วันแรก กรุงเทพฯ – จันทบุรี – เกาะเปริด – SKY VIEW CAFÉ – โฮมสเตย์ – กิจกรรมล่องแพเปียก ล่องเรือกระด้ง และชมฝูงเหยี่ยวแดง

06.00 จุดนัดพบ พร้อมกัน ณ ตรงข้ามไบเทคบางนา มัคคุเทศก์จะนัดหมายท่านอีกครั้ง

06.30  ออกเดินทางสู่ จังหวัดจันทบุรี (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 4 ชั่วโมง)

นำท่านออกเดินทางไปยัง เกาะเปริด ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะเปริด อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งที่แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า “บาหลีเมืองไทย” เนื่องจากติดทะเลวิวสวยไม่แพ้ที่บาหลีเลยทีเดียว

อิสระให้ท่านถ่ายรูปสุดชิค SKY VIEW CAFÉ ร้านกาแฟขนาดเล็กน่ารักที่ตั้งอยู่ตรงหน้าผาริมทะเล ท่ามกลางบรรยากาศลมทะเลเย็นสบายและแสงแดดที่อบอุ่น ซึ่งวิวจากร้านกาแฟไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็จะเห็นสีฟ้าครามของท้องทะเลไกลสุดสายตา จุดไฮไลท์พิเศษที่ไม่ควรพลาด!! “บันไดสวรรค์ที่มาพร้อมกับวิวถ่ายรูปสุดปัง” และฉากหลังสำหรับถ่ายรูปเป็นวิวท้องฟ้าแบบพาโนราม่าที่สวยงามโดยไม่มีอะไรมากั้น (ไม่รวมค่าอาหาร และเครื่องดื่มภายในร้าน) 

เที่ยง บริการอาหารเที่ยง

นำท่านกลับเข้าสู่ที่พักเพื่อเล่นกิจกรรม ล่องแพเปียกชมธรรมชาติ และชมฝูงเหยี่ยวแดง หลังจบกิจกรรมอันแสนสนุกอิสระให้ท่านไดพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือเลือกเล่นกิจกรรมจากทางรีสอรท์

หลังกิจกรรมนำท่านรับประทานอาหารเย็น เป็นอาหารบุฟเฟ่ต์เมนูซีฟู๊ด ที่เต็มไปด้วยกุ้ง ปู ปลา ที่ทางโฮมสเตย์จัดเต็มไว้อย่างสุดอลังการ ทานได้ไม่อั้น รายการอาหารอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน

เย็น บริการอาหารค่ำ ... บุฟเฟ่ต์อาหารทะเล ปู กุ้ง ปลา จัดเต็มไม่อั้น !!

ที่พัก รัตนะบุรี โฮมสเตย์ หรือเทียบเท่า

วันที่สอง โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล – ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช – ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง – วัดปากน้ำแขมหนู หรือโบสถ์สีน้ำเงิน – ลานหินสีชมพู – จุดชมวิวบ้านหัวแหลม – เจดีย์บ้านหัวแหลม – กรุงเทพฯ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล หรือโบสถ์คาทอลิกจันทบุรี ที่ได้ชื่อว่า “สวยงามที่สุดในประเทศไทย” เป็นอาสนวิหารประจำมิสซังโรมันคาทอลิกจันทบุรี ตั้งอยู่บริเวณริมคลองจันทบุรี ตรงข้ามชุมชนเก่าแก่จันทบูร มีจุดเด่นที่เด่นชัดคือยอดแหลมบนหอระฆัง 2 หลัง ภายในวิหารมีการตกแต่งเพดานเป็นท้องเรือไม้โนอาห์ ช่องบานกระจกแบบกอทิก และกระจกงานกระจกสี นอกจากนี้ภายในยังมีแม่พระที่มีความล้ำค่า ซึ่งตกแต่งด้วยพลอยกว่า 200,000 เม็ด หรือกว่า 2 หมื่นกะรัต และฐานซึ่งหล่อขึ้นด้วยเงินบริสุทธิ์ ประดับองค์ด้วยทองคำและพลอยชนิดต่างๆ อิสะรให้ท่านเก้บภาพความประทับใจ

แวะสักการะ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจันทบุรี มีรูปทรงสวยงาม และแปลกตา มีกลิ่นอายของความเป็นไทย-จีน ออกแบบโดยกรมศิลปากร โดยตัวอาคารจะออกแบบเป็นรูปหมวกทรงหกเหลี่ยม มีความสวยงาม และสง่างามเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นที่จดจำประวัติศาสตร์ของเมืองจันท์เป็นอย่างมาก ในเรื่องราวประวัติศาสตร์ในการกอบกู้เอกราชของไทยเรานั่นเอง ใครที่มาจังหวัดจันทบุรีมักจะนิยมมาสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทาง ภายในยังมี ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ออกแบบในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน สวยและงดงามเป็นอย่างมาก

เดินทางไปยัง วัดปากน้ำแขมหนู ตั้งอยู่ที่บริเวณสะพานปากน้ำแขมหนู นำท่านชมความสวยงามของ “โบสถ์สีน้ำเงิน” ที่เที่ยวยอดฮิตแห่งใหม่ของจันทบุรี หากได้มาเช็คอินรับรองไม่ตกเทรน์แน่นอน นอกจากได้ภาพสวยๆ แล้วก็ยังได้บุญอีกด้วย ซึ่งการรีโนเวทครั้งนี้เนื่องมาจากพระอุโบสถหลังเก่าเริ่มชำรุดทรุดโทรมมากขึ้น เพราะวัดอยู่ติดกับทะเลทำให้โครงสร้างผุกร่อนลุกลามไปจนถึงหลังคาจึงได้มีการรื้อโบสถ์หลังเก่า และก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้น พร้อมทั้งหาวิธีที่ป้องกันไม่ให้โบสถ์หลังใหม่เกิดความชำรุดเสื่อมโทรมเร็ว 

จึงทำให้เกิดแนวคิดในการใช้เซรามิกมาเคลือบชั้นปูนของพระอุโบสถเพื่อป้องกันน้ำเค็ม และใช้ลวดลายสีน้ำเงินตัดกับสีขาว ตามแบบสีของเครื่องลายครามในสมัยโบราณที่นิยมใช้เพียง 2 สีนี้เท่านั้น ส่วนภายในพระอุโบสถมีความสวยสดงดงามไม่แพ้เซรามิกสีน้ำเงินนอกโบสถ์ โดยด้านในเฉพาะประตูโบสถ์ไม้ทั้ง 4 บาน มีการแกะสลักภาพนูนต่ำเกี่ยวกับพุทธประวัติสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลงสีสดโดดเด่นเก็บทุกรายละเอียด ด้านนอกบานประตูและหน้าต่าง อิสระให้ท่านเก็บภาพบรรยากาศ และความงดงามของพระอุโบสถเซรามิกสีน้ำเงินตามอัธยาศัย

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน

จากนั้นนำท่านเดินไปยังจุดถ่ายภาพเช็คอินแห่งใหม่ ลานหินสีชมพู โพสท่าเจิดจ้าท้าแดด ณ โขดหินริมทะเลที่มีสีแดงอมชมพูสดใส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกึ่งผจญภัยภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ คุ้งกระเบน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ลักษณะเป็นลานหินสีชมพูอมน้ำตาลแดง สวยงามแปลกตาที่แทรกตัวอยู่ริมชายหาดยาวไปจนสุดลานหินสีชมพูที่เป็นจุดชมวิวสำคัญ สามารถมองเห็นเกาะที่อยู่รอบๆ ได้อย่างสวยงาม มีระยะทางรวมราว 1 กิโลเมตร เป็นเส้นทางวงกลมที่จะเลือกเดินเลียบชายหาดเพื่อไปชมลานหินสีชมพูก่อน หรือจะเดินขึ้นเขาเข้าป่าเพื่อไปชมจุดชมวิวด้านบนเขาก่อนจะลงมาสู่ลานหินสีชมพูก็ได้

จากนั้นนำท่านเดินรับลมทะเลเย็นๆ กลางสะพานไม้ ณ จุดชมวิวบ้านหัวแหลม ที่ทอดยาวยื่นออกไปกลางทะเล ความโดดเด่นของจุดชมวิวบ้านหัวแหลม นักท่องเที่ยวจะได้เดินทอดน่องชมวิวสวย ๆ บนสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวท่ามกลางน้ำทะเล ระยะทางประมาณ 50 เมตร เป็นสะพานที่สร้างขึ้นจากพลังแห่งศรัทธาของชาวบ้าน เป็นทางเดินเพื่อสักการะ "เจดีย์บ้านหัวแหลม" (สะพานไม้จะยาวไม่ถึงเจดีย์ สามารถเดินไปได้แค่ช่วงเวลาน้ำลดเท่านั้น) ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200 ปี สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวประมง ด้วยการทำประมงในสมัยก่อนเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตราย และเพื่อให้การออกเรือแต่ละครั้งปลอดภัย ซึ่งสร้างเจดีย์นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจนั่นเอง

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 4 ชั่วโมง)

20.00  เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ (เป็นเวลาโดยประมาณ)