เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ยุโรป

 รหัส : Z8570
เดินทางโดย : QR-กาตาร์แอร์เวย์
โรงแรม : 4 ดาว |  จำนวนวัน : 10 วัน 7 คืน
อิตาลี - ซานมารีโน - ออสเตรีย - เยอรมนี : นครวาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - โคลอสเซี่ยม - ป้อมกูไอตา - เกาะเวนิส - ทะเลสาบมิสซูรีน่า - นั่งกระเช้า Cable Car ขึ้นเนินเขา Alpe Di Siusi ชมวิวเทือกเขาโดโลไมท์ - เข้าชม ปราสาทนอยชวานสไตน์ - เข้าชมสวนมิราเบล - หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ - จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ / พักบนเกาะเวนิส 1 คืน / ฟรี กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว, ซิมเน็ตต่างประเทศ / คณะออกเดินทาง 10 ท่านขึ้นไป
ไม่รวม ค่าทิปไกด์ - ทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความประทับใจ และน้ำใจจากท่าน - ทิปพนักงานยกกระเป๋า - ค่าอาหารนอกเหนือจากที่ระบุ - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว - ค่าตรวจ RT PCR (ถ้ามี / ตามมาตรการรัฐกำหนด) - ค่าทำ Vaccine Passport - ค่าลงทะเบียน THAILAND PASS (ถ้ามี / ตามมาตรการรัฐกำหนด)

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
เปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ - สนามบินกรุงโรม, อิตาลี - นครวาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - โคลอสเซี่ยม - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน
โรม - อัสซีซี - มหาวิหารนักบุญฟรานซิส - ซานมารีโน
ซานมารีโน - ป้อมกูไอตา - มหาวิหารนักบุญมารีโน - โบโลญญ่า - จัตุรัสเปียสซ่า มัจโจเล่ - นั่งเรือสู่เกาะเวนิส - เก็บภาพจัตุรัสซานมาร์โค - สะพานทอดถอนใจ - ล่องเรือกอนโดล่า - พักบนเกาะเวนิส
เวนิส - ทะเลสาบมิสซูรีน่า - กอร์ตีนาดัมเปซโซ - เทือกเขาโดโลไมท์ - นั่งกระเช้า Cable Car ขึ้นเนินเขา Alpe Di Siusi ชมวิวเทือกเขาโดโลไมท์ - อินส์บรุค, ออสเตรีย
อินส์บรุค - ฟุสเซ่น
ฟุสเซ่น - เข้าชม ปราสาทนอยชวานสไตน์ - ซาลซ์บวร์ก - เข้าชมสวนมิราเบล
ซาลซ์บวร์ก - หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ - มิวนิค - จัตุรัสมาเรียนพลัส - ถ่ายภาพคู่โบสถ์เฟราเอนเคียร์เชอ
มิวนิค - จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ - สนามบินมิวนิค - เปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แนะนำการเดินทาง : ต้องได้รับวัคซีนที่ได้รับอนุญาตจากองค์การอนามัยโลก ได้แก่ * ไฟเซอร์ * จอหน์สัน & จอหน์สัน * โมเดอร์นา * แอสตร้า เซนเนก้า * ซิโนแวค
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

อิตาลี - ซานมารีโน - ออสเตรีย - เยอรมนี 10 วัน 7 คืน

โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์

รับเฉพาะผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว

ไม่รวม ค่าทิปไกด์ - ทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความประทับใจ และน้ำใจจากท่าน - ทิปพนักงานยกกระเป๋า

ค่าอาหารนอกเหนือจากที่ระบุ - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว - ค่าตรวจ RT PCR (ถ้ามี / ตามมาตรการรัฐกำหนด)

ค่าทำ Vaccine Passport - ค่าลงทะเบียน THAILAND PASS (ถ้ามี / ตามมาตรการรัฐกำหนด)

1 กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)

23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น4 สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ (QR) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

2 กรุงโรม-นครวาติกัน-มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์-โคลอสเซี่ยม-น้ำพุเทรวี่-บันไดสเปน

02.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ (QR) เที่ยวบินที่ QR837 (02.30-05.45 / QR131 (08.45-13.55) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 15.50 ชั่วโมง (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

13.55 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) ท่านเดินทางสู่ กรุงโรม(Rome) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี(Italy) อดีตอันยิ่งใหญ่และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันโรมมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี กรุงโรมตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศ โดยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรในอดีตมากมาย เช่นอาณาจักรโรมัน สาธารณโรมัน และจักรวรรดิโรมัน โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลกนานนับศตวรรษจนกลายมาเป็นเมืองหลวงในปัจจุบัน กรุงโรมได้รับฉายาว่าเป็น เมืองอมตะนคร หรือนครที่ไม่มีวันตาย เป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรม ศูนย์กลางแห่งศิลปวัฒนธรรม ศูนย์กลางการปกครองและอำนาจของอาณาจักรโรมัน กรุงโรมนับได้ว่าเป็นหนึ่งในเมืองทางด้านแฟชั่นของโลก และเต็มไปด้วยร้านแบรนเนมชื่อดัง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ นครวาติกัน(Vatican) รัฐอิสระที่เล็กที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของกรุงโรม โดยมีพระสันตะปาปาเป็นองค์ประมุข ชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์(St. Peter Basilica) มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป บริเวณทางเข้าก่อนถึงตัวมหาวิหาร ความสวยงามของลานกว้างรูปไข่ที่ เรียกว่า เปียซซา ซาน พิเอโตร ซึ่งล้อมรอบด้วยเสา 284 ต้น และรูปปั้นนักบุญ 96 องค์ และบริเวณกลางลานจะเห็นเสาโอบิลิสก์ อายุกว่า 2,000 ปี เมื่อเข้าไปภายในโบสถ์จะพบกับรูปสลักหินอ่อน พิเอต้า พระแม่มารีอุ้มศพของพระเยซูอยู่บนตัก ผลงานแกะสลักหินอ่อนที่มีชื่อเสียงมากของไมเคิล แองเจโล่ ชมแท่นบูชาสำหรับพระสันตะปาปาทำพิธีมิสซา ตั้งอยู่เหนือที่ฝังศพของนักบุญปีเตอร์

นำท่านสัมผัสความยิ่งใหญ่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกโคลอสเซี่ยม(Colosseum) ให้ท่านเก็บภาพด้านนอกสนามกีฬายุคโบราณที่สามารถจุคนได้ถึง 50,000 คน มีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปี เป็นสถานที่สำหรับให้ความบันเทิงในยุคนั้น โดยจัดให้มีการต่อสู้ระหว่าง นักสู้ที่เราเรียกว่า กลาดิเอเตอร์ นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้ระหว่างนักโทษกับสัตว์ป่าที่ดุร้ายอย่างเช่นสิงโต เสือ หมี ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลและชื่อเสียงมากมาย ส่วนผู้แพ้จะถูกตัดสินว่าให้มีชีวิตรอดหรือไม่ โดยการยกหัวแม่มือของผู้ชมหรือกษัตริย์ จากนั้นนำชมความงามของน้ำพุเทรวี่(Travi Fountain) ซึ่งมีรูปปั้นของเทพเจ้าเนปจูนตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำพุแห่งนี้ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ แล้วหันหลังใช้มือขวาโยนเหรียญข้ามบ่าซ้ายลงไปในน้ำพุแห่งนี้แล้วจะได้มีโอกาสได้มาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง จากนี้ให้ท่านได้เดินเล่นบริเวณบันไดสเปน(Spanish Steps) ซึ่งเป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป ซึ่งมีทั้งหมด 138 ขั้น และยังตั้งอยู่ด้านหน้าถนนคอนดอตติ(Via Condotti) ที่นี่เต็มไปด้วยห้างหรูๆ ขายสินค้าเครื่องประดับมียี่ห้อดังๆ (Brand Name street) อาทิ กุชชี่, อาร์มานี, พราด้า, หลุยส์ วิคตอง, มิซโซนี, เวอร์ซาเช่ อิสระให้เลือกชม เลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึก ของฝาก ตามอัธยาศัย

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hotel Marriott Park Pome หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

3 โรม-อัสซีซี-มหาวิหารนักบุญฟรานซิส-ซานมารีโน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัสซีซี (Assisi) เมืองศักดิ์สิทธิ์ที่นักแสวงบุญ และคริสตศาสนิกชนโดยเฉพาะคาทอลิกจะมาจาริกแสวงบุญกัน เพราะเป็นเมืองเกิดของนักบุญฟรานซิส นักบวชผู้ก่อตั้งคณะฟรานซิสกัน ท่านมีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะในเรื่องของความเมตตา และทุกวันนี้มีคนนับถือท่านอยู่ทั่วโลก

นำชมมหาวิหารนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี (Basilica of St. Francis of Assisi) โบสถ์โรมันคาทอลิกคณะฟรันซิสกัน มหาวิหารเริ่มสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นมหาวิหารที่มีสามชั้น ส่วนล่างเริ่มสร้างไม่นานหลังจากที่

ฟรานซิสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักบุญเมื่อปี ค.ศ. 1228 ซิโมเน ดิ พูเชียเรลโล เป็นผู้อุทิศที่ดินและบริเวณเนินเขาทางด้านตะวันตกของเมืองอัสซีซีให้เป็นที่สร้างโบส์ ที่ดินบริเวณนี้แต่เดิมเรียกว่า “เนินนรก” แต่ปัจจุบันเรียกกันว่า “เนินสวรรค์”

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ประเทศซานมารีโน(San Marino) หรือ สาธารณรัฐซานมารีโน ถือเป็นประเทศที่เล็กที่สุดลำดับที่สามของโลก รองจากโมนาโก (Monaco) และรัฐวาติกัน (Vatican) แต่เป็นประเทศสาธารณรัฐที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ยุโรปทางตอนใต้ บนเทือกเขาแอเพนไนน์ ล้อมรอบไปด้วยประเทศอิตาลี ที่ซึ่งมีพรมแดนใกล้กันนั้นเอง ประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 301 ช่างหินชาวคริสต์คนหนึ่ง มีนามว่า มารีนุส ได้ลี้ภัยจากการตามล่า ของศาสนาและได้ย้ายมาอยู่ยัง ที่ตั้งของประเทศนี้ จากนั้นในเวลาต่อมาเขาเอง ได้เป็นบาทหลวงในเวลาต่อมา หลังจากได้รับการยอมรับจาก ผู้คนในท้องถิ่น จนได้ที่มาของชื่อดินแดนนี้ว่า ซานมารีโน

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hotel Grand San Marino หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

4 ซานมารีโน-ป้อมกูไอตา-มหาวิหารนักบุญมารีโน-โบโลญญ่า-เวนิส

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำชมป้อมปราการกูไอตา (Guaita Tower) ป้อมปราการ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงสุด ของเมืองซานมาริโน ที่งดงามไปด้วย มนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโรมัน และยังมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ของด้านล่างได้อย่างชัดเจน และป้อมปราการแห่งนี้ เคยเป็นฐานทัพที่สำคัญ จึงมีกำแพงขนาดใหญ่ล้อมรอบป้อมปราการ

นำชมมหาวิหารนักบุญมารีโน(Basilica of San Marino) โบสถ์ที่ได้รับการนับถือมากที่สุดของซานมารีโน มีหน้าอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกที่เด่นสะดุดตา และจัดเก็บอัฐิของบิดาผู้ก่อตั้งประเทศ มหาวิหารซานมารีโนเป็นโบสถ์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนามากที่สุดแห่งหนึ่งของซานมารีโน ชมผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมที่แสดงให้เห็นพรสวรรค์ของสถาปนิกชาวเมืองโบโลญญา อันโตนิโอ แซร์รา

นำชมด้านหน้าปาลาซโซปุบบลิโก (Palazzo Pubblico) ศาลากลางของเมือง สร้างในปลายช่วง ค.ศ. 1900 โดยสถาปนิกจากกรุงโรม โดยจำลองลักษณะที่ภูมิฐานของอาคารอิตาเลียนสมัยศตวรรษที่ 13 และ 14 สังเกตช่องโค้งแบบโกธิก ปราการบนดาดฟ้าและหอนาฬิกา ซึ่งประดับด้วยภาพโมเสกของนักบุญอกาตา ลีโอ และกวีรีโน

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบโลญญ่า (Bologna) เมืองประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงทางด้านท่องเที่ยว และเป็นเมืองหลวงของแคว้น เอมีเลีย - โรมัญญา เป็น 1ใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี โดยตัวเมืองนั้นตั่งอยู่ในหุบเขาโป ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลโดยตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำโป กับ เทือกเขาแอเพนไนน์นอกจากนี้แล้วเมืองโบโลญญ่ายังเป็นหนึ่งในเมืองยุคกลางที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป นำท่านชม จัตุรัสเปียสซ่า มัจโจเล่ (Piazza Maggiore) จัตุรัสขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในใจกลางของส่วนเมืองเก่าที่คงอนุรักษ์ไว้อย่างดี จัตุรัสที่ล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญ โบสถ์ซาน เปโตรนิโอ (Basilica of San Petronio) ซิตี้ฮอลล์ (City Hall ) ลานน้ำพุเทพเนปจูน (Fontana del Nettuno) และ อาคารปาลาซโซ เดล โพเดสตา (Palazzo del Podesta)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส (Venice Mestre) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโตเวนิส ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริกเป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด มีอาคารร้านอาหาร บ้านเมืองแบบดั้งเดิมตั้งริมคลองเวนิสได้รับฉายาว่าเมืองแห่งสายน้ำและเมืองแห่งสะพาน

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต(Tronchetto) เพื่อโดยเรือสู่เกาะเวนิส(Venice Island) เมืองในฝันของนักท่องเที่ยวหลายๆคน

ชมความสวยงามของจัตุรัสซานมาร์โค(Piazza San Marco) จุดศูนย์กลางของเกาะเวนิส ที่รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ มหาวิหารซานมาร์โค(St. Mark's Basilica) เดิมที่เป็นโบสถ์ส่วนตัวของผู้ครองเมืองในสมัยนั้น พระราชวังดอจส์ (Doge’ s Palace) ภายในของพระราชวังซึ่งประกอบด้วยห้องที่ประทับ เรือนรับรอง ห้องทรงงาน ห้องดนตรี ห้องลีลาศ และห้องพิจารณาคดี ซึ่งจะมีสะพานทอดถอนใจ(Bridge of Sighs) ที่เชื่อมต่อกับคุก ถ่ายรูปกับลีโอเน่(Lione) รูปปั้นสิงโตตัวใหญ่ติดปีกพร้อมถือหนังสือ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเวนิส อิสระให้ท่านเดินชมความโรแมนติกของเกาะแห่งนี้พร้อมทั้งช้อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงมากมายอย่างเช่นเครื่องแก้วมูราโน่ ซึ่งที่นี่เป็นศูนย์กลางการผลิตมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 พร้อมทั้งให้ท่านได้ร่วมชมสาธิตการเป่าแก้วที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอีกด้วย

นำท่านล่องเรือกอนโดล่า เอกลักษณ์ของเมือง และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ชมความงามสุดแสนโรแมนติก

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ!!! เมนูสปาเก็ตตี้หมึกดำ

พักที่ Hotel Albergo Cavalletto & Doge Orseolo หรือเทียบเท่า พักในเกาะเวนิส

5 เวนิส-ทะเลสาบมิสซูรีน่า-กอร์ตีนาดัมเปซโซ-โดโลไมท์-อินส์บรุค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านสู่ ทะเลสาบมิสซูรีน่า (Lake Misurina) ทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในคาดอร์(Cadore) แห่งประเทศอิตาลี โดยอยู่ในระดับความสูง 1,754 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บริเวณหุบเขาโดโลไมท์ที่มีความงดงามดุจในเทพนิยาย ความงานของภูมิทัศน์ธรรมชาติอันสมบูรณ์แบบทำให้ที่ทะเลสาบมิสซูรีน่าแห่งนี้ ได้พักผ่อนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ได้อยู่ใกล้สายน้ำคอยพักกายพักใจ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์สบายปอดใน ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล และมีวิวของหุบเขาโอบล้อมเอาไว้ซึ่งเป็นไฮไลท์เด็ดของทะเลสาบมิสซูรีน่า

นำท่านเดินทางสู่เมืองกอร์ตีนาดัมเปซโซ (Cortina d'Ampezzo) เมืองสกี รีสอร์ท ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ เป็น Best of The Alps เพียงแห่งเดียวของอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเป็น ไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมท์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ชมความงามเทือกเขาโดโลไมท์(Dolomites Mountains) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ที่ทอดตัวอยู่ในเขตอิตาลีตอนเหนือ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากลักษณะของยอดเขาต่างๆ ที่แทงยอดสูงเสียดฟ้า มีทัศนียภาพงดงาม จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ทั้งในช่วงฤดูหนาว ที่มีสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา

นั่งกระเช้า Cable Car ขึ้นสู่เนินเขา Alpe Di Siusi ชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันมหัศจรรย์ของเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โดยมีเทือกเขา Sasolungo Mountain Range ที่มีรูปทรงแหลมชันเป็นจุดเด่น มีเส้นทางเดินลัดเลาะสู่จุดชมวิวให้ท่านได้เลือกเก็บภาพสวยๆ

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) ประเทศออสเตรีย(Austria) ข้ามพรมแดนที่เมืองเบรนเนอร์ และสะพานยุโรปที่ทอดตัวข้ามหุบเหวถึง 190 เมตร ที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาแอลป์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งสกีของยุโรปในเทือกเขาแอลป์ และยังได้รับเกียรติในการเป็นเจ้าภาพแข่งขันกีฬาฤดูหนาวถึง 2 ครั้ง

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hotel AC Innsbruck หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

6 อินส์บรุค-อินส์บรุค-ฟุสเซ่น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านชมเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) ที่ได้รับการกล่าวขานว่างดงามเมืองหนึ่งในเทือกเขาแอลป์ แม้แต่ราชสำนักของราชวงศ์ฮัปสบูร์กที่ยิ่งใหญ่ ยังคงสร้างที่พำนักไว้ เสน่ห์ของเมืองอยู่ที่ อาคารหลังคาทองคำ (Goldness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อนและมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประทับใจกับเฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus) ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโคโคเข้าไปในศตวรรษที่ 18 ทำให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดนเนอร์แอดเลอร์ สร้างตั้งแต่ ค.ศ.ที่ 16 เป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง, วังฮอฟบูรก์ (Hofburg) ที่แปรพระราชฐานในช่วงฤดูหนาว, ฮอฟเกอเค่ (Hofkirche) ที่ถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1563 และ สวนสาธารณะ (Hofgarten) ให้ความร่มรื่นและงดงามไปด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) เมืองปลายทางสุดท้ายของถนนสายโรแมนติค ตั้งอยู่ที่แคว้นบาวาเรียทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี (Germany) ติดกับชายแดนประเทศออสเตรีย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเยอรมนีเก่าแก่นับพันปีที่ได้รับ ฉายาว่า Village of the king’s castles เพราะเป็นที่ตั้งของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein) และ โฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) ปราสาทสีขาว และสีเหลืองที่โด่งดังคู่กันเป็นเวลาช้านาน ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองที่มีความน่ารัก และมีสิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ ตัวตึกหรืออาคารบ้านช่องของทั้งเมืองจะตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงาม

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ!!! เมนูขาหมูเยอรมัน และ เบียร์

พักที่ Hotel Luitpold Park, Fussen หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

7 ฟุสเซ่น-ปราสาทนอยชวานสไตน์-ซาลซ์บวร์ก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านชม ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ปราสาทเจ้าหญิงแห่งบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ปราสาทสวยที่แม้แต่ราชาการ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ ยังหลงใหลนำไปเป็นปราสาทเจ้าหญิงนิทราในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของตัวปราสาทที่โดดเด่นและมีทะเลสาบและธารน้ำ เปรียบได้กับปราสาท 3 ฤดู ไม่ว่า

ท่านจะเดินทางไปเยือนในช่วงฤดูไหน ก็จะมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันออกไป ทุกห้องในปราสาท ตกแต่งอย่างงดงาม

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ท่านเดินทางสู่ เมืองซาลซ์บวร์ก (Salzburg) เมืองเล็กๆ ที่แสนจะโรแมนติกของประเทศออสเตรีย(Austria) ซาลซ์บวร์กได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1997 เป็นเมืองอันดับต้นๆ ของออสเตรียที่มีผู้คนไปเยือนเป็นจำนวนมาก ในอดีตที่นี่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการทำเหมืองเกลือจนร่ำรวย และเมืองนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อก้องโลก The Sound of Music นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเกิดของคีตกวีเอกของโลก โมซาร์ต ซึ่งตั้งอยู่บ้านเลขที่ 9 ถนน Getreidegasse ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจได้สัมผัสโลกของศิลปินเอก และสถานที่ที่โดดเด่นอีกแห่งคือ ป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บวร์ก ที่สร้างอยู่บนเนินเขา นำท่านเข้าชมสวนมิราเบล(Mirabell Garden) สถานที่แห่งนี้ถูกยกย่องให้เป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดใน ซาลซ์บวร์ก โดยแต่เดิมนั้นถูกสร้างในรูปแบบของเรขาคณิตโดยตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้หลากสี โดยมีน้ำพุเป็นส่วนประกอบซึ่งเป็นสวนแบบบารอคที่สวยงาม ที่ได้มีการเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมความงามของสวนดังกล่าวในปี 1858 ที่สำคัญ สวนมิราเบล ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เดอะซาวด์ออฟมิวสิค

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hotel Trend Europa, Salzburg หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

8 ซาลซ์บวร์ก-ฮัลล์สตัทท์-มิวนิค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) หมู่บ้านโบราณเก่าแก่เล็กๆ ในแถบ Salzkammergut ริมทะเลสาบ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขาอันแสนโรแมนติก และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพิกัดที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุดของแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย กับความงดงามตามธรรมชาติสุดคลาสสิคของหุบเขาสูงที่โอบล้อมทะเลสาบอันนิ่งสงบที่มีน้ำใสราวกับกระจกคริสตัล ที่พร้อมสะท้องภาพความอลังการของขุนเขาใหญ่ที่มีหิมะสีขาวปกคลุมสวยๆ ตรงหน้าให้เพิ่มความอลังการขึ้นอีกเป็นทวีคูณ ไปพร้อมๆ กับบรรยากาศอบอุ่น สบายเป็นกันเองของหมู่บ้านเก่าแก่เล็กๆ สุดน่ารักซึ่งเติมไปด้วยร่องรอยอารยธรรมของประวัติศาสตร์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษ!!! เมนูปลาเทราต์ และ ไวน์ขาว

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (Munich) ประเทศเยอรมัน หรือในภาษาเยอรมันเรียกเมืองนี้ว่า มึนเซน (Munchen) เมืองศูนย์กลางของวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการจัดงานเทศกาลเบียร์ หรือ “ออคโตเบอร์เฟส” ในเดือนตุลาคมของทุกปี ที่มีเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย ซึ่งเป็นอีกเมืองในยุโรปที่มีบรรยากาศดีและสวยงาม

นำท่านชมผ่านชมประตูแห่งชัยชนะ อาคารบ้านเรือน และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่เรียงอยู่บนถนนที่สวยงาม ถนนเม็กซิมิลเลี่ยน ชมโอเปร่าเฮ้าซ์ และเขตพระราชวังเก่า และนำท่านสู่จัตุรัสมาเรียนพลัส(Marienplatz) ชมศาลาว่าการเมือง ซึ่งทุกๆ 11 โมง และ 5 โมงเย็นในฤดูร้อนจะมีเสียงนาฬิกาและตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

นำท่านถ่ายภาพคู่โบสถ์เฟราเอนเคียร์เชอ (Frauenkirche) หรือ Church of Our Lady เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองมิวนิค เนื่องจากสามารถมองเห็นโดมสีเขียวคู่แฝดของโบสถ์ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์ โบสถ์แห่งนี้เคยได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็ได้รับการออกแบบและก่อสร้างขึ้นมาใหม่ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมเยอรมันโกธิค เชิญท่านชมย่านการค้าโดยรอบมาเรียนพลัส ทั้งร้านค้าพื้นเมือง และตลาดสินค้าการเกษตร เช่น ดอกไม้ ผลไม้ อาหารพื้นเมืองต่างๆ รวมทั้งไส้กรอกเยอรมัน

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารไทย

พักที่ Hotel Inn Munich City Centre หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

9 มิวนิค-จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์-สนามบินมิวนิค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านสู่จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ (Karlsplatz) อิสระช้อปปิ้ง ในจัตุรัสที่มีชื่อเสียงของเมืองอีกแห่งหนึ่ง บริเวณจัตุรัสมีลานน้ำพุที่มักใช้เป็นจุดนัดพบ และมีจุดแลนด์มาร์กเก่าแก่คือประตูเมืองเก่าที่มีชื่อว่าประตูเมืองคาร์ลสเตอร์ (Karlstor Gate) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประตูเมืองเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่บริเวณกำแพงเมืองมิวนิคที่ถูกรื้อไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 นอกจากนี้ จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ยังเป็นย่านถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง และยังทอดยาวเชื่อมต่อไปยังจตุรัสมาเรียนปลาทซ์ที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของมิวนิค

ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองมิวนิค เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ

16.50 น. ออกเดินทางจากเมืองมิวนิค กลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินกาต้าร์ แอร์เวย์(QR) เที่ยวบินที่ QR58 (16.50-23.30) / QR (02.20-13.10(+1)) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 15.20 ชั่วโมง (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเมืองโดฮา ประเทศกาต้าร์ บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

10 กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)

13.10 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP