ยุโรปตะวันออก เยอรมนี - ออสเตรีย - สโลวัค - ฮังการี 8 วัน 5 คืน

โดยสายการบินเอมิเรตส์ (EK)

เข้ามิวนิก-ออกบูดาเปสต์ / พักระดับ 4 ดาว

เส้นทางการบิน เวลาออกเดินทาง-เวลาถึงปลายทาง เที่ยวบิน ระยะเวลาในการ

เดินทาง โดยประมาณ

สุวรรณภูมิ BKK-ดูไบ DXB 02.50-06.00+1 EK377 6ชั่วโมง

ดูไบ DXB –มิวนิค MUC 08.50-13.15 EK049 7ชั่วโมง

บูดาเปสต์ BUD-ดูไบ DXB 16.00-23.20 EK112 7ชั่วโมง

ดูไบ DXB - สุวรรณภูมิ BKK 03.45-13.25 EK376 6ชั่วโมง

รายละเอียดโปรแกรมการเดินทาง

23.30 น.คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตต์ EMIRATE AIRLINE (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทฯ คอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง

02.50 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK377

(บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)

06.00 น.เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบินประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที

(เวลาท้องถิ่นที่ดูไบช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง)

08.50 น. ออกเดินทางสู่ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยเที่ยวบินที่ EK049

(บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)

13.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิค ประเทศเยอรมัน (เวลาท้องถิ่นของยุโรปช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม. ในฤดูร้อน และ 6 ชม. ในฤดูหนาว)หลังนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ สนามฟุตบอลอัลลิอันซ์อาเรนา ALLIANZ ARENA ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลของสโมสรบาเยิร์นมิวนิค สโมสรชั้นนำของลีกบุนเดสลีก้าเยอรมัน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลที่สวยงามที่สุดในโลก ให้ท่านเก็บภาพความสวยงามภายนอกสนามฟุตบอลแห่งนี้

จากนั้นเดินทางสู่ เขตเมืองเก่าของมิวนิค ชมอาคารบ้านเรือนที่เก่าแก่สวยงามจากยุคสมัยอันรุ่งเรืองของราชวงศ์ WITTELSBACH จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (MARIENPLATZ) ซึ่งถือเป็นหัวใจของเขตเมืองเก่า และเป็นที่ๆดีที่สุดสำหรับการเริ่มชมเมือง ในยุคกลางที่นี่เคยเป็นตลาดแต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งมีสิ่งที่น่าชมมากมาย อาทิ MARIENSAULE รูปปั้นพระแม่มารีทองคำ ศาลาว่าการเมืองใหม่ (NEUSE RATHAUS) ที่มีจุดเด่นอยู่ที่หอนาฬิกาที่เรียกว่า GLOCKENSPIEL มีระฆังและตุ๊กตาซึ่งจะออกมาเต้นระบำ ให้ชมกันในเวลา 11 โมงเช้าในหน้าหนาว และเพิ่มรอบ 5 โมงเย็นอีกหนึ่งรอบในหน้าร้อน นอกจากนั้นยังมี โบสถ์แม่พระที่งดงาม (FRAUENKLRCHE) ที่มีโดมเป็นรูปทรงหัวหอมคู่เป็นสัญลักษณ์ อิสระให้ท่านชอปปิ้งบริเวณรอบๆ จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ ซึ่งมีมีร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังตั้งเรียงรายอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารต่างๆมากมาย ที่รอให้ท่านได้นั่งทานอาหาร หรือจิบเบียร์ชมบรรยากาศอันสวยงามของจัตุรัสแห่งนี้อีกด้วย

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำณ ภัตตาคาร (มื้อ1)

ãนำท่านเข้าสู่ที่พัก NH MUNICH MESSE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว เยอรมัน

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ2)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอททัล (ETTAL) (ระยะทาง 86 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที) นำท่านเข้าชม สำนักสงฆ์แห่งเมืองเอททัล (KLOSTER ETTAL) เป็นวัดเบนเนดิคตินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในบริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ หนึ่งในไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมเมื่อมีโอกาสมาเยือนดินแดนในแถบบาวาเรีย และยังเป็น 1 ในโลเคชั่นถ่ายทำละครเรื่อง ลิขิตรัก ที่นำแสดงโดย ณเดช คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา ในฉากของวังเจ้าหญิงอลิซ แห่งรัฐฮรีซอสอีกด้วย

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (FUSSEN) (ระยะทาง 50 กม. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) เมืองปลายทางสุดท้ายของถนนสายโรแมนติค ตั้งอยู่ที่แคว้นบาวาเรียทางตอนใต้ของเยอรมันติดกับชายแดนออสเตรีย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเยอรมนีที่ได้รับฉายาว่า VILLAGE OF THE KING’S CASTLES เพราะเป็นที่ตั้งของปราสาทนอยชวานสไตน์ (NEUSCHWANSTEIN) และโฮเฮนชวานเกา (HOHENSCHWANGAU) ปราสาทสีขาวและสีเหลืองที่โด่งดังคู่กันเป็นเวลาช้านาน ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่มีสีสันสดใสงดงาม เนื่องจากตัวตึกหรืออาคารบ้านช่องของทั้งเมืองจะตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงาม นำ

ท่านเดินชมความสวยงามของเมืองฟุสเซ่น

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ3) เมนูพิเศษขาหมู+เบียร์เยอรมัน

นำท่านขึ้นสู่ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (NEUSCHWANSTEIN) ซึ่งเป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย เป็นปราสาทหลังใหญ่สีขาวที่ตั้งอยู่บนหินผาขนาดใหญ่ยักษ์สูงกว่า 200 เมตร กลางป่าเขาลำเนาไพรที่มีสีสันแตกต่างไปในแต่ละฤดูกาล พาทุกท่านเข้าชมภายในปราสาทแห่งนี้ ชมห้องต่างๆ อาทิ ห้องทรงงาน, ห้องบรรทม, ห้องฮอลล์ ที่ใช้ในการแสดงโอเปร่าและคอนเสิร์ต ปราสาทแห่งนี้ได้ชื่อว่างดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก แม้กระทั่งราชาการ์ตูนอย่างวอล์ทดิสนีย์ยังได้จำลองแบบปราสาทแห่งนี้ไปเป็นปราสาทในเทพนิยาย อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรูค (INNSBRUCK) ประเทศออสเตรีย (ระยะทาง 113 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที) เป็นเมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตกแต่งด้วยสีพาสเทล ดูไม่ฉูดฉาด แต่สร้างสีสันให้กับบ้านเมืองเป็นอย่างดี นำท่านเที่ยวชมเมืองอินส์บรูค โดยเริ่มจาก ประตูชัยทรงโรมัน TRIUMPHPFORTE ประตูชัยที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาจากชัยชนะในสงคราม แต่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองงานอภิเษกสมรสนั้นเอง นำท่านถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ อาคารหลังคาทองคำ (GOLDEN ROOF) ถูกสร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของจักรพรรดิมาชิมิเลี่ยนที่ 1 เนื่องจากเวลาที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองบริเวณจัตุรัส พระองค์และราชินีจะประทับอยู่ที่ระเบียงของอาคารดังกล่าว อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองเก่า เก็บภาพความประทับใจ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก เครื่องประดับที่ขึ้นชื่อ ซึ่งเมืองอินส์บูรคเป็นต้นกำเนิดของเครื่องประดับคริสตัลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง ชวารอฟสกี้ (SWAROVSKI)

ค่ำ ä อิสระรับประทานอาหารค่ำ ณ ถนนคนเดินเมืองอินส์บรูค

ãนำท่านเข้าสู่ที่พัก AUSTRIA TREND CONGRESS INNSBRUCK หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว ออสเตรีย

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ4)

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (ระยะทาง 251 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 45 นาที) เมืองในฝันริมทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นำท่านชมเมืองฮัลล์สตัทท์ เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่มีประชากรอาศัยไม่ถึงพันคนแต่กลับมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยความน่ารักของตัวเมืองที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชันบวกกับทิวทัศน์บ้านเรือนสูงต่ำลดหลั่นกันตามระดับความสูง จนทำให้เมืองนี้ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลก และยังเป็นเมืองที่ถูกถ่ายทำละคร ภาพยนตร์ ตลอดจนถูกถ่ายรูปทำลงโปสต์การ์ดมากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป อิสระให้ท่านเดินเล่นเก็บภาพความประทับใจ และเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกจากร้านค้าของเมืองแห่งนี้

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ5)

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (ZALZBURG) (ระยะทาง 75 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศออสเตรีย เมืองมรดกโลก ถิ่นกำเนิดของคีตกวีเอกของโลก โมซาร์ท (MOZART) เมืองซาลส์บวร์ก เป็นเมืองที่มากด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และทิวทัศน์ที่งดงามของเทือกเขาแอลป์ จึงทำให้เป็นเมืองท่องเที่ยวในฝันสำหรับใครหลายๆคน นำท่านชม สวนมิราเบลล์ (MIRABELL GARDEN) สวนสาธารณะสไตล์บาโรกที่สวยที่สุดในเมือง เดิมเป็นสวนของพระราชวังมิราเบลล์ (MIRABELL PALACE) ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่โมซาร์ทเคยมาจัดการแสดง และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง The Sound of Music อีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ ป้อมปรากาโฮเฮนซาลซ์บรุค (HOHENSALZBURG) เป็นปราสาทแห่งยุคกลางอายุกว่า 500 ปีที่ใหญ่และสภาพสมบูรณ์ที่สุดในยุโรป นำท่านแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ บ้านเกิดโมซาร์ท (MOZART’S BIRTHPLACE) อาคารสีเหลืองหมายเลข 9 ซึ่งเป็นสถานที่เกิดและเติบโตของคีตกวีเอกของโลกร่วม 20 ปี ต่อด้วยนำท่านเข้าชม มหาวิหารซาลบวร์ก (SALZBURG CATHEDRAL) มหาวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 774 ถือเป็นโบสถ์บาโรกยุคแรก ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนโบลถ์หลังเดิมที่ถูกไฟไหม้จนเกินซ่อมแซม มหาวิหารแห่งนี้ถูกบูรณะใหม่อีกครั้งหลังจากถูกระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (อาจไม่สามารถเข้าชมด้าน

ในได้ หากมีพิธีการทางศาสนา)

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำณ ภัตตาคาร (มื้อ6)

ãนำท่านเข้าสู่ที่พัก WYNDHAM GRAND SALZBURG CONFERENCE หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว ออสเตรีย

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ7)

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (VIENNA) (ระยะทาง 295 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 15 นาที)

เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่เรื่องราวทางประวัติศาตร์ สถาปัตยกรรม รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย นอกจากนั้นกรุงเวียนนายังได้ชื่อว่าเป็น เมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร(มื้อ8) เมนูพิเศษ ซี่โครงหมูเวียนนา

นำท่านผ่านชม ถนนวงแหวน ซึ่งรายล้อมไปด้วยสถานที่ต่างๆมากมาย อาทิเช่น โรงอุปรากร

(โอเปราเฮาส์), พระราชวังฮอฟบวร์ก, อาคารรัฐสภา, ศาลาว่าการ, มหาวิทยาลัยเวียนนา, โบสถ์ประจําเมือง, ศาลสูง ฯลฯ นำท่านชมภายนอก พระราชวังเบลเวอเดียร์ (BELVEDERE PALACE) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เป็นสถาปัตยกรรมในสไตล์บาโรกที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนา เพื่อเป็นที่ประทับของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย พระองค์ทรงชื่นชอบในงานศิลปะเป็นอย่างมาก จึงทำให้พระราชวังนี้ได้รับการสร้างและตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา

จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังเชินบรุนน์ (SCHONBRUNN PALACE) แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับสเบิร์กแห่งออสเตรีย ในอดีตเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก มาตั้งแต่สมัยคริสศตวรรษที่ 13 โดยจักรพรรดิโยเซฟที่ 1 มีพระราชดำริให้สร้างพระราชวังที่โอ่อ่าหรูหราโดยใช้พระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศสเป็นต้นแบบและถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแสนสำคัญของกรุงเวียนนา

จากนั้นนำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ ถนนคาร์ทเนอร์ เป็นถนนคนเดินและถนนชอปปิ้งสายสำคัญ เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ เรียงรายตลอดสองข้างถนน มีสินค้าต่างๆให้ท่านได้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนมยอดนิยม เสื้อผ้า รองเท้าหลากหลายยี่ห้อ นาฬิกา ฯลฯ พร้อมชม มหาวิหารเซนต์สตีเฟน”โบสถ์เก่าแก่บ้านคู่เมืองสไตล์โรมาเนสและโกธิก สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 13 สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย

ค่ำ ä อิสระรับประทานอาหารค่ำ ณ ถนนคาร์ทเนอร์

ãนำท่านเข้าสู่ที่พัก BELLEVUE WIEN HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว ออสเตรีย

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ9)

นำท่านผ่านพรมแดนสู่ ประเทศสโลวัค (SLOVAK) (ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที) นำท่านเดินทางสู่ เมืองบราติสลาวา (BRATISLAVA) คือเมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด เป็นเมืองเก่าที่มีความน่ารักซ่อนอยู่ในความคลาสสิค มีอาณาเขตติดกับประเทศออสเตรียและประเทศฮังการี เป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 2 ประเทศ บราติสลาวาเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของสโลวาเกีย โดยมีแม่น้ำดานูบไหลผ่านกลาง บราติสลาวาเป็นเมืองที่อบอุ่นที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ อากาศโดยทั่วไปไม่หนาวจัดและมีฤดูร้อนที่อบอุ่น มีหิมะบ้างเป็นครั้งคราวในฤดูหนาว

นำท่านชมภายนอกของ ปราสาทแห่งบราติสลาวา (BRATISLAVA CASTLE) เป็นปราสาทหลักของเมือง อาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่อันงดงามแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำดานูบ เป็นอาคารที่มีหอคอยอยู่สี่มุม ตั้งอยู่บนเนินเขาหิน Little Carpathians ริมแม่น้ำดานูบกลางบราติสลาวา ด้วยขนาดและที่ตั้งทำให้เป็นจุดเด่นของเมืองมานานหลายศตวรรษ รูปแบบการปลูกสร้างผสมผสานสถาปัตยกรรมมแบบโกธิค เรอเนสซองส์ และบาโรกได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรางดงามที่แฝงไว้ด้วยเข้มแข็ง นำท่านชมเขตเมืองเก่าของ บราติสลาวา ชม โบสถ์เซนต์มาร์ติน เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ และ ใหญ่ที่สุดในบราติสลาวา ที่อุทิศให้กับนักบุญอุปถัมภ์เซนต์มาร์ติน และยังเป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษก ราชอาณาจักรฮังการี ระหว่างปี ค.ศ.1563-1830 อีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอก พระราชวังพริเมท (PRIMATE’S PALACE) พระราชวังสไตล์นีโอคลาสสิก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 และใช้เป็นที่พำนักของอัครสังฆราชแห่งเอสเตอร์กอม พระราชวังแห่งนี้โดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายในที่สวยงามหรูหรา

ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองเอสเตอร์กอม (ESZTERGOM) ประเทศฮังการี (ระยะทาง 190 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที) ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงดั้งเดิมเก่าแก่ของฮังการี นำท่านเก็บภาพทัศนีภาพอันสวยงามของคุ้งน้ำดานูบซึ่งแบ่งเขตแดนประเทศฮังการี–สโลวาเกีย จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารเอสเตอร์กอม (ESZTERGOM CATHEDRAL) หรือที่คนท้องถิ่นรู้จักกันในนาม มหาวิหารเซนต์อดัลเบิร์ต (St. Adalbert Basilica) เป็นมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศฮังการี จนได้ ขึ้นชื่อว่าเป็น “ฮังการีวาติกัน” ที่มีความสูงถึง 70 เมตร และมีความกว้าง 40 เมตร ภายในมหาวิหารท่านจะได้เห็น แท่นบูชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ขนาด 13.5 × 6.6 เมตร) ชมภาพวาดขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่เหนือแท่นบูชาหลักของโบสถ์ ซึ่งเป็นการจำลองการขึ้นสวรรค์ของ Titian นอกจากนี้ยังมีสิ่งน่าสนใจอีกอย่าง คือ ห้องใต้ดินขนาดใหญ่สไตล์อียิปต์โบราณ อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามยิ่งใหญ่อลังการของมหาวิหารที่มีความงดงามแห่งนี้

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร(มื้อ10)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงบูดาเปสต์ (BUDAPEST) เมืองหลวงของประเทศฮังการี (ระยะทาง 62 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที) นำท่านล่องเรือแม่น้ำดานูบ (DANUBE RIVER CRUiSE)ด้วยเรือเช่าเหมาลำ ให้ท่านได้สัมผัสกับความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมสองฟากฝั่งริมน้ำซึ่งเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มากมาย โดยเรือจะแล่นผ่านอาคารรัฐสภาแห่งชาติฮังกาเรียน (PARLIAMENT HOUSE) ที่มีความโดดเด่น ก่อสร้างด้วยรูปแบบนีโอโกธิค ลักษณะของอาคารรัฐสภาซึ่งมีความละม้ายคล้ายคลึงกับรัฐสภาของประเทศอังกฤษเนื่องจากมีโดมขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางและตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศ

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำณ ภัตตาคาร (มื้อ11) เมนูพิเศษ กูลาซฮังการี +ไวน์พื้นเมือง

ãนำท่านเข้าสู่ที่พัก PARK INN BY RADISSON BUDAPEST หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวฮังการี

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ12)

นำท่านชมความงดงามของ กรุงบูดาเปสต์ (BUDAPEST) ที่มี แม่น้ำดานูบ (DANUBE RIVER) ไหลผ่านกลางเมืองแบ่งตัวเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งบูดาและฝั่งเปสต์ นำชมทัศนียภาพที่สวยงามน่าประทับใจของกรุงบูดาเปสต์บน เนินเขาเกลเลิร์ท (GELLERT HILL) นั่งรถข้ามสะพานที่เชื่อมสองฝั่งแม่น้ำเข้าไว้ด้วยกัน โดยมี สะพานเชน (CHAIN BRIDGE) เป็นสะพานที่สวยที่สุดของกรุงบูดาเปสต์ทำให้ทัศนียภาพของแม่น้ำดานูบเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดผู้มาเยือน นำท่านชม ป้อมชาวประมง (FISHERMAN’S BASTION) อนุสรณ์สถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905ถือเป็นจุดชมวิวของตัวเมืองที่ดีอีกแห่งหนึ่ง นำท่านชมภายนอก โบสถ์แมตเธียส์(MATTHIAS CHURCH) ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกกษัตริย์ฮังการีมาหลายทศวรรษ ปัจจุบันเป็นสถานที่ทำพิธีสวดมนต์ต่างๆ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรกผสมผสานกับกอธิก หลังคาปูด้วยกระเบื้องสีอันโดดเด่น

จากนั้นนำ ชมจัตุรัสวีรบุรุษแห่งฮังการี (HERO SQUARE) อนุสรณ์สถานสูงเสียดฟ้าที่ระลึกครบรอบ 1,000 ปีประวัติศาสตร์ของชนชาติฮังการี

เที่ยง ä อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ ถนนคนเดินวาซี เมืองบูดาเปสต์

อิสระให้ท่านเดินเล่นและเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองบน ถนนวาซี (VACI STREET)หนึ่งในถนนคนเดินที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป มีร้านค้า ร้านแบรนด์เนม ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารต่างมากมาย อาทิเช่น Zara, H&M, Swarovski, Hugo Boss, Lacoste, Nikeเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีร้านคาเฟ่ที่ไม่ควรพลาด คือ ANNA CAFE ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงด้านอาหาร เครื่องดื่มและ BAKERY อาทิเช่น ขนมเค้กฮอร์เดย์ ขนมหวาน สลัดแซนวิช เครื่องดื่มค็อกเทล ซึ่งLonely Planet เคยกล่าวไว้ว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยือนถนนแห่งนี้ ทุกคนจะต้องมาเยือนร้านคาเฟ่แห่งนี้สักครั้งนึง

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติบูดาเปสต์ หัวหน้าทัวร์คอยอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการขอคืนภาษี

16.00 น.ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย สายการบินเอมิเรตต์ EMIRATE AIRLINE (EK)เที่ยวบินที่ EK112 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)

23.20 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน

03.45 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ EK376

13.45 น.เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม

โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมทั้งนี้คำนึงถึงประโยชน์

และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก