|
|
![]() ทัวร์ยุโรปรหัส : Z10460
เดินทางโดย : OS/LH-ออสเตรียนแอร์ไลน์ไลน์/ลุฟท์ฮันซ่า แอร์ไลน์
โรงแรม :
![]()
ยุโรป 3 ประเทศ อิตาลี - สวิตเซอร์แลนด์ - ฝรั่งเศส : นครรัฐวาติกัน - โคลอสเซียม เมืองปิซ่า - หอเอนปิซ่า - ทะเลสาบโคโม่ - เมืองลูเซิร์น - ขึ้นกระเช้า Eiger Express - นั่งรถไฟ สัมผัสยอดภูเขาจุงเฟรา - ปารีส - ถ่ายรูปหอไอเฟล - ล่องเรือแม่น้ำเเซน - ถ่ายรูปด้านหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ - เข้าชมพระราชวังแวร์ซายส์
น้ำหนักกระเป๋าใต้เครื่อง 23 กก. 1 ใบ ต่อท่าน
➥ กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - สนามบินเวียนนา ➥ สนามบินเวียนนา - บินภายในสู่สนามบินโรม, ฝรั่งเศส - นครรัฐวาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - โคลอสเซียม เมืองปิซ่า ➥ หอเอนปิซ่า - เมืองมิลาน - มหาวิหารแห่งมิลาน - ช้อปปิ้งแกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ➥ เมืองโคโม่ - ทะเลสาบโคโม่ - เมืองลูเซิร์น - สิงโตหินแกะสลัก - สะพานไม้ชาเปล เมืองอินเทอร์ลาเคน ➥ เมืองกรินเดอวาลด์ - ขึ้นกระเช้า Eiger Express - นั่งรถไฟสู่สถานีจุงเฟรายอร์ค Top Of Europe - ภูเขาจุงเฟรา - เมืองดิฌง ➥ La Vallee Village Outlet - เดินทางสู่ปารีส - ถ่ายรูปหอไอเฟล - ประตูชัย - ช้อปปิ้งห้าง Galeries Lafayette ➥ ปารีส - ล่องเรือแม่น้ำเเซน - พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ (ถ่ายรูปด้านหน้า) - ช้อปปิ้งห้าง Samaritaine - พระราชวังแวร์ซายส์ (เข้าชม) ➥ มงมาร์ต - มหาวิหารซาเครเกอร์ - สนามบิน ชาร์ล เดอ โกล - แวะเปลี่ยนเครื่องสนามบินมิวนิค ➥ กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) ➥ ไม่รวม ค่าธรรมวีซ่าเชงเก้นฝรั่งเศส ประมาณท่านละ 5,000 บาท (อัตราเรียกเก็บอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศ) - ค่าทิปพนักงานขับรถ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น (70 EUR ต่อท่าน) - ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามความพึงพอใจของท่าน - ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม - ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว - ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทางระบบขนส่ง ตรงถึง Center แผนกวีซ่า - ค่าแปลเอกสารที่ต้องรับรอง เป็นภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)
คลิกดูโปรแกรมฉบับเต็ม (PDF)
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง Download PDF
ยุโรป 3 ประเทศ อิตาลี (โรม) สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส 9 วัน 6 คืน โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ + ลุฟท์ฮันซ่า (AUSTRAIN AIRLINES + LUFTHANSA AIRLINES) Celebrate New Year เดินทาง 27 ธ.ค. 66 - 04 ม.ค. 67
วันพุธที่ 27 ธ.ค สนามบินสุวรรณภูมิ – เดินทางสู่สนามบินเวียนนา (เที่ยวบินที่ OS026 เวลา 23.50 - 05.25) 19.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการ ออสเตรียน แอร์ไลน์ (AUSTRIAN AIRLINES) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก 23.50 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบิน ออสเตรียน แอร์ไลน์ (AUSTRIAN AIRLINES) เที่ยวบินที่ OS026 วันพฤหัสที่ 28 ธ.ค เดินทางจากสนามบินเวียนนาสู่สนามบินโรม (เที่ยวบินที่ OS501 เวลา 07.55 - 09.30) สนามบินโรม - นครรัฐวาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ – โคลอสเซียม – เมืองปิซ่า 07.55 น. ออกเดินทางจากสนามบิยเวียนนาสู่สนามบินฟูมิชิโน โรม ประเทศอิจาลี่โดยสายการบิน ออสเตรียน แอร์ไลน์ (AUSTRIAN AIRLINES) เที่ยวบินที่ OS501 09.30 น. เดินทางถึง สนามบินฟูมิชิโน กรุงโรม ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นที่ยุโรปช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อความสะดวกในการนัดหมายการเดินทาง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ “กรุงโรม (ROME)” (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เมืองหลวงของประเทศอิตาลี่ เป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรม ศิลปวัฒนธรรม และการปกครอง นำท่านเดินทางต่อสู่ “นครรัฐวาติกัน (VATICAN)” ศูนย์กลางแห่ง ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก แต่ในพื้นที่เล็กๆนี้กลับเต็มไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่มีคุณค่ามากมาย นครวาติกันถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา ประมุขสูงสุดของศาสนาคริสต์ และเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดในนครรัฐวาติกัน ทั้งทางด้านนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า “มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica)” สถานที่ที่ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ของคริสตจักรโรมันคาทอลิกอีกด้วย เดิมนั้นเป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 4 เป็นรูปแบบบาซิลิกา จนมาถึงในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาโบสถ์นั้นได้มีสภาพทรุดโทรมเป็นอย่างมากแล้วจึงได้มีการตัดสินใจสร้างมหาวิหารขึ้นมาใหม่ในแบบเรเนซองซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหม่และมีขนาดใหญ่กว่าเดิมมากทีเดียว พาท่านชมภายนอกสนามกีฬา “โคลอสเซียม (Colosseo)” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นสนามกีฬากลางแจ้งโบราณขนาดใหญ่ยักษ์ ใจกลางเมือง ที่นอกจากจะเคยเป็นสนามประลองอาวุธที่โหดเหี้ยมแล้ว ยังได้รับการคัดเลือกจากองค์กร New 7 Wonders ให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย สำหรับการออกแบบนั้นได้มีการออกแบบให้ผู้ชมได้รู้สึกใกล้ชิดกับนักกีฬาด้วยการออกแบบสนามกีฬาให้เป็นรูปครึ่งวงกลม นอกจากนั้นยังมีการออกแบบทางระบายน้ำที่ดีเพื่อป้องกันน้ำขังในสนามหากเกิดฝนตกอันเป็นต้นแบบของการออกแบบสนามกีฬาอื่นๆ ในปัจจุบันอีกด้วย เที่ยง ä รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (1) หลังจากนั้นพาท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) ** วันนี้จะถึงโรงแรมค่อนข้างดึก ** ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (2) โรงแรม Hotel Galilei หรือเทียบเท่า วันศุกร์ที่ 29 ธ.ค เมืองปิซ่า - หอเอนปิซ่า - เมืองมิลาน - มหาวิหารแห่งมิลาน - ช้อปปิ้งแกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอล เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (3) นำท่านเข้าสู่บริเวณ “จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli)” ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารแห่งปิซ่า และ “หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa)” สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย เที่ยง ä รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (4) หลังจากนั้นพาท่านเดินทางสู่ “เมืองมิลาน (Milan)” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชม “มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano)” ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ จากนั้นอิสระช้อปปิ้งที่ “แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล” (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นห้างที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน โดยบริเวณใกล้เคียงเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า ค่ำ อิสระอาหารเย็นที่ แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล โรงแรม UNAHOTELS Expo Fiera Milano หรือเทียบเท่า วันเสาร์ที่ 30 ธ.คเมืองโคโม่-ทะเลสาบโคโม่ - ลูเซิร์น - สิงโตหินแกะสลัก - สะพานไม้ชาเปล - เมืองอินเทอร์ลาเคน เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (5) นำท่าเดินทางสู่เมืองโคโม่ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ถ่ายรูปบริเวณ “ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como)” อิสระถ่ายรูปกับ ทะเลสาบโคโม่ ทะเลสาบที่เกิดจากธารน้ำแข็ง ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก มีความลึกมากถึง 400 เมตร ความโดดเด่นของ ทะเลสาบโคโม่ อยู่ที่ลักษณะของเวิ้งน้ำที่เป็นเหมือรูปตัว Y คว่ำ ล้อมรอบไปด้วยเมืองเล็กเมืองน้อยที่สร้างสีสันให้กับผืนน้ำแห่งนี้ หลังจากนั้นพาท่านเดินทางสู่ “เมืองลูเซิร์น” ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) อตีตเคยเป็นหัวเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ ภายในตัวเมืองตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเซิร์นและแม่น้ำรอยส์ (Reuss) หากฟ้าเปิดสามารถมองเห็นยอดเขาริกิ และยอดเขาพิลาตุสซึ่งอยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน เที่ยง ä รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (6) นำท่านถ่ายรูปกับ “สิงโตหินแกะสลัก (Lion Monument)” ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารรับจ้างชาวสวิสผู้กล้าหาญและซื่อสัตย์จำนวน 786 นาย ที่เสียชีวิตระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังตุยเลอร์รีในช่วงเวลาที่มีการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น อนุสาวรีย์สิงโตสะอื้นนี้เป็นการแกะสลักหินบนหน้าผาเป็นรูปสิงโต โดยที่หัวของสิงโตมีโล่และมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ สิงโตอยู่ในลักษณะนอนหมอบ และมีหอกปักกลางหลัง สีหน้าแสดงความเจ็บปวดและเศร้าหมอง หลังจากนั้นพาท่านชม “สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge)” เป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น ถูกสร้างขึ้นในค.ศ. 1333 และได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1993 เนื่องจากถูกไฟไหม้ ภายในมีจิตรกรรมเก่าแก่อยู่บนหน้าจั่วรูปสามเหลี่ยม หลังจากเกิดไฟไหม้ก็เหลือภาพเพียง 20 ภาพ ซึ่งยังมีร่องรอยของเปลวไฟ บางภาพถูกแทนที่ด้วยภาพถ่าย เพื่อทดแทนภาพที่ถูกไฟไหม้ไป หลังจากนั้นเดินทางสู่เมือง “อินเทอร์ลาเคน (INTERLAKEN)” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารท้องถิ่น) (7) โรงแรม Hotel Bernerhof หรือเทียบเท่า วันอาทิตย์ที 31 ธ.คเมืองกรินเดอวาลด์ - ขึ้นกระเช้า EIGER EXPRESS - นั่งรถไฟสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค ภูเขาจุงเฟรา - เมืองดิฌง เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (8) ออกเดินทางสู่ “เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald)” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) พาท่านขึ้น “กระเช้า Eiger Express” กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ สู่สถานี Eigergletscher (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ระหว่างทางขึ้นกระเช้าท่านจะเห็นวิวความสวยงามของจุงเฟราโดยรอบอีกด้วย นอกจากนั้นยังประหยัดเวลามากกว่าถ้าเทียบกับการขึ้นเขาแบบเดิม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วย รถไฟ Jungfrau Bahn เพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ “ยอดเขาจุงเฟรา” เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร นำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร จากนั้นอิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูป ณ จุดชมวิว SPHINX และเล่นหิมะบนภูเขาตามอัธยาศัย เที่ยง ä รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (อาหารท้องถิ่น) (9) หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน นำท่านลงจากจุงเฟรายอร์คโดยรถไฟ Jungfrau Bahn และกระเช้า “Eiger Express” ตามลำดับสู่สถานี Grindelwald จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง “ดิฌง (Dijon)” ประเทศฝรั่งเศส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี ระหว่างทางผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่แหล่งผลิตมัสตาร์ดชื่อดัง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ชั้นเลิศอีกด้วย ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (10) โรงแรม IBIS DIJON CENTRE CLEMENCEAU หรือเทียบเท่า วันจันทร์ที่ 1 ม.คช้อปปิ้ง LA VALLEE VILLAGE OUTLET - เดินทางสู่ปารีส - ถ่ายรูปหอไอเฟล -ช้อปปิ้งห้าง Galeries Lafayette เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (11) นำท่านเดินทางสู่ “LA VALLEE VILLAGE OUTLET” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) แหล่งช้อปปิ้งใกล้ปารีสที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน โดยรวบรวมร้านค้าของแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ต่างๆไว้มากว่า 110 ร้านค้า อาทิ BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, COACH, FRED PERRY, GUCCI, PAUL SMITH, PRADA, SAINT LAURENT, SALVATORE FERRAGARMO, VERSACE อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง ที่ LA VALLEE VILLAGE OUTLET นำท่านเดินทางสู่มหานคร “ปารีส (Paris)” (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัย ความก้าวหน้าทางการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์ ศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ “หอไอเฟล” (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร (Trocadero) หลังจากนั้นเข้าสู่ถนนสายโรแมนติกชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัย ให้ท่านได้ถ่ายรูป “ประตูชัย” (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึกเอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 จากนั้นพาท่าน “ช้อปปิ้งที่ Galeries Lafayette” ห้างสรรพสินค้าที่เต็มไปด้วยร้านค้าระดับพรีเมียมมากมาย อาทิ CHANEL, GUCCI, LOUIS VUITTON, LONGCHAMP, PRADA, RIMOVA ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารท้องถิ่น พิเศษ หอยเอสคาร์โก้) (12) โรงแรม B&B HOTEL PARIS หรือเทียบเท่า วันอังคารที 2 ม.คปารีส - ล่องเรือแม่น้ำเเซน – พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ (ถ่ายรูปด้านหน้า) – Palais Royal ช้อปปิ้งห้าง SAMARITAINE – พระราชวังแวร์ซายส์ (เข้าชม) เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (13) นำท่าน “ล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches)” ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆตลอดสองฝั่งแม่น้ำแซนด์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจโดยเรือจะล่องผ่านมหาวิหารนอเตรอดามแห่งปารีส ที่มีอายุกว่า 800 ปี เป็นมหาวิหารสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค โดดเด่นด้วยหอคอยคู่หน้าทรงเหลี่ยมและยอดปลายแหลมบนหลังคาวิหารสูงจากระดับพื้นดินถึง 96 เมตร เป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อังตัวแนตต์ และยังเป็นจุดกิโลเมตรที่ศูนย์ของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย นำท่านถ่ายรูปคู่กับ “ปิรามิดแก้วทรงสามเหลี่ยมแห่งพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ (Louvre Museum)” พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์กาเปเซียง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นที่จัดแสดงผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี และที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพโมนาลิซา (Monalisa) ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลี อีกด้วย พาท่านตามรอยซีรีย์ดัง EMILY IN PARIS ที่ “Palais Royal” อีกหนึ่งแลนด์มาร์กจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปแท่งสีดำสลับขาว ที่ไล่ระดับความสูง โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปนั่งหรือยืนถ่ายรูปก็ได้ จากนั้นพาท่าน “ช้อปปิ้งที่ SAMARITAINE” ห้างเก่าแก่ที่เป็นหนึ่งในตำนานแห่งกรุงปารีส การปรับโฉมใหม่นี้เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมา อาคารที่รีโนเวทใหม่ในครั้งนี้เป็นตัวแทนที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านปารีสสู่มิติใหม่แห่งอนาคต โซนที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ Samaritaine คงหนี้ไม่พ้นโซน Department Store ที่แสนหรูหราอลังการ โดยเฉพาะบริเวณโถลกลางที่เป็นการตกแต่งรายละเอียดต่างๆ ผสมผสานระหว่างศิลปะยุค Art Deco และ Art Nouveau ไว้สวยงามไม่แพ้สถาปัตยกรรมด้านนอกเลยทีเดียว ในโซนนี้เอกลักษณ์อันประณีตต่างๆ ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เช่นเคย แต่มีการบูรณะให้ดูใหม่และสว่างสดใสกว่าเก่า Samaritaine เป็นอาคารเก่าแก่คลาสสิกที่ถูกขึ้นทะเบียน Monument Historique ให้เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1990 อีกด้วย เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง ที่ ห้าง SAMARITAINE จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแวร์ซายส์ เพื่อเข้าชมความงดงามของ “พระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles Palace)” (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายในพระราชวัง) ที่สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในตกแต่งอย่างอลังการ ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น รูปแกะสลักและเครื่องเรือน พาท่านชมห้องต่างๆของพระราชวัง เช่น โบสถ์หลวงประจำพระราชวัง,ท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง, ห้องอพอลโล, ห้องเมอคิวรี่, ห้องกระจก (Hall of Mirror) ที่มีความยาวถึง 73 เมตร ซึ่งเป็นห้องที่พระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตไทยสมัยพระนารายณ์มหาราชเคยเข้าถวายสาส์นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดงานเลี้ยงและเต้นรำของพระนางมารี อังตัวแนตต์ มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16, ชมห้องบรรทมพระราชินีที่ตกแต่งอย่างงดงาม, ภาพเขียนปราบดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียนที่ยิ่งใหญ่ ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (14) โรงแรม B&B HOTEL PARIS หรือเทียบเท่า วันพุธที 3 ม.คมงมาร์ต-มหาวิหารซาเครเกอร์-สนามบิน ชาร์ล เดอ โกล - เดินทางสู่สนามบินมิวนิค (เที่ยวบิน LH2233 เวลา 18.10 - 19.35) - สนามบินมิวนิค –สนามบินสุวรรณภูมิ (เที่ยวบิน LH772 เวลา 22.20 - 14.55) เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (14) พาท่านเดินทางสู่ “ย่านมงมาร์ต MONTMARTRE” ย่านดังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 130 เมตร ทางตอนเหนือของกรุงปารีส เป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ที่ห้อมล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่สุดชิค พาท่านชม “มหาวิหารซาเครเกอร์ (Sacre-Coeur)” หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า มหาวิหารแห่งพระหฤทัย สูง 83 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1875 และแล้วเสร็จอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1924 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบไบเซนไทน์ รูปทรงคล้ายปราสาทหินอ่อนสีขาว ดูโอ่อ่าและสง่างาม ตั้งอยู่บนเนินสูง หากมองลงมาก็จะสามารถเห็นทิวทัศน์อันงดงามของกรุงปารีสได้อย่างชัดเจน พาท่านเดินทางสู่สนามบิน ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส ให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน 18.10 น. ออกเดินทางสู่สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน LUFTHANSA เที่ยวบินที่ LH2233 19.35 น. เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน และรอเปลี่ยนเครื่องบิน 22.20 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน LUFTHANSA เที่ยวบินที่ LH772 วันพฤหัสที 4 ม.คสนามบินสุวรรณภูมิ 14.55 14.55 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ **โปรแกรมอาจมีการสลับสับเปลี่ยนหน้างาน โดยคำนึงถึงประโยชน์ลูกค้าเป็นสำคัญ** |
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด |
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี
@etravelway
รับโปรโมชั่นดีดี
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
@etravelway.fire
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
fb.me/etravelway
สอบถามทาง Facebook