เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์สเปน

 รหัส : A00960
เดินทางโดย : EK-เอมิเรตส์แอร์ไลน์
โรงแรม :  |  จำนวนวัน : 8 วัน 5 คืน
สเปน-โปรตุเกส
คอร์โดบ้าร์ – มัสยิดเมสกิต้า – มหาวิหารแห่งเซวีญ่า ลิสบอน – เคป เดอรอก้า – บาดาจอซ – แมดดริด มหาวิหารเมืองโทเลโด้ ... เมืองประวัติศาสตร์ – พระราชวังหลวง *** ชิมอาหารพื้นเมือง...ข้าวผัดสเปน + ชมระบำฟลามิงโก้ ***
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

วันแรกของการเดินทาง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  – มาดริด  (สเปน)

22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้นที่ 4  ผู้โดยสารขาออ สายการบินเอมิเรตส์  (EK)  เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ

วันที่สองของการเดินทาง  มาดริด – คอร์โดบ้าร์

01.05 น. ออกเดินทางสู่ กรุงมาดริด  ประเทศสเปน  โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่  EK385/EK141

  • เปลี่ยนเครื่องที่ดูไบเวลา

12.40 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง กรุงมาดริด  เมืองหลวงของประเทศสเปน มหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาไว้ที่นี่ และประกาศให้แมดดริดขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่ของพระองค์ และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และสูงสุดแห่งหนึ่งในยุโรป

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์โดบ้าร์ เมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรปในศตวรรษที่ 10 มีการสร้างมหาวิทยาลัย เน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรมและวิทยาศาสตร์ ปรัชญาและการแพทย์ เลาะเลียบผ่านผ่านเขตกำแพงเมืองเก่าที่ด้านหลังเป็นชุมชนชาวยิว ปราสาท อัลคาซาร์และสะพานแบบโรมัน ทอดตัวข้ามแม่น้ำกวาดัลกีบีร์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  ณ  ภัตตาคาร

ที่พัก    AYRE CORDOBA หรือเทียบเท่า

วันที่สามของการเดินทาง คอร์โดบ้าร์ – เซวีญ่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ  ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้น นำท่านชมภายนอกสุเหร่าเมซกีต้า สุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ของบรรดากาหลิบแห่งอูมัยยาด หากจะเปรียบเทียบความใหญ่โต คงจะไม่สร้างความประหลาดใจ แต่ ณ ที่แห่งนี้คือบทสรุปของการปลูกฝังคริสต์ศาสนา ลงบนอาณาเขตอันยิ่งใหญ่ของมุสลิมเดิม

ซึ่งท่านจะได้เห็นศิลปะการสร้างโบสถ์ของชาวคริสต์อันยิ่งใหญ่ และศิลปะหลายแบบถูกบรรจงเติมแต่งให้สมบูรณ์ จึงเป็นสถาปัตยกรรมที่เปรียบเป็นความหฤหรรษ์อย่างลึกซึ้งแห่งงานศิลปะ และความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา แต่ในขณะเดียวกันศิลปะแบบมุสลิมซึ่งก็คือมีห์รับซึ่งถือเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมชิ้นเอกบนกระเบื้องเซรามิคของศิลปินชาวมัวร์แท้ ๆ ได้รับการอนุรักษ์เก็บรักษาให้ทรงคุณค่าความงามจนแทบจะหาชมไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซวีญ่า เมืองศูนย์กลางทางการเงิน วัฒนธรรม และศิลปะของภาคใต้ของสเปน และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองอันดาลูเซียอีกด้วย เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของสเปน และเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปเมื่อปี ค.ศ. 1992 รวมทั้งเป็นเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซียด้วยซึ่งทั้งมวลนี้ล้วนทำให้เซวีญ่าเป็นเมืองมีเสน่ห์ที่สุดในสามเมืองใหญ่ตอนใต้เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเป็นเมืองอกแตกที่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำGUADALQUIVIR มีท่าเรือที่มีความยาว 113 กม. จากส่วนของทะเลเข้ามา

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน  ณ  ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านชมภายนอกมหาวิหารแห่งเมืองเซวีญ่า ที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของสเปน เป็น  มหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ถัดจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม และมหาวิหารเซนต์ปอล แห่งกรุงลอนดอน มหาวิหารแห่งนี้ เป็นอาคารสถาปัตยกรรม ที่สร้างด้วยศิลปะสไตล์โกธิค ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1402-1506 ว่ากันว่าเป็นจุดประสงค์ ของคณะบาทหลวงในปี 1401 ที่จะสร้างโบสถ์ให้ดี อย่างไม่มีใครเทียบเทียมได้ ภายในวิหาร มีสมบัติที่ประเมินค่ามิได้หลายอย่าง

นำท่านชม หอคอยกิรัลดา ซึ่งเป็นตึกทรงผอมรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง 93 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซวีญ่า

นำท่าน ชมพลาซ่าเอสปัญญ่า แห่งเซวีญ่าที่สวยงามยิ่งใหญ่อลังการด้วยตึกรูปโค้ง ครึ่งวงกลม ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เคยใช้เป็นสถานที่จัดงาน เอ็กซ์โปปี 1929 ของกลุ่มประเทศที่พูดภาษาสเปน และผ่านชมหอคอยทองคำ TORREDEL ORO (GOLDEN TOWER) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี

20.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง พร้อมชมระบำฟลามิงโก้อันลือชื่อ ด้วยจังหวะกระทืบเท้ามัน ๆ ในสไตล์ของสเปน ศิลปะที่มีรูปแบบซับซ้อนทั้งเพลงดนตรี และการเต้นรำซึ่งเป็นศิลปะประจำชาติและสร้างชื่อของชาวสเปน

ที่พัก VERTICE  หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ของการเดินทาง  เซวีญ่า – ลิสบอน (โปรตุเกส)

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ  ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงลิสบอน เมืองหลวงเก่าแก่มีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี ของประเทศโปรตุเกส เมืองที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้บนคาบสมุทรไอบีเรีย มีแม่น้ำเตโย (TEJO) ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองลิสบอน เป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ไพศาลราวกับทะเล 

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน  ณ  ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านชม กรุงลิสบอน นครเก่าแก่นครหนึ่งในทวีปยุโรป ทั้งยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญ และเป็นศูนย์กลาง ทางการเมือง การค้า อุตสาหกรรม พร้อมทั้งยังเป็นอุทยาน  นครที่เขียวชอุ่มร่มรื่น ชมทัศนียภาพของแม่น้ำเตโย (TEJO) ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองลิสบอน เป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ไพศาลราวกับทะเล และยิ่งกว่านั้นโปรตุเกสถูกโอบล้อมด้วยชายหาดยาวกว่า 170 กม. ของผืนมหาสมุทรแอตแลนติก ชมบริเวณเมืองเก่าลิสบอน “โอลด์ซิตี้” และจัตุรัสการค้า สร้างขึ้นในสมัยมาร์ควิส เดอ ปอมแปล  เป็นนายกรัฐมนตรี

จากนั้นนำท่านชมสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในยุโรป ซึ่งสะพานนี้มีชื่อว่า PONTE 25 APRIL  (ซึ่งเมื่อวันที่ 25 APRIL ปี 1974 ได้เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย)

จากนั้น นำท่านชม หอคอยบีเล็ม (BELEM TOWER) โบราณสถานที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมเก่า สมัยที่นครลิสบอนอยู่ภายใต้การยึดครองของชนชาติมัวร์ เดิมสร้างไว้กลางน้ำ เพื่อใช้เป็นป้อมปราการและประภาคาร รวมทั้งเป็นคุกอีกด้วย อดีตเคยเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของวาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง

จากนั้นนำท่านผ่านชมวิหารเจโรนิโมส วิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 16 โดยกษัตริย์ แมนนูเอลที่ 1 องค์สำคัญที่สุดที่สร้างชื่อเสียงให้โปรตุเกส ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จจากการส่งนักเดินเรือล่องมหาสมุทร เพื่อค้นพบแผ่นดินใหม่ในโลก และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

โดยเฉพาะเป็นที่ฝังศพของวาสโกดากามา (VASCO DA GAMA) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่วาสโกดากามา นักเดินเรือชื่อดัง ที่ได้เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่า มานูเอลไลน์ (MANUELINE) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกว่าเป็นมรดกโลก วิหารแห่งนี้มีความสวยงามด้วยศิลปะ แบบโกธิค ซึ่งจะมีความแปลกกว่าที่อื่น คือ มีความผสมผสานแบบมานูเอลรึซึม

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก TRYP ORIENTE หรือเทียบเท่า

วันที่ห้าของการเดินทาง ลิสบอน – เคปเดอรอก้า – บาดาจอซ  (สเปน)

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ  ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางเลาะเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ผ่านเมืองเล็ก ๆ น่ารักแถบชานเมืองลิสบอน เพื่อเดินทางสู่ เค้ป เดอรอก้า ซึ่งเป็น จุดตะวันตกสุดของทวีปยุโรป เป็นที่ที่ มีแผ่นดินเป็นที่สุดท้าย  ก่อนเป็นมหาสมุทรแอตแลนติค

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน  ณ  ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่  เมืองบาดาจอซ  เมืองชายแดนทางตะวันตกของสเปน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก CENTER หรือเทียบเท่า

วันที่หกของการเดินทาง บาดาจอซ – โทเลโด้ – มาดริด

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโทเลโด้ เมืองประวัติศาสตร์ ซึ่งมีความหมายว่า ”เมืองป้อมน้อย” ในอดีตเป็นเมืองหลวงเก่าของสเปน และเคยถูกชาวโรมันเข้ายึดครองเมืองเมื่อ 2,200 ปีมาแล้ว ปัจจุบันอารยธรรมของชนต่างชาติครั้งก่อน ยังคงฝังแน่นคละกันอยู่ในชีวิต ประจำวันของชาวเมือง

ลักษณะผังเมืองโทเลโด้ เป็นเอกลักษณ์ที่น่าชื่นชมที่สุดของการจัดสร้างเมืองโบราณอันสมบูรณ์แบบ ตัวเมืองรายล้อมด้วยเนินเขามากมาย ประดุจ กำแพงธรรมชาติด้วยหุบผา 3 แห่งโดยมีแม่น้ำทาโคเป็นเส้นทางคมนาคม นอกจากนี้  เมืองโทเลโด้เป็นใจกลางของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ปัจจุบันได้รับรองจากยูเนสโกประกาศให้เมืองโทเลโด้เป็นเมืองมรดกโลก

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคาร  (***  ชิมข้าวผัดสเปน  ***)

บ่าย นำท่านชมเมืองโทเลโด้ ซึ่งเป็นนครที่คงความงดงามและความเป็นมาในฐานะเมืองเก่าอันเปรียบเป็นอนุสรณ์แห่ง ประวัติศาสตร์นั้นยังคงได้รับการยอมรับและบันทึกเอาไว้โดยองค์การสหประชาชาติว่าเป็น เมืองมรดกโลก

จากนั้น นำท่านชมภายนอกมหาวิหารแห่งโทเลโด้ มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในสเปน เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1227 อันเป็นสมัยที่ศิลปะแบบโกธิค กำลังแพร่หลายอยู่ในยุโรป และเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ. 1493 ถือเป็นมหาวิหารสไตส์โกธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง

และเป็นศูนย์กลางแห่งศาสนาคริสต์ในประเทศสเปนอีกด้วย นำท่านเดินลัดเลาะตามตึกรามบ้านช่องเก่าแก่สมัยโรมัน ท่านจะประทับใจกับความงดงามและความเก่าแก่ของโทเลโด้ ซึ่งเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ทั้งเมือง นำชมโรงงานผลิตเครื่องถมของสเปนดามาสกิโน่ ที่สวยงามด้วยการนำทองและเงินมาตีเป็นเส้น และตอกลงบนโลหะสีดำ  เป็นงานฝีมือที่มีชื่อเสียงของโทเลโด้มาช้านาน

จากนั้นเดินทางกลับสู่ กรุงมาดริด

นำท่านชมย่านเมืองเก่า พลาซ่าร์ มายอร์ (PLAZA MAYOR) เป็นจัตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองเก่าอดีตใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่ประกอบพิธีราชาภิเษก และงานฉลองพิธีสำคัญ ๆ เป็นที่ประลองฝีมือของบรรดาอัศวิน และเคยเป็นแหล่งสู้รบอย่างดุเดือด ระหว่างทหารของนโปเลียนกับชาวสเปน ปัจจุบันยังคงมีบรรยากาศ และความงามสมัยศตวรรษที่ 17

จากนั้นนำท่านสู่จุดศูนย์กลางของเมือง คือ ปัวร์ต้า เดล โซล หรือจุดกึ่งกลางเมืองกิโลเมตรที่ศูนย์ หรือประตูพระอาทิตย์ซึ่งเชื่อกันว่า หากตั้งจิตอธิษฐานในระหว่างที่เหยียบบนจุดกลางเมืองนี้ จะสมปราถนาในสิ่งที่หวังไว้ทุกอย่าง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก CONFORTEL ALCALA NORTE หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ดของการเดินทาง มาดริด – ช้อปปิ้ง OUTLET - กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ  ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านผ่านชมน้ำพุที่จัตุรัสซีเบเลส ชมรูปแกะสลักหินอ่อนเทพธิดาซีเบเลส นั่งบนรถ  ซึ่งเทียมด้วยสิงห์โต 2 ตัว ซึ่งแกะสลักด้วยหินอ่อนเช่นกัน จากนั้น นำท่านชมสัญลักษณ์ที่สำคัญของกรุงแมดริด คือ รูปปั้น ดอน กิโฆเต วีรบุรุษนักฝันผู้ยิ่งใหญ่ ผู้จุดประกายไฟแห่งความหวังใหม่ ในชีวิตที่ดีกว่า ให้แก่มวลมนุษยชาติภายใต้ข้อกล่าวหาว่า เป็นนักอุดมคติลม ๆ แล้ง ๆ จากวรรณกรรมสเปนชื่อดัง  “Don Quixote   de la Moncha”

นำท่านชมภายนอกของ พระราชวังหลวง (PALACIO REAL) ตั้งอยู่บนเนินเขาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส ที่มีความงดงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นในทวีปยุโรป เนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของพระราชวังแวร์ซายส์ และความสวยงามของพระราชวังลูฟว์ในฝรั่งเศส

พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลัง  ในปี ค.ศ. 1738 ในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน

ชมความยิ่งใหญ่ภายในวังซึ่งประกอบด้วยห้องต่าง ๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ด้วยภาพเขียนสีบนเพดาน โคมไฟแก้วเจียรไน เสาหินอ่อน และประดับประดาทั่ววังด้วยงานศิลปะมากมาย ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญ ที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ

แล้วชมอุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดปี….อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆที่ LA ROCA VILLAGE OUTLET…ได้เวลานำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน

21.4 0 น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK144 / EK372

  • เปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ

วันที่แปดของการเดินทาง ประเทศไทย

18.40 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

เดินทางโดย Emirates Airlines (EK)
หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP