เฉินตู - ทิเบต - ลาซา - หลินจือ - นั่งรถไฟไต่หลังคาโลก 8 วัน 7 คืน

โดยสายการบินไทย (บินภายใน 2 เที่ยว)

วันที่หนึ่ง กรุงเทพ – เฉิงตู

07.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 5

เคาน์เตอร์ H – J สายการบินไทย (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่ ฯ คอยอำนวยความสะดวก

10.05 น. ออกเดินทางสู่เมืองเฉิงตู โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 618

14.00 น. เดินทางถึงสนามบินเทียนฟู เมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน มณฑลที่มีภูมิประเทศรายล้อมไปด้วย เทือกเขา และมีพื้นที่ประมาณ 567,000 ตารางกิโลเมตร หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับ

สัมภาระแล้ว

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านกลับสู่ที่พัก

ที่พักã TIANFU JIUDING HOTEL หรือ เทียบเท่า 4*

วันที่สอง หลินจือ - อุทยานหลูหลางหลินไห่ – ชมเมืองหนานเจียปาหว่าเฟิง ( Namcha Barwa )

04.00 น. บริการอาหารเช้า (แบบกล่อง) หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่สนามบิน

06.20 น. เหินฟ้าสู่ เมืองหลินจือ โดยสายการบินแอร์ไชนา เที่ยวบินที่ CA4431

08.15 น. ถึงสนามบินเมืองหลินจือ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

นำท่านสู่ อุทยานหลูหลางหลิงไห่ สูงจากระดับน้ำทะเล 3,700 เมตร เป็นอุทยานที่ได้รับสมญานามว่า

เป็นดินแดนที่ผู้คนมาถึงจะไม่คิดถึงบ้านเลยสวยที่สุดในประเทศจีนให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองหลิงจือ

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร

นำท่าน ผ่านชมภูเขา หนานเจียปาหว่างเฟิง หรือ

Namcha Barwa หรือ Namchabarwa เป็นยอดเขาที่อยู่ในทิเบตในภูมิภาคPemako คำจำกัดความดั้งเดิม ของเทือกเขาหิมาลัยที่ทอดยาวจากแม่น้ำสินธุไปจน ถึงพรหมบุตรจะทำให้ภูเขานี้เป็นจุดยึดทางทิศตะวันออกของแนวเทือกเขาทั้งหมด และเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในส่วนของมันเอง เช่นเดียวกับยอดเขาทางตะวันออกสุดของโลกที่สูงกว่า 7,600 เมตร เป็นภูเขาสูงที่มีความสวยงาม มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี

นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาที่นี่เพียงเพื่อดูรูปลักษณ์ที่แท้จริงของภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ที่พักã MINSHAN HOTEL หรือเทียบเท่า 4 *

วันที่สาม หลินจือ – ทะเลสาบปาซงหู (เกาะหูชิง) – ลาซา

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ที่พัก

หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่เกาะหูชิง ชมความสวยงามของทะเลสาบปาซงหู

และวัดกลางน้ำหูชิง วัดทิเบตของลัทธิหมวกแดง ปาซงหู เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวระดับชาติ 5A อันดับแรกในทิเบต ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ เกาะหัวใจของทะเลสาบ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ100 เมตร สถานที่ท่องเที่ยวนี้มีชื่อเสียงที่เรียกว่าเกาะกังซินหรือเกาะหูซิน ตํานานเล่าว่าเกาะว่างเปล่าและลอยอยู่ในทะเลสาบ แน่นอนว่านี่เป็นเพียงตํานาน แต่เกาะเล็กๆ แห่งนี้ก็มีชื่อเสียงมากเช่นกัน แม้ว่าเกาะจะไม่ใหญ่ แต่ทิวทัศน์ก็ดีมาก ต้นไม้เขียวขจี ต้นไม้โบราณปกคลุมท้องฟ้า น้ําทะเลสีฟ้าและท้องฟ้าสีครามโดยรอบ ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตั้งตระหง่านอยู่ไกลๆ แต่ที่โด่งดังที่สุดคือ \"วัดฉุยจงกงบา\" บนถนน เป็นวัดสีแดงในศาสนาพุทธทิเบต ประดิษฐานอาจารย์ถั่วลิสง ที่มีอายุกว่า 1,500 ปี แค่ตํานานในวัดก็นับไม่ถ้วน ไปเกาะตามเข็มนาฬิกา คุณยังสามารถเห็นรอยเท้าที่ทิ้งไว้โดยม้ารบของกษัตริย์กัลซาร์ รอยดาบที่ทิ้ง 

ระหว่างทางผ่านหุบเหวหนีเสียงกู่ หมู่บ้านชนบท ป้อมเพลิงพันปีชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่ง เข้าสู่เมือง

ลาซา

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ นครลาซา เมืองลาซา เป็นเมืองเอก ของเขตปกครองตนเองทิเบต เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีน คำว่า “ลาซา” ในภาษาทิเบตหมายความว่า “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์” หรือ “พุทธสถาน”เมืองลาซามีแหล่ง ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร

นำท่านเข้าที่พักã LHASA U-TSANG HOTEL หรือเทียบเท่า 4*

วันที่สี่ พระราชวังโปตาลา – พระราชวังฤดูร้อนตำหนักนอร์บุลิงฆา – วัดเซอลา - วัดต้าเจาซื่อ

ถนนแปดเหลี่ยม

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ที่พัก หลังอาหาร

นำท่านเดินทางเข้าสู่ พระราชวังโปตาลา ตั้งอยู่บนยอดเขาแดงความสูงประมาณ 117 เมตร พระราชวังโปตาลาเป็นอาคารสูง 13 ชั้น ยาว 400 เมตร กว้าง 350 เมตร มีห้องต่าง ๆ เกือบ 1,000 ห้อง เริ่มสร้างเมื่อคริสศตวรรษที่ 7 โดยกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รวบรวมทิเบตให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้สำเร็จ คือกษัตริย์ชงเซินกัมโป(Songtsen Gampo) แรกเริ่มเพียงจะสร้างเป็นตำหนักให้แก่มเหสีชาวจีนและชาวเนปาลของพระองค์เอง ต่อมาทรงใช้ป้อมแห่งนี้เป็นสถานที่ในการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า อาคารที่ต่อเติมในช่วงหลังนี้ ส่วนหลัก ๆ สร้างในสมัยของดาไล ลามะ ที่ 5 ประมาณปี พ.ศ. 2188-2236 (องค์ดาไลลามะ องค์ปัจจุบันคือ องค์ที่ 14 ) เพื่อให้เป็นพระราชวังฤดูหนาว พระราชวังโปตาลา แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของพระราชวังสีขาว สีแดง และส่วนที่เชื่อมที่เป็นสีเหลือง พระราชวังสีขาวเป็นส่วนของสังฆาวาส พระราชวังสีแดงเป็นส่วนพุทธาวาสสำหรับใช้ทำกิจของสงฆ์ และบรรจุพระศพขององค์ดาไลลามะ (ดาไลลามะองค์ที่ 5,7,8, 9,10,11,12 และ 13)

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร ชมพระราชวังฤดูร้อนตำหนักนอร์บุลิงฆา อันเป็นพระราชวังฤดูร้อนคู่กันกับพระราชวังฤดู

หนาวโปตาลา ความหมายเดิมของชื่อ นอร์บุหลิงฆาแปลว่า “สวนอัญมณี” สร้างขึ้นในช่วงหลังศตวรรษ

ที่ 18 ปี พ.ศ. 2298 ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตก 12 ปี โดยดาไลลามะที่ 7 สมัยต่อ ๆ มา ดาไลลามะ

องค์อื่น ๆ ได้สร้างต่อเติมส่วนของตนเองขึ้นมาเรื่อยๆ แม้แต่ดาไลลามะองค์สุดท้ายก็ยังได้ต่อเติมพระราชวังของตนเองก่อนที่จะหนีออกจากทิเบต ในบริเวณโถงรับรองมีบัลลังก์เทวราช และงานจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตในแง่มุมต่าง ๆ โดยมีกรอบเป็นภาพเขียนพุทธชาดก

จากนั้นนำชม วัดต้าเจาซื่อ หรือJokhang เป็นวัดซึ่งมีอายุกว่า 1400 ปี เป็นแหล่งรวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวทิเบต เป็นสถาปัตยกรรมที่ผ่านการผสมผสานอย่างลงตัวของศิลปะสมัยถังของจีนและศิลปะทิเบตโดยตัวอาคารสร้างแบบจีน และหลังคาตกแต่งประดับประดาแบบศิลปะทิเบต มีหลังคาทองคำ โดยพระวิหารหลวงมี 4 ชั้น ชั้นล่างของพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำองค์โจโวริมโปเซ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่พระมเหสีของพระเจ้าซงซัน สันกัมโป พระนาง เหวินเฉิง แห่งราชวงศ์ถัง ได้นำติดตัวมาจากเมืองจีน นำท่านชมองค์พระพุทธรูปต่างๆ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอินเดียซึ่งวัดนี้จะมีคนท้องถิ่น เข้ามาเพื่อทำบุญจำนวนมาก นำท่านขึ้นสู่ชั้นสองชมรูปปั้นของ มเหสี พระนาง เหวินเฉิง จากจีน และ เจ้าหญิงภริขุตี จากเนปาล ซึ่งพระเจ้าซงซัน สันกัมโป เป็นผู้ดำริให้มีการสร้างขึ้น จากนั้นนำท่านขึ้นสู่ชั้นสามซึ่งเป็นลานกว้างท่านจะได้ชม สัญญาลักษณ์ กวางหมอบ และ หลังคาทองคำ พร้อมเก็บภาพพระราชวังโปตาลาอย่างชัดเจน จากนั้นนำท่านชมการกราบแบบอังฎางคประดิษฐ์ และ การเดินเวียนเทียนรอบวัด ซึ่งเป็นการปฎิบัติอย่างเคร่งครัดของชาวทิเบต

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร

นำท่านเข้าที่พักã LHASA U-TSANG HOTEL หรือเทียบเท่า 4 *

(วันรุ่งขึ้นจะขึ้นรถไฟ กรุณาเตรียมของใช้ที่จำเป็นใช้บ่อยใส่ในกระเป๋าเล็ก เพื่อสะดวกในการหยิบใช้ รถไฟไม่อนุญาตให้นำมีดปลอกผลไม้ ของมีคม เช่น มีด กรรไกร ขึ้นรถไฟ)

วันที่ห้า นั่งรถไฟสายหลังคาโลก ลาซา – ซีหนิง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ที่พัก หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟเพื่อเดินทางสู่ เมืองซีหนิง

09.00 น. นำท่านขึ้นรถไฟขบวนท่องเที่ยวสุดหรูสายหลังคาโลก (เมืองจีน) สู่เมืองซีหนิง ขบวนที่ Z918 พักผ่อน

บนรถไฟ (พักตู้นอน ห้องละ 4 คน 4 เตียง ไม่มีห้องพักเดี่ยว) บนรถไฟมีการควบคุมระดับออกซิเจน ให้เหมือนกับอากาศปกติทั่วไป (ตารางเวลาเดินรถไฟ อาจมีการเปลี่ยนแปลง) สำรวจขบวนรถไฟ ซึ่ง เป็นรถไฟขบวนที่มีลักษณะพิเศษ คือ ปรับอุณหภูมิและความกดอากาศ เริ่มเปิดบริการเมื่อ 1กรกฎาคม 2006 ผ่านเส้นทางอันงดงาม ผ่านสถาน YANNGBAJIN.DAMXO.NAGQU.AMDO,TANGGULA MOUNTAIN BANK OF TUOTUO RIVER ,

WUDAOLIANG , BUDONG SPRING,KUNLUN MOUNTAIN , GOLMUD ,XINING ,LANZHOU

อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย เก็บแรงไว้สำหรับ วันต่อไป…ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับสภาพ ภูเขา หิมะสลับซับซ้อนและทุ่งหญ้ากว้าง ที่มีฝูง แพะ แกะ จามรี เล็มหญ้าอยู่เป็นระยะ ๆท่านจะได้สัมผัสกับท้องฟ้าสีคราม และแสงแดดอ่อน ๆ กระทบกับภูเขาหิมะ

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนรถไฟ หลังอาหาร อิสระพักผ่อน ตามอัธยาศัย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนรถไฟ หลังจากนั้น ท่านสามารถพักผ่อนได้ตามอิสระ

ที่พัก ã นอนบนรถไฟ (พักตู้นอน ห้องละ 4 คน 4 เตียง ไม่มีห้องพักเดี่ยว)

วันที่หก ซีหนิง – ทะเลสาปชิงไห่

06.40 น. ถึงสถานีรถไฟซีหนิง เมืองเอกของมณฑลชิงไห่ มณฑลขนาดใหญ่ซ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูง ทิเบต-ชิงไห่ ที่มีความสูงเฉลี่ยกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีประชากรเบาบางเพียงประมาณ 5 ล้านคน ภูมิประเทศเป็นภูเขาและที่ราบสูง เสน่ห์ของชิงไห่ คือความรกร้างห่างไกลแล้วความเป็นอยู่ของชนเผ่าเร่ร่อน เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าตามเส้นทางสายไหมเหนือทางเหอชีมานานกว่า 2,000 ปีและเป็นที่มั่นของราชวงศ์ฮั่น สุย ถัง และซ่ง เพื่อต่อต้านการโจมตีของชนเผ่าเร่ร่อนจากตะวันตก แม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลกานซู่มานาน

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร

หลังอาหารนำท่านเดินทางไปยังทะเลสาปชิงไห่เป็นทะเลสาปที่ใหญ่ ที่สุดของเมืองจีน ระหว่างทางผ่านชมดินแดนความงดงามของ ทุ่งดอกมัสตาร์ด (ดอกมัสตาร์ดบาน ในช่วงเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม) สีเหลืองอร่ามไปทั่ว

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นําท่าน ล่องเรือชมทะเลสาบชิงไห่ เป็น 5 ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีพื้นที่ 4,583 ตร.กม. มีระยะทางห่างจากเมืองซีหนิง 150 กิโลเมตร สหประชาชาติจัดให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำแหล่งสำคัญของโลก มีจุดเด่นคือ มีน้ำไหลเข้าอย่างเดียว โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 4,500 ตารางกิโลเมตร อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,196 เมตร มีความยาวจากตะวันออกถึงตะวันตก 106 กิโลเมตร และมีความกว้างจากใต้ถึงเหนือ 63 กิโลเมตร น้ำลึกโดยเฉลี่ย 19 และลึกที่สุด 39 เมตร โดยมีภูเขาโอบล้อมอยู่ทุกทิศทาง น้ำในทะเลสาบจะใสเป็นสีฟ้า และสีซัฟฟลายสามารถมองลึกลงไปได้ถึง 8-9 เมตร ทิวทัศน์โดยรอบเป็นทุ่งหญ้า ฉากหลังเป็นภูเขาทะมึนตัดกับท้องฟ้าสีสดใสไร้มลภาวะ ส่งเสริมให้ทะเลสาบสวยงาม โดดเด่น ทะเลสาบชิงไห่เป็นเส้นทางสำคัญของเส้นทางสายไหม บนเกาะต่างๆในทะเลสาบเป็นแหล่งอาศัยของนกนานาชนิด และเป็นแหล่งดูนกและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีนตะวันตกเฉียงเหนือ ในขณะนี้การเดินเล่นและขี่จักรยานรอบทะเลสาบชิงไห่ได้กลายเป็นแหล่งดึงดูดคนทั่วไปในนามของ

“ นามบัตรเขียว ” 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร

นำท่านเข้าที่พักã HOLIDAY DYNASTY HOTEL หรือเทียบเท่า4*

วันที่เจ็ด วัดถ่าเอ๋อซื่อ – มัสยิดตงกวน – ซีหนิง - เฉินตู

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ที่พัก

หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ วัดถาเอ่อซื่อ 1 ใน 6 วัดนิกายทิเบตหมวกเหลืองที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีพื้นที่ 450,000 ตร.ม. มี 3 สิ่งมหัศจรรย์ ประกอบด้วย ภาพวาดน้ำมันฝาผนัง, ธงทังก้า (ธงอวยพร), ภาพแกะสลักด้วยไม้ 3 มิติ ทำจากน้ำมันไขแพะผสมแร่ธาตุ อาทิเช่น ดิน เงิน ทองแดง โดยท่านพระอาจารย์จงคาปา เป็นผู้ก่อตั้งนิกายนี้

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านชม มัสยิดตงกวน เป็นมัสยิดใหญ่ 1 ใน 4 ของจีนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียง

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารเดินทางสู่ สนามบินเมืองซีหนิง

20.20 น. เหินฟ้ากลับสนามบินเมืองเฉิงตูโดยสายการบินแอร์ไชน่า ที่ยวบินที่ CA4212

22:00น. เดินทางถึงสนามบินเฉิงตู หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

นำท่านเข้าที่พักã SERENGETI HOTEL 4* หรือเที่ยบเท่า

วันที่แปด ถนนคนเดินควานจ๋าย - กรุงเทพ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ที่พัก หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดินควานจ๋าย (Kuanxiangzi Alley) ถนนโบราณที่รวบรวมทุกความเป็นเฉิงตูไว้แล้ว หลังจากนั้นก็ ค่อยๆ ถูกพัฒนามาให้เป็นชุมชนที่พักอาศัยของชาวเมือง

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร

นำท่านเดินทางสู่สนามบิน

15.55 น. เหิรฟ้าสู่กรุงเทพ โดยสายการบิน THAI AIRWAYS

เที่ยวบินที่ TG 619

18.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ......