เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook
เดินทางโดย : HY-อุซเบกิสถาน แอร์เวย์
โรงแรม : 3 ดาว |  จำนวนวัน : 6 วัน 4 คืน
อุซเบกิสถาน : ทาซเค้นท์ - บูคาร่า - กิซห์ดูวาน - ซามาร์คานด์

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - สนามบินเมืองทาซเคนท์ - โรงเรียนสอนศาสนาคูเคลดาสห์ - สุเหร่าจูมา - สถานีรถไฟใต้ดิน - ตลาดคอร์ซู
สนามบินเมืองทาซเคนท์ - บินภายในสู่สนามบินเมืองบูคาร่า - สนามบินทาชเค้นท์ - ป้อมดิอาร์ค - ประตูทาลีพัชห์ - ที่ฝังศพของชัสห์มา อายุบ - หอโพลิ คัลยาน- โรงเรียนสอนศาสนา มิริ อาหรับ
ไลอับบี เฮ้าซ์ - พระราชวัง ซิโนราน โมคี โคซา - เมืองกิซห์ดูวาน - ชมการทำเครื่องปั้นดินเผา - เมืองซามาร์คานด์ - คาราวานซารายราบาติ มาลิค - ราบาติ มาลิค - เมืองซามาร์คานด์ - ศูนย์ท่องเที่ยวอเนกประสงค์
จตุรัสเรจีสถาน - สุเหร่าบิบิ คะนุม - ตลาดกลาง - สถานที่ฝังศพกูริ อาเมียร์ - หอดูดาวอูลุก เบค - ชาห์ อิ ซินดา - เมืองทาซเค้นท์ - ผ่านชม วังที่พักของเจ้าชายแห่งโรมานอฟ - ผ่านชม โรงละครอลิสเชอร์ นาวอย - ผ่านชม อนุสาวรีย์และจัตุรัสอาเมียร์ ตีมูร์ - ช้อปปิ้งที่ห้างซามาร์กานด์ ดาร์โวซ่า - สนามบินทาชเค้นท์
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
ไม่รวม ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น, คนขับรถฯ วันละ 5 USD ต่อท่าน ต่อวัน รวม 5 วัน คิดเป็น 25 USD - ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย วันละ 3 USD ต่อท่าน ต่อวัน รวม 6 วัน คิดเป็น 18 USD หรือขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน - ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (หากมีการปรับขึ้น)
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

อุซเบกิสถาน ทาซเค้นท์ - บูคาร่า - กิซห์ดูวาน - ซามาร์คานด์ 6 วัน 4 คืน

ดินแดนแห่งพันหนึ่งทิวา...อาหรับราตรี

โดยสายการบิน อุซเบกิสถาน แอร์ไลน์ (HY)

“เอเชียกลาง/เอเชียไมเนอร์”

แหล่งอารยธรรมเก่าแก่ของโลกมาช้านาน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมยุคแรกๆของโลกอุซเบกิสถานในปัจจุบันนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานวัฒนธรรมอันหลากหลายได้หลั่งไหลเข้ามายังดินแดนแถบนี้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายพันปี

ซึ่งเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรมองโกล ได้รับเอาวัฒนธรรมฮินดูและอิสลาม ตลอดจนพุทธศาสนาจากอินเดีย และยังเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโซเวียต

อุซเบกิสถานจึงเป็นดินแดนที่ร่ำรวยมากด้วยวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การไปเยือน

รายละเอียดการบิน

วันเดินทาง

เมือง

CODE

เที่ยวบิน

เวลา

วันที่ 1

กรุงเทพฯ

ทาซเค้นท์

BKK – TAS

HY532

08.10 - 13.10

วันที่ 2

ทาซเค้นท์

บูคาร่า

TAS -BHK

HY023

07.30 – 08.40

วันที่ 5

ทาซเค้นท์

กรุงเทพฯ

TAS - BKK

HY533

22.30 – 06.40+1

โปรแกรมการเดินทาง

วันแรก

กรุงเทพฯ ทาซเค้นท์

05.00 น.

พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 แถว Sเคาน์เตอร์สายการบิน อุซเบกิสถาน แอร์ไลน์ (HY) ประตูทางเข้าที่ 8-9 โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัท ฯ คอยให้การต้อนรับ ตรวจเอกสาร และสัมภาระ

08.10 น.

ออกเดินทางสู่ เมืองทาซเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน โดยเที่ยวบิน HY532

(ใช้เวลาบินประมาณ 06.30 ชั่วโมง) (รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)

13.10 น.

เดินทางมาถึงสนามบินเมืองทาซเคนท์ ผ่านพิธีตรวจเอกสารคนเข้าเมืองและศุลกากร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองทาซเค้นท์ (Tashkent) เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศ มีความหมายว่าเมืองแห่งศิลา (The City of Stone) เป็นเมืองที่ใหญ่ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมในเอเชียกลาง มีประชากรประมาณ 2 ล้านคนเป็นเมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล นำท่านไปชมความสวยงามของเมืองหลวง ซึ่งเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่ยังคงเหลืออยู่ หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี ค.ศ.1966 เมืองนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมจากจีนสู่ยุโรป และหลังจากการปฏิวัติเมืองนี้กลายเป็นเมืองที่มีความทันสมัยออกแบบในสไตล์ของโซเวียต

นำท่านชม โรงเรียนสอนศาสนาคูเคลดาสห์ (Kukeldash Madrassah) เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคของศตวรรษที่ 16 โดยข้าหลวงคูเคลดาสห์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจและยังเป็นพี่น้องร่วมแม่นมกับบารัค ข่าน ผู้ปกครองแห่งเมืองทาซเค้นท์ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสของการค้าขายของพวกที่เป็นกองคาราวาน และได้เป็นศูนย์กลางของชีวิตผู้คนในเมืองนี้ เป็นศูนย์กลางของพวกที่ใช้ฝีมือในการทำงาน เป็นศูนย์กลางการประกาศแจ้งข่าวของเจ้าเมือง เป็นศูนย์รวมแหล่งข่าวและข่าวลือ ที่สำคัญที่สุดเป็นสถานที่ที่ประหารชีวิตคนด้วย

นำท่านชม สุเหร่าจูมา (Juma Mosque) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า สุเหร่าของซาร์ (Tsar’s Mosque) สุเหร่าแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1451 โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเชคห์ อูเบย์ดุลลา โคจา อาคห์เรอร์ (Sheikh Ubaydulla Khoja Akhror)

ผู้เป็นมหาบุรุษแห่งลัทธิซูฟี ที่สืบสกุลมาจากผู้เผยแพร่ศาสนามุคฮามัด ต่อมาในศตวรรษที่ 19 ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงและได้ทำลายสิ่งก่อสร้างเสียหายไปมากมาย แต่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยคำสั่งของจักรพรรดิของรัสเซีย อะเล็กซานเดอร์ที่ 3 ผู้ที่ได้แบ่งเงินจากคลังสมบัติของพระองค์เอง นำมาเป็นค่าก่อสร้างให้มีรูปลักษณ์สุเหร่าที่เป็นแบบดั้งเดิมทุกอย่าง จนกระทั่งในเวลานั้นสุเหร่านี้ได้ถูกเรียกว่า สุเหร่าของซาร์ แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1997 ก็ได้พังลงมาอีก และก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ให้เป็นสุเหร่าอันดับที่สามของประเทศฯ รองมาจากบีบีคานุมที่ซามาร์คานและหอคาลยานที่บูคาร่า

นำท่านไปชม สถานีรถไฟใต้ดิน (The Tashkent Metro) เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยตามรูปแบบที่สมบูรณ์ ที่เด่นชัด คือสวยงาม ยั่งยืนทนทาน และใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด รถไฟใต้ดินนี้ได้ถูกออกแบบและก่อสร้างขึ้นมาภายหลังจากที่ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในปี ค.ศ.1966 ทำให้เมืองทาซเค้นท์ได้รับความเสียหาย และสิ่งต่างๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยให้กับการก่อสร้างและต้องพร้อมที่รับมือกับการเกิดแผ่นดินไหว การก่อสร้างสถานีรถไฟใต้ดินจึงถูกสร้างไม่ให้มีความลึกมากนัก และผู้โดยสารก็สามารถเดินลงบันไดไปได้ด้วยความสะดวกสบาย

นำท่านไปชม ตลาดคอร์ซู (Chorsu Bazaar) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นตลาดที่ยิ่งใหญ่ในเอเชียกลางและบนเส้นทางสายไหม ที่อยู่ภายใต้โดม 7 โดม ซึ่งได้ถูกแบ่งเป็นแหล่งสินค้าต่างๆจากพ่อค้า เกษตรกรที่ขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ สัมผัสกับบรรยากาศแบบย้อนยุคอย่างที่เป็นในสมัยโบราณ แต่ได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ให้ท่านได้พักผ่อนและสนุกกับการซื้อสินค้าในตลาดบาซาร์ที่มีผ้าแพรพรรณ พรม เครื่องทองเหลือง ผ้าขนสัตว์ เครื่องหนังและสินค้าพื้นเมืองมากมาย 

19.30 น.

รับประทานอาหารค่ำ ที่ภัตตาคาร

ที่พัก

NOVZA PALACE HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 3 ดาว หรือเทียบเท่า

ทาซเค้นท์

วันที่สอง

ทาซเค้นท์ – บูคาร่า

05.00 น.

นำท่านเดินทางไปสนามบิน เพื่อขึ้นเครื่องไป เมืองบูคาร่า

(รับประทานอาหารเช้าแบบกล่อง)

07.30 น.

ออกเดินทางจากทาซเค้นท์ สู่เมืองบูคาร่า โดยเที่ยวบินที่ HY023

08.40 น.

เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติบูคาร่า

นำท่านชม ป้อมดิอาร์ค (The Ark Fortress) ซึ่งเป็นป้อมเก่าแก่สร้างในศตวรรษที่ 5 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเมื่อขึ้นไปด้านบนของป้อมจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างชัดเจน และกล่าวกันว่าครั้งหนึ่งในอดีต มีผู้อาศัยอยู่ในป้อมแห่งนี้ถึง 3,000 คน ตัวป้อมสามารถใช้เป็นเกาะกำบังสำหรับป้องกันศัตรูที่จะเข้ามารุกราน ป้อมแห่งนี้มีเนื้อทีกว้างใหญ่ประมาณ 25 ไร่ มีกำแพงล้อมรอบมีความยาวประมาณ 800 เมตร ส่วนของกำแพงมีความสูงถึง 16-20 เมตร ถูกสร้างด้วยอิฐหนาทึบและสูงใหญ่ ส่วนประตูมีซุ้มโค้งและหอคอยทั้งสองด้าน ซึ่งในอดีตภายในถูกใช้เป็นศูนย์กลางการปกครอง

นำท่านไปชมประตูทาลีพัชห์ (Talipach Gate) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นและมี

ความเก่าแก่ที่สุดทางด้านประวัติศาสตร์ของบูคาร่า เนื่องจากเส้นทางการค้าสายไหมได้เกิดขึ้น 300 ปีก่อนคริสตกาลจนสิ้นสุด ลงในราวศตวรรษที่ 16 และเมืองนี้มีความสำคัญที่กองคาราวานจะต้องเดินทางผ่านเข้ามาจากทางด้านเหนือเพี่อหยุดพักผ่อนและเดินทางต่อไปยังทางด้านใต้ เจ้าผู้ครองนครฯ จึงจำเป็นต้องมีการสร้างกำแพงและซุ้มประตู เพื่อสกัดกั้นการเดินทางเข้าออกและยังต้องมีการเรียกเก็บภาษีสินค้าค่าผ่านต่างๆที่ด่านแห่งนี้

ให้ท่านได้ชมความสวยงามของประดูทาลีพัชห์ ที่ถูกสร้างขึ้นมาในศตวรรษที่ 16 ซึ่งอยู่ในช่วงการปกครองของข่าน อับดุลเลาะ ที่ 1 ให้เป็นส่วนต่อจากกำแพงเก่าของเมืองที่มีอยู่ถึง 11 แห่ง ที่เหลือแต่ซากปรักหักพังยกเว้นประตูคาราคูลและประตูเชคห์ จาลาล ที่ยังคงเหลืออยู่จนถึง ศตวรรษที่ 20

12.00 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย

นำท่านชม ที่ฝังศพของชัสห์มา อายุบ(Chashma Ayub) ซึ่งเป็นนักบุญที่เคยเดินทางมาที่เมืองนี้ และมีบ่อน้ำซึ่งเชื่อกันว่านักบุญอายุบ ใช้ไม้เท้าเนรมิตบ่อน้ำนี้เพื่อเป็นน้ำที่รักษาโรคได้

นำท่านชม หอโพลิ คัลยาน(Poli Kalyan Ensemble and Minanet) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1127 โดยอาสลาน ข่าน แห่งราชวงศ์คารานิด อยู่ในการปกครองของ

บูคาร่า และสามารถทำให้ผู้พบเห็นต้องตกตะลึงถึงความโอ่อ่างดงาม รูปร่างของหอนี้ส่วนที่สูงที่สุดเป็นทรงกลม หอนี้ได้ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการเรียกประชุมชาวมุสลิมเพื่อมาทำละหมาด หอคอยแห่งนี้ได้ถูกซ่อมแซมขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 15 เพราะว่าเกิดการทรุดตัวเนื่องจากพื้นดินอ่อนนิ่มเกินไป

นำท่านชม โรงเรียนสอนศาสนา มิริ อาหรับ (Miri Arab Madrassah) เอเมียร์ อาลิม ข่าน (Amir Alim Khan) ที่ถูกสร้างอยู่ในบริเวณเดียวกันกับสุเหร่าคัลยาน ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่16 ในสมัยของราชวงศ์ไซบานิค ชื่อสถานที่แห่งนี้ได้ถูกตั้งตามชื่อของครูที่มาสอน มิริ อาหรับ ซึ่งมีความหมายว่าเจ้าแห่งอาหรับ

นำท่านเลือกซื้อสินค้าที่โดมอันยิ่งใหญ่มากคือ ทากิ (Taqi Trading Domes) มีอยู่ 3 ส่วนคือ ทากิ ซาร์การอน(Taqi Zargaron) ซึ่งเป็นโดมที่พวกอินเดียทำการค้าขายและแลกเงินตรา ทากิ ซาร์ราฟอน (Taqi Sarrafon) เป็นโดมที่ค้าขายเกี่ยวกับสิ่งมีค่า อัญมณีต่างๆ และทากิ เทลปักฟูรูโช่น (Taqi Telpak Furushon) เป็นโดมที่ค้าขายของที่เป็นสินค้า สำหรับทั่วๆไป รวมทั้งของที่ระลึก เช่น ชาหอม หมวกขนแกะ พรม ผ้าที่เย็บด้วยมือ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

19.00 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ที่ภัตตาคาร

ที่พัก

HOTEL VOLIDA BOUTIQUE โรงแรมมาตรฐาน 3 ดาว หรือเทียบเท่า

บูคาร่า

วันที่สาม

บูคาร่า – กิซห์ดูวาน - ซามาร์คานด์

07.30 น.

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านชม ไลอับบี เฮ้าซ์ (Lyab i Hauz) เป็นสถานที่สำหรับสอนศาสนาที่ตั้งอยู่บริเวณริมสระน้ำที่ให้ความร่มรื่นกับผู้ที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1620 และบริเวณมุมรอบๆ สระจะมีต้นมัลเบอร์รี่ (ต้นหม่อน)ที่ได้ปลูกเอาไว้หลายร้อยปี ที่เหลืออีก 3 ด้านของสระน้ำจะประกอบไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนา คูเคลดาสช (Kukeldash) ที่ถูกสร้างขึ้นทางด้านเหนือในปี ค.ศ. 1568-1569 และอีกสองด้านที่เหลือทางด้านตะวันตกจะถูกสร้างเป็นตำหนักสำหรับเป็นบ้านพัก คือ คานาค่า (Khanaka) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1620 และสำหรับด้านตะวันออกจะเป็นสถานที่สำหรับสอนศาสนาคือ นาเดียร์ ดีวาน เบกี (Nadir Divan Begi Madrasah) ที่ถูกสร้างขึ้นในในปี ค.ศ.1622

นำท่านชม พระราชวัง ซิโนราน โมคี โคซา (Sitoran Mokhi-Khosa Palace) ซึ่งเป็นของข่าน อาเมียร์ อักคาด (Amir Akhadkhan ) ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 19 เป็นการผสมผสาน ระหว่างศิลปะตะวันตกกับศิลปะร่วมสมัย โดยการส่งช่างสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ไปยังเมืองเซ้นต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อศึกษาดูงานการก่อสร้างที่สวยที่สุด จากนั้นนำท่านออกเดินทางไป เมืองกิซห์ดูวาน (Gizhduvan City) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทางห่างประมาณ 40 กม.

เมืองกิซห์ดูวาน เป็นหมู่บ้านที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 10 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในการปกครองของราชวงศ์ซามานิด นักโบราณคดีได้มีการขุดค้นและพบว่าในบริเวณนี้ได้มีการอยู่อาศัย และตั้งหลักแหล่งก่อนที่พวกอาหรับจะเข้ามายึดครอง และในราวศตวรรษที่ 16 กิซห์ดูวานได้กลายเป็นเมืองหน้าด่านในการป้องกันต่อสู้กับศัตรู และในปี ค.ศ.1972 ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบูคาร่า

ในอดีตกิซห์ดูวานเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม ที่พ่อค้ากองคาราวานที่จะ

เดินทางไปยังอินเดียและจะกลับไปจีน จะต้องมาหยุดพักค้างแรมที่แห่งนี้ จนทำให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงและเป็นศูนย์กลางของการค้าขาย และสิ่งที่สำคัญ คือ เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในการทำเครื่องปั้นดินเผา ทำถ้วยชาม เครื่องใช้ต่างๆ และพวกเซรามิคส์ ซึ่งสิ่งของส่วนใหญ่ได้รับความชื่นชอบและความนิยมจากชาวอุซเบค และผู้คนในบริเวณเอเชียกลางเกือบทุกประเทศ

นำท่านไป ชมการทำเครื่องปั้นดินเผา ได้มีการเริ่มมาจากบ้านในครอบครัวของสองพีน้องอับดุลลาห์ นาร์ และอลิสเชอร์ ซูลลาเอฟ (Abdullah and Alisher Narzullaev) ซึ่งมีชื่อเสียงไปยังทั่วโลก ในการทำเครื่องปั้นต้องใช้ความสามารถที่ได้ถูกถ่ายทอดต่อมาหลายรุ่นซึ่งใช้เวลานานประมาณ 60 ปีเล้ว จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก และจากรุ่นลูกสู่ยังหลาน ที่ยังคงเก็บรักษาฝีมือในการทำเครื่องปั้น เซรามิคส์ ให้เป็นที่มีความสวยงาม และยังไว้ให้ดีที่สุดในอุซเบกิสถาน 

12.00 น.

รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร ในหมู่บ้านทำเซรามิค

บ่าย

ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย เลือกชมและซื้อสินค้าที่ท่านชื่นชอบ

นำท่านออกเดินทางไป เมืองซามาร์คานด์ (Samarkand) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 140 กม.

ระหว่างทางให้ท่านได้ชม คาราวานซารายราบาติ มาลิค (Rabati Malik Caravanserai) ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่พักแรมของกองคาราวานบนเส้นทางสายไหม ตามคำสั่งของคาราคานิด ชามส์ อัล มัค นาสร์ บุตรชายของทัมกาชข่าน อิบรากิม ผู้ที่ปกครองในดินแดนซามาร์คานด์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1068-1088 เป็นโบราณสถานที่มีค่าที่สุดทางด้านประวัติศาสตร์ในดินแดนแห่งตะวันออกกลาง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 2008

ราบาติ มาลิค เป็นสถานที่ที่มีความพิเศษในด้านประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมของเปอร์เซียโบราณมีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 8,277 ตร.เมตร โดยเฉพาะประตูทางเข้าด้านหน้าได้ถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรและมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลวด

ลายของส่วนโค้งที่ถูกก่อขึ้นด้วยก้อนอิฐที่มีขนาดใหญ่ แต่ละก้อนที่วัดได้ คือ ขนาด 25x25x4 ซม. และขอบประตูยังถูกตกแต่งด้วยรูปดาวแปดเหลี่ยมที่ต่อกันอย่างสวยงามไปยังส่วนด้านบนของประตู และต่อลงมาทางด้านล่างของอีกด้านหนึ่ง

ได้เวลาพอสมควร นำท่านออกเดินทางไปยังเมืองซามาร์คานด์

เมืองซามาร์คานด์ (Samarkand)เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดเมือง หนึ่งในเอเชียกลาง ตั้งอยู่ในโอเอซิส ซึ่งได้รับน้ำมาจากคลองที่ขุดมาจากแม่น้ำซารัฟชาน อเล็กซานเดอร์ มหาราชได้ผ่านมาเมืองนี้ เพื่อที่จะเดินทางไปยังอินเดีย จึงได้ยึดครองเอาไว้ ต่อจากนั้นก็เป็นพวกเติร์ก พวกอาหรับและพวกเปอร์เซียก็ได้เข้ามาปกครองต่อๆกันมา เมืองนี้ได้มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในยุคกลาง และในปี ค.ศ.1215 เจงกิสข่านได้แผ่อาณาจักรเข้ามาควบคุมเส้นทางสายไหมและเข้ายึดเมืองนี้ในปี ค.ศ. 1221 และอีกประมาณร้อยปีต่อมา เมืองนี้ก็เหลือแต่ซากปรักหักพัง และจากนั้นตีมูร์ ข่านก็ได้สร้างอาณาจักรแห่งนี้ให้มีความเจริญขึ้นมา ซึ่งเมืองนี้ได้รับสมญานามว่า เมืองแห่งโดมสีฟ้า (The City of Blue Domes) ในประวัติศาสตร์ ถ้านับย้อนหลังไปหลายร้อยปี และยังได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งนิยาย 1001 อาหรับราตรี (1001 Arabian Nights) และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกใน

ปี ค.ศ. 2001

นำท่านไปชม ศูนย์ท่องเที่ยวอเนกประสงค์ (Silk Road Samarkand)

สถานที่แห่งนี้ได้เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทันสมัย ไม่เพียงแต่ในเมืองซามาร์

คานด์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเอเชียกลางทั้งหมดด้วย สถานท่องเที่ยวแห่งนี้จะผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกด้านวัฒนธรรมระบบทางเดินอาหาร การแพทย์ และการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจเข้าด้วยกัน คอมเพล็กซ์แห่งใหม่นี้จะเป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับโลก โรงแรมบูติกเฉพาะพื้นที่สาธารณะร่วมสมัย สวนสาธารณะ พื้นที่

นันทนาการและกีฬา ร้านอาหาร คาเฟ่และบาร์แบบดั้งเดิม ตลอดจนหอประชุมนานาชาติและสถานที่ที่น่าสนใจทางวัฒนธรรมโครงการล้ำสมัยที่พัฒนาโดย

ทีมสถาปนิกและวิศวกรระดับนานาชาติจะช่วยให้สามารถรวมโซนต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นชุดสถาปัตยกรรมที่สมดุลโดยสามารถเข้ากันในภูมิภาคเอเชียกลางทั้งหมด

20.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

ที่พัก

HOTEL DILISHODA PRIME โรงแรมมาตรฐาน 3 ดาว หรือเทียบเท่า

ซามาร์คานด์

วันที่สี่

ซามาร์คานด์

07.30 น.

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

08.30 น.

นำท่านชม จตุรัสเรจีสถาน(Registan Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่งดงามไปด้วยศิลปะอิสลาม ซึ่งถูกกล่าวขานว่ามีความงดงามที่สุดในเอเชียกลาง ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้าตัดขอบด้วยสีเหลือง รายล้อมไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนา (Madrasah) ถึง 3 แห่ง คือ อูลุค เบก (Ulug Beg) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1417-1420 และ เชียร์ ดอร์ (Shir Dor) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1619-1636 โดยเลียนแบบมาจากอูลุค เบค ผนังกำแพงมีลวดลายรูปทรงเลขาคณิต และซุ้มประตูมีรูปเสืลายพาดกลอน ที่แตกต่างไปจากสถาปัตยกรรมทั่วๆไปของศาสนาอิสลาม ส่วน ทิลยา คารี (Tilya Kari) ถูกสร้างขึ้นอยู่ทางด้านเหนือ ในศตวรรษที่ 17 และใช้เวลาสร้างประมาณ 20 ปี ซึ่งผนังและซุ้มในกำแพงมีการปิดทองมากกว่าที่อื่นใด

ชม สุเหร่าบิบิ คะนุม (Bibi Khanum Mosque) เป็นสุเหร่าที่ถูกสร้างขึ้นมาและใหญ่ที่สุดในโลกอิสลาม เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่สามารถปกครองดินแดนได้มากกว่าใครในประวัติศาสตร์ ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1399 ใช้เวลาก่อสร้างนาน 5 ปี ใช้ช่างฝีมือ 200 คน แรงงาน 500 คน ช้างอีก 95 เชือก ด้านประตูทางเข้าสร้างเป็นอาคารสูงประมาณ 35 เมตร ทางเข้าสร้างเป็นรูปวงรี สูง 18 เมตร ตัวหอบังสูงประมาณ 50 เมตร ตรงทางเข้าสู่จัตุรัสมัสยิดมีขนาดพื้นที่ยาวประมาณ 167 เมตร และกว้าง 109 เมตร และสองข้างยังมีมัสยิด ขนาดเล็ก โดยเฉพาะตัวโดมได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนแกะสลักโมเสครูปร่างต่างๆ เคลือบด้วยสีฟ้างดงาม เขียนภาพและอักษรด้วยน้ำเงินและทอง และที่หน้าสุเหร่ายังมีแท่นซึ่งเดิมวางคัมภีร์อัลกุรอ่านที่ใหญ่ถึง 2 เมตร

นำท่านไปเดินชม ตลาดกลาง (Central Market/Siyab Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียง มีความประหลาดที่น่าทึ่ง และเป็นหนึ่งเดียวของซามาร์คาน ที่ผู้คนยังคงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เป็นวัฒนธรรมของชาวอุซเบก และสวมหมวกที่สวยงาม

อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่บาซาร์ ซึ่งมีสินค้าต่างๆมากมายที่ราคาถูก และสวยงามเช่น ผลไม้สด พืชผักต่างๆ ขนมหวาน องุ่นแห้งที่มีทั้งสีเหลืองและดำ

12.00 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย

นำท่านชม สถานที่ฝังศพกูริ อาเมียร์ (Gure Amir Mausoleum) ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่ฝังศพของสุลต่าน มูฮัมหมัด (Sultan Muhammad) ซึ่งเป็นหลานรักที่เสียชีวิตในเปอร์เซีย สร้างขึ้นโดย ข่าน ตีมูร์ในปี ค.ศ. 1403 มีประตูทางเข้าก่ออิฐถือปูนตั้งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าซุ้มโค้ง มีโดมสีฟ้าผิวลอนกระดูกงู สูงประมาณ 36 เมตร ผนังห้องและเพดานโค้ง ภายในประดับด้วยกระเบื้องอิฐเผาลงด้วยลายสีทอง สีอำพัน สีฟ้าน้ำทะเล แต่ก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ. 1380 อาเมียร์ ตีมูร์ได้โปรดให้สร้างที่ฝังศพของพระองค์เตรียมไว้ก่อนที่บ้านเกิด คือ เมืองชาห์ริซาบซ์ แต่ในระหว่างที่ได้ยกทัพไปบุกจีน ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อปี ค.ศ. 1405 จึงได้นำพระศพเดินทางกลับมาภายใน 24 ชม. เพื่อฝังตามหลักศาสนา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทันเวลา จึงได้ฝังไว้ที่ กูริ อาเมียร์ และต่อมาก็ได้ใช้เป็นสุสานของผู้ปกครองนครซามาร์คานด์หลายพระองค์ สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก

จากนั้นชม หอดูดาวอูลุก เบค (Ulug Beg Observatory) เป็นสถานที่เก็บอุปกรณ์ที่ใช้ดูดาว สร้างโดย ข่านอูลุข เบค ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะทางดาราศาสตร์ของท่าน ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1428-1429 เป็นอาคาร 3 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร มีด้านบนยอดคล้ายกับโดม สถานที่แห่งนี้แสดงถึงเรื่องราวทางดาราศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ดูดาวของท่านข่าน ที่ท่านเคยคำนวณรอบปีผิดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่ท่านเสียชีวิต สถานที่แห่งนี้ได้รับความเสียหายจากพวกขโมยและพวกคลั่งศาสนา แต่ชั้นล่างมิได้ถูกทำลาย และต่อมาได้รับการซ่อมแซมขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1929

นำท่านชม ชาห์ อิ ซินดา (Shah I Zinda Complex) ซึ่งมีความหมายว่า เป็นที่อยู่ของกษัตริย์ (The Living King /Necropolis) เป็นสถานที่รวมสุสานขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา อัฟราซิยาบ (Afrasiyab) นอกกำแพงเมืองเก่า ใช้เป็นที่ฝังศพมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9-14 และเป็นความคิดของข่าน ตีมูร์ที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของที่ฝังศพของบุคคลที่มีชื่อเสียง มีอาคารหลายยุคหลายสมัยมากกว่า 20 แห่งให้ศึกษารวมทั้งกระเบื้องเคลือบโบราณที่สวยงามมาก

19.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

พักที่

HOTEL DILISHODA PRIME โรงแรมมาตรฐาน 3 ดาว หรือเทียบเท่า

ซามาร์คานด์

วันที่ห้า

ซามาร์คานด์-ทาชเค้นท์-กรุงเทพฯ

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองทาซเค้นท์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)

13.00 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย

ผ่านชม วังที่พักของเจ้าชายแห่งโรมานอฟ (Prince Romanov Residence) คือ นิโคไล คอนสแตนติโนวิช ซึ่งเป็นหลานชายของจักรพรรดิแห่งนิโคไล ที่ 1 ที่ได้เสด็จหนี ออกมาอยู่ที่เมืองทาซเค้นท์ในปี ค.ศ.1877 เป็นวังที่ถูกสร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.1891และอยู่ในวังแห่งนี้จนเสียชีวิตในปี ค.ศ.1918 ซึ่งเป็นที่พักชั้นเดียวแต่ถูกสร้างขึ้น อย่างมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมในการออกแบบของ เบน๊อตและเกย์ท เซลแมน ที่ได้ออกแบบสร้างด้วยศิลปะอันทันสมัยที่ล้ำยุคแห่งกาลเวลา และภายในยังเต็มไปด้วยการตกแต่งด้วยภาพแกะสลักภาพที่มีความสวยงาม

ผ่านชม โรงละครอลิสเชอร์ นาวอย (Alisher Navoi Opera and Ballet Theatre ) เป็นอนุสรณ์สถานที่มีชื่อเสียง และเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งของอุซเบกิสถาน เพื่อระลึกถึงนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่มีผลงานทางด้านการประพันธ์ ศิลปะ และดนตรี และที่สำคัญยังมีบทบาททางด้านการเมืองด้วย ถูกออกแบบสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1947 โดยสถาปนิกชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียงอยู่ในกรุงมอสโคว์ ชื่อ อเล็กเซย์ ชูเซฟ (Aleksey Shchusev) ซึ่งเคยเป็นผู้ออกแบบที่ฝังศพของเลนิน มาก่อน และต่อมาได้ถูกสร้างจนเสร็จเรียบร้อยในกลางศตวรรษที่ 20 โดยใช้แรงงานชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งถูกจับเป็นเชลยศึกในสมัยของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในโรงละครแห่งนี้มี 6 ห้องโถง ซึ่งแต่ละห้องได้ถูกสร้างขึ้นตามวัฒนธรรมของเมืองต่างๆ และได้ตั้งชื่อตามเมืองนั้นๆ เช่น ห้องทาซเค้นท์ ห้องบูคาร่า ห้องโคเรซม ห้องซามาร์คานด์ ห้องเฟอร์กาน่า และห้องเทอร์เมซ

ผ่านชม อนุสาวรีย์และจัตุรัสอาเมียร์ ตีมูร์ (Amir Timur Monument and Square) เป็นบริเวณที่สวยงามเต็มไปด้วยร่มเงาของต้นไม้และล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ที่มีสีสันสุดที่จะบรรยาย สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นอนุสาวรีย์ของรัฐบุรุษของชาติที่เป็นผู้ก่อสร้างอาณาจักรแห่งนี้ขึ้นมา ในสมัยของจักรวรรดิตีมูริด นอกจากนั้น บริเวณนี้ยังถูกล้อมรอบไปด้วยตึกต่างๆ ซึ่งถูกสร้างสมัยต่างๆในระยะเวลา 300 ปี 

นำท่านไปเลือกซื้อสินค้าที่ ห้างซามาร์กานด์ ดาร์โวซ่า (The Mall Samarqand Darvoza)ซึ่งเป็นห้างจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงของทาซเค้นท์ และได้เปิดจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกประมาณ 500 ชนิดให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งอัญมนีที่สวยงาม ไหม พรมต่างๆ เครื่องเซรามิคและถ้วยชาม รูปวาดที่สวยงาม ไม้แกะสลักต่างๆ ที่ได้ถูกผลิตขึ้นมาจากฝีมือของชาวอุซเบก

18.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารอาหารไทยทับทิม

19.00 น.

ออกเดินทางสู่สนามบินทาชเค้นท์

22.30 น.

ออกเดินทางจากทาซเค้นท์ สู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ HY531

วันที่หก

กรุงเทพฯ

06.40 น.

เดินทางมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ/กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

*** ราคาและโปรแกรมทัวร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของเงินบาทที่ไม่คงที่

การเปลี่ยนแปลงเวลาของสายการบิน / สภาวะทางอากาศซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ทางบริษัทฯจะยึดถือผลประโยชน์ของ

ผู้เดินทางเป็นสำคัญ ***

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP