ดิจอง - อินเทอร์ลาเก้น (สวิตเซอร์แลนด์)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางไปยังสถานีรถไฟ TGV นำท่านเดินทางสู่เมืองดิจอง ด้วยรถไฟด่วน TGV เพลิดเพลินและสนุกสนานกับความสะดวกสบาย ด้วยความเร็วกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ไม่ต้องลากกระเป๋าใหญ่ไปให้ลำบาก เพราะเรามีรถบัสขนสัมภาระไปให้ท่าน ) (ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชม. 45 นาที ) ผ่านชมทิวทัศน์ของท้องทุ่งและชีวิตผู้คนชาวฝรั่งเศสในชนบทไปยัง เมืองดิจอง เมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องไวน์ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่สวยงามของประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดีชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6) (อาหารพื้นเมือง สไตล์ฝรั่งเศส )

บ่าย เดินทางต่อสู่ เมืองอินเทอร์ลาเค่น ( ประมาณ 309 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 3 ชม. 50 นาที) เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ , นาฬิกาดอกไม้ , สถานคาสิโน ฯลฯ ให้ท่านเดินเล่นพักผ่อน ชื่นชมบรรยากาศของตัวเมืองที่มีทุ่งหญ้ากว้างกลางเมือง มีสวนดอกไม้เล็กๆ น่ารักสร้างสีสันให้ตัวเมือง รวมทั้งมีอาคารคาสิโนคูซาลอายุกว่า

100 ปีที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และยังเป็นคาสิโนของเมืองอีกด้วย

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7) (ฟองดู ต้นตำหรับสวิตเซอร์แลนด์)

ã พักค้างคืน ณ Metropole หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)

วันที่ห้า ยอดเขาจุงเฟรา Top of Europe - ลูเซิร์น - สะพานไม้ชาเปล - อนุสาวรีย์สิงโต (สวิตเซอร์แลนด์)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 8)

นำคณะออกเดินทางโดยรถโค้ชมุ่งหน้าขึ้นสู่ เมืองเลาเทอร์บรุนเน่น เพื่อนำท่านขึ้นรถไฟ สายจุงเฟราบาห์เนน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์แบบสวิสเซอร์แลนด์ขนานแท้ ที่มีทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ล่วง บ้านหลังน้อยใหญ่ปลูกแบบน่ารักๆทรงสวิสชาเลต์ ฝูงวัวพื้นเมืองที่กระจัดกระจายแทะเล็มหญ้าอยู่ทั่วบริเวณ ลำธารน้ำธรรมชาติเล็กๆที่ใสสะอาดและฉากหลังที่มีภูเขาหิมะตั้งตระหง่านขาวโพลน ซึ่งจะทำให้คณะได้รับความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง นั่งรถไฟชมวิวท่องเที่ยวธรรมชาติบนภูเขาสูงแห่งแอลป์ แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสายภูเขาที่สถานีไคลน์ไชเด็ก รถไฟที่จะนำท่านเดินทางลอดอุโมงค์ที่ชาวสวิสฯได้ขุดเจาะไว้ที่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนกระทั่งถึง สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป Top of Europe บนยอดเขาจุงเฟรา ซึ่งมีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) จุดสูงสุดคือลานน้ำแข็งขนาดใหญ่เรียกว่า Sphinx นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่สวยงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์ เพราะยอดเขาแห่งนี้ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านถ่ายภาพความประทับใจตามอัธยาศัยกับแบบจุใจ ไม่มีเร่งรีบ จากนั้นนำท่าน ชม ถํ้านํ้าแข็ง 1,000 ปี  ที่สร้างโดยการเจาะธารน้ำแข็งเข้าไปถึง 30 เมตร พร้อมชมน้ำแข็งแกะสลักรูปร่างต่าง จากนั้นชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสหิมะที่ลานพลาโต Plateau และไม่ควรพลาดการส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกพร้อมซื้อของที่ระลึกต่างๆตามอัธยาศัย นำท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจ เดินทางสู่ ยุงค์ฟราวยอร์ค-หลังคายุโรป ไปแล้วไม่ได้มาจุดชมวิว จุดนี้เหมือนมาไม่ถึง

เที่ยง ä รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงเฟรา (มื้อที่ 9)

บ่าย ได้เวลาอันสมควรนำคณะเดินทางลง จากยอดเขาจุงเฟราไปยังสถานีรถไฟ ไอเกอร์เกลทเชอร์ เพื่อนำท่านขึ้นกระเช้า The V-Cableways (กระเช้าใหม่ล่าสุด)ลงมายังเมืองกลินเดอร์วาวล์ จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ประมาณ 80 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 1 ชม.) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ อันหมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น สะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุหลายร้อยปี นําท่านชม อนุสาวรีย์สิงโต สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และกล้าหาญของชาวสวิสเซอร์แลนด์ ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศสระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในคราวปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศส แกะสลักอยู่บนหน้าผาหิน ให้ท่านชื่นชมบรรยากาศกลางเมืองน่ารักเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่มีร้านตัวแทนจำหน่าย นาฬิกาสวิสฯ อาทิ ROLEX,PANERAI, OMEGA, IWC, PATEK PHILLIP เป็นต้น หรือเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10)

ã พักค้างคืน ณ Astoria Lucerne หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4)

วันที่หก ลูเซิร์น - มิลาน - มหาวิหารแห่งมิลาน - เวนิส

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 11)

นำท่านเดินทางไปยัง เมืองมิลาน (ประมาณ 246 กม. ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชม.) เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม นอกจากนี้มิลานยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน (Panettone) อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึง สโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลาน และ สโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน ถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3,000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 12) (อาหารจีน)

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส – เมรเตร้ (ประมาณ 264 กม. ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชม.20 นทที) เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” มีเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13)

ã พักค้างคืน ณ Novotel Venice Mestre หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5)

วันที่เจ็ด เวนิส - นั่งเรือสู่เกาะเวนิส - สะพานถอนลมหายใจ - จัตุรัสซานมาร์โค - วิหารซานมาร์โค ปีซ่า - หอเอนปิซ่า

1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 14)

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเชโต จากนั้นลงเรือเหมาลำส่วนตัวเดินทางสู่ เกาะเวนิส (ระยะเวลาในการนั่งเรือ ประมาณ 30 นาที) เรือจอดเทียบท่าที่ ท่าเรือซานมาร์โก (เซนต์มาร์ก)

จากนั้นนำท่านเดินเท้าไปยัง จัตุรัสซานมาร์โก อันเป็นศูนย์กลางของนครเวนิส ผ่านชม สะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง พระราชวังดอจ กับ เรือนจำโบราณ อันเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคนั้นอีกด้วย ชม โบสถ์เซนต์มาร์ก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์และอาคารรายระเบียงสำหรับนักท่องเที่ยวนั่งพักผ่อนหย่อนใจกับร้านกาแฟชื่อดังหรือเลือกช้อปปิ้งสินค้าของเวนิสตามร้านต่างๆ อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบและคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ถึงเวลานัดหมายนำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่ง ท่าเรือตรอนเชโต้

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 15)

บ่าย นำท่านเดินทางผ่าน โบโลญญ่า เมืองมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ของอิตาลีไปยัง เมืองปีซ่า (ประมาณ 328 กม. ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชม. 30 นาที) เมืองซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเชิงเขา Monte Pisano ทางตะวันตกของแคว้นทัสคานี อดีตเมืองท่าริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันตก ที่มีชื่อเสียงของชาวโรมันช่วงศตวรรษที่ 11 - 13 บ้านเกิดของนักดาราศาสตร์เอกของโลก กาลิเลโอ กาลิเลอิ นำท่านชม หอเอนเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสูง 181 ฟุต เริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ.1174 แต่การก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงเมื่อก่อสร้างไปได้ประมาณ 4-5 ชั้น เนื่องจากพื้นดินใต้อาคารเริ่มยุบลง จากการที่รากฐานของอาคารไม่มั่นคงพอ อย่างไรก็ตามต่อมาได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อปีค.ศ.1350 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโครงสร้างด้านบนไปจากแผนผังเดิมเพื่อถ่วงดุลกับการเอียงของหอ โดยรวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 176 ปี แต่ตัวหอก็ยังเอนไปจากแนวตั้งฉากถึง14 ฟุต ปัจจุบันนี้ได้ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมด้านบนแล้ว เนื่องจากว่าหอจะเอนลงเรื่อยๆ ซึ่งบรรดาวิศวกรกำลังหาทางที่จะหยุดยั้งการเอนและอนุรักษ์ให้มีสภาพเอียงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ชมไปอีกนานๆ สำหรับหอเอนปิซ่านี้ภายในมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายด้วยฝีมือจิตรกรชื่อดังแห่งยุคได้สลักลวดลายไว้สวยงามมาก ณ ที่หอเอนปิซ่าแห่งนี้ เป็นที่ที่กาลิเลโอขึ้นไปทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับแรงดึงดูดของโลก

ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 16)

(อาหารพื้นเมือง พาสต้าต้นตำหรับอิตาลี + อาหารจานหลัก (เมนคอร์ส) + ของหวาน)

ã พักค้างคืน ณ GALILEI HOTEL หรือเทียบเท่า (คืนที่ 6)

วันที่แปด ปีซ่า - โรม - วาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - โคลอสเซี่ยม - ถ่ายภาพประตูชัยคอนสแตนติน

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 17)

นำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม ( ประมาณ 357 กม. ใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ชม.) เมืองหลวงของประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซิโอ มีทั้งความเก่าและความใหม่ซ้อนแทรกอยู่ด้วยกันแทบจะแยกไม่ออก โรมเป็นศูนย์กลางของความเจริญในยุคโบราณ และอาณาจักรโรมันได้แผ่ขยายออกไปทุกทิศทุกทางชนิดที่มีคำกล่าวว่า “ถนนทุกสายมุ่งสู่ กรุงโรม”

เที่ยง ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 18) (อาหารจีน)

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ นครรัฐวาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นำท่านเข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก “เพียต้า” ผลงานของศิลปินเอก ไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลี ชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โรมันฟอรั่ม

จากนั้นคณะแวะถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน

จากนั้นให้ ท่านถ่ายภาพคู่กับประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม ” รถโค้ชนำท่านวิ่งผ่านชมสถานที่ต่างๆรอบกรุงโรม ถึงเวลานัดหมายนำท่านนั่งรถผ่านชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่ โรมันฟอรั่ม เข้าสู่ จัตุรัสเวเนเซีย ชม ระเบียงปาลาสโซ่ ที่กล่าวสุนทรพจน์ของมุสโสลินี และ อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 หรือพระบิดาของชาวอิตาลี

ค่ำ อิสระตามอัธยาศัยเพื่อสะดวก และให้เวลากับการช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ã พักค้างคืน ณ IH Hotel Roma Z3 หรือเทียบเท่า (คืนที่ 7 )

วันที่เก้า โรม - จัตุรัส นาโวน่ - วิหารแพนเธออน - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน - กรุงเทพมหานคร

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 19)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัส นาโวน่ จัตุรัสที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อก เรียกได้ว่ามีความยอดเยี่ยมที่สุดของกรุงโรม ประเทศอิตาลี ในอดีตเป็นสนามกีฬาโรมันที่ใช้ต่อสู้ประลองอาวุธกันของผู้เข้าแข่งขันที่จำลองมาจากการต่อสู่ทางทะเล จัตุรัส นาโวน่าเป็นจัตุรัสที่ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่มีชื่อเสียงที่สุดและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโรมที่เปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศจากนั้น

นำท่านชม วิหารแพนเธออน เป็นสถาปัตยกรรมสำคัญ สร้างขึ้น โดยจักรพรรดิมาร์คุส วิบซานิอุส อะกริบปา จุดมุ่งหมายในการสร้างไม่ชัดเจนต่อมามีการสร้างใหม่ในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียน ใน ค.ศ. 126 และซ่อมใหญ่ในปี ค.ศ. 202 โดยจักรพรรดิ์ เซพติมิอุส เซเวรุส และคาราคาลา การก่อสร้างในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียนมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเทวสถานของเทพเจ้าโรมัน 7 องค์หรือเทพแห่งดาวในระบบสุริยะ APOLLOพระอาทิตย์ DIANA พระจันทร์ MARS อังคาร MERCURY พุธ JUPITER พฤหัส VENUS ศุกร์ SATURN เสาร์ ลักษณะเด่นของตัววิหารคือมีหลังคาทรงกลมและโค้งเป็นครึ่งวงกลมวางอยู่บนเสาหินแกรนิตขนาดมหึมา วิหารมีความสูงถึง 43.3 เมตร รายละเอียดของโดมหลังคาภายในวิหาร รวมถึงโครงสร้างที่แข็งแรงและยืนหยัดมานานกว่าสองพันปี ตั้งแต่คริสต์ษตวรรษที่ 7 เป็นต้นมา วิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นโบสถ์โรมันแคธอริค อุทิศแด่พระแม่มารีและผู้พลีชีพเพื่อศาสนา

นำท่านชม น้ำพุเทรวี่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโรม ออกแบบก่อสร้างด้วยหินอ่อนตามสไตล์บารอกที่งดงามอลังการด้วยฝีมือของ นิโคลา ซัลเวีย ว่ากันว่าถ้ามาโรมแล้วไม้ได้เห็นน้ำพุเทรวี่ก็เท่ากับมาไม่ถึงโรม และเมื่อไปถึงแล้วก็ต้องโยนเหรียญไว้เพื่อเป็นที่ระลึกและเป็นเคล็ดว่าจะได้กลับมาเยือนโรมอีก

สมควรแก่เวลานำท่านเดินเล่นที่ ย่านบันไดสเปน จัตุรัสแห่งนี้ถูกเรียกชื่อตามสถานทูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณนั้น บริเวณแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1723 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1725 สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุมชมกันของหนุ่มสาวผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ ถึงเวลานัดหมายนำท่านเดินทางสู่ สนามบินฟิอุมมิชิโน่

16.35 น. Q ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ QR 114 / QR 838 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

วันที่สิบ กรุงเทพมหานคร

05.45 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP