… ONCE IN A LIFE TIME …

MSC MUSICA

กรีซ - ตุรเคีย - อิสราเอล – ไซปรัส 11 วัน 8 คืน

✅พักเอเธนส์ 1 คืน + พักบนเรือ 7 คืน ✅มีหัวหน้าทัวร์ดูแลตลอดเส้นทาง

✅รวมทิปแล้ว ✅รวมเที่ยวทุกพอร์ต✅รวมน้ำดื่มวันละ 1 ขวดทุกพอร์ต

กำหนดการเดินทาง วันที่ 31พ.ค.-10มิ.ย. 2567 ราคาเริ่มต้น 149,900.-

🔶เอเธนส์ ... ตามรอยเทพเจ้ากรีก🔶ซานโตรินี ... เกาะสวรรค์ของกรีซ

🔶คูซาดาซี ... เมืองหลวงเอเชียแห่งอาณาจักรโรมัน 🔶ลีมาซอล ... ไซปรัส เกาะสวรรค์ที่ต้องไป

🔶เยรูซาเลม ... ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่ง 3 ศาสนา 🔶มิโคนอส ... เมืองตากอากาศสีสันสดใส

- ตารางเวลาบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาตามประกาศของสายการบิน -

23.45 น. หัวหน้าทัวร์รอต้อนรับที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์เช็คอินแถว T สายการบิน Emirates (EK)

03.30 น. บินสู่ ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK 371

06.50 น. ถึง สนามบินนานาชาติดูไบ เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

10.50 น. บินสู่ เอเธนส์ (กรีซ) โดยเที่ยวบิน EK 209

15.00 น. ถึง สนามบินนานาชาติเอเลฟเทริออส เวนิเซลอส

= ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร =

• เดินเล่น ย่านพลาก้า (Plaka) แหล่งรวมนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ตามตรอกซอกซอยเต็มไปด้วย ร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร คึกคักพลุกพล่านไปด้วยผู้คนทั้งกลางวันและยามค่ำคืน มีร้านของฝากของที่ระลึกมากมาย สุดเขตย่านพลาก้าคือย่านเมืองใหม่ที่เต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่นหรูระดับโลกและถนนคนเดินที่เป็นระเบียบสวยงาม

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

ที่พัก Novotel Athens 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

ท่องเที่ยวในเมืองเอเธนส์

• เข้าชม อะโครโปลิส (Acropolis) โบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูง เชื่อกันว่าบนเนินเขาแห่งนี้เป็นที่สถิตของเทพีเอเธน่า เทพีแห่งปัญญา ซึ่ง UNESCO ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ในปี ค.ศ.1987 
• เข้าชม วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) วิหารศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพีเอเธน่า สร้างช่วงประมาณ 450-300 ปีก่อนคริสตกาลด้วยหินอ่อนทั้งหลัง รายล้อมด้วยเสาหินแบบดอริกซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่สร้างขึ้นในยุคคลาสสิกหรือยุคทองของกรีซและทั่วโลกต่างยอมรับกันว่าเป็นวิหารแบบดอริกที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกศิลปะของกรีซ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

บ่าย เดินทางสู่ ท่าเรือพิราอุส (Piraeus) เพื่อเตรียมตัวขึ้นเรือสำราญ

14.00 น. เช็คอินชึ้น เรือสำราญ MSC MUSICA

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ

22.00 น. ออกเดินทางสู่ เกาะซานโตรินี (กรีซ)

ที่พัก MSC MUSICA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เกาะซานโตรินี (กรีซ) เกาะที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งหมู่เกาะไซคลาติส” ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,450 ปีก่อนคริสตกาล ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะได้มาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต

เดินทางสู่ หมู่บ้านเอีย (Oia Village) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือบนเกาะซานโตรินี ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดเมื่อจินตนาการถึงภาพเกาะในกรีซ เป็นศูนย์กลางการค้าที่เก่าแก่ มีคฤหาสน์หรูหราเป็นหลักฐานถึงความมั่งคั่งของชาวเรือที่อาศัยอยู่ที่นี่ลดหลั่นไล่ระดับตามหน้าผาสูงชัน

เดินทางสู่ หมู่บ้านอิเมอร์โรวิคลี (Imerovigli Village) อีกหนึ่งหมู่บ้านบนเกาะซานโตรินี ที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟได้ใกล้กว่าหมู่บ้านอื่นๆ

• แวะถ่ายรูป โบสถ์อนาสตาซิส (Church of St. Anastasi)

เดินทางสู่ เมืองฟิร่า (Fira) เมืองหลวงของซานโตรินี ซึ่งออกเสียงได้อีกอย่างว่า ธีรา (Thira) แหล่งรวมนักท่องเที่ยวที่มีทั้งที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝากที่มีเอกลักษณ์มากมาย

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

บ่าย ท่องเที่ยวต่อบนเกาะซานโตรินี

• ช้อปปิ้ง ตลาดสินค้าพื้นเมือง ร้านค้ามากมายที่เรียงตัวทอดยาวตามริมผา มีทั้งสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกให้เลือกซื้อ พร้อมวิวสวยๆ ที่สามารถมองเห็นเรือสำราญที่จอดอยู่กลางทะเลเบื้องล่าง
• ขึ้น Cable Car ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะซานโตรินี Cable Car นี้เปิดใช้งานในปี ค.ศ. 1982 โดยเงินบริจาคของ Evangelos Nomikos เพื่อทดแทนการเดินขึ้นบันไดและการขี่ล่อ รวมถึงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวบนเกาะซานโตรินีอีกด้วย

16.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองคูซาดาซี (ตุรเคีย)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ

ที่พัก MSC MUSICA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองคูซาดาซี (ตุรเคีย) เมืองท่าธรรมชาติที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนคริสตกาลหลังจากตกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมัน

เดินทางสู่ เมืองเอฟิซัส (City of Ephesus) เมืองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ เป็นศูนย์กลางการค้าและการคมนาคมเพราะอยู่ใกล้ริมทะเล จนกลายเป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน จึงทำให้มีเรื่องราวและโบราณสถานที่ยังคงสภาพและมีความสมบูรณ์ให้ท่องเที่ยวอยู่มากมาย

• เข้าชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
• ชม วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่อีกพระองค์หนึ่งของโรมัน วิหารแห่งนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ด้านหน้าสร้างเป็นเสาโครินเธียน 4 ต้น คู่กลางรองรับโค้งครึ่งวงกลมที่เรียงอย่างสวยงาม โค้งด้านหลังมีภาพแกะสลักเป็นรูปนางเมดูซ่าที่มีผมเป็นงู
• ชม หอสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) อาคารที่โดดเด่นที่สุดจนเป็นสัญลักษณ์ของเอฟิซัส เป็นอาคารสองชั้น ด้านหน้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างยามเช้า ห้องสมุดนี้สร้างขึ้นในราวปีค.ศ. 114 โดย ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา (Julius Aquila) เพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่พ่อของท่านซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ ด้านหน้ามีรูปปั้นของเทพี 4 องค์ ได้แก่ Sophia (เทพีแห่งปัญญา), Arete (เทพีแห่งความดี), Ennoia (เทพีแห่งความคิด), Episteme (เทพีแห่งความรู้)
• เข้าชม โรงละคร (Great Theatre) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอฟิซัส ซึ่งสร้างโดยการสกัดไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถบรรจุคนได้ถึง 25,000 คน คิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น เดิมสร้างตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ต่อมาในสมัยโรมันมีการปรับปรุงซ่อมแซมให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

ท่องเที่ยวเมืองเอฟิซัส (ต่อ)

• ชม บ้านพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์ โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนน์ แคเทอรีน เอมเมอริช (Anne Catherine Emmerich, ค.ศ. 1774-1824) ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารีประทับอยู่ บริเวณด้านนอกของบ้าน มีก๊อกน้ำสามก๊อกที่เชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์แทนความเชื่อในเรื่องสุขภาพ ความร่ำรวย และความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็น กำแพงอธิษฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นความจริงให้เขียนลงในผ้าฝ้ายแล้วนำไปผูกไว้แล้วอธิษฐาน

16.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เข้าสู่ เมืองไฮฟา (อิสราเอล)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ

ที่พัก MSC MUSICA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือหรือกิจกรรมตามจุดต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ

ที่พัก MSC MUSICA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

06.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองไฮฟา (อิสราเอล)

เดินทางสู่ เมืองเยรูซาเลม (Jerusalem) เมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1949 แต่ในขณะนั้นกรุงเยรูซาเลมได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝั่งด้านตะวันตกเป็นของอิสราเอล ส่วนฝั่งตะวันออกและบริเวณเมืองเก่าจะเป็นของจอร์แดน จนกระทั่งปี ค.ศ.1967 หลังจากเกิดสงคราม 6 วัน (The Six Days War) ระหว่างอิสราเอลและจอร์แดน อิสราเอลจึงได้เมืองเยรูซาเลมกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองทั้งหมดเป็นเมืองเดียวกัน

• ชมวิวเมืองเยรูซาเลมที่ ภูเขามะกอก (Mount of Olives) ภูเขาทางตะวันออกของเยรูซาเลมที่มีความสำคัญกับวิถีชีวิตในหลากหลายความเชื่อ เช่น บริเวณทางขึ้นเขาเป็นที่ตั้งของสวน Gatsemane บริเวณที่เชื่อว่าพระเยซูถูกทหารโรมันจับกุมตัวเพื่อไปตรึงบนไม้กางเขน รวมถึงบริเวณภูเขาแห่งนี้เป็นสุสานบรรพบุรุษของชาวยิวมามากกว่า 3,000 ปี แต่ภูเขาแห่งนี้ก็ยังเป็นจุดที่ชมวิวเมืองเยรูซาเลมที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งด้วยเช่นกัน
• เดินชมบรรยากาศ เมืองเก่าศักดิ์สิทธิ์ (Old Town) เมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมทางศาสนาที่แตกต่างกันมากที่สุดในโลก เช่น The Golden Menorah แบบจำลองเชิงเทียน 7 กิ่ง ที่มีการกล่าวถึงในพระคัมภีร์ฮีบรู ถึงแม้จะเป็นแบบจำลองแต่ก็หุ้มด้วยทองคำหนักถึง 43 กิโลกรัมและตั้งแสดงในห้องกระจกกันกระสุน, Western Wall หรือ Wailing Wall สถานที่สำคัญของชาวยิว สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล แต่ได้ถูกทำลายถึง 2 ครั้งในช่วงจักรวรรดิบาบิโลนและจักรวรรดิโรมันจนเหลือเพียงซากกำแพงในปัจจุบัน ซึ่งชาวยิวเชื่อว่าบริเวณนี้เป็นบริเวณที่ใกล้ชิดพระเจ้ามากที่สุดและพระเจ้าจะคอยรับฟังเรื่องราวที่ชาวยิวมาสวดภาวนาอ้อนวอนรวมถึงเรื่องทุกข์ใจต่างๆ รวมถึงชาวยิวมักจะเขียนเรื่องทุกข์ใจใส่กระดาษและนำไปสอดในช่องเล็กๆ ตามกำแพงเสมือนเป็นการส่งสาสน์ให้แก่พระเจ้าอีกทางหนึ่ง, Dome of the Rock อาคารทรงแปดเหลี่ยมสไตล์ไบแซนไทน์ ตกแต่งด้วยโมเสกทั้งภายนอกและภายใน สร้างขึ้นล้อมรอบหินศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมซึ่งเล่าขานกันว่าเป็นหินที่ศาสดามูฮัมหมัดยืนอยู่ก่อนที่จะเดินทางสู่ฟากฟ้า เพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าและยังเชื่อว่า Dome of the Rock แห่งนี้สร้างขึ้นบนสถานที่ที่เคยเป็นวิหารแห่งโซโลมอนและวิหารแห่งเฮรอตซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวอีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

บ่าย ท่องเที่ยวในเมืองเยรูซาเลม (ต่อ)

• เดินชมบรรยากาศ เมืองเก่าศักดิ์สิทธิ์ (ต่อ) เช่น Via Dolorosa ที่แปลว่า “ทางแห่งความโศกเศร้า” ในภาษาละติน เชื่อว่าเป็นเส้นทางที่พระเยซูดำเนินไปสู่การถูกตรึงไม้กางเขนโดยทหารชาวโรมัน หลังจากรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายร่วมกับเหล่าสาวกที่บริเวณ Mount Zion และถูกจับกุมตัวที่สวน Gatsemane บริเวณเชิงเขาของ Mount of Olives ตลอดเส้นทางกว่า 600 เมตรจะบอกเล่าเรื่องราวในแต่ละจุดไปจนถึงโบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ์ (Church of the Holy Sepulchre) เส้นทางนี้ถือเป็นเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ที่โด่งดังเส้นหนึ่งที่ชาวคริสต์มักจะมาแสวงบุญระลึกถึงพระเยซู

เดินทางกลับสู่ เมืองไฮฟา

18.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ

22.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองลีมาซอล (ไซปรัส)

ที่พัก MSC MUSICA

โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากขึ้นกับดุลยพินิจของเรือสำราญ โดยพิจารณาสถานการณ์ในช่วงใกล้เดินทาง

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองลีมาซอล (ไซปรัส)

ท่องเที่ยวใน เมืองลีมาซอล

• เข้าชม ปราสาทลีมาซอล สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ในศิลปะแบบไบแซนไทน์ ภายในปราสาทจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ Limassol Medieval มีคอลเลกชันชุดเกราะอาวุธต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างกษัตริย์ Richard แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับเจ้าหญิง Berengaria แห่งเมือง Navarre ในปี 1191 ซึ่งการอภิเษกครั้งนี้ทำให้เจ้าหญิง Berengaria ได้รับตำแหน่งเป็นราชินีแห่งราชวงศ์อังกฤษอีกด้วย
• เข้าชม Kolossi Castle ที่ถูกสร้างในศตวรรษที่ 13 ปราสาทแห่งนี้เป็นป้อมปราการสำคัญในช่วงยุคกลาง ภายในมีภาพวาดพระเยซูศิลปะแบบเฟรสโกที่สวยงาม
• เข้าชม เมืองโบราณคูริออน (Kourion Ancient Site) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองโบราณที่มีชื่อเสียงของไซปรัส เข้าชม โรงละครโรมัน Greco Roman Theatre ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 2 ซึ่งสามารถจุคนได้กว่า 3,500 คน พร้อมฉากหลังที่สวยงามของทะเลเมดิเตอเรเนียน และ บ้านอูโทลิออส (Eustolios House) วิลล่าส่วนตัวสไตล์โรมัน ก่อนที่จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นอาคารสาธารณะที่เป็นทั้ง ห้องอาบน้ำ ห้องครัวและสถานที่อาศัยในสมัยก่อน ชมความงามของพื้นโมเสกที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามและอนุรักษ์ไว้อย่างดี

12.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ

15.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองมิโคนอส (กรีซ)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ

ที่พัก MSC MUSICA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือหรือกิจกรรมตามจุดต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ

16.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เกาะมิโคนอส (กรีซ) เกาะสวรรค์แห่งนักท่องราตรี เป็นหนึ่งในหมู่เกาะไซคลาติสที่สวยงาม

• ชม มิโคนอส ทาวน์ (Mykonos Town) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า โฮรา (Chora) ที่มีความงดงามประกอบด้วยบ้านเรือนสีขาวตัดกับโบสถ์และท้องฟ้ารายรอบด้วยกลุ่มเรือหลากสีสัน เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่ไม่ควรพลาด

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

• ชม Small Venice”(Mikri Venetia) จุดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดริมทะเลอีเจียนที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับเมืองเวนิส (อิตาลี) พร้อมวิวกังหันลมกลางทะเลที่เรียกว่า Kato Myloi ตั้งเรียงรายอยู่ริมชายฝั่ง ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี้เลยก็ว่าได้

21.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

ที่พัก MSC MUSICA

หมายเหตุ : ก่อนเรือกลับเทียบท่าใน เช้าวันถัดไป จะต้องดำเนินการเตรียมตัวเพื่อเช็กเอาต์ออกจากเรือดังนี้

1. จัดกระเป๋า Overnight bag สำหรับเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวจำเป็นที่ต้องใช้ในช่วงกลางคืนและเช้าวันถัดไป
2. จัดกระเป๋าใบใหญ่และวางไว้หน้าห้อง พร้อมผูกป้ายกระเป๋าสีต่างๆ ตามที่เรือกำหนด เจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไปในช่วงกลางดึก (ป้ายกระเป๋าสีต่างๆ นี้จะเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ)
3. ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายจะส่งให้ตรวจเช็กความถูกต้องก่อน (ชาร์จผ่านบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้ตอนเช็กอินในวันแรกของการขึ้นเรือโดยอัตโนมัติ)

02.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองพิราอุส (กรีซ)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองพิราอุส

เช็กเอาต์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ

• เที่ยวชมบรรยากาศใน เมืองเอเธนส์
• ช้อปปิ้ง McArthurGlen Designer Outlet Athens แหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมมากกว่า 100 ร้านค้าให้เลือกซื้อ เช่น Polo Ralph Lauren, Adidas, Tommy Hilfiger, Benetton, BOSS, Nike, Lacoste, Guess ฯลฯ

กลางวัน อิสระ รับประทานอาหารตามอัธยาศัย

14.00 น. เดินทางสู่ สนามบินนานาชาติเอเลฟเทริออส เวนิเซลอส เพื่อเดินทางกลับ

18.05 น. บินสู่ ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK 210

23.35 น. ถึง สนามบินนานาชาติดูไบ เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

02.50 น. บินสู่ ไทย โดยเที่ยวบิน EK 384

12.30 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ