|
|
|
|
|
ทัวร์อุดรธานีรหัส : Z8824
เดินทางโดย : SL-ไทยไลอ้อนแอร์
โรงแรม :
|
จำนวนวัน :
4 วัน 3 คืน
แพ็คเกจ เวียงจันทน์ - วังเวียง - หลวงพระบาง - รถไฟลาว (บินเข้า, ออกอุดธานี) : วัดพระธาตุหลวง - เข้าชมพิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว - ถ้ำติ่ง - น้ำตกตาดกวงซี - พระธาตุภูษี - วัดเชียงทอง - พระราชวังเก่า - วัดวิชุนราช - บูลากูล - ถ้ำนางฟ้า / มีไกด์ท้องถิ่น พูดไทย นำเที่ยวฝั่งลาวตามรายการ / พักหลวงพระบาง 2 คืน - วังเวียง 1 คืน
ไม่รวม ค่าวีซ่า สำหรับชาวต่างชาติ - ค่าตักบาตรข้าวเหนียว - ทิปไกด์ และคนขับรถ 400 บาท ต่อผู้เดินทาง - ค่าอาหารบางมื้อ - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว - ค่าทำ Vaccine Passport
➥ กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง) - บริการรถตู้รับด้านนอก สนามบิน อุดรธานี - ด่านสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว - ข้ามสู่ นครหลวง เวียงจันทน์ - วัดพระธาตุหลวง - บ่อน้ำพญานาค - เข้าชม พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว - วัดสีสะเกด - สถานีรถไฟเวียงจันทน์ - นั่งรถไฟความเร็วสูง ขบวนที่ C84 สู่หลวงพระบาง - ตลาดมืด - สตรีทฟู๊ด หลวงพระบาง (อิสระอาหารค่ำ) ➥ ถ้ำติ่ง - บ้านซ้างไห - น้ำตกตาดกวงซี - บ้านผมนม - พระธาตุภูษี ➥ ทำบุญตักบาตร - วัดเชียงทอง - พระราชวังเก่า - วัดวิชุนราช - ขึ้นรถไฟความเร็วสูง ขบวนที่ C81 สู่วังเวียง - ถนนคนเดิน Walking Street (อิสระอาหารค่ำ) ➥ บูลากูล - ถ้ำนางฟ้า - เวียงจันทน์ - ด่านสะพานมิตรภาพไทยลาว จ.หนองคาย - ช้อปปิ้งดิ้วตี้ฟรี - สนามบินอุดรธานี - กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง) ➥ แนะนำการเดินทางเที่ยวลาว : * ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนครบโดส ให้แสดงเอกสารการฉีดวัคซีนโควิด ครบโดสทุกยี่ห้อ ยกเว้นสูตรไขว้ หรือท่านที่ได้รับเข็ม 3 บูสเตอร์ ต้องเป็นยี่ห้อเดียวกับเข็ม 2 เดินทางได้ไม่กักตัว - ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าประเทศ * สำหรับผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป ยังไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนครบโดส ต้องแสดงผลตรวจ ATK ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ผลเป็นลบไม่ต้องกักตัว) * สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 12 ปี ไม่ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน และผลตรวจโควิด
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง Download PDF
แพ็คเกจ เวียงจันทน์ - วังเวียง - หลวงพระบาง - รถไฟลาว 4 วัน 3 คืน โดยสายการบิน Thai Lion Air (SL) แพ็คเกจเดินทางเอง / มีไกด์ท้องถิ่น พูดไทย นำเที่ยวฝั่งลาว ตามรายการ บริการเจ้าหน้าที่ส่งทัวร์ที่สนามบินดอนเมือง - มีพนักงานขับรถตู้ รอรับที่สนามบินอุดรธานี พบไกด์ท้องถิ่นรอรับบริเวณด่านลาว นำเที่ยวตามรายการ หลังจากท่านทำการจองทัวร์แล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านเข้าใจ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของผู้เดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจองทัวร์ และการยกเลิกทัวร์ ที่ระบุในรายการทั้งหมด ไม่รวม ค่าวีซ่า สำหรับชาวต่างชาติ - ค่าตักบาตรข้าวเหนียว - ทริปไกด์ และคนขับรถท่านละ 400 บาท ค่าอาหารบางมื้อ - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว - ค่าทำ Vaccine Passport คณะออกเดินทาง 8 ท่านขึ้นไป / รับจัดคณะส่วนตัว 8 ท่านขึ้นไป กำหนดวันเดินทางได้เอง พักหลวงพระบาง 2 คืน - วังเวียง 1 คืน แนะนำการเดินทาง เที่ยวลาว : * ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนครบโดส ให้แสดงเอกสารการฉีดวัคซีนโควิด ครบโดสทุกยี่ห้อ ยกเว้นสูตรไขว้ หรือท่านที่ได้รับเข็ม 3 บูสเตอร์ ต้องเป็นยี่ห้อเดียวกับเข็ม 2 เดินทางได้ไม่กักตัว - ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าประเทศ * สำหรับผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป ยังไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนครบโดส ต้องแสดงผลตรวจ ATK ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ผลเป็นลบไม่ต้องกักตัว) * สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 12 ปี ไม่ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน และผลตรวจโควิด การท่องเที่ยวต่างประเทศยุค New Normal สิ่งที่ต้องมี : ลงทะเบียน E-Vaccine Passport จากแอปหมอพร้อม สำหรับใช้เดินทางออกนอกประเทศ หรือ สามารถใช้หลักฐานการฉีดวัคซีนจากหมอพร้อม แทนได้ วันแรก ดอนเมือง - อุดร - หนองคาย - เวียงจันทน์ – หลวงพระบาง - ตลาดมืด - สตรีทฟู๊ด04.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบิน Thai Lion Air (SL) เจ้าหน้าที่คอยบริการ ณ สนามบิน (บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน เป็นสายการบินอื่น ๆ อาทิเช่น นกแอร์ แอร์เอเชีย ในกรณีที่นั่งไม่เพียงพอกับคณะ หรือมีการยิกเที่ยวบิน) 06.05 น. นำท่านออกเดินสู่ จ.อุดรธานี โดยสายการบิน เที่ยวบินที่ SL600 07.10 น. รถตู้พร้อมคนขับ ชูป้ายนับ คณะ ณ สนามบินจังหวัดอุดรธานี จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ จ. หนองคาย (ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 50 นาที) ä รับประทานกลางวันเช้า แบบอาหารท้องถิ่น ให้เลือก ไข่กระทะ ขนมปัง ชา หรือ กาแฟ หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ด่านสะพาน มิตรภาพ ไทย-ลาว ข้ามสู่ นครหลวง เวียงจันทน์ สิ่งที่ต้องเตรียมตอนเข้าประเทศลาว 1.เอกสารแสดงการฉีดวัคซีนโควิด ครบโดส ดาวน์โหลดใบรับรองจาก App.หมอพร้อม 2.หนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน ในวันเดินทาง เดินทางถึง เวียงจันทน์ นำคณะสักการะ วัดพระธาตุหลวง เป็นพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของลาว เป็นพระธาตุที่มีขนาดทั้งสูงและใหญ่ที่สุดในลาว สูงถึง 45 เมตรทุกปีจะมีงานบุญใหญ่บูชาพระธาตุในวันเดือนเพ็ญสิบสอง ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศจะหลั่งไหลมาทำบุญตักบาตรเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุและถวายพานพุ่มดอกไม้และปราสาทผึ้ง จากนั้นนำท่านชม บ่อน้ำพญานาค หรือบ่อน้าทิพย์บริเวณข้างๆพระธาตุหลวง ซึ่งใต้ก้นบ่อจะเป็นทางเชื่อมลงสู่วังบาดาลของพญาศรีสัตนาคราช ซึ่งผู้คนชาวลาวต่างให้ความศรัทธาองค์ท่านทุกคน ที่สำคัญบ่อน้าทิพย์นี้น้าในบ่อเป็นน้าจากวังบาดาล เชื่อกันว่าผู้ใดได้นำน้าทิพย์นี้มาสักการบูชา หรือประพรมตามร่างกาย จะช่วยเพิ่มพูนพลังกายทิพย์ให้สูงขึ้น อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลทำสิ่งใดก็จะสำเร็จได้โดยง่าย ได้โดยง่าย นำท่านชม อนุสาวรีย์ประตูชัย เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะล้านช้างกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงาม เที่ยง ä รับประทานกลางวัน ร้านขึ้นชื่อของเวียงจันทน์ ณ ร้านเฝอแซ๊บ จากนั้น นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว (Hor Phra Kaew Museum) ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ก่อนที่จะถูก อันเชิญมาไว้ที่กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทรโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก(ร. 1) เมื่อปี ค.ศ. 1778 แล้วนำท่านข้ามถนนเข้าชม วัดสีสะเกด วัดที่มีภูมิสถาปัตย์งดงามมากแห่งหนึ่งของลาวมีวิหารใหญ่อยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยระเบียงคดทั้ง 4 ด้าน ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่มีคุณค่าแก่การอนุรักษ์แต่สิ่งที่เด่นมากของวัดนี้คือ หอไตร หรือ หอธรรม ที่มีรูปทรงคล้ายมณฑปมีหลังคาลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้น ๆ ตามศิลปะสกุลช่างล้านช้าง เป็นพุทธสถาปัตยกรรมที่งดงามมากของนครเวียงจันทน์ ได้เวลาพอสมควรนำคณะเดินทางสู่ สถานีรถไฟเวียงจันทน์ 16.05 น. ออกจากเวียงจันทน์ มุ่งหน้าสู่หลวงพระบาง โดยรถไฟความเร็วสูง ขบวนที่ C84 18.00 น. เดินทางถึงหลวงพระบาง นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง หลังอาหารให้ท่านได้อิสระเดินเที่ยวชม ตลาดมืด (NIGHT MARKET) บนถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดถนน ให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี มีทั้งเสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋าถือ, เครื่องประดับ, โลหะเกะสลัก, ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ วางจำหน่ายในราคาที่ต่อรองกันได้ อีกทั้งยังมี เบเกอรี่ ต่าง ๆ เพื่อให้ท่านได้ลิ้มลอง และขนมเค้กอันแสนอร่อยนานาชนิด ได้เวลา ä อิสระอาหารเย็น ให้ท่านได้สัมผัสลิ้มลองอาหารต่าง ๆ ณ สตรีทฟู๊ด หลวงพระบาง ให้ท่านได้ดื่มด่ำบรรยากาศเลือกซื้ออาหารได้ นานาชนิด หลายสิบร้านอาหาร ดื่มเบียร์ลาวเย็นๆ พร้อมฟังเพลงเพราะๆได้ ณ ที่นี้ ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก พัก ALANA HOTEL หรือ เทียบเท่า วันที่สอง ถ้ำติ่ง - บ้านซ้างไห - น้ำตกตาดกวงซี - บ้านผมนม - พระธาตุภูษีเช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก เดินทางไปยัง ท่าเรือ ลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงสู่ ถ้ำติ่ง (Ting Cave) ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้าย เดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวง วิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา แล้วล่องเรือกลับ ก่อนถึงตัวเมืองหลวงพระบางแวะ บ้านช่างไห ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโท และต้มเหล้าขาว จำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงิน วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้าน อย่างสวยงามเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง เที่ยง äรับประทานกลางวัน บนเรือ พร้อมล่องแม่น้ำโขง ชมบรรยากาศ และ เดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมือง หลวงพระบาง นำเดินทางผ่านหมู่บ้านชนบทชมวิถีชีวิตของชาวบ้านสู่ นํ้าตกตาดกวางสี ห่างจากหลวงพระบาง 30กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยผ่านหมู่บ้านชนบทริมถนน 2 ข้างทาง เป็นหนึ่งในนํ้าตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง มีแม่นํ้าใสสีมรกตตลอดปี ชมความงามของนํ้าตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆอย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ นํ้าตก ให้เวลาอิสระดื่มด่ำกับธรรมชาติ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านผานม เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อที่อพยพมาจากเมืองสิบสองปันนา มีประชากรประมาณ 250 ครอบครัวผู้หญิงชาวไทลื้อชำนาญในการทอผ้า ในอดีตบ้านผานมเป็นแหล่งทอผ้าถวายเจ้ามหาชีวิตและราชสำนักในปัจจุบันบ้านผานมได้รับการยกระดับจากทางการให้เป็น “หมูบ้านวัฒนธรรม” ผ้าทอมือจากบ้านผานมเป็นผ้าทอที่มีชื่อเสียงมาก มีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า มีการสาธิตการทอผ้าด้วยกี่กระตุกแบบดั้งเดิมและยังมีผ้าทอรูปแบบต่าง จำหน่ายให้นักท่องเที่ยว ผ้าทอบ้านผานมมีทั้งผ้าแพรเบี่ยงลวดลายแบบลื้อแท้ๆและผ้าที่ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ผ้าปูโต๊ะ, ผ้าคลุมเตียง, ผ้ารองแก้วรองจาน ฯลฯ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง จากนั้นนำท่านเดินขึ้นบันได 328 ขั้นสู่ พระธาตุภูษี (Phou Si Mountian) สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นดอกจำปา ภูษีนี้ หมายถึง “ภูศรี” คือเป็นศรีของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง ตั้งโดดเด่นกลางใจเมืองมีจุดชมวิวก่อนถึงยอดพระธาตุ มองเห็นวัด บ้านเรือน ทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงจรดปากแม่น้ำคาน ยอดสูงสุดของภูษี อยู่บนพื้นที่ราบแคบๆ ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร จะสวยมากในยามบ่ายแก่ๆ แบบนี้แสงแดแจะส่ององค์พระธาตุเป็นสีทองสุกปลั่ง มีทางเดินรอบองค์พระธาตุ สามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางได้เกือบรอยเลยทีเดียว ให้ท่านได้ชมพระอาทิตย์ทิ้งดวงยอมเย็นที่นี่เพื่อเก็บไว้เป็นภาพประทับใจ เย็น ä รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร หลังอาหารนำท่านเข้าสู่ที่พัก ALANA HOTEL หรือ เทียบเท่า พักผ่อนตามอัธยาศัย วันที่สาม ตักบาตร - วัดเชียงทอง - พระราชวัง - วัดวิชุน - วังเวียง – ถนนโรตี05.00 น ตื่นเช้าซักหน่อยไปร่วม ทำบุญ-ตักบาตร กับชาวหลวงพระบาง ทุกเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เดินเรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อย ๆ รูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุข และความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง นำท่านเที่ยวชม วัดเชียงทอง(Xieng Thong Temple) เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง มีพระอุโบสถ หรือภาษาลาวเรียกว่า “สิม” เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้น ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน หรือภาษาลาวว่า “โหง่” เป็นรูปเศียรนาค ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบสง่าสะอาดมีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษาอย่างดี เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหาร นำท่านเข้าชม พระราชวังเก่า (Royal Palace Museum) เป็นวังที่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ทรงประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2518 พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็น พิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย หอฟังธรรม ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและพระมเหสี ห้องท้องพระโรง ทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ จัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบง่าย และนำท่านนมัสการ หอพระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปประทับยืน ปรางค์ห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลังบายน น้ำหนัก 54 กก. ประกอบด้วยทองคำ 90% และยังมีพระพุทธรูปนาคปรกสลักศิลาศิลปะขอมอีก 4 องค์ประดิษฐานอยู่ นำท่านเข้าชม วัดวิชุนราช (Visounnarath Temple) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.ศ. 2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402 ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์ (คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ในพระราชวังหลวงจนปัจจุบัน 11.00 น. ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร 13.25 น. ออกจากหลวงพระบาง มุ่งหน้าสู่วังเวียง โดย รถไฟความเร็วสูง ขบวนที่ C81 14.23 น. เดินทางถึงวังเวียง นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองวังเวียง (วังเวียงเราจะใช้รถจำโบ้ ถ้ามาวังเวียงแล้วไม่ได้นั่งถือว่ามาไม่ถึงวังเวียงนะจ๊ะ ) นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Thaveesouk Island หรือ เทียบเท่า ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัยออกมาเดินเล่น เช่าจักรยานถ่ายรูปสวยๆ หรือ จะนั่งเรือล่องแม่น้ำซอง เย็น ä รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร หลังอาหารเพลิดเพลินไปกับสีสันยามคํ่าคืนในเมืองวังเวียงบน ถนนคนเดิน Walking Street หรือถนนโรตี ซึ่งมีโรตีให้ท่านได้เลือกชิมกันอย่างจุใจ วันที่สี่ บูลากูล - ถ้ำนางฟ้า - เวียงจันทน์ - อุดร - หนองคายเช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหาร นำทุกท่านสู่ บลูลากูน ที่เที่ยวที่มาถึงวังเวียง แล้วพลาดไม่ได้ก็คือ ที่ บลูลากูน (Blue Lagoon) สระน้ำสวยใสสีฟ้าราวกับคริสตัน เป็นสระน้ำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปดำผุดดำว่าย เล่นน้ำได้อย่างสบายใจ มุมไฮไลท์คือ ชิงช้าเชือกที่อยู่ด้านข้างของ บลู ลากูน ที่เราสามารถปีนขึ้นไปนั่งสวยๆ เล่นน้ำได้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ถ้ำนางฟ้า สถานที่ที่แห่งใหม่ของเมืองวังเวียง ถายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยอันสวยงาม 12.00 น. ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่ เวียงจันทน์ โดยรถตู้ปรับอากาศ ให้ท่านได้สัมผัสเส้นทางด่วนสายใหม่ของประเทศลาว ใช้เวลาเดินทางประมา 1 ชั่วโมงก็จะถึงเวียงจันทน์ ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ ด่านสะพานมิตรภาพไทยลาว จ.หนองคาย ก่อนข้ามกลับฝั่งไทยให้ท่านลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ณ ดิ้วตี้ฟรี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินอุดร 18.35 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯสนามบินดอนเมือง โดยสายการบิน Lion Air เที่ยวบินที่ SL 611 19.45 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิ์ภาพ เงื่อนไขการเข้าหรือออกประเทศไทยและประเทศลาว อาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรการของภาครัฐทั้ง 2 ประเทศ บริษัทฯจึงขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่ม กรณีมีคำสั่งของภาครัฐทั้งสองประเทศ |
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด |