หนองคาย - เวียงจันทน์ - วังเวียง - หลวงพระบาง -

เวียงจันทน์ - หนองคาย 6 วัน 3 คืน

โดยรถไฟลาว-จีน และรถไฟตู้นอนปรับอากาศชั้น 2 อีสานมรรคา

หลังจากท่านทำการจองทัวร์แล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านเข้าใจ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของผู้เดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจองทัวร์ และการยกเลิกทัวร์ ที่ระบุในรายการทั้งหมด

แนะนำการเดินทาง เที่ยวลาว :

* ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนครบโดส ให้แสดงเอกสารการฉีดวัคซีนโควิด ครบโดสทุกยี่ห้อ ยกเว้นสูตรไขว้ หรือท่านที่ได้รับเข็ม 3 บูสเตอร์ ต้องเป็นยี่ห้อเดียวกับเข็ม 2 เดินทางได้ไม่กักตัว - ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าประเทศ 

* สำหรับผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป ยังไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนครบโดส ต้องแสดงผลตรวจ ATK ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ผลเป็นลบไม่ต้องกักตัว)

* สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 12 ปี ไม่ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน และผลตรวจโควิด

ไม่รวม ทิปไกด์ท้องถิ่น-พนักงานขับรถ และหัวหน้าทัวร์ไทย (ท่านละ 500 บาท)

ข้าวเหนียวตักบาตร กะติ๊บละ 100 บาท - ค่าอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

ค่าตรวจ ATK (ทุกกรณี / ถ้ามี ตามมาตรการรัฐกำหนด)

เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับชีวิตใหม่โดยรถไฟลาว-จีน(นครหลวงเวียงจันทน์-นครหลวงพระบาง) และรถไฟตู้นอนปรับอากาศชั้น 2 อีสานมรรคา เพื่อสัมผัสบ้านใกล้เรือนเคียงสู่เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง หรือเมืองเชียงทอง เป็นอดีตราชธานีของอาณาจักรล้านช้างเกือบ 200 ปี เดิมชื่อเมือง “ศรีสัตนาคนหุตมะราชธานี” เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยพระเจ้าฟ้างุ้ม ปัจจุบันเป็น 1 ใน 17 แขวงของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2538 ทั้งในเรื่องสิ่งปลูกสร้าง ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม เป็นเมืองเล็กๆ ในหุบเขาที่ยังคงกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทย–ลาวในอดีตไว้อย่างครบถ้วน ผสมผสานด้วยบรรยากาศของยุคอาณานิคมฝรั่งเศสที่ปรากฎอยู่ในตึกแถวรูปทรงเก่าแก่เรียงเป็นแถวอยู่ตลอดริมถนนเลียบน้ำคาน ที่ยังคงรักษาประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาเยือน ด้วยพิธีบายสี-สู่ขวัญ พร้อมชมฟ้อนรำนาฏศิลป์ชาวหลวงพระบาง ชมวัดเชียงทอง ชมพระราชวังเก่า ซึ่งปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง กราบไหว้พระบาง ชมวัดแสนสุขาราม ชมวัดวิชุนราชและพระธาตุหมากโม นมัสการพระธาตุพูสี และล่องเรือแม่น้ำโขง(นั่งทานอาหารบนเรือแบบชิวๆ ชมถ้ำติ่ง ชมน้ำตกตาดกวางซี ชมและเลือกซื้อหัตถกรรมผ้าทอมือพื้นเมืองของชาวไตลื้อที่บ้านผานม และช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ตลาดมืดหรือถนนคนเดิน เที่ยวกำแพงนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวง สปป.ลาว อาทิ สักการะพระธาตุหลวง กราบไหว้อนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ชมอนุสาวรีย์ประตูชัย ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง (OTOP) เที่ยวเมืองวังเวียง “กุ้ยหลินเมืองลาว” ชมถ้ำปูคำ หรือบลูลากูน, ชมถ้ำจัง และล่องเรือแม่น้ำซอง เที่ยวแบบสบายๆ อาหารอร่อย ได้สาระ ผู้บุกเบิกเส้นทาง GATE WAY INDOCHINA ที่ชำนาญเส้นทางอินโดจีน ทางรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน และล่องเรือแม่น้ำโขง เป็นพิเศษ

การท่องเที่ยวต่างประเทศยุค New Normal สิ่งที่ต้องมี : ลงทะเบียน E-Vaccine Passport จากแอปหมอพร้อม

สำหรับใช้เดินทางออกนอกประเทศ หรือ สามารถใช้หลักฐานการฉีดวัคซีนจากหมอพร้อม แทนได้

วันแรก สถานีรถไฟสามเสน - หนองคาย

19.30 น. คณะพร้อมกันที่จุดนัดพบ... สถานีรถไฟสามเสน เจ้าหน้าที่บริษัทฯ

คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระ

20.12 น. ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดหนองคาย โดยรถไฟตู้นอนปรับอากาศชั้น 2 อีสานมรรคา ขบวนที่ 25 พักผ่อนอิสระตามอัธยาศัย

วันที่สอง สถานีรถไฟหนองคาย - สะพานมิตรภาพไทย - ลาว - เวียงจันทน์ - พระธาตุหลวง - ประตูชัย -

เวียงจันทน์ - วังเวียง - ถ้ำปูคำ - บลูลากูน - ถ้ำจัง - ถนนคนเดิน

05.00 น. ตื่นรับอรุณยามเช้า ทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย

06.25 น. คณะถึงสถานีรถไฟหนองคาย เก็บสัมภาระเรียบร้อย นำท่านขึ้นรถตู้ปรับอากาศเดินทางสู่โรงแรมแทนซิโน(Tanzeno Hotel) เพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารโรงแรม

08.00 น. นำท่านเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย - ลาว สู่นครหลวงเวียงจันทน์

นำท่านสักการะพระธาตุหลวง เป็นพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของลาว ชมอนุสาวรีย์ประตูชัย เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสม ผสานศิลปะล้านช้าง - ฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงามและกลมกลืน

จากนั้นช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง (OTOP) เพื่อเป็นของฝากของที่ระลึก อาทิ เครื่องเงิน เสื้อผ้า กาแฟดาว และอื่นๆ อีกมากมาย เลือกซื้ออิสระตามอัธยาศัย

10.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองวังเวียง โดยรถตู้ปรับอากาศท้องถิ่น (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างสองข้างทาง)

12.30 น. ถึงเมืองวังเวียง เป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยสดงดงาม อากาศเย็นสบาย ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำซอง ล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูง มองเห็นสายน้ำกว้างสลับกับเนินทราย โดยมีเทือกเขาหินปูนเป็นฉากหลัง บรรยากาศของธรรมชาติยามเย็นที่ริมน้ำซองขณะที่แสงสีทองสุดท้ายของพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ทาบทอทิวเขาสูงสลับซับซ้อนซึ่งเป็นภาพที่งดยิ่ง วังเวียงได้ฉายาว่า “กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว”

นำท่านรับประทานอาหารกลางวัน ห

ลังอาหารเข้าที่พัก PIMMUANGCHAROEN HOTEL หรือเทียบเท่า

14.30 น. ออกเดินทางสู่ “ถ้ำปูคา” หรือที่ชาวต่างชาติรู้จักในนาม ”BLUE LAGOON” ภายในประดิษฐานพระนอน สำริดจากประเทศไทย ด้านหน้าทางขึ้นถ้ำปูคำจะมีสระน้ำมรกตที่ใสสะอาด สีเขียวสวยมากๆ และมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกัน ทางขึ้นไปชมถ้ำนั้นจะสูงชันสักเล็กน้อย แต่ก็เล่นเอาหลายๆ ท่านเหงื่อตกอยู่ไม่น้อย ถ้ำปูคำ เป็นถ้ำขนาดใหญ่อีกแห่ง มีพระพุทธรูปนอนอยู่ด้านใน มีลำแสงส่องเข้ามาด้านในของถ้ำ จากปากถ้ำและช่องเขาอีกด้านสวยงามมาก กิจกรรมในถ้ำปูคำที่เป็นไฮไลท์ ต้องเดินลึกลงไปในถ้ำอาจได้พบเห็นปูทองคำ ถ้าได้เห็นท่านจะโชคดีมากๆ และสถานที่แห่งจะมีกิจกรรมต่างๆ ให้เล่นกัน ทั้งโดดน้ำ ล่องสไลน์เดอร์ ล่องห่วงยาง (ไม่รวมค่าเครื่องเล่น)

ให้ท่านอิสระตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรเดินทางกลับเมืองวังเวียง แล้วชมถ้ำจัง เมื่อเราเข้าไปภายในถ้ำอากาศจะเย็นสบาย และจะพบห็นหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างต่างๆ สวยงาม

จากนั้นนำท่านกราบไหว้พระพุทธรูป เพื่อเป็นศิริมงคล พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ตัวเมืองวังเวียงในมูมสูง จะเห็นตัวเมืองวังเวียงที่สวยงาม เชิญถ่ายภาพอิสระตามอัธยาศัย

18.00 น. รับประทานอาหารค่ำร้าน... หลังอาหารสัมผัสวิถีชีวิตเมืองวังเวียงที่ถนนคนเดิน อิสระตามอัธยาศัย

วันที่สาม ล่องเรือน้ำซอง - สถานีรถไฟวังเวียง - สถานีรถไฟหลวงพระบาง - บ้านผานม - น้ำตกตาดกวางซี -

พิธีบายสี - สู่ขวัญ และชมฟ้อนรำกับน้องๆ ชาวหลวงพระบาง

05.00 น. ตื่นรับอรุณยามเช้า 

06.00 น. ท่านลงเรือเล็ก(ลำละ 2 ท่าน)ล่องเรือลำน้ำซอง ชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมฝั่งและวิวทิวทัศน์ยามเย็นที่สวยงาม ใช้เวลาล่องประมาณ 30 - 40 นาที

07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารโรงแรม หลังอาหารอำลาเมืองวังเวียงเดินทางสู่ สถานีรถไฟ

09.00 น. ออกเดินทางสู่สถานีรถไฟนครหลวงพระบาง ขบวนที่ C82 (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างสองข้างทาง

10.00 น. ถึงสถานีรถไฟนครหลวงพระบาง นำท่านขึ้นรถตู้ปรับอากาศเดินทางเข้าตัวเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง (ระยะทาง 12 กิโลเมตร) โดยได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2538 ทั้งในเรื่องสิ่งปลูกสร้าง ขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรม

ระหว่างทางแวะบ้านผานม หมู่บ้านทอผ้าด้วยมือของชาวไทลื้อที่อพยพมาจากสิบสองปันนา ที่มีฝีมือในการทอผ้าสวยงาม เชิญเลือกซื้อตามอัธยาศัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันร้าน...

บ่าย ออกเดินทางสู่น้ำตกตาดกวางซี ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองหลวงพระบาง 30 กิโลเมตร ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านชนบทชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ถึงลานจอดรถที่ทางวนอุทยานฯ จัดไว้ แล้วนำท่านนั่งรถไฟฟ้าเดินทางสู่น้ำตกตาดกวางสี ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ชมความงามของน้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม แต่ละชั้นเกิดจากการสะสมของหินปูนที่ไหลปะปนมากับน้ำ พร้อมกับชมความร่มรื่นเขียวชอุ่มรอบๆ บริเวณ ได้เวลาสมควรเดินทางกลับ

18.00 น. ต้อนรับแขกบ้าน - แขกเมือง ตามธรรมเนียมลาว ด้วยพิธีบายสี - สู่ขวัญ พร้อมชมฟ้อนรำนาฏศิลป์กับน้องๆ ชาวหลวงพระบาง

แล้วรับประทานอาหารค่ำ

หลังอาหารอิสระ หรือจะไปเยี่ยมวิถีชีวิตยามราตรีของเมืองชาวหลวงพระบางที่ราตรีเมืองซัว (เพื่อออกกำลังกาย ด้วยจังหวะท่าเต้นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของลาว โดยการเต้นรำบาสะโล๊ฟ หรือบั๊ดสสบ และจังหวะเต้นรำอื่นๆ) หรือจะไปช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ถนนคนเดิน ตามอัธยาศัย

พัก MANOLUCK HOTEL / VANSANA LPQ HOTEL (3 ดาว) หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ ตักบาตรข้าวเหนียว - วัดแสนสุขาราม - ตลาดเช้า - พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง(พระราชวังเก่า) -

บ้านช่างไห - ล่องเรือน้ำโขง - ถ้ำติ่ง - วัดวิชุนราช - พระธาตุหมากโม - พระธาตุพูสี - ถนนคนเดิน

05.30 น. ตื่นแต่เช้า ร่วมทำบุญใส่บาตร กับชาวเมืองหลวงในวัฒนธรรมของชาวพุทธแบบดั้งเดิม ทุกเช้ากับชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆ รูป เป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวา ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุข ความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมชาวล้านช้าง นับว่าเป็นภาพที่หาดูได้ไม่ง่ายนัก

แล้วชม วัดแสนสุขาราม หรือวัดแสน เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนถนนเชียงทอง วัดแสนสุขารามสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2261 โดยตาเจ้ารั่ง ในสมัยเจ้ากิ่งกิสราช ชื่อของวัดแสนมาจากจำนวนเงิน 100,000 กีบ ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนเริ่มสร้าง วัดสร้างขึ้นภายหลังที่นครหลวงพระบางแยกออกจากนครเวียงจันทน์ ได้ 11 ปี มีการบูรณะวันนี้สองครั้ง ครั้งแรก พ.ศ.2475 ครั้งที่สอง พ.ศ.2500 มีการประดับลวดลายปิดทองโดยช่างชาวหลวงพระบางเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 20 สิม มีลักษณะเป็นสิมแบบเวียงจันทน์ คือมีความสูง แต่หลังคามีการซ้อนลดหลั่นแบบสิมเมืองหลวงพระบาง และเพิ่มหลังคาตรงกลางแบบสิมเชียงขวาง เสาทรงแปดเหลี่ยม และยอดเสารูปกลีบบัว มีการประดับลายทองบนพื้นสีแดง ภายในมีภาพอดีตพระพุทธเจ้า รอยพระพุทธบาท และเจดีย์องค์สำคัญ ได้แก่พุทธคยา อินเดีย พระธาตุหลวง เวียงจันทน์ พระธาตุหริภุญชัย ลำพูน พระธาตุพนม นครพนม เป็นต้น ส่วนภายนอกประดับเป็นรูปเทวดา วัดมีพระธาตุ เป็นเจดีย์ทรงระฆังสี่เหลี่ยม อีกจุดเด่น คือ พระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ องค์เดียวในเมืองหลวงพระบาง จากนั้นชมตลาดเช้าเมืองหลวงพระบาง สัมผัสกับวิถีชีวิตพ่อค้า แม่ค้าชาวบ้าน ที่นำสินค้าพื้นเมืองมากมายมาวางขาย เลือกซื้ออิสระตามอัธยาศัย แล้วนำท่านไปร้านกาแฟประชานิยม เลือกชิมกาแฟและอื่นๆ ตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรนำกลับโรงแรม

07.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

09.00 น. นำชมพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง อดีตเป็นพระราชวังหลวงซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตลาวสร้างปีค.ศ.1904(พ.ศ.2447) โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อปี ค.ศ.1975(พ.ศ.2519) แล้วนำท่านกราบไหว้พระบาง พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร สูง 1.14 เมตร หนัก 54 กิโลกรัม กล่าวกันว่าทำด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางและของชาวลาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองหลวงพระบาง เดิมเมืองนี้ชื่อเมืองขวา แล้วเปลี่ยนมาเป็น เชียงดง เชียงทอง ตามลำดับ

ได้เวลาสมควรเดินทางสู่ บ้านบ้านช่างไห สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง ที่มีประวัติการขุดพบหม้อไหโบราณกว่า 2,000 ปี ในหมู่บ้าน แต่ปัจจุบันมีอาชีพผลิตเหล้าพื้นเมืองขายจนเป็นที่เลืองลือในรสชาด ท่านจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านประกอบอาชีพ เช่น การทอดแห ตำข้าว ทอผ้า ต้มเหล้าขาย และยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวกผ้าทอลวดลายสวยงามมากมายวางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ 

แล้วนำท่าน ลงเรือล่องน้ำโขง ชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงสู่ ถ้ำติ่ง เป็นถ้ำบนหน้าผาริมแม่น้ำโขง เดิมเคยมีพระพุทธรูปทอง เงิน นาก ปัจจุบันเหลือแต่พระพุทธรูปไม้จำนวนนับพันองค์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ(บุฟเฟตุ) และอาหารว่าง(โอวัลติน ชา กาแฟ ผลไม้) เพลิดเพลินกับบรรยากาศที่บริสุทธิ์ ชมวิถีชีวิตชาวบ้านท้องถิ่นสองฝั่งโขง พร้อมกับชมทิวทัศน์และสายน้ำโขงที่ ใช้เวลาไป - กลับประมาฯณ 1.30 - 2 ชั่วโมง

14.00 น. นำชมวัดวิชุนราช (Visounnarath Temple) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.ศ.2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402 ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ในพระราชวังหลวงจนปัจจุบัน

จากนั้นนำท่านไปสักการะพระธาตุพูสี ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 150 เมตร ใจกลางเมืองหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนหลวงพระบาง หากไม่ได้ขึ้นไปก็เหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง สองข้างทางขึ้นพระธาตุร่มรื่นและหอมอบอวลไปด้วยดงดอกจำปาลาวหลากสีสัน(ช่วงเดือน ก.พ. - มี.ค.) มองจากยอดพูสีคือภาพพานอรามาของราชธานีเก่าแก่ริมแม่น้ำโขง ล้อมรอบด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนสมกับนามว่า บ้านผา เมืองภูอูอารยะธรรมล้านช้าง แล้วช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ตลาดไนท์บาซาร์(Night Market) เป็นถนนคนเดินตอนเย็นตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นถึงประมาณ 4 ทุ่ม ก็จะมีชาวลาวสูง ลาวเทิง ลาวม้ง ชาวบ้านผานม แม้นแต่ชาวหลวงพระบางเองก็จะนำสินค้าพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นผ้าปัก ผ้าทอมือ ผ้านุ่ง ผ้าซิ่น เครื่องเงิน เครื่องไม้ สินค้ามากมายถูกวางอยู่บนถนนและริมทางเดินตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดหัวถนน

19.30 น. รับประทานอาหารค่ำ หลังอาหารอิสระตามอัธยาศัย

พัก MANOLUCK HOTEL / VANSANA LPQ HOTEL (3 ดาว) หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า วัดเชียงทอง - วัดใหม่สุวันนะพูมาราม - สถานีรถไฟหลวงพระบาง - นครหลวงเวียงจันทน์ - หนองคาย -

กรุงเทพฯ

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ที่พัก

08.00 น. ชมวัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดหลวงคู่เมืองหลวงพระบาง โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้โปรดให้สร้างขึ้น และได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนามากเป็นพิเศษ บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ตอนหัวโค้งของแผ่นดินที่แม่น้ำคานมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง เป็นศูนย์ศิลปกรรมล้านช้าง ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบ สง่า สะอาด มีการวางผังออกแบบ และบำรุงรักษาอย่างดีเยี่ยม ชมสิมหรือโบสถ์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของศิลปสกุลช่างล้านช้าง บริเวณที่ตั้งของวัดตอนหัวโค้งของแผ่นดิน

แล้วชมวัดใหม่สุวันนะพูมาราม (Mai Suwannaphumaram Temple) ซึ่งอยู่ถนนศรีสว่างวงศ์ติดกับพระราชวังหลวง สร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท ในปี พ.ศ.2337 หรือชื่อสั้นๆว่า วัดใหม่ วัดนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน นับเป็นสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว มีอุโบสถที่สวยงามด้วยศิลปะแบบอูบมุง และปัจจุบันใช้เป็นโรงเรียนปริยัติธรรม

11.30 น. รับประทานอาหารกลางวันร้าน… หลังอาหารเดินทางสู่ สถานีรถไฟหลวงพระบาง

13.30 น. เดินทางสู่ นครหลวงเวียงจันทน์ โดยรถไฟความเร็วสูงลาว - จีน ขบวนที่ C81 (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)

15.30 น. ถึงสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ นำท่านขึ้นรถปรับอากาศเดินทางสู่สะพานมิตรภาพลาว - ไทย ให้ท่านอิสระช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี(ดิวตี้ฟรี) ตามอัธยาศัย จากนั้นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แล้วข้ามสะพานมิตรภาพไทย - ลาว สู่สถานีรถไฟหนองคาย เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

18.00 น. รับประทานอาหารค่ำร้าน.... หลังอาหารเดินทางสู่สถานีรถไฟหนองคาย

19.40 น. เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยรถไฟตู้นอนปรับอากาศชั้น 2 อีสานมรรคา ขบวนที่ 26 หนองคาย - กรุงเทพฯ(สถานีรถไฟสามเสน) อิสระตามอัธยาศัย พักผ่อนนอนหลับฝันดี...ราตรีสวัสดิ์

วันที่หก สถานีรถไฟสามเสน(กรุงเทพฯ)

05.42 น. ถึงสถานีรถไฟสามเสน (กรุงเทพฯ) โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ