DOLOMITE ITALY SWITZERLAND 9 วัน 7 คืน

อิตาลี - อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ - ออสเตรีย - ลิกเท่นสไตน์ สวิตเซอร์แลนด์ – ยอดเขาชิลธอร์น

โดยสายการบินโอมานแอร์ (WY)

ลิ้มรสเมนูพิเศษ ซีโครงหมูออสเตรีย - พิซซ่า, ไวน์ – ฟองดู / พักระดับ 4 ดาว

เส้นทางการบิน เวลาออกเดินทาง-เวลาถึงปลายทาง เที่ยวบิน ระยะเวลาการเดินทางโดยประมาณ
สุวรรณภูมิBKK-มัสกัตMCT 09.10-12.00 WY818 6 ชั่วโมง 10 นาที
มัสกัตMCT-มิลานMXP 14.45-19.45 WY143 7 ชั่วโมง
ซูริคZHR-มัสกัตMCT 21.35-07.05+1 WY154 6 ชั่วโมง 45 นาที
มัสกัตMCT-สุวรรณภูมิBKK 09.00-17.45 WY815 6 ชั่วโมง 15 นาที

06.00 คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 บริเวณเคาเตอร์ T สายการบิน OMAN AIR โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทฯ คอยต้อนรับท่านเพื่ออำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง

09.10 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY818สู่ สนามบินนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

12.00 เดินทางถึง สนามบินนานาชาติมัสกัต เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน ให้ท่านพักผ่อนและเดินช้อปปิ้งในสนามบินที่มีร้านค้าปลอดภาษีมากมาย (เวลาท้องถิ่นในมัสกัตช้ากว่าประเทศไทย 3 ชม.)

14.45 ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติมัลเพนซ่า ประเทศอิตาลี เที่ยวบิน WY143

(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

19.45 เดินทางถึง สนามบินนานาชาติมัลเพนซ่า เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อย

นำท่านเดินทางสู่ มิลาน (MILAN) เมืองใหญ่ ที่มีชื่อเสียง และ เป็นเมือง แฟชั่นชั้นนำของประเทศอิตาลี เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้นติดอันดับ1ใน10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด

ã นำท่านเดินทางสู่ที่พัก GRAND HOTEL DUCA DI MANTOVA หรือเทียบเท่า (4ดาว)(อิตาลี)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ1)

นำท่านเที่ยวชม เมืองมิลาน (MILAN) เป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดียและเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะซึ่ง มิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับนิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และโรม นำท่านชม ปราสาทสฟอร์เซสโก้(SFORZA CASTLE)เป็นปราสาทเก่าแก่หลายร้อยปีอันเป็นแหล่งรวมแกลลอรี่และพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองมิลาน อดีตเคยเป็นป้อมปราการของพวกตระกูลวิสคอนติ (Visconti) ชมต้นกำเนิดของรถยนต์ ALFA ROMEO ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการออกแบบโลโก้ จากสัญลักษณ์ของตระกูลวิสคอนติ ตระกูลที่สร้างปราสาทนี้ นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (DUOMO DE MILAN) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่ด้วยความสูง 157 เมตร และกว้างถึง 92 เมตร ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลานเปรียบเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิลาน เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศอิตาลีรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ตั้งอยู่ที่เมืองวาติกัน ชม อนุเสาวรีย์ของกษัติย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 (VITTORIO EMANUELE II MONUMENT) ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆ ในอิตาลี นำท่านถ่ายรูปกับ อนุเสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรอเนสซองซ์อีก 1 ท่านคือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ (DAVINCI) ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า จากนั้น มีเวลาให้ท่านได้เพลิดเพลินชมเมืองมิลาน หรือ ช้อปปิ้งบนถนนช้อปปิ้งระดับโลกอย่าง VIA VITTORIO EMANUELE II หรือ อิสระชอปปิ้งที่ แกลเลอรีวิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (GALLERIA VITTORIO EMANUELE II) ที่นับเป็นศูนย์การค้าที่สวยงามหรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน ช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ2)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (VERONA) (ระยะทาง160กม.เดินทางประมาน 2 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆ ในแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การ UNESCO มีสมญานามว่าLITTLE ROMANโดยยังคงสภาพสถาปัตยกรรมจากสมัยโรมันไว้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางศิลปะ และวัฒนธรรมเก่าแก่ที่ยังมีให้เห็นในงานนิทรรศการประจำปี โรงละคร และโอเปร่าในโรงละครกลางแจ้งที่มีมาแต่โบราณทำให้เมืองนี้เป็นต้นกำเนิดผลงานปลายปากกาของ วิลเลียม เชกสเปียร์ โดยเฉพาะโศกนาฏกรรมตำนานรักอมตะของโรมิโอจูเลียตที่คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของความรักตลบอบอวลไปทั้งเมือง นำท่านชม บ้านของจูเลียต (CASA DI GIULIETTA) ตั้งอยู่ที่ถนน VIA CAPPELLO โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยว คู่รัก หนุ่มสาวจำนวนมากที่แวะเวียนไปถ่ายรูปที่ระเบียงบ้านหลังนี้ บริเวณกำแพงของบ้านเต็มไปด้วยข้อความบอกรัก และคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรักเขียนทับกันไปมาจนแทบไม่เห็นพื้นผิวกำแพงเดิม ชมระเบียงหินอ่อนเล็กๆ ที่จูเลียตเคยยืนอยู่โดยมีโรมิโอ มาคอยเฝ้าขอความรักอยู่ด้านล่าง บริเวณบ้านมีรูปป้ันจูเลียตที่เป็นบรอนซ์ป้ัน ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไปจับที่หน้าอกของจูเลียต นำท่านชมภายนอกของ สเตเดี้ยมของเมืองเวโรนา (STADIUM DE VERONA) ตั้งอยู่ภายในบริเวณ PIAZZA BRA เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะโรมันโบราณอายุกว่า 2,000 ปี สามารถจุคนได้กว่า 15,000 คน มีขนาดใหญ่ติด 1 ใน 3 สเตเดี้ยมของอิตาลี คล้ายกับโคลอซเซี่ยมที่กรุงโรม มีเวลาให้ท่านเดินสัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่า หรือ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ3) เมนูพิเศษ พิซซ่าต้นตำรับ+ไวน์แดงอิตาลี

ã นำท่านเดินทางสู่ที่พัก BEST WESTERN HOTEL VERONA หรือเทียบเท่า (4ดาว)(อิตาลี)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ4)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส ราชินีแห่งทะเลเอเดียตริก (ระยะทาง160กม.เดินทางประมาน 2 ชั่วโมง) นำท่านเข้าสู่ เกาะเวนิส (VINICE) ด้วยเรือยอร์ชส่วนตัว (30 นาที) แหล่งท่องเที่ยวในฝันของคนทั่วโลก เมืองอันแสนโรแมนติกซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของคู่รักจากทั่วโลก นำท่านเดินเยี่ยมชมจุดสำคัญต่างๆของเกาะเวนิส อาทิเช่น มหาวิหารเซนต์มาร์ก (ST.MARK’S BASIICA) มหาวิหารที่ตั้งอยู่บน จัตุรัสซานมาร์โค (PIAZZA SAN MARCO) กลางเมืองเวนิส เป็นมหาวิหารที่ได้รับสมญานามว่า โบสถ์ทองตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 ผ่านชม พระราชวังดอจส์(DOGE’S PALACE) เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในเวเนเซี่ยนโกธิคสไตล์ พระราชวังเคยเป็นที่พำนักของ ดยุคแห่งเวนิส ที่มีอำนาจสูงสุดของอดีตสาธารณรัฐ สร้างขึ้นในปี 1340 และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1923

ชม สะพานทอดถอนใจ (BRIDGE OF SIGHTS) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อกับคุก นำท่านชม สะพานริอัลโต (RIALTO BRIDGE)เป็นหนึ่งในสะพานข้ามคลองใหญ่แกรนด์คาแนลที่มีความเก่าแก่ที่สุด และยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันมากที่สุดอีกด้วย แต่เดิมสะพานสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1181 และได้มีการรื้อสร้างใหม่ด้วยหิน จนเป็นสะพานที่มีความสวยงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน สะพานแห่งนี้เป็นตัวเชื่อมย่านสำคัญของเวนิส ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย อิสระให้ท่านถ่ายรูปเมืองที่สวยงามทุกมุมมอง และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ5) เมนูพิเศษสปาเกตตี้หมึกดำ บนเกาะเวนิส

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ เขตอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ (DOLOMITES NATIONAL PARK) (ระยะทาง160กม.เดินทางประมาน 2 ชั่วโมง) เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ (ALPS) ที่ครอบคลุมพื้นที่ของหลายๆ ประเทศในทวีปยุโรป ซึ่ง อิตาลี ก็เป็นหนึ่งในนั้น ชมวิวทิวทัศน์ตระการตาของหุบเขาและผาหิน รวมถึงทะเลสาบที่แอบซ่อนอยู่ตามมุมเขา ทัศนียภาพที่งดงามราวกับสรวงสวรรค์ของที่นี่ทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม เทือกเขาโดโลมิติ จึงถูกรับเลือกจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ในปี 2009 อีกทั้งยังเป็นสถานที่สุดประทับใจมากที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับนักเดินทางจากทุกมุมโลก

นำท่านชม ทะเลสาบมิซูรินา (MISURINA LAKE) ด้วยบรรยากาศของท้องฟ้า มีภูเขาสูงเป็นฉากหลังสวยงาม มองเห็นวิวทิวทัศน์ยิ่งใหญ่อลังการของทะเลสาบ ทิวสนด้านข้าง อาคารสีเหลืองทอง และที่สำคัญสถานที่แห่งนี้อากาศบริสุทธิ์มากจนไม่ควรพลาดที่จะสูดให้เต็มปอด ในฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมหนาทั่วทั้งบริเวณ น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งหนากว่า 50 ซม. และในฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมือง คอร์ติน่าดอมปาซโซ่ (CORTINA DI EMPEZZO) (ระยะทาง15กม.เดินทางประมาน 20 นาที) ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขา โดโลไมท์ เป็น BEST OF ALPS เพียงแห่งเดียวของ อิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดู หนาวในปี 1956 และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 007 ตอน FOR YOUR EYE ONLY เมืองนี้อยู่สูง จากน้ำทะเล 1,219 เมตร ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมท์’

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ6)

ã นำท่านเดินทางสู่ที่พัก BOUTIQUE VILLA BLU CORTINA HOTEL หรือเทียบเท่า (4ดาว)(อิตาลี)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ7)

นำท่านเดินทางสู่เขต อุทยานแห่งชาติ (FANES SENNES BRAIES) (ระยะทาง 40 กม.เดินทางประมาน 1ชั่วโมง) เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ นำท่านชมความสวยงามของ ทะเลสาบเบรียส (LAGO DI BRAIES) ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบ ซึ่งว่ากันว่าที่นี่เป็นประตูสู่ดินแดนใต้พิภพตามตำนาน ทุกๆร้อยปีในคืนพระจันทร์เต็มดวงเจ้าหญิงในตำนานจะออกมาจากเนินเขา SASS DIA PORTA ภาษาลาตินหมายถึง “ประตูบนภูเขา” ทรงพายเรือรอบๆทะเลสาบพร้อมส่งเสียงแตรที่ดังกึกก้องไปทั่ว เทือกเขาโดโลไมท์ บ้างก็ว่าครั้งหนึ่งเคยมีถ้ำตรงเนินเขาก่อนจะมีหินถล่มปิดปากถเหมือนจะฝังเจ้าหญิงไว้ ขัดขวางไม่ให้คืนความรุ่งโรจน์แก่อาณาจักรของพระองค์ตลอดกาล อิสระให้ท่านถ่ายรูป ชื่นชมความงามตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร เดินทางสู่ เมืองโบลซาโน (BOLZANO) (ระยะทาง 100 กม.เดินทางประมาน 1.30ชั่วโมง) เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์โบลซาโน่ เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ (SOUTH TYROL) ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เนินเขาที่เป็นป่า ทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขาโดโลไมท์ ในทางทิศตะวันออกนั้นเหมาะกับการพักผ่อนแบบผ่อนคลายอย่างยิ่ง เมืองโบลซาโน่รู้จักกันทั่วไปเมื่อครั้งที่ NATIONAL GEOGRAPHIC ไปถ่ายทำสารคดีการค้นพบซากมนุษย์ที่ฝั่งอยู่ใต้หิมะบนยอดเขาสูงในแคว้นทีโรลของออสเตรีย และนำร่างนั้นมาไว้ที่เมืองโบลซาโน่ เรียกกันว่ามนุษย์หิมะแห่งโบลซาโน่ ที่เป็นข่าวไปทั่วโลก นำท่านเดินชมเมืองเก่า ชม วิหารแห่งโบลซาโน (DUOMO DI BOLZANO) โบสถ์ CHIESA DEI DOMENICAN และ อนุสาวรีย์ที่จัตุรัสกลางเมือง (PIAZZA DELLE ERBE) ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมืองที่สวยงามทุกมอง

เที่ยงä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ8)

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมือง ออร์ติเซ่ (ORTISEI) (ระยะทาง 100 กม.เดินทางประมาน 1.30ชั่วโมง) เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ ที่อยู่ในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงามยิ่งนัก ให้ท่านเพลิดเพลินกับทัศนียภาพและอากาศอันแสนบริสุทธิ์ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา นำท่าน นั่งกระเช้าชมวิว (ALPE DI SIUSI) ชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่นมีเส้นทางเดินลัดเลาะ สู่จุดชมวิวต่างๆ ให้ท่านมีเวลาเก็บภาพสวยๆ อันประทับใจก่อนท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศสุดที่จะบรรยาย อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับ ลงสู่ด้านล่าง

หมายเหตุ: การนั่งกระเช้า หากสภาพอากาศไม่อำนวยหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัย

ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางผ่านพรมแดน อิตาลี-ออสเตรีย เดินทางสู่ เมืองอินส์บรูค (INNSBRUCK) ประเทศออสเตรีย (ระยะทาง 110 กม.เดินทางประมาน 1.45ชั่วโมง)เป็นเมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตกแต่งด้วยสีพาสเทล ดูไม่ฉูดฉาด แต่สร้างสีสันให้กับบ้านเมืองเป็นอย่างดี

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ (มื้อ9) เมนูพิเศษ ซี่โครงหมูออสเตรีย

ã นำท่านเดินทางสู่ที่พัก AUSTRIA TREND INNSBRUCK หรือเทียบเท่า (4ดาว)(ออสเตรีย)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ10)

นำท่านเที่ยวชม เมืองอินส์บรูค (INNSBRUCK) โดยเริ่มจาก ประตูชัยทรงโรมัน (TRIUMPHPFORTE) ประตูชัยที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาจากชัยชนะในสงคราม แต่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองงานอภิเษกสมรสนั้นเอง นำท่านถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ อาคารหลังคาทองคำ (GOLDEN ROOF) ถูกสร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของจักรพรรดิมาชิมิเลี่ยนที่ 1 เนื่องจากเวลาที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองบริเวณจัตุรัส พระองค์และราชินีจะประทับอยู่ที่ระเบียงของอาคารดังกล่าว อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองเก่า เก็บภาพความประทับใจ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก เครื่องประดับที่ขึ้นชื่อ ซึ่งเมืองอินส์บูรคเป็นต้นกำเนิดของเครื่องประดับคริสตัลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง SWAROVSKI จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองวาดุซ (VADUZ) เมืองหลวงของ ประเทศลิกเตนสไตน์ (LIECHTENSTEIN) (ระยะทาง 175 กม.เดินทางประมาน 2 ชั่วโมง) เป็นประเทศเล็กๆ มีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ประชากรทั้งประเทศเพียงแค่เกือบ 4 หมื่นคน ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปกลางเต็มไปด้วย ภูเขาสูง มีพรมแดนด้านตะวันออกติดกับออสเตรียและด้านตะวันตกติดกับ สวิตเซอร์แลนด์ และเป็นที่นิยมของนักเล่นกีฬาฤดูหนาว

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ11) เมนูพิเศษ คาสคนอฟเล่ (ลิกเท่นไตน์)

จากนั้นนำท่านชม ศาลาว่าการเมืองวาดูซ (VADUZ TOWN HALL) ตั้งอยู่ บนถนนสาย STADTLE ซึ่งเป็นย่านที่พักโรงแรม ร้านอาหารและคาเฟ่จำนวนมาก ที่นี่สร้างขึ้น ตั้งแต่ปีค.ศ.1932 ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี ค.ศ.1982 ถึง ค.ศ.1984 ด้านหน้าสามารถมองเห็นตราแผ่นดินซึ่งแกะสลักด้วยหินเหนือประตูทางเข้า นำท่านถ่ายรูปกับ วิหารเซนต์ฟลอริน (ST.FLORIN CATHEDRAL) สถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองวาดุซ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1874 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอโกธิค เป็นศูนย์กลางของคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกในวาดุซ สามารถซื้อของที่ระลึก ของพื้นเมืองของประเทศลิกเตนสไตน์ รวมถึงร้านนาฬิกา แบรนด์ดังต่างๆ มากมาย

จากนั้นนำท่านเดินทางผ่านพรมแดน ออสเตรีย-สวิส เข้าสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น(SCHAFFHAUSEN) (ระยะทาง 140 กม.เดินทางประมาน 1.45 ชั่วโมง) นำท่านชม น้ำตกไรน์ (RHINE FALLS) เป็นน้ำตกที่เกิดจากแม่น้ำไรน์ มีน้ำเป็นสีเขียวมรกตใสไหลอย่างเชี่ยวกราดทำให้เกิดฟองขาวแตกกระเซ็นยามกระทบกับแก่งหิน ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่ว เกิดภาพที่งดงามจับใจ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณ น้ำตกไรน์ เป็นน้ำตกที่มีทัศนียภาพที่งดงามมาก เป็นแรงบันดาลใจให้ วิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ท แต่งกวีถึงความงามอันเป็นอมตะของน้ำตกแห่งนี้ จากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ12)

ã นำท่านเดินทางสู่ที่พัก A JA RESORT ZURICH HOTEL หรือเทียบเท่า (4ดาว) (สวิส)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ13)

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (BERNE) (ระยะทาง 120 กม.เดินทางประมาน 1.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองมรดกโลก โดย UNESCO และเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมาย คำว่า BERN นั้นมากจากคำว่า “BAREN” ในภาษาเยอรมันที่แปลว่า “หมี” ชื่อนี้นั้นได้มาจากที่สมัยก่อน ผู้ครองเมืองนี้ได้ออกไปล่าสัตว์ และกล่าวว่าจะตั้งชื่อเมืองตามชื่อสัตว์ที่พบและล่าสำเร็จ แล้วสัตว์ที่ได้มาคือ หมี จึงทำให้เป็นชื่อเมืองจนถึงทุกวันนี้ และจึงใช้หมีเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองอีกด้วย

นำท่านชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณไซท์ล็อค (ZYTGLOGGE CLOCK TOWER) มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรม มีนาฬิกาโบราณตั้งอยู่ทั้ง 2 ด้าน ด้านนึงจะเป็นนาฬิกาที่เป็นเข็มธรรมดา ซึ่งด้านล่างของหน้าปัดนาฬิกาแบบเข็มนี้จะมีนาฬิกาขนาดเล็กอีกเรือนนึง ซึ่งจะแสดง เวลา วัน เดือน ปี และจักรราศี ส่วนนาฬิกาอีกด้านนึงจะเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1530 ไฮไลท์ที่จะต้องรอชมนั้นจะอยู่ที่ทุกๆ 5 นาทีก่อนครบรอบ 1 ชั่วโมง ก็จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล (BEAR PIT) ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น และเดินเล่น บนถนนอาร์เคด (ARCADE) ที่มีร้านค้าต่างๆมากมาย ทั้งสินค้าพื้นเมืองของสวิส และ แบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย แวะ ถ่ายรูปบริเวณ บ้านของอัลเบริต ไอน์สไตน์ (EINSTEIN HOUSE) นักฟิสิกส์ชื่อดังของโลก ที่มาใช้ชีวิตในช่วงสั้นๆที่กรุงเบิร์น

เที่ยง ä อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ กรุงเบิร์น

นำท่านเดินทางสู่เมือง อิเซลวาล์ด (ISELWALD) (ระยะทาง 65 กม.เดินทางประมาน 50นาที) เมืองเล็กๆน่ารักริม ทะเลสาบบรีเอนซ์ (BRIENZ LAKE) เป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์ซีรีย์เกาหลีชื่อดัง CRASH LANDING ON YOU นำท่านถ่ายรูปและเดินเล่นในเมืองที่แสนจะน่ารัก จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอินเทอร์ลาเก้น (INTERLAKEN) (ระยะทาง 10 กม.เดินทางประมาน15นาที)เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ2แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ ทะเลสาลทูน และ ทะเลสาบบรีเอนซ์ ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ, นาฬิกาดอกไม้, สถานคาสิโน ฯลฯ ให้ท่านได้อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าสวิสฯ อาทิเช่น นาฬิกาแบรนด์เนมชื่อดัง มีดพับ, ช็อคโกแลต ฯลฯ และเดินเล่นถ่ายภาพกับบรรยากาศอันโรแมนติก ที่เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดังหลายๆเรื่อง อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง และ เลือกซื้อสินค้าต่างๆตามอัธยาศัย

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ14) เมนูพิเศษ สวิสฟองดู(ฟองดูเนื้อสัตว์)

ã นำท่านเดินทางสู่ที่พัก METROPOLE HOTEL INTERLAKEN หรือเทียบเท่า (4ดาว) (สวิส)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ15)

จากนั้นนำท่านพิชิต ยอดเขาชิลธอร์น (SCHILTHORN) เดินทางด้วยกระเช้าไฟฟ้าสู่หมู่บ้านมูร์เรน หรือฉายา หมู่บ้านบนหน้าผา สูงจากระดับน้ำทะเล 1,650 เมตร เมืองที่ไม่มีถนนเข้าถึง เมืองที่เงียบสงบและมีความน่ารักเฉพาะตัว จากนั้นเดินทางต่อด้วยกระเช้าสู่ สถานีเบิร์ก [2677 เมตร] นำท่านเก็บภาพบริเวณ สกายไลน์วอล์ค (SKYLINE WALK) จุดชมวิว และ นำท่านพิสูจน์ความกล้าบริเวณ ทริลล์ วอล์ค (THRILL WALK ) ทางเดินเลาะริมหน้าผา ที่ทั้งเสียวและสวยในคราเดียวกัน จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้าต่อสู่ ยอดเขาชิลธอร์น (SCHILTHORN) ซึ่งนับว่าเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดอีกแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ ยอดเขาชิลธอร์นสูง 2970 เมตร มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี จุดที่เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายๆเรื่อง โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่องเจมส์บอนด์ 007 ท่านสามารถมองเห็นยอดเขา จุงเฟรา ไอเกอร์ และ เมินช์ หรือยอดเขาสามเกลอ ตั้งเรียงกันโดยไม่มีอะไรมาบดบังยอดเขาเหล่านี้ ให้ท่านเก็บภาพความประทับใจอย่างเต็มที่

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร PIZ GLORIA (มื้อ16) ภัตตาคารบนยอดเขาชิลธอร์น

นำท่านลงจากยอดเขาชิลธอร์น นำท่านเดินทางสู่เมือง เลาเทอบรุนเน่น (LAUTERBRUNNEN) หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาและทิวทัศน์สุดอลังการของเทือกเขาแอลป์ แม้จะเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก แต่กลับมีธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และงดงาม เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยน้ำตกน้อยใหญ่ถึง 72 แห่ง จึงกลายมาเป็นที่มาของชื่อ เลาเทอร์บรุนเนิน ซึ่งแปลว่า เมืองแห่งบ่อน้ำ นั่นเอง หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านแห่งน้ำตกเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของน้ำตกที่สูงที่สุดในยุโรปอย่าง น้ำตก STAUBBACH ที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงถึง 300 เมตรด้วย นอกจากนี้ยังมี น้ำตก TRUMMELBACH ที่เกิดจากการหลอมละลายจากธารน้ำแข็ง เกิดเป็นมวลน้ำมหาศาลไหลลงมาจากหน้าผาสูงถึง 200 เมตรด้วยเช่นกัน ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (LUCERNE) (ระยะทาง 70 กม.เดินทางประมาน 1ชั่วโมง) ใจกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุด

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ17)

ã นำท่านเดินทางสู่ที่พัก ASTORIA LUCERNE HOTEL หรือเทียบเท่า (4ดาว)(สวิส)

เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ18)

นำท่านเที่ยวชมเมืองลูเซิร์น ถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (LION MONUMENT) อนุสรณ์รำลึกถึงการเสียชีวิตของทหารสวิสฯผู้ถวายการ อารักขาแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในสงคราม ปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส นำชมเมืองเก่า เดินข้าม สะพานไม้คาเปล(CHAPEL BRIDGE) ที่มีชื่อเสียงที่สุดของลูเซิร์น ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาคลุมตลอดทอดตัวข้าม “แม่น้ำรุซซ์” (RUESS) ซึ่งสร้างมากว่า 660 ปีเพื่อเชื่อมเขต เมืองใหม่ในฝั่งใต้และเขตเมืองเก่าในฝั่งเหนือ สะพานแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้เมื่อปี1993 แต่ก็ได้บูรณะใหม่จนมีสภาพใกล้เคียงของเดิม ให้ท่านอิสระตามอัธยาศัยเที่ยวชมบรรยากาศของเมือง ถ่ายรูปกับ ทะเลสาบลูเซิร์น (LUCERNE LAKE) ที่สวยงามดุจราวกับภาพวาด โดยมีเทือกเขาแอลป์อยู่เบื้องหลัง จากนั้นนำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง ชวาเน่นท์พลัทซ์ (SCHWANENPLATS) ให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าขึ้นชื่อของประเทศสวิตเซอร์แลนด์นานาชนิด อาทิ มีดพับสวิสฯ ช็อคโกแล็ต ของซูวีเนียร์ต่างๆ และที่ท่านไม่ควรพลาด คือ นาฬิกายี่ห้อต่างๆ ที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ จากร้านตัวแทนจำหน่าย อาทิ บุคเคอเรอร์, กุบเบอลิน, เอ็มบาสซี่ หรือ เดินเล่นชมย่านเมืองเก่าที่สวยทุกมุมมอง

เที่ยง äอิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ เมืองลูเซิร์น

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (ZUG) (ระยะทาง 30 กม.เดินทางประมาน 30นาที) เมืองเล็กน่ารักริมทะเลสาบซุก เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงาม ทั้งในเขตเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนในยุคกลางตั้งแต่ศตวรรษ ที่ 13 เป็นเมืองที่มีการเก็บภาษีที่มีอัตราต่ำที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองที่มีความสะอาดติดอันดับโลกอีกด้วย นำท่านชม เขตเมืองเก่า (OLD TOWN) บ้านเรือนโบราณ จัตตุรัสน้ำพุโบราณ โบสถ์ที่สวยงาม ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (ZURICH) (ระยะทาง 40 กม.เดินทางประมาน 45 นาที) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิส และมีแม่น้ำลิมมัตเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด เมืองซูริคไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ แต่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจ ธนาคาร และวัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย นำท่านชม ย่านเมืองเก่า (LINDERHOF) ประกอบไปด้วยโบสถ์ในสมัยกลาง สถานที่โดดเด่นเห็นจะเป็นมหาวิหารคู่บ้านคู่เมือง กรอสมุนเตอร์ (GROSSMUNSTER CHURCH) ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองซูริค ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (LIMMAT RIVER) ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของซูริค ชม โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (ST.PETER’S CHURCH) โดยด้านบนสุดของโบสถ์เซนต์ปีเตอร์นั้นเป็นที่ตั้งของหน้าปัดนาฬิกาที่ติดอันดับหน้าปัดนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกด้วย โดยหน้าปัดนาฬิกาของโบสถ์มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8.7 เมตร และนำท่านชม โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (FRAUMUNSTER CHURCH) ที่มีหน้าต่างกระจกสีอันสดใสสวยงาม อิสระช้อปปิ้งบริเวณ ถนนบานฮอฟ (BAHNHOFSTRASSE) ย่านช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดในเมืองซูริค และใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ถนนสายนี้ไม่ใช่ถนนสายที่ดีที่สุดในสวิสอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นถนนที่ดีที่สุดในยุโรปด้วย อิสระท่านช้อปปิ้ง เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย โดยสองฝั่งของถนนจะเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดังมากมาย ทั้งของสวิสเองและจากนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ขนมต่างๆอีกมากมาย บนสองฝั่งถนนจะมีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้ตลอดทางมีความร่มรื่นสามารถเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ

ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติซูริค มีเวลาให้ท่านทำคืนภาษี ณ สนามบิน เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง

21.35ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติมัสกัต โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY154

(บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)

07.05 เดินทางถึง สนามบินนานาชาติมัสกัต เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน ให้ท่านพักผ่อนและเดินช้อปปิ้งใน สนามบินที่มีร้านค้าปลอดภาษีมากมาย (เวลาท้องถิ่นในมัสกัตช้ากว่าประเทศไทย 3 ชม.)

09.00 ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY815

17.45 เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม

โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมทั้งนี้คำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก

การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่