ดูทัวร์อินเดียทั้งหมด

ทัวร์อินเดีย

 รหัส : Z8755
เดินทางโดย : SG-สไปซ์เจ็ท
โรงแรม :  |  จำนวนวัน : 9 วัน 6 คืน
แคชเมียร์ - เลห์ - ลาดักห์ : โซนามาร์ค - ล่องเรือซิคาร่า ชมทะเลสาบดาล - ช้อปปิ้งถิ่นผ้าพาสมิน่ากลางทะเลสาบ - ทะเลสาบพันกอง - นูบร้าวัลเล่ย์ Nubra Valley - ขี่อูฐ 2 โหนก ณ ฮุนเดอร์ แซนด์ ดูนส์ - คาร์ดุง ลา พาส (ถนนที่สูงที่สุดในโลก) - จุดชมวิวซางกัม - วัดเฮมิส - วัดติกเซ่ย์ - พักโรงแรมบ้านเรือ
ไม่รวม ทิปไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถ 50 เหรียญ ต่อท่าน ตลอดการเดินทาง - ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม และสนามบิน - ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย แล้วแต่ความพึงพอใจในบริการของท่าน - สมัคร E-Vaccine Passport จากแอปหมอพร้อม - ค่าอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว - ค่าตรวจ PCR (ถ้ามี / ตามมาตรการรัฐกำหนด)

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
สนามบินอินทิราคานธีร์ - บินภายในสู่ศรีนาคา - แคชเมียร์ - สวนชาลิมาร์ - สวนโมกุล - ล่องเรือสิคารา ชมวิวทะเลสาบดาล - พัก House Boats
โซนามาร์ค - คากิลร์ - ผ่านโซจิ ลา - เมือง Kargil
ชมอนุสรณ์สถานสงครามคากิลร์ - เมืองเลห์ - ผ่านเมืองลามายูรุ - วัดลามายูรู
เมืองเลห์ - ถนนที่สูงที่สุดในโลก Khardung La Pass - นูบร้าวัลเล่ย์ - วัดดิสกิต - ขี่อูฐที่ฮุนเดอร์ - หุบเขานูบรา
วัดเดสกิต - ผ่านหมู่บ้านซูเมอร์ - แวะชมวัดซัมสทันลิ่ง - ข้ามคาร์ดุงลา - พาท่าน ชมพระราชวังเลห์ - ชม Tsemo Gompa - สักการะเจดีย์สันติภาพ
ทะเลสาบพันกอง - นั่งรถผ่านถนนเส้นที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ชาง ลา
ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ถนนเมนบาร์ซาร์ - สนามบินเลห์ - บินภายในสู่สนามบินเดลลี - ช้อปปิ้งที่ Ambience Mall - สนามบินอินทิราคานธี
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แนะนำการเดินทางเข้าอินเดีย : ต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดส ก่อนเดินทาง 14 วันขึ้นไป รองรับวัคซีนทุกยี่ห้อ ต้องลงทะเบียนออนไลน์ในระบบ Thailand Pass ล่วงหน้า https:
tp.consular.go.th/
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

แคชเมียร์ - เลห์ - ลาดักห์ 9 วัน 6 คืน

โดยสายการบิน Spice Jet

“เลห์ ลาดักห์” เสน่ห์ดินแดนทิเบตน้อยแห่งอินเดีย ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไป ....ปลายทางชวนฝันแห่ง

“แคชเมียร์" สวรรค์บนดินแดนภารตะ…หนึ่งในเมืองที่น่าเที่ยวดินแดนทางตอนเหนือของอินเดียในวงล้อมของสองวัฒนธรรม อินเดียแลปากีสถาน มงกุฎเพชรแห่งอินเดียที่สวยที่สุด จนได้รับการกล่าวขานให้เป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย"

ไม่รวม ทิปไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถ 50 เหรียญ ต่อ/ท่าน ตลอดการเดินทาง

ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรมและสนามบิน - ค่าตรวจ PCR (ถ้ามี / ตามมาตรการรัฐกำหนด)

ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย แล้วแต่ความพึงพอใจในบริการของท่าน

สมัคร E-Vaccine Passport จากแอปหมอพร้อม - ค่าอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

หลังจากท่านทำการจองทัวร์แล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านเข้าใจ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของผู้เดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจองทัวร์ และการยกเลิกทัวร์ ที่ระบุในรายการทั้งหมด

จุดเด่นของรายการทัวร์ แคชเมียร์ – เลห์ ลาดักห์

  • โซนามาร์ค (Sonamarg) อ้อมกอดหิมาลัย ทุ่งทองคำ“ประตูสู่ลาดักห์” เป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงาม ตลอดสองข้างทาง ขี่ม้าชม มีธารนํ้าแข็งกราเซีย
  • ล่องเรือซิคาร่าล่องทะเลสาบดาล ช้อปปิ้งถิ่นผ้าพาสมิน่ากลางทะเลสาบ
  • นอนโรงแรมบ้านเรือ เพื่อย้อนอดีตยุควิคตอเรีย ราชินีแห่งอังกฤษ
  • ทะเลสาบพันกอง ทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงที่สุดในโลกด้วย! คือ “น้ำตาแห่งหิมาลัย”
  • นูบร้าวัลเล่ย์ Nubra Valley “เนินทรายสีเทาท่ามกลางหุบเขาริมสายน้ำ กิจกรรมขี่อูฐ 2 โหนก”
  • ขี่อูฐ 2 โหนก ณ ฮุนเดอร์ แซนด์ ดูนส์ ทะเลทรายสีเงิน ที่แอบซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาหิมาลัย
  • คาร์ดุง ลา พาสไฮไลท์ พลาดไม่ได้ เมื่อมา เลห์ ลาดัก เพราะที่นี่คือถนนที่สูงที่สุดในโลก!
  • วัดดิสกิต Diskit Monastery “พระศรีอริยเมตไตย์ประทับนั่งห้อยพระบาทบนฐานองค์ใหญ่ มีระเบียงกว้างชมวิว 360 องศา”
  • จุดชมวิวซางกัม (Sangam Viewpoint) เป็นจุดที่แม่น้ำสำคัญของอินเดีย 2 สาย คือแม่น้ำสินธุและแม่น้ำซันสการ์ ไหลมาบรรจบกัน
  • วัดเฮมิส Hemis Monasteryเป็นวันพุทธธิเบตของพระลามะหมวกแดง อยู่ในชุมชตเฮมิส ริมฝั่งแม่น้ำ Indus ตะวันตก มีอยู่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11

วัดติกเซ่ย์ Thiksey Monastery ตั้งอยู่บนยอดเขา ในหมู่บ้านติกเซ่ย์ สร้างกลางศตวรรษที่ 15 เป็นวัดในนิกายลามะหมวกเหลือง หรือ นิกายเกลุกปะลักษณะคล้าย พระราชวังโพธาลาเมืองลาซา ของธิเบต

กำหนดการเดินทาง วันที่ 11-19 ส.ค. 65 (ช่วงที่สวยที่สุด) เริ่มต้น ท่านละ 48,888.-

วันที่-1

คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4

กรุงเทพฯ

-

-

-

23.30 น. ” คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 พบเจ้าหน้าที่บริษัทคอยต้อนรับและอำนวยความ

สะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน

หมายเหตุ : โปรดเตรียมวัคซีนพาสปอร์ตหรือเอกสารการได้รับวัคซีน Covid19(International Vaccine Certificate)ขณะเช็คอิน

****ทำไม !! ต้อง สไปซ์เจ็ท “สายการบินประหยัดของอินเดีย อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อการเดินทางที่ประหยัด” ให้บริการไปยังจุดหมายปลายทางประมาณ 50 แห่ง รวมถึงมากกว่า 40 แห่งในอินเดีย ศูนย์กลางหลักของสายการบินตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเจนไน ท่าอากาศยานนานาชาติเดลี อินทิรา คานธีและอื่นๆอีกมากมาย

*****บริการอาหารเช้า แบบกล่อง ณ สนามบิน***

วันที่-2

กรุงเทพฯ - เดลลี //เดลลี – ศรีนาคา (ประเทศอินเดีย)

-L

 D

03.45 ñออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ สู่ เมืองเดลลี(New Delhi) โดยสายการบิน Spice Jet เที่ยวบินที่ SG741

06.20 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองเดลลี(New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ (เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง

จากนั้น. นำท่านเดินทางสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพื่อต่อเครื่องเข้าสู่เมืองศรีนาคา( แคชเมียร์ ) เชคอินโหลดสัมภาระ ณ อาคารบินภายในประเทศ

09.20 น. Qเหินฟ้าสู่ เมืองศรีนาคา (Srinagar) แคชเมียร์ (Kashmir) โดยสายการบิน SPICEJET เที่ยวบินที่ SG473

11.00 น. เดินทางถึงสนามบินศรีนาคา (Srinagar) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพร้อมรับสัมภาระแล้ว

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ “แคชเมียร์ "ดินแดนแห่งสวรรค์บนดิน" โดยขบวนรถเทมโพ จากคำกล่าวเล่าขานกันปากต่อปากว่า ถ้ามาแคชเมียร์ ต้องไม่พลาดกับการไปสัมผัสเมือศรีนาคา เมืองหลวงในฤดูร้อน ที่ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,730 เมตร เมืองที่ได้เชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสาบและสายน้ำ สวนดอกไม้ ทิวทัศน์แห่งขุนเขาและงานศิลปะที่ประดิษฐ์จากไม้ รวมทั้งการได้ไปชมสวนดอกไม้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นั้นคือการตกแต่งสวนสวยด้วยงานศิลปะที่ผสมผสานจากหลายหลายรูปแบบ…นำท่านชม สวนโมกุล (Mughal Gardens) สวนสวรรค์แห่งดอกไม้สวนนิชาท (Nishat ) มีลานน้ำพุ ทอดยาวจนถึงพระที่นั่งชั้นในแต่ที่พิเศษกว่าคือสวนทั้งหมดนั้นสร้างขึ้นบนลานที่ยกสูงขึ้น หันหน้าสู่ทะเลสาบ เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด มีต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ต้นทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ตั้งอยู่ริมทะเลสาบดาล มีภูเขาZabarwan ซึ่งตั้งเป็นฉากหลัง

สวนชาลิมาร์ (Shalimar) สร้างในสมัยราชวงศ์โมกุล ในช่วงสมัยของ จักรพรรดิจาฮันจีร์ (Jehangir) สร้างเพื่อพระมเหสีเนอร์ เจฮัน (Nur Jehan) อันเป็นที่รักและเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารหรือ โรงแรม ที่โซนามาร์ค

บ่าย นำท่านเข้าสู่...”บ้านเรือวิมานบนดินแห่งแคชเมียร์” ..วิถีชีวิตในทะเลสาบดาล แคชเมียร์ House Boats อันเป็น วิมานบนดิน เกิดขึ้นในยุคควีนส์วิคตอเรีย ซึ่งอังกฤษได้เข้ามาครอบครองอินเดีย หลังอินเดียถูกปลดปล่อยให้เป็นเอกราช ...House Boats เหล่านี้จึงตกเป็นของรัฐ...ต่อมาได้เปลี่ยนถ่ายมาเป็นของเอกชน จึง ปรับเป็นที่พักรองรับนักท่องเที่ยว

16.30 น. นำท่านล่องเรือสิคารา (เรือพายแบบแคชเมียร์) ในทะเลสาบดาล ชมทัศนียภาพของเทือกเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบดาล ชมสวนผักลอยน้ำ วิถีชีวิตชาวบ้านที่อาศัยตามริมน้ำ (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชม.) รอบทะเลสาบ นกนานาชนิด พืชดอกไม้น้ำ ทะเลสาบใสสวยงาม สนุกสนานกลางทะเลสาบเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของชาวแคชเมียร์ที่นำของมาขายให้ท่านได้เลือกซื้อในราคาตามความสามารถได้เวลาสมควรพายเรือกลับที่พัก .....

ค่ำ äบริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ...อิสระหลังอาหาร สนุกสนานกับการช้อปปิ้งสิ้นค้าเพื้อนเมือง ที่จะมีพ่อค้าชาวแคชเมียร์พายเรือมาขายให้ถึงที่เลย อาทิ ผ้าพาศมิน่า,เปเปอร์มาเช่,สร้อยคอ,กำไร,และเครื่องเงินต่างๆ มากมาย ...ให้ทุกท่านใช้ความสามารถพิเศษให้เต็มที่กันเลยค่ะ

ที่พักโรงแรมเรือ DELUXE HOUSE BOAT อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่-3

โซนามาร์ค – คากิลร์ (Kargil)

B

L

D

07.00 น. äบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) (ประมาณ 3 ชั่วโมง) จากเมืองศรีนาคา ชมหุบเขาชิน (Sindh)

ระหว่างสองข้างทางท่านจะพบกับทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ไต่ ความสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของชาวชนบทแคชเมียร์ ชมป่าวอลนัตที่ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทาง ชมทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าสีทอง (Meadow of gold) หรือ ทุ่งดอกมัสตาร์ด และชมวิวที่ราบลุ่มที่มีเทือก เขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า “ทาจิวาส” ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธุลดเลี้ยวผ่านหุบเขาในอีกฟากของถนน โซนามาร์คได้รับสมญานามว่าเป็น “ประตูสู่ลาดัคห์” หรือจุด เริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดัคห์นั่นเอง

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหรือ โรงแรม ที่โซนามาร์ค

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ คากิลร์ (KARGIL) (ระยะทาง 125 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง) เส้นทางที่สวยงามจนเปรียบเสมือนถนนโลกพระจันทร์..เส้นทางนี้จะเปิดให้รถวิ่งในช่วงฤดูร้อน ช่วงที่หิมะเริ่มละลาย เดือน พฤษภาคม ถึงเดือน ตุลาคม นอกนั้นฤดูอื่นถนนเส้นนี้จะเป็นน้ำแข็ง มีหิมะเกาะคลุมไปทั่ว) “คากิลร์” ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,650 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นเมืองที่มีการค้าขายกับชายแดนปากีสถาน มีประชากรแสนกว่าคน ส่วนมากนับถือศาสนาอิสลามนิกาย Shia มีศาสนาฮินดูและซิกข์ เพียงเล็กน้อย

เดินทางต่อไป....ผ่านโซจิ ลา Zojila Pass (3,540 m) พาสแรกที่เราผ่านที่เป็นเหมือนด่านแรกให้เราได้ปรับตัวบนที่สูง เส้นทางนี้จะเปิดช่วงเดือน ปลายเมษายนของทุกปี และ เมืองดราส  Dras หรือ Drass (ห่างจากโซนามาร์60 กิโลเมตร) เป็น Hill Station ในอำเภอคาร์กิล ลาดักตั้งอยู่บนทางด่วนสาย NH 1 ระหว่างช่องเขาโซจีลากับเมืองคาร์กิล ดราสเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหนึ่ง และได้รับการขนานนามเป็น "ประตูสู่ลาดัก" “คาร์กิล” เป็นเมืองสุดท้ายที่เป็นเขตอิสลามก่อนเข้าเขตเมืองศาสนาพุทธ ถึงแม้เป็นเมืองใหญ่แต่นักท่องเที่ยวมักใช้เป็นเมืองทางผ่านแวะค้างคืนเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเลห์ ตลอดเส้นทางจะเห็น วิถีชีวิตและวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวแคชเมียร์ ชมวิวทิวทัศน์ที่สุดแสนมหัศจรรย์ แล้วเราจะถึง เมือง Kargil ช่วงค่ำๆ

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าที่พัก Hotel Zojila Residency หรือเทียบเท่า

วันที่-4

คากิลร์ (Kargil) - ลามายูรู (Lamayuru) - เลห์ (Leh)

B

L

D

06.30 น. äบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

07.30 น. นำท่าน “ชมอนุสรณ์สถานสงครามคากิลร์” อนุสรณ์สถานสงครามคาร์กิล เบื้องหลังคือชื่อของทหารที่เสียชีวิตระหว่างการสู้รบและเป็นอนุสรณ์สำหรับพวกเขาที่ด้านหน้าหรือที่เรียกว่าอนุสรณ์สถานสงคราม Dras เป็นอนุสรณ์สถานสงครามที่สร้างโดยกองทัพอินเดียในเมืองDras เพื่อรำลึกถึง สงคราม Kargilในปี 1999 ระหว่างอินเดียและปากีสถาน

ออกเดินทางสู่เมืองเลห์ระหว่างทางผ่าน อาราม Mulbekh Monastery ชมรูปปั้นพระศรีอริยเมตไตรยสูง 30 ฟุต ซึ่งแกะสลักไว้บนแผ่นหินขนาดมหึมา มองเห็นทางหลวง Leh-Kargil เป็นอีกจุดที่แสดงถึงการเข้ามาของศาสนาพุทธในภูมิภาคนี้ รูปปั้นสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างอิทธิพลของศาสนาพุทธและชาวไศวร์ มีจารึกโบราณตั้งอยู่ใกล้กับรูปปั้น พร้อมด้วยพระราชกฤษฎีกาที่กษัตริย์ออกให้ชาวบ้านในท้องถิ่นละทิ้งการบูชา

จากนั้น ออกเดินทางต่อไป สู่เมืองเลห์ Leh ตามทางหลวงไร้หมายเลข ไปจนถึงเมืองเลห์ เมืองหลวงแห่งลาดักห์… เมืองทางเหนือของประเทศอินเดียที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาหิมะ ธรรมชาติแสนยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมของชาวลาดักห์ (ระยะทาง 229 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 9 ชั่วโมง). ..ระหว่างผ่านเมือง เมืองลามายูรุ (Lamayuru) Moonland ดินแดนโลกพระจันทร์ ซึ่งเป็นหุบเขาแห้งแล้งเหมือนเรากำลังเดินทางผ่านดาวอังคาร ตลอดเส้นทางจะเห็น วิถีชีวิตและวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวแคชเมียร์ ชมวิวทิวทัศน์ที่สุดแสนมหัศจรรย์

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารถ้องถิ่น ระหว่างทาง

บ่าย นำท่าน วัดลามายูรู(Lamayuru Monastery) หนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในลาดัก ได้สมยานามว่าเป็น “อารามนิรันด์” เป็นวัดที่เก่าแก่มากที่สุดและเป็นวัดที่มีความสำคัญทางพุทธศาสนาตั้งอยู่ที่เมืองเลห์ ลาดัก วัดศาสนาพุทธในทิเบตแห่งนี้เป็นพระอารามหรือในภาษาทิเบตเรียกว่ากอมปาที่เก่าแก่ที่สุดของภูมิภาคทิเบต หรือรู้จักกันโดยทั่วไปว่า “สถานที่แห่งเสรีภาพ”วัดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติกรรมฐานของพระอริยสงฆ์ในอดีตอีกด้วย

จากนั้น เดินทางต่อ..ตามทางหลวงไร้หมายเลข ไปจนถึงเมืองเลห์ เราจะผ่าน แม่น้ำสินธุ (Indus River)และแม่น้ำซันสการ์ ((Zanskar River) มาบรรจบกันเป็นแม่น้ำสองสี อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจนำพาท่านจอดชม Magnetic Hill นี่จริงๆแล้วมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Gravity Hill ประเด็นมันมีอยู่ว่า ถ้าจอดรถเอาไว้ตรงจุดที่เค้ากำหนดไว้แล้วดับเครื่องยนต์ เราจะเห็นเหมือนกับว่า รถมันไหลขึ้นภูเขาได้เอง ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นภาพลวงตา ทางถนนจริงๆมันเป็นทางลงเขาต่างหาก แต่มุมมองที่มองมันเหมือนกับขึ้นภูเขานั่นเอง...เดินทางต่อไปสู่ที่พัก ในเมืองเลห์

“เมืองเลห์” เป็นเมืองหนึ่งในเขตเลห์ของลาดักบนเทือกเขาหิมาลัย มีชื่อเสียงจากการเป็นที่ตั้งของพระราชวังเลห์ซึ่งเป็นอดีตวังของเจ้านายลาดักในอดีต ลักษณะใกล้เคียงกับพระราชวังโปตาลา เคยเป็นที่ประทับของทะไลลามะที่ 14 ก่อนเสด็จไปประทับที่เมืองธรรมศาลา รัฐหิมาจัลประเทศ ในช่วงการก่อการกำเริบในทิเบต พ.ศ. 2502

เลห์ตั้งอยู่บนความสูง 3,524 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 เชื่อมการเดินทางกับเมืองศรีนครทางตะวันตกเฉียงเหนือ และทางหลวงเลห์–มะนาลีเชื่อมการเดินทางไปยังเมืองมนาลีทางใต้

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก HOTEL JIGMET หรือเทียบเท่า

วันที่-5

เมืองเลห์ (Leh) - ถนนที่สูงที่สุดในโลก Khardung La Pass - นูบร้าวัลเล่ย์ – วัดดิสกิต- ขี่อูฐที่ฮุนเดอร์-หุบเขานูบรา(Nubra Valley )

B

L

D

หมายเหตุ:กรุณาเตรียมกระเป๋าเล็กเพื่อ พักในหุบ เขานูบรา 1 คืน

07.00 น. ä บริการอาหาร ณ ที่พัก

08.00 น. เดินทางสู่ นูบร้าวัลเล่ย์ (Nubra Valley) (ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง) โดยวันนี้เราจะใช้เส้นทางถนนที่สูงที่สุดในโลก คาร์ดุง ลา พาส (Khardung La Pass) ที่ระดับความสูงราว 5,600 เมตร นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวอินเดียและเลห์ ลาดัก เพราะที่นี่คือถนนที่สูงที่สุดในโลก! มีความสูงอยู่ที่ 5,602 เมตรเป็นเส้นทางที่สวยมาก จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นเทือกเขาคาราโครัมในประเทศปากีสถานได้เลย ..และที่จุดสูงสุดนี้เราจะไม่ให้คณะอยู่นานนัก เพราะอากาศที่เบาบางอาจทำให้เราแพ้ความสูงและไม่สบายได้..คณะหยุดเก็บภาพเป็นที่ระลึกจากนั้นออกเดินทางต่อไป ...หุบเขานูบราวัลเลย์ “นูบร้าวัลเล่ย”

“นูบร้าวัลเล่ย” “ (Nubra Valley) นูบรา หมายถึงหุบเขาแห่งดอกไม้ เป็นแหล่งปลูก Apricot และผลไม้หลากหลายของลาดัก เป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด อยู่ห่างจากเลห์ไปทางเหนือ 125 km โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมาลัยและเทือกเขาคาราโครัม (Karakoram Range) ซึ่งเทือกเขาคาราโครัมนี้ เป็นเขตแดนตามธรรมชาติกั้นอินเดียกับปากีสถาน และก่อนหน้าปี ค.ศ. 1994 ทางการอินเดียไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในหุบเขานี้เลย....นำท่านเข้าที่พัก ...ให้ทุกท่านได้ปรับร่างกาย

12.30 น. ä บริการกลางวัน ณ ณ ภัตตาคาร / โรงแรม

บ่าย นำท่านชม “หมู่บ้านฮุนเดอร์” เรียกว่า หมู่บ้านธารน้ำไหล เพราะไม่ว่าจะไปทางไหนของหมู่บ้านจะได้ยินเสียงธารน้ำไหลตลอดเวลา ฮุนเดอร์ยังมีเนินทะเลทรายถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาใหญ่หลายลูก ทรายมีสีน้ำตาลอ่อน เนื้อทรายละเอียดเมื่อมองไปสุดลูกหูลูกตาก็จะเห็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมพร้อมเนินทรายอยู่ข้างหน้า สวยมาก

พาท่าน“ขี่อูฐนูบร้า” ชม ฮุนเดอร์ แซนด์ ดูนส์ ที่ และถ่ายรูปได้ชิคๆ กันได้เลย เพราะอูฐที่นี่เชื่องมาก เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากอีกด้วย นำท่านชมทะเลทรายสีเงินแห่งหุบเขานูบร้า หรือ Silver Sand Dune of Nubra Valley อูฐนูบร้าสองหนอก พันธุ์ Bactrain ตัวไม่ใหญ่เหมือนอูฐแถบโอมานหรืออิยิปต์ อูฐสองหนอกพบได้ในพื้นที่อื่นทางตอนเหนือของอินเดียเช่นกัน เดิมทีใช้เป็นพาหนะหลักสำหรับขนส่งสินค้าตามเส้นทางแถบเอเชียกลาง …ได้เวลาอันสมควรเข้าที่พัก

***ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมทะเลทรายคือ ช่วงเวลาเช้า หรือ เย็น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีแสงสวยและไม่ร้อนจนเกินไป

ค่ำ ä บริการ อาหารค่ำ ณ ที่พัก หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก ณ MINA RETREAT CAMP หรือเทียบเท่า

วันที่-6

หุบเขานูบรา - เมืองเลห์

B

L

D

07.00 น. ä บริการอาหาร ณ ที่พัก

08.00 น. นำท่านชม “วัดเดสกิต” (Deskit Monastery) “พระศรีอริยเมตไตย์ประทับนั่งห้อยพระบาทบนฐานองค์ใหญ่ มีระเบียงกว้างชมวิว 360 องศา” เป็นวัดพุทธทิเบตลามะหมวกเหลือง และตั้งอยู่บนเนินเขาเป็นจุดชมวิวที่สวยงามวัดดิสกิตเป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในหุบเขานูบรา ภายในประดิษฐานพระศรีอาริยเมตไตขนาดใหญ่มากมองเห็นได้จากทั่วทุกซอกมุมของนูบร้าวัลเลย์และตัววัดก็มีฉากหลังเป็นยอดเขาหิมะที่สวยงามวัดเก่าแก่อายุมากกว่า 500ปี

จากนั้น เดินทางกลับเมืองเลห์ ...อำลา “หุบเขาดอกไม้” นำท่าน ผ่านหมู่บ้านซูเมอร์แวะชมวัดซัมสทันลิ่ง (Samstanling Monastery) วัดพุทธสไตล์ทิเบต ของนิกายหมวกเหลือง ภายในวัดประกอบไปด้วยวัดน้อยใหญ่รวมกันกว่า 7 วัด ที่มีความเก่าแก่มากกว่า 100 ปีเป็นวัดที่มีพระและเณรจำนวนมาก มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่อนุรักษ์ดูแลไว้เป็นอย่างดี...จากนั้นเดินทางสู่เมืองเลห์  ข้ามคาร์ดุงลา “Khardung La” ถนนที่สูงที่สุดในโลก อีกรอบผ่าน ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทางผ่าน Khardungla Pass เส้นทางเดิมที่มา

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ เมืองเลห์

บ่าย ถึงเมืองเลห์ พาท่าน ชมพระราชวังเลห์ (LEH PALACE) พระราชวังเลห์ ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากจัตุรัสกลางเมืองเลห์ พระราชวังเลห์สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 มีทั้งหมด 9 ชั้น ในอดีตเป็นพระราชวังที่ประทับของราชวงศ์แห่งลาดักห์ ชม Tsemo Gompa เป็นวัดที่สร้างใน ค.ศ. 1430 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสูงขนาดตึก 3 ชั้น และพระคัมภีร์เก่าแก่ วัดนี้เป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่ง ที่สามารถเห็นตัวเมืองเลห์ได้อย่างสวยงาม ชมและสักการะเจดีย์สันติภาพ(Shanti Stupa) เจดีย์สันติภาพ เป็นเจดีย์สีขาว ขนาดใหญ่โดยญี่ปุ่นเป็นผู้สร้างขึ้นเพื่อประกาศพระศาสนาและแสดงถึงสันติภาพแห่งโลก รอบๆเจดีย์สามารถมองเห็นหิวทัศน์ของเมืองเลห์ได้อย่างรอบด้าน

ค่ำ äรับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

พัก HOTEL JIGMET หรือเทียบเท่า

วันที่-7

เมืองเลห์ – ทะเลสาบพันกอง-เมืองเลห์

B

L

D

06.30 น. ä บริการอาหาร ณ ที่พัก

07.00 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “ทะเลสาบพันกอง” (Pangong Lake) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงโดย

วันนี้เราจะนั่งรถผ่านถนนเส้นที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ชาง ลา Chang La pass ระหว่างทางขึ้นมันก็สวยแบบเกินคำบรรยาย...เป็นทางผ่านภูเขาสูงในเมืองลาดัก เป็นถนนที่ขับรถยนต์ได้ที่สูงเป็นอันดับสองของโลก

“ทะเลสาบพันกอง” (Pangong Lake) หรือชื่อว่าทะเลสาบผางกงโฉ (ในภาษาจีน) นั้นตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของแคว้นลาดักห์ เป็นพื้นที่พรมแดนทับซ้อนของอินเดียและจีน (พื้นที่เขตการปกครองตนเองทิเบต) พื้นที่ของทะเลสาบเองก็มีพื้นที่ครอบคลุมรอยต่อของทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน โดย 40% ของความยาวทะเลสาบจะอยู่ในอินเดียและส่วนอีก 60% ที่เหลือจะอยู่ในดินแดนจีนระดับความสูง 4,350 เมตร

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ริมทะเลสาบพันกอง

ชมความงามของ ทะเลสาบพันกอง (Pangong Lake) ซึ่งมีความยาวถึง 40 ไมล์ และกว้าง 2-4 เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงสุดในโลกคือ มีความสูงถึง 4300 เมตร จากระดับน้ำทะเล ชมความงามของทะเลสาบที่มีภูเขาสูงเป็นฉากหลัง น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีสีสันที่งดงามมาก โดยเฉพาะในช่วงเย็นน้ำจะมีสีน้ำเงินเข้ม ส่วนในช่วงเช้าจะมีสีที่อ่อนกว่า และพื้นที่ 75% ของทะเลสาบอยู่ในดินแดนทิเบต อีก 25% อยู่ในเขตของประเทศอินเดีย ..อิสระถ่ายรูปกับ ทะเลสาบพันกอง เป็นวิวที่เรียกว่า ได้รับความนิยมสูงสุดของเลห์..

ได้เวลาอันสมควร.. จากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองเลห์ โดยใช้เส้นทางเดิม โดยการเดินทางในวันนี้จะผ่านจุดที่สูงที่สุดของถนนสายนี้คือประมาณ 5,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล เรียกจุดนี้ว่า Chang La Pass เราจะจอดให้ท่านได้ถ่ายรูปสักครู่ ไม่ควรอยู่นานเกินไปเพราะจะทำให้เราไม่สบายได้..ออกเดินทางต่อค่ะ เพลิดเพลินกับวิวสองข้างทางเปิดโอกาสให้จอดถ่ายรูปเป็นระยะๆ 

ค่ำ äรับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

พัก HOTEL JIGMET หรือเทียบเท่า

วันที่-8

เมืองเลห์ - เดลลี - กรุงเทพฯ

B

L

-

07.00 น. ä บริการอาหาร ณ ที่พัก

08.00 น. นำท่านเดินเล่น ช็อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึกที่ถนนเมนบาร์ซาร์ Leh Market ตลาดแบ่งออกเป็นทางเดินและถนนเล็กๆ หลายแห่ง โดยแบ่งเป็นส่วนเสื้อผ้า สิ่งประดิษฐ์ เครื่องเทศ อาหาร ของที่ระลึก และงานหัตถกรรม หนึ่งในสิ่งยอดนิยมที่ตลาดหลักเลห์มีชื่อเสียงคือเสื้อผ้าทำด้วยผ้าขนสัตว์ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ผู้คนในเลห์จึงมีวัฒนธรรมการทอผ้าทอมือ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของสินค้าในท้องถิ่นของลาดัก

10.00 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินเลห์

12.20 น. เหินฟ้ากลับเดลี โดยสายการบิน SPICEJET เที่ยวบินที่ SG124

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินเดลลี

13.40 น. ถึงสนามบินเดลีอาคารภายประเทศ ตรวจรับสัมภาระ...นำท่านเดินทางออกไป ช้อปปิ้งฟินๆๆ ณ ห้างสรรพสินค้า

Ambience Mall เลือกซื้อเสื้อผ้าสตรีและแฟชั่นบุรุษจากแบรนด์ต่างๆ เช่น H&M, Cover Story, Only & more หรือแบรด์ดังของอินเดียมากมาย...จนถึงเวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่สนามบิน...เข้าสู่ภายในสนามระหว่างประเทศ

18.00 น. เดินทางเข้าสู่สนามบินอินทิราคานธี เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ตรวจเชคอินสัมภาระผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

**อิสระอาหารค่ำ ตามอัธยาศัยในสนามบิน เพื่อความสะดวกในการเชคอิน

21.10 น. ñออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน SPICEJET เที่ยวบินที่ SG740

วันที่-9

กรุงเทพฯ

 ตี 5. 20 นาที เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ....

-

-

-

05.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ....

******************

**รายการนี้เป็นเส้นทางกึ่งผจญภัย เหมาะสำหรับผู้เดินทางที่รักและหลงใหลในธรรมชาติอย่างแท้จริงและเส้นทางท่องเที่ยวบางครั้งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความปลอดภัยเป็นสำคัญ***

หมายเหตุ :

  1. เวลาที่ปรากฏในโปรแกรมกับการปฏิบัติจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขอให้ท่านรับทราบคำแนะนำการเปลี่ยนแปลงการนัด หมายเวลาในการทำกิจกรรมอีกครั้งจากหัวหน้าทัวร์
  2. บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงรายการ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม แต่จะยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน โรงแรมที่พัก ภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงานฯลฯ ตลอดจนสภาวะทาง เศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองภายใน อันเป็นสาเหตุให้ต้องเลื่อนการเดินทางหรือไม่สามารถจัดพาคณะท่องเที่ยวได้ตามรายการ

ราคาทัวร์สำหรับลูกค้าที่ถือพาสปอร์ตไทยเท่านั้น”***พาสปอร์ตต่างชาติโปรดติดต่อเรา**

ล่องเรือดินเนอร์ล่องเรือดินเนอร์
ทัวร์บุรีรัมย์ทัวร์บุรีรัมย์
ทัวร์เชียงใหม่ทัวร์เชียงใหม่
ทัวร์เชียงรายทัวร์เชียงราย
ทัวร์กาญจนบุรีทัวร์กาญจนบุรี
ทัวร์กระบี่ทัวร์กระบี่
ทัวร์ลำปางทัวร์ลำปาง
ทัวร์นครปฐมทัวร์นครปฐม
ทัวร์น่านทัวร์น่าน
ทัวร์หนองคายทัวร์หนองคาย
ทัวร์อุดรธานีทัวร์อุดรธานี
ทัวร์พะเยาทัวร์พะเยา
ทัวร์เพชรบูรณ์ทัวร์เพชรบูรณ์
ทัวร์พิษณุโลกทัวร์พิษณุโลก
ทัวร์นครสวรรค์ทัวร์นครสวรรค์
ทัวร์อยุธยาทัวร์อยุธยา
ทัวร์ภูเก็ตทัวร์ภูเก็ต
ทัวร์ระนองทัวร์ระนอง
ทัวร์สมุทรสงครามทัวร์สมุทรสงคราม
ทัวร์สระบุรีทัวร์สระบุรี
ทัวร์สุโขทัยทัวร์สุโขทัย
ทัวร์สุพรรณบุรีทัวร์สุพรรณบุรี
ทัวร์ตากทัวร์ตาก
ทัวร์เลยทัวร์เลย
ทัวร์นครศรีธรรมราชทัวร์นครศรีธรรมราช
ทัวร์สุราษฎร์ธานีทัวร์สุราษฎร์ธานี
ทัวร์นครพนมทัวร์นครพนม
ทัวร์อุบลราชธานีทัวร์อุบลราชธานี
ทัวร์มุกดาหารทัวร์มุกดาหาร
ทัวร์สงขลาทัวร์สงขลา
ทัวร์พัทลุงทัวร์พัทลุง
ทัวร์ปัตตานีทัวร์ปัตตานี
ทัวร์สกลนครทัวร์สกลนคร
ทัวร์แม่ฮ่องสอนทัวร์แม่ฮ่องสอน
ทัวร์ชุมพรทัวร์ชุมพร
ทัวร์ประจวบคีรีขันธ์ทัวร์ประจวบคีรีขันธ์
ทัวร์ตราดทัวร์ตราด
ทัวร์สตูลทัวร์สตูล
ทัวร์ตรังทัวร์ตรัง
ทัวร์พังงาทัวร์พังงา
ทัวร์ฉะเชิงเทราทัวร์ฉะเชิงเทรา
ทัวร์นครนายกทัวร์นครนายก
ทัวร์เพชรบุรีทัวร์เพชรบุรี
ทัวร์ปราจีนบุรีทัวร์ปราจีนบุรี
ทัวร์ราชบุรีทัวร์ราชบุรี
ทัวร์อุตรดิตถ์ทัวร์อุตรดิตถ์
ทัวร์ชลบุรีทัวร์ชลบุรี
ทัวร์ลพบุรีทัวร์ลพบุรี
ทัวร์สมุทรปราการทัวร์สมุทรปราการ
ทัวร์อ่างทองทัวร์อ่างทอง
ทัวร์จันทบุรีทัวร์จันทบุรี
ทัวร์บึงกาฬทัวร์บึงกาฬ
ทัวร์ถ้ำนาคาถ้ำนาคา
ทัวร์ชัยภูมิทัวร์ชัยภูมิ
ทัวร์อุทัยธานีทัวร์อุทัยธานี
ทัวร์กาฬสินธุ์ทัวร์กาฬสินธุ์
ทัวร์กำแพงเพชรทัวร์กำแพงเพชร
ทัวร์ขอนแก่นทัวร์ขอนแก่น
ทัวร์ชัยนาททัวร์ชัยนาท
ทัวร์นครราชสีมาทัวร์นครราชสีมา
ทัวร์นนทบุรีทัวร์นนทบุรี
ทัวร์นราธิวาสทัวร์นราธิวาส
ทัวร์ปทุมธานีทัวร์ปทุมธานี
ทัวร์พิจิตรทัวร์พิจิตร
ทัวร์แพร่ทัวร์แพร่
ทัวร์มหาสารคามทัวร์มหาสารคาม
ทัวร์ยะลาทัวร์ยะลา
ทัวร์ยโสธรทัวร์ยโสธร
ทัวร์ร้อยเอ็ดทัวร์ร้อยเอ็ด
ทัวร์ระยองทัวร์ระยอง
ทัวร์ลำพูนทัวร์ลำพูน
ทัวร์ศรีสะเกษทัวร์ศรีสะเกษ
ทัวร์สมุทรสาครทัวร์สมุทรสาคร
ทัวร์สระแก้วทัวร์สระแก้ว
ทัวร์สิงห์บุรีทัวร์สิงห์บุรี
ทัวร์กรุงเทพฯทัวร์กรุงเทพฯ
ทัวร์สุรินทร์ทัวร์สุรินทร์
ทัวร์หนองบัวลำภูทัวร์หนองบัวลำภู
ทัวร์อำนาจเจริญทัวร์อำนาจเจริญ
หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 20042023 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
TOP