|
|
![]() ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์รหัส : A05332
เดินทางโดย : WY-โอมานแอร์
โรงแรม :
![]()
บินเข้ามิลาน - บินออกซูริค เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ กับ เส้นทางสุดคลาสสิค ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
คลิกดูโปรแกรมฉบับเต็ม (PDF)
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง Download PDF
คลาสสิค สวิตเซอร์แลนด์ 9 วัน 7 คืน เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ กับ เส้นทางสุดคลาสสิค ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี *** บินเข้ามิลาน - บินออกซูริค โดยสายการบิน โอมาน แอร์*** ตุลาคม - ธันวาคม 2566 เริ่มต้น 139,900 บาท (ไม่รวมค่าวีซ่าเชงเก้น แต่รวมทิปแล้ว) มิลาน – ช้อปปิ้งฟ๊อกซ์ทาวน์ เอาท์เลต – โคโม – เซอร์แมท – ขึ้นเขาแมทเทอร์ฮอร์น นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอกซ์เพรส – อันเดอร์มัท – ลูเซิร์น – อินเตอร์ลาเก้น – ขึ้นเขาจุงเฟรา– มองเทรอซ์ โลซานน์ – เจนีวา – เบิร์น – ซูริค เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ กับ เส้นทางสุดคลาสสิค ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี วันแรก กรุงเทพมหานคร - มิลาน 06.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินโอมาน แอร์ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ 09.10 น. ออกเดินทางสู่กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน โดยเที่ยวบิน WY818 (ใช้เวลาบินประมาณ 5.55 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน 12.00 น. เดินทางถึงกรุงมัสกัต แวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน WY143 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินตามอัธยาศัย 14.45 น. ออกเดินทางจากสนามบินมัสกัต (MCT) สู่สนามบินมิลาโนมัลเปนซา (MXP) บริการอาหารกลางวันบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 7ชม.) 19.45 น. เดินทางถึงสนามบินมิลาโนมัลเปนซา กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Novotel Milano Malpensa **** หรือเทียบเท่า วันที่สอง มิลาน – ช้อปปิ้งฟอกซ์ ทาวน์ เอาท์เลต – โคโม เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านถ่ายรูปมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่าดูโอโม่ (Duomo) เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอับดับสอง รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในกรุงวาติกัน (เป็นมหาวิหารแบบโกธิคและใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรป) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1813 ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า "มหาวิหารเม่น" มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า ด้านหน้าของมหาวิหารเป็นลานกว้าง เรียกว่า เปียซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza Del Duomo) เป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย ด้านข้างของจตุรัสหน้าดูโอโม่ทางทิศเหนือ จะเห็นทางเข้า กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล ศูนย์กลางการค้าที่หรูหราอลังการแห่งเมืองมิลาน อิสระให้ท่านถ่ายรูปและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมซึ่งมีจำหน่ายมากมายในบริเวณ กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ฟอกซ์ทาวน์ เอาท์เลต (ระยะทาง 59 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ตั้งอยู่ใกล้เมืองลูกาโน เป็นช้อปปิ้งเอาท์เลตที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลายเมืองและจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่างๆทั้ง Gucci, Prada, Versace, Valentino, Bally, Dolce & Gabbana, Missoni, Diesel, Esprit, Adidas, Nike etc. โดยสินค้าแฟชั่นจะลดราคาตั้งแต่ 30 - 70% อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโม (Como) (ระยะทาง 16 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) เมืองซึ่งได้ชื่อว่ามีทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของอิตาลี ทะเลสาบโคโมล้อมรอบด้วยภูเขาสูงที่ยังมีป่าไม้เขียวชะอุ่ม หลายจุดบนชายฝั่งเป็นช่องเขาแคบและหน้าผาที่สวยงาม ทางเหนือของทะเลสาบคือเทือกเขาแอลป์ยาวเหยียดสุดสายตาเป็นกำแพงธรรมชาติที่สร้างฉากหลังอันงดงามอลังการให้กับดินแดนบริเวณนี้ ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Como Hotel **** หรือเทียบเท่า วันที่สาม เซอร์แมท – เคเบิ้ลสู่ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ระหว่างทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกโอบล้อมอยู่ในอ้อมกอดของหุบเขาและสายน้ำสีฟ้าครามสดใสของทะเลสาบ หรือจะเป็นทัศนียภาพของภูเขาที่พาดผ่านกลางเทือกเขาแอลป์ ยอดเขาความสูงกว่า 3,000 เมตร ที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและเก็บภาพธรรมชาติอันสวยงามและขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านเที่ยวชมความงามของเมืองเซอร์แมทเมืองที่ปราศจากรถยนต์และไร้มลพิษอีกแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บ่าย นำท่าน นั่งกระเช้าสู่แมทเทอร์ฮอร์นกลาเซียร์พาราไดซ์ (Matterhorn Glacier Paradise) เพื่อชมภูเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่มีชื่อเสียงในเทือกเขาแอลป์ (Alps) ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ภูเขาที่สูงกว่า 4,478 เมตร รูปทรงพีระมิดตั้งอยู่บนพื้นที่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงามไม่เว้นแต่ละวัน “ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น” นี้มีความสวยงาม มีเสน่ห์ เป็นเครื่องหมาย ช็อคโกแลต Toblerone และยอดเขานี้ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์บางเรื่อง เช่น Climbing the Matterhorn, Third Man on the Mountain และภาพยนตร์จำลองเที่ยวบินของ บริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ ที่ชื่อว่า Soarin’ Around the World ยังนำไปเป็นแบบเครื่องเล่นบิ๊กธันเดอร์ Big Thunder ในสวนสนุกดีสนีย์แลนด์อีกด้วย ท่านสามารถชมวิวสวยของภูเขาที่มีรูปทรงงดงามที่สุดในสวิสด้วยความสูงของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่มีความสูงกว่า 4,478 เมตร จึงสามารถมองเห็นยอดเขาสูงยอดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้ชัดเจน อิสระให้ท่านเดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นได้เวลานำท่านนั่งกระเช้าเดินทางกลับสู่ เมืองเซอร์แมท (การให้บริการของกระเช้า ขึ้นกับสภาวะอากาศ ณ วันนั้นๆ ขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการหากสภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวย) ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองทาซ (Tasche) โดยรถไฟใช้เวลาประมาณ 12 นาที ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Badehotel Salina Maris / Modern Tasche Hotel **** หรือเทียบเท่า วันที่สี่ นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส – อันเดอร์มัท – ลูเซิร์น เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านสัมผัสบรรยากาศ นั่งไฟสายโรแมนติกสายกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) รถไฟที่ได้ชื่อว่าวิ่งช้าที่สุดในโลก และเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้สัมผัส ตลอดการนั่งรถไฟกว่า 3 ชั่วโมงจาก เมืองเซอร์แมท (Zermatt) สู่เมืองอันเดอร์มัท (หมู่บ้านในรัฐอูรี สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่เรียกว่าอัวร์เซอเริน อันเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำร็อยส์ อันเดอร์มัทถือเป็นหมู่บ้านที่เป็นจุดบรรจบกันของช่องเขาที่สำคัญสามช่องเขา ได้แก่ ช่องเขาโอเบอร์อัลพ์ทางทิศตะวันออก, ช่องเขาก็อทฮาร์ททางทิศใต้ และช่องเขาฟัวร์คาทางทิศตะวันออก เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่อากาศดีอีกแห่งและมีทัศนียภาพที่สวยงาม กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม นำท่านเดินเล่นและถ่ายรูปกับสะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปีเป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านชมรูป แกะสลักสิงโตร้องไห้ หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสะพานไม้มากนัก อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Astoria Hotel **** หรือเทียบเท่า วันที่ห้า ลูเซิร์น – อินเตอร์ลาเคน – ขึ้นเขาจุงเฟรา (มรดกโลก) เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาล (Grindelwald) อันได้ชื่อว่าเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ใน หุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามและโรแมนติกที่สุด นำท่านสู่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อขึ้นรถไฟสายจุงเฟราบาห์เนนสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของสวิส ระหว่างทางก่อนถึงจุงเฟรานั้น ท่านสามารถพบเห็นบ้านสไตล์สวิสน่ารักๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีทั้งบ้านสีน้ำตาลเข้มตัดกับหน้าต่างสีแดงสด, สีครีมอ่อนตัดกับประตูหน้าต่างสีเขียวสด สวยงามแปลกตาและมีเสน่ห์ วิวธรรมชาติที่สลับกันระหว่างสีเขียวของภูเขา ทุ่งหญ้า กับพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ระหว่างการเดินทางรถไฟจะจอดให้ท่านได้ชมความงดงามของเทือกเขาแอลป์ จนถึงยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งมีความสูงถึง 13,642 ฟุต เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป (Top of Europe) นำท่านชม กลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร นำท่านชมถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 กม. และหนา 700 เมตร กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขาจุงเฟรา บ่าย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางจากจุงเฟราสู่ เมืองเวนเก้น และเมืองเลาเท่นบรุนเน่น โดยรถไฟอีกด้านหนึ่งของยอดเขา (แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไชเด็ด จุดเปลี่ยนรถไฟ ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาเมื่อปี 2440) นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) หรือ เมืองระหว่างทะเลสาบ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมลิ้มลองเมนูฟองดูอันเลื่องชื่อ นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Du Nord Interlaken / The Hey Hotel Interlaken **** หรือเทียบเท่า วันที่หก มองเทรอ – ปราสาทชิลยอง – เวเวย์ – โลซานน์ – เจนีวา เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอ (Montreux) (ระยะทาง 139 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม.) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือนริมทะเลสาบ นำท่านแวะถ่ายรูปกับปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ซาวอย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) เมืองเล็กๆระหว่างทางสู่เมืองโลซานน์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับรูปปั้นชาร์ลี แชปลิน (Chaplin Statue) ผู้เป็นศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตได้เคยใช้บั้นปลายชีวิตที่เมืองนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) นำท่านชมเมืองโลซานน์ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านผ่านชมอพาทเม้นท์หมายเลข 16 (Apartment no.16 ) บนถนนทิซโซ (Avenue Auguste Tissot) ซึ่งในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และบุตรธิดาที่สามพระองค์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระยะเวลาสองปี ระหว่างปี พ.ศ. 2476-2478 นำท่านเดินชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์เมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ (Le PavillonThailandais) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเดอนองตูเขตเมืองโลซานน์ จัดสร้างโดยรัฐบาลไทย สร้างขึ้นจากไม้สัก และมียอดศาลาสูง 9 เมตร เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงครองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์รอบ 75 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จไปประกอบพิธีเปิดศาลาและส่งมอบอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2552 ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เจนีวา (Geneva) (ระยะทาง 68 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวาไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรน (Rhone river) โดยทะเลสาบเจนีวานั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี สำหรับ กรุงเจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร นำท่านชมน้ำพุเจดโด กลางทะเลสาบเลคเลมังค์ น้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าสูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเจนีวา โดยสามารถมองเห็นได้จากทุกจุดในเมือง น้ำพุเจดโดเป็นน้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา" โดยน้ำพุสามารถพุ่งได้สูงสุดประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) น้ำพุถูกติดตั้งในปี 1886 นำท่านถ่ายรูปกับนาฬิกาดอกไม้ที่สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Geneva Hotel **** หรือเทียบเท่า วันที่เจ็ด เจนีวา – เนอชาแตล – เบิร์น เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองเนอชาแตล (Neuchatel) เมืองแห่งปราสาทของสวิส ตั้งอยู่บนชายฝั่งของทะเลสาบเนอชาแตล (Lake Neuchatel) ทะเลสาบที่มีชื่อเดียวกันกับเมืองและรัฐ นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทเนอชาแตล (Chateau de Neuchatel) ปราสาทเก่าแก่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง โดยปราสาทตั้งอยู่บนยอดเนินเขาเล็กๆใจกลางเมืองเก่า จากนั้นนำถ่ายรูปกับโบสถ์คอลเลกีอาเลอ (Collegiale de Neuchatel) โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและอยู่ติดกันกับปราสาทเนอชาแตล ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 ในสไตล์ Roman rhenan โดยมีหลังคาเป็นแบบโกธิก ภายในได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และมีการบูรณะมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆของเมืองอีกแห่ง ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเบิร์น กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บ่าย นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Berne) (ระยะทาง 53 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นำท่านชมกรุงเบิร์นซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191 - 1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน และดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมเป็นหอนาฬิกาพร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Holiday Inn Westside Hotel **** หรือเทียบเท่า วันที่แปด เบิร์น – ซุก – น้ำตกไรน์ – ซูริค เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆริมทะเลสาบที่มีประวัติยาวนานและสวยงามอีกแห่งของสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าซุก (Old town) ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนโบราณได้เป็นอย่างดี นำท่านแวะถ่ายรูปกับหอนาฬิกาดาราศาสตร์ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 อิสระให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศเมืองเก่าได้แบบเต็มอิ่ม สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองซูริค นำท่านถ่ายรูปกับ Munsterbrucke ซึ่งเป็นสะพานข้ามถนนและทางเดินทางในเมืองเก่า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำลิมมัต และเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์ Crash Landing on You นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีวิหาร Fraumunster and Gross Munster อีกด้วย จากนั้นนำท่านสู่ Linderhof Strasse ซึ่งเป็น ฉากเปิดเรื่อง และเป็นจุดชมวิวเมืองซูริคอันเลื่องชื่อ พร้อมกับวิวแม่น้ำลิมมัต อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ นำท่านเดินทางสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) เมืองซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เมืองที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมเรอเนซองซ์ และอาคารสไตล์คลาสสิก นำท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของน้ำตกไรน์ น้ำตกที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา อิสระให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณและเก็บภาพความงามตามอัธยาศัย 17.00 น. นำท่านสู่สนามบิน เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund 21.35 น. ออกเดินทางจากสนามบิน ซูริค (ZRH) สู่สนามบินมัสกัต โดยเที่ยวบิน WY154 (ใช้เวลาบิน ประมาณ 6.30 ชม.) สายการบินมีบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน วันที่เก้า กรุงเทพมหานคร 07.05 น. เดินทางถึงสนามบินมัสกัต และเปลี่ยนเที่ยวบิน 08.50 น. ออกเดินทางจากสนามบินมัสกัต สู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบิน WY815 (ใช้เวลาบินประมาณ 6.10 ช.ม.) 18.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ กับ เส้นทางสุดคลาสสิค ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ราคาทัวร์ 139,900 บาท : 11 – 19 ต.ค. 66 / 13 – 21 ต.ค. 66/ 20 – 28 ต.ค. 66 / 1-9 ธ.ค. 66
**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 17/7/2023) ** ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
โปรแกรมท่องเที่ยว (ตามที่ระบุไว้ในรายการ) อัตรานี้รวมถึง
ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 80 ปี) ประกันครอบคลุมการติดเชื้อ Covid 19
อัตรานี้ไม่รวมถึง
การชำระเงิน งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง กรณียกเลิก
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม*** *ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม หมายเหตุ :
ตั๋วเครื่องบิน
โรงแรมและห้อง
(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
(ใช้เวลาในการขอวีซ่าประมาณ 5-7 วันทำการ) สถานทูตไม่อนุญาตให้ดึงเล่มพาสปอร์ต หากได้ยื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าท่านรู้ว่าต้องใช้เล่มกรุณาแจ้งบริษัททัวร์ฯ เพื่อขอยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และให้แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทางมาด้วย (การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานทูตและประเทศ)
Bank Statement บัญชีย้อนหลัง 3 เดือนเท่านั้น นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน ให้ธนาคารประทับตรารับรองสำเนาทุกหน้า บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้
หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) - สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน (สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา) |
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด |
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี
@etravelway
รับโปรโมชั่นดีดี
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
@etravelway.fire
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
fb.me/etravelway
สอบถามทาง Facebook