เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook
เดินทางโดย : TG-การบินไทย
โรงแรม : 4 ดาว & 5 ดาว |  จำนวนวัน : 9 วัน 7 คืน
ซาอุดิอาระเบีย : ริยาด - หมู่บ้านมรดกโลก อัดดิรอียะฮ์ - เมืองโบราณอัลอาชาร์ - ป้อมมัสมัค - เมดินา - อัลอูลา - เมืองโบราณเฮกรา - หินช้าง (Elephant Rock) - ตึกกระจก - เมืองมรดกโลกเฮกครา เจดดาห์ - Dune Safari - เมืองมรดกโลกอัล บาลัด - รถไฟความเร็วสูง (High Speed Train)
รวมวีซ่า และทิปทุกอย่างแล้ว / พักโรงแรมระดับ 4-5 ดาว

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - นครเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอะราเบีย - เข้าที่พัก
เจดดาห์ - แหล่งมรดกโลกอัล บาลัด - ถ่ายรูปกับพิพิธภัณฑ์นาซีฟ - ตลาด Suq Al Alawi, Al-Balad - ประตูเมกกะ - อัลเทยาบัท
เจดดาห์ - นั่งรถ 4x4 WD สนุกกับกิจกรรม์ทะเลทราย (Dune Safari) - ขี่อูฐชมทะเลทราย
เจดดาห์ - เมดินา - นั่งรถไฟความเร็วสูง High Speed Train สู่เมืองเมดินา - ถ่ายรูป Al Masjid Nabawi Mosque - ชมพิพิธภัณฑ์เมดินา
เมืองอัลอูลา - ตึกกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก - หินรูปช้าง - ถ่ายรูปกับสถานีรถไฟอัลอูลา
แหล่งโบราณสถานเฮกรา - เมืองโบราณดาดัน
สนามบินอัลอูลา - บินภายในสู่เมืองริยาด - ทะเลทราย Edge of the World - ถ่ายรูปกับ Kingdom Center Tower - ถ่ายรูปกับ King Kalid Grand Mosque
ริยาด - หมู่บ้านมรดกโลกอัดดิรอียะฮ์ - ป้อมโบราณมัสมัค - สุเหร่า อัลราจิ แกรนด์มอสค์ - เข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ - สนามบินริยาด
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แนะนำการเดินทาง : วันซีนที่อนุมัติ ครบ 2 เข็ม : AZ / mRNA หากกรณีฉีด SV / SP ครบ 2 เข็ม ต้องมีกระตุ้น AZ หรือ mRNA เป็นเข็ม 3
ไม่รวม ค่าทิปเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋า ท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการสูญหาย - ค่าตรวจ RT-PCR (ทุกกรณี / ตามที่รัฐกำหนด) - ค่าทำ Vaccine Passport - ค่าอาหารนอกเหนือจากที่ระบุ - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว - ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทางระบบขนส่ง ตรงถึง Center แผนกวีซ่า
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

 ซาอุดิอาระเบีย 9 วัน 7 คืน

โดยสายการบินไทย เปิดเที่ยวบิน ตรงสู่ซาอุดิอาระเบีย + บินภายใน 2 เที่ยว

ริยาด - หมู่บ้านมรดกโลก อัดดิรอียะฮ์ - เมืองโบราณอัลอาชาร์ - ป้อมมัสมัค - เมดินา

 อัลอูลา - เมืองโบราณเฮกรา  - หินช้าง (Elephant Rock) - ตึกกระจก– เมืองมรดกโลกเฮกครา เจดดาห์ - Dune Safari - เมืองมรดกโลกอัล บาลัด - รถไฟความเร็วสูง (High Speed Train)

(รวมวีซ่า และทิปทุกอย่างแล้ว.... พักโรงแรมระดับ 4-5 ดาว)

** ฉีดวัคซีน Covid 19 ครบโดส เที่ยวซาอุดิอาระเบียได้”

วันซีนที่อนุมัติ ครบ 2 เข็ม : AZ / mRNA หากกรณีฉีด SV / SP ครบ 2 เข็ม ต้องมีกระตุ้น AZ หรือ mRNA เป็นเข็ม 3

วันแรก กรุงเทพ - เจดดาห์ (พักค้าง 2 คืน)

15.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และหัวหน้าทัวร์ เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินไทย อาคารผู้โดยสารขาออก ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สัมภาระน้ำหนัก 20 กก. สำหรับโหลด (ท่านละ 1 ใบ) และ ถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กก.

(กรุณาเตรียมเอกสารการฉีดวัคซีน Covid 19 เพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่ระหว่างเชคอิน)

18.05 น. ออกเดินทางสู่นครเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอะราเบีย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 503 (ใช้เวลาบินประมาณ 8.55 ชั่วโมง)

23.00 น. เดินทางถึงสนามบินเจดดาห์ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง)

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Radisson Blu Hotel Jeddah ***** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)

วันที่สอง เจดดาห์ - แหล่งมรดกโลกอัล บาลัด - ประตูเมกกะ - อัลเทยาบัท

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชมเมืองมรดกโลกอัล บาลัด (Al Balad UNESCO) เมืองนี้สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 7 เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกและเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด ถนนคดเคี้ยวเหมือนเขาวงกตซอกแซกไปตามบ้าน มัสยิด และตลาดกลางแจ้งต่างๆ ที่อยู่ในจุดเล็กๆ ของเมือง นำท่านแวะถ่ายรูปกัลประตู Bab al Makkah หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Makkah Gate ซึ่งสร้างเอาไว้เพื่อต้อนรับผู้แสวงบุญที่เดินทางไปยังเมืองเมกกะ (Mecca) จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับพิพิธภัณฑ์นาซีฟ (Naseef House) หนึ่งในบ้านสีแสดที่โด่งดังของเมืองนี้ที่กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 1872 Sheikh Omar Effendi Nassif ผู้ปกครองของเมืองเจดดาห์ (Jeddah) ในสมัยนั้นเป็นผู้สร้างแมนชั่นที่มี 106 ห้องแห่งนี้ขึ้น ที่แมนชั่นแห่งนี้จะมีทางลาดที่ค่อนข้างกว้างเอาไว้สำหรับให้อูฐขึ้นไปส่งสารข้อความและเสบียงให้สำหรับทั้ง 5 ชั้นของบ้าน นำท่านเที่ยวชมตลาด Suq Al Alawi, Al-Balad เพื่อซื้อของฝากได้ เช่น เครื่องเพชรพลอยสีแสด เครื่องหนังและน้ำหอม และอื่นๆอีกมากมาย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับเมกกะ เกท Old Town นำท่านเที่ยวชมเมืองอัล เทยาบัท (Al Tayebat International City) สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ให้เดินเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมสิ่งของที่น่าสนใจที่สุดในประเทศ และยังมีสกุลเงิน เฟอร์นิเจอร์โบราณ อาวุธโบราณและต้นฉบับของคัมภีร์อัลกุลอานและสถานที่แห่งนี้ยังจัดแสดงบ้านจำลองจากทุกภูมิภาคของซาอุดิอาระเบียอีกด้วย อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Radisson Blu Hotel Jeddah ***** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)

วันที่สาม เจดดาห์ - ทัวร์ทะเลทราย (Dune Safari) - ขี่อูฐชมทะเลทราย

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่าน เข้าชม Our days of Bliss Magad พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้างของเครื่องใช้และการตกแต่งบ้านของชาวพื้นเมือง ตลอดจนสกุลเงินที่ใช้ในประเทศแต่ละยุคสมัย ได้เวลานำท่านสู่ถนนเลียบทะเลเจดดาห์ (Jeddah Corniche) เป็นเขตริมน้ำของเมือง นอกจากมีแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งร้านอาหารแล้ว ยังมี พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฟาเกียะฮ์ (Fakieh Aquarium) มัสยิดลอยน้ำ (Floating Mosque) และ น้ำพุกษัตริย์ฟาฮัด (King Fahd’s Fountain) อีกด้วย บริเวณทางเดินริมทะเลเหมาะสำหรับการเดินเล่นหรือนั่งเล่น

นำท่านแวะถ่ายรูปกับมัสยิด Masjid Al Rahma หรือ Al Rahma Mosque หรือเป็นที่รู้จักในชื่อว่า มัสยิดลอยน้ำ (Floating Mosque) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1985 การออกแบบของการก่อสร้างทำให้มัสยิดแห่งนี้ดูเหมือนลอยอยู่ในทะเลแดง (Red Sea) มัสยิดแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่สวยงามของสถาปัตยกรรมแบบอิสลามและคุ้มค่าที่จะแวะไปเยี่ยมชม ช่วงที่น้ำขึ้นสูงจะทำให้เราได้ภาพที่เหมือนมัสยิดลอยน้ำอยู่จริงๆ และจะทำให้ภาพสวยขึ้นไปอีกหากมีแสงกระทบกับผิวน้ำช่วงฟ้าสางหรือพลบค่ำ

จากนั้นนำท่านชมน้ำพุกษัตริย์ฟาฮัด (King Fahd’s Fountain) เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 1985 น้ำพุแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง และน้ำพุแห่งนี้พ่นน้ำสูงถึง 312 เมตรจึงเป็นน้ำพุที่สูงที่สุดในโลก สายน้ำจากน้ำพุที่น่าประทับใจแห่งนี้สามารถมองเห็นได้จากจุดต่างๆทั่วเมือง เจดดาห์ (Jeddah) น้ำพุนี้จะดึงน้ำมาจากทะเลแดง จึงสามารถทำความเร็วได้สูงกว่า 375 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ Red Sea Shopping Mall อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้า และ ช้อปปิ้งได้ตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ตลาด Gabel Street Souq (Qabel Trail) ตลาดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองเหมาะกับการชอปปิ้ง หาของทานเล่น หรือดื่มด่ำกับประสบการณ์ตะวันออกกลางที่แท้จริง ในตลาดมีสินค้าให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น น้ำหอม รองเท้าและกระเป๋าหนัง และเครื่องเพชรพลอย และที่ตลาดนี้ไม่ได้มีแค่นักท่องเที่ยวเท่านั้นแต่ยังมีคนในท้องถิ่นที่แวะมาซื้ออาหารและของใช้ในครัวเรือนที่จำเป็นอีกด้วย

15.00 น. นำท่านสัมผัสประสบการณ์นั่งรถ 4x4 WD สนุกสนานกับกิจกรรม Dune Safari ท่ามกลางทะเลทรายแห่งซาอุดิอาระเบีย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูป หรือจะเลือกขี่อูฐ (กิจกรรมขี่อูฐรวมในค่าทัวร์แล้ว) หรือ เล่นกระดานโต้คลื่นจากเนินทรายสูง ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนกว้างไกลของทะเลทราย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ BBQ Dinner

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Radisson Blu Hotel Jeddah ***** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 3)

วันที่สี่ เจดดาห์ - เมดินา - นั่งรถไฟความเร็วสูง สู่เมืองเมดินา

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

07.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ High Speed Train (HHR Hi Speed Train) เพื่อสัมผัสประสบการณ์นั่งรถไฟหัวจรวดความเร็วสูง หรือที่รู้จักกันในนามรถไฟตะวันตกหรือเมกกะ-Medina รถไฟความเร็วสูงสายซาอุดิอาระเบีย เชื่อมโยงเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในเมดินาและเมกกะผ่านเมืองเศรษฐกิจคิงอับดุลลาห์โดยใช้สายหลัก 449.2 กิโลเมตร (279.1 ไมล์) และการเชื่อมต่อสาขา 3.75 กิโลเมตร (2.33 ไมล์) ไปยังสนามบินนานาชาติคิงอับดุลลาซิซ (KAIA) ในเจดดาห์ รถไฟสายนี้ออกแบบมาสำหรับความเร็วสูงสุด 186 ไมล์ต่อชั่วโมง (299 กม. / ชม.) ซึ่งจากเมืองเจดดาห์ ไป เมดินา

08.32 น. ออกเดินทางจากสถานีรถไฟเจดดาห์

10.53 น. เดินทางถึงสถานีรถไฟเมดินา

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านแวะถ่ายรูปกับ Al Masjid Nabawi Mosque ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่ที่มีความสวยงามแห่งเมืองเมดินา (อนุญาตให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเข้าเท่านั้น) เป็นมัสยิดที่ก่อตั้งและสร้างสรรค์โดยศาสดาของศาสนาอิสลาม Prophet of Islam Muhammad ตั้งอยู่ในเมือง Medina ในประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นมัสยิดแห่งที่ 3 ที่สร้างขึ้นในประวัติศาสตร์ของศาสนาอิสลาม และในปัจจุบันก็กลายเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับสองในศาสนาอิสลาม รองจากมัสยิด Masjid al-Haram ในเมือง Mecca และที่นี่ยังเป็นที่ฝังศพของท่านนบีมุฮัมมัดอีกด้วย จากนั้นนำท่านชมพิพิธภัณฑ์เมดินา (Medina Museum) ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมในเมืองเมดินา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่โรงแรม Le Meridien Hotel Medina ***** หรือ เทียบเท่า

วันที่ห้า เมดินา - อัลอูลา - ตึกกระจก - หินช้าง

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัลอูลา (Al Ula) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกท่ามกลางทะเลทราย คือแหล่งโบราณสถานเฮกรา (Hegra Archaeological Site) หรือมะดาอินศอเลียะห์ หรืออัลฮิจญร์ ที่นี่เป็นแหล่งโบราณคดีที่มีอายุเก่าแก่ราว 2,000 ปี สร้างขึ้นโดยราชอาณาจักรแนบาเทีย (Nabatean Kingdom) เป็นอารยธรรมยุคเดียวกับเปตรา เมืองหินแกะสลักโบราณในประเทศจอร์แดน โบราณสถานแห่งนี้มีทั้งสุสานโบราณ หินธรรมชาติรูปทรงแปลกๆ กลางทะเลทราย ภาพวาดบนผนังถ้ำ และสิ่งก่อสร้างอีกมากมายที่ไดรับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นแหล่งโบราณคดีแห่งแรกของประเทศที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านชม ตึกกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Maraya) ณ กลางทะเลทรายหุบเขาอัชชาร์ (Ashar Valley) สิ่งก่อสร้างใหม่ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีแค่การต่อยอดแรงบันดาลใจจากหินทราย หรืออิงสถาปัตยกรรมตามอารยธรรมโบราณประจำถิ่นเท่านั้น แต่ที่อัลอูลายังมีอาคารยุคมิลเลนเนียมสุดโมเดิร์นที่ชื่อ มารายา (MARAYA) ตั้งอยู่ที่หุบเขาอาชาร์ที่มีแท่งหินรูปทรงต่างๆ MARAYA เป็นภาษาอาราบิก แปลว่า กระจก แนวคิดในการก่อสร้างที่ใช้วัสดุค่อนข้างแตกต่างจากอาคารทั่วไปในเมืองมาจากสถานะตามประวัติศาสตร์ของอัลอูลาที่เป็นจุดนัดพบทางอารยธรรมต่างๆ มากว่าหลายพันปีตัวอาคารถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแลนด์มาร์กของอัลอูลา ในแง่การสร้างสรรค์งานด้านวัฒนธรรม โดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบียมอบหมายงานออกแบบให้ Florian Boje สถาปนิกและนักออกแบบชาวอิตาลีแห่งบริษัท Giò Forma MARAYA โดดเด่นด้วยตัวอาคารรูปทรงกล่องลูกบาศก์ติดกระจกทั้งหลัง มีพื้นที่ 9,740 ตารางเมตรและได้รับการบันทึกจากกินเนสส์บุ๊กเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 ให้เป็นอาคารกระจกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และด้วยความที่ตัวอาคารติดกระจกใสทั้งหลังตั้งอยู่กลางทะเลทรายที่มีแต่พื้นทรายและภูเขาหินน้ำตาลแดง MARAYA จึงไม่ต่างจากชิ้นงานศิลปะอินสตอเลชันอาร์ตที่สะท้อนเงาของทิวทัศน์ภูเขาแท่งหินที่อยู่รายรอบ

นำท่านเดินทางสู่ หินรูปช้าง (Elephant Rock) สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก หินรูปช้างสูง 52 เมตร หินที่เกิดจากธรรมชาติแห่งนี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับงวงช้างซึ่งล้อมรอบไปด้วยหินขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเสาหินอนุสาวรีย์ที่มีเป็นร้อยๆ ก้อน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย

นำท่านแวะ ถ่ายรูปกับสถานีรถไฟอัลอูลา (Alula Railway Station) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟโบราณที่เชื่อมทางรถไฟมาจากเมืองเมดินา เป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟ Hijaz Railway station ซึ่งมีแผนสร้างทางรถไฟยาวกว่า 1,300 กิโลเมตร เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1900 และสร้างถึงเมืองเมดินาในปี 1908 และถึงเมืองดามัสกัสในปี 1913 อย่างไรก็ดีทางรถไฟสายนี้ ก็ไม่สามารถสร้างแล้วเสร็จอันเนื่องมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Sahary Alula Resort Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)

วันที่หก แหล่งโบราณสถานเฮกรา - เมืองโบราณดาดัน

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชมเมือง อัลอูลา เป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดบนคาบสมุทรอาระเบียที่มีหลักฐานทางโบราณคดีย้อนอายุไปได้กว่า 7,000 ปี อีกทั้งยังเคยเป็นเมืองหลวงแห่งอาณาจักรโบราณถึง 2 อาณาจักรด้วยกัน คือ ดาดัน (Dadan) และ ลิยัน (Lihyan) ไม่เพียงเท่านั้นด้วยทำเลที่ตั้งยังทำให้เมืองนี้มีความสำคัญด้านการค้าในฐานะอดีตเส้นทางค้าขายกำยานและธูปหอม เชื่อมดินแดนจากทางใต้ของคาบสมุทรอาระเบียไปจนถึงดินแดนอียิปต์ นำท่านเที่ยวชมเมืองโบราณเฮกรา (Hegra หรือชื่อภาษาอาหรับ Al-Hijr / Mada’in Salih) เป็นเมืองแห่งอารยธรรมยุคราชอาณาจักรแนบาเทีย (Nabataean Kingdom) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของนครเพตรา มหานครแห่งอารยธรรมแนบาเทียซึ่งเป็นที่ตั้งปราสาทหินทรายสีชมพูอันเลื่องชื่อในเขตประเทศจอร์แดนปัจจุบั เฮกรา ถือเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งแรกของ ซาอุดีอาระเบีย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2008 และเป็นสถานที่ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในอัลอูลา ตัวเมืองโบราณเฮกรามีพื้นที่ 52 เฮกตาร์ มีหลักฐานว่ามีคนอาศัยอยู่ตั้งแต่เมื่อกว่า 2,200 ปีก่อน และเจริญรุ่งเรืองสุด ๆ ในช่วง 200 ปีก่อนคริสตกาลจนถึง 200 ปีหลังคริสตกาล ส่วนปัจจุบันสิ่งที่หลงเหลือเป็นมรดกที่ชวนตื่นตา ได้แก่ สถาปัตยกรรมสลักหินหรือภูเขาหินซึ่งกระจัดกระจายอยู่กลางทะเลทราย สันนิษฐานว่าสถาปัตยกรรมสลักจากหินเป็น “สุสานของชนชั้นปกครอง” สมัยอาณาจักรแนบาเทียและที่น่าทึ่งก็ทีสุสานเหล่านี้มีมากกว่า 111 แห่ง แต่ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มีราว 94 แห่ง โดดเด่นด้วยการตกแต่งสลักเสลาลวดลายหน้าประตูบนภูเขาหินทรายขนาดใหญ่อย่างวิจิตร ในบรรดาสุสานหินกลางทะเลทรายเมื่อ 1,000 ปีก่อนคริสตกาลที่ย่านสุสานหิน Mada’in Salih ในอาณาเขตเมืองโบราณเฮกรานั้น“สุสานของบุตรแห่งคูซา” (Tomb of Lihyan Son of Kuza) หรือฉายา ปราสาทแห่งความเดียวดาย (The Lonely Castle แปลจากภาษาอาหรับ Qasr Al Farid) ถือเป็นไฮไลต์ของสุสานหินที่สลักจากภูเขาหินทรายทั้งลูก เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมแบบแนบาเทีย (Nabataean อารยธรรมที่สร้างนครเพตรา) ที่โดดเด่นตั้งตระหง่านอยู่ในอาณาบริเวณของเมืองมรดกโลกเฮกรา จากปริศนาในกรรมวิธีการสลักเสลาหน้าผาหินจากส่วนบนลงล่าง เป็นสุสานของชนชั้นผู้ปกครอง ในยุคอารยธรรมของชาวนาบาเทียนและชาวลิยัน ช่วงอาณาจักรแนบาเทียและลิยันรุ่งเรือง จุดนี้ยังเป็นแลนด์มาร์กของการท่องเที่ยวที่ในบางโอกาสมีการจัดแสดงแสงสีเหนือสุสานให้นักท่องเที่ยวได้ชมเป็นไฮไลต์ของทัวร์มรดกโลกเมืองโบราณเฮกราด้วย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองโบราณดาดัน ใจกลางเขตโอเอซิสกลางหุบเขา ซึ่งประกอบด้วยโบราณสถานและหลักฐานที่แสดงที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งอาณาจักรดาดัน (Kingdom of Dadan) ช่วงราว 800-900 ปีก่อนคริสตกาล อีกทั้งพื้นที่ตรงนี้ยังเป็นอดีตเมืองหลวงของอาณาจักรลิยัน (Kingdom of Lihyan) ช่วงราว 500-200 ปีก่อนคริสตกาล กล่าวได้ว่าอารยธรรมดาดันเป็นอารยธรรมเก่าแก่ของดินแดนอาหรับโบราณ และเป็นอารยธรรมเก่าที่สุดที่ค้นพบหลักฐานการดำรงอยู่ในเมืองอัลอูลา ไฮไลต์ในเมืองดาดันคืองานแกะสลักภูเขาหินทรายสีแดงขนาดใหญ่ที่ เรียกว่า สุสานสิงโตหรือ Lion’s Tombs ซึ่งมีบันไดจากพื้นราบขึ้นไปสู่ตัวสุสานด้านบน สันนิษฐานว่าสุสานหินสีน้ำตาลแดงที่สลักเป็นรูปสิงโต 2 ตัวอยู่ด้านหน้าทางเข้าของปราสาทที่ใหญ่โตเป็นภูเขากลางที่ราบนี้น่าจะเป็นสุสานของชนชั้นผู้ปกครองอาณาจักรสมัยนั้น จารึกบนผาหินขนาดใหญ่สามารถพบเจอได้ทั่วเมืองอัลอูลา มีทั้งตัวอักขระโบราณหลากหลายภาษา จารึกบางชิ้นสามารถย้อนไปได้ไกลถึงยุคก่อนเกิดภาษาอาหรับ ตอกย้ำความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีของอัลอูลา โดยจารึกบนผาหินที่สำคัญได้แก่บริเวณ ภูเขายามาล อิกมะห์(Jabal Ikmah) ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองโบราณดาดัน ด้วยความที่บริเวณภูเขายามาล อิกมะห์พบจารึกบนผาหินจำนวนมาก ภูเขายามาล อิกมะห์จึงได้ฉายาว่า ห้องสมุดกลางแจ้ง เป็นห้องสมุดขนาดมหึมาที่มีการจารึกบนผาหินด้วยอักขระกว่าหลายร้อยตัวผสมผสานกับงานสลักหินเป็นรูปต่างๆ เป็นทางยาว เล่าเรื่องราวสะท้อนพิธีกรรม เช่น ภาพเครื่องดนตรี รูปร่างมนุษย์และสัตว์ สะท้อนวิถีชีวิตชาวลิยันและชาวดาดัน ที่ก่อร่างสร้างอารยธรรมในแถบนี้เมื่อราว 1,000 ปีก่อนคริสตกาล

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Sahary Alula Resort Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)

วันที่เจ็ด อัลอูลา - ริยาด (บินภายใน) - Edge of the World

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

07.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอัลอูลา

08.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองริยาด โดยเที่ยวบิน SV1047 ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง

10.05 น. เดินทางถึงสนามบินริยาด

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ทะเลทราย Edge of the World หรือที่รู้จักกันในชื่อ Jebel Fihrayn อยู่ห่างจากกรุงริยาด 90 กม. และมีหน้าผา Tuwaiq อันกว้างใหญ่ซึ่งทอดยาวกว่า 600 กม. บนหน้าผาสูง 300 เมตร ผ่านทางตอนกลางของซาอุดิอาระเบีย และครั้งหนึ่งเคยเป็นเส้นทางคาราวานการค้าโบราณ ที่ใช้ข้ามคาบสมุทรอาหรับจากเยเมนไปยังลิแวนต์ และเปอร์เซียในอดีตนั่นเอง ด้วยความอลังการของทะเลทรายที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมมากที่สุดในซาอุดิอาระเบีย อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่กรุงริยาด

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ Kingdom Center Tower เป็นสูงและเป็นจุดศูนย์กลางแห่งเมืองรียาด นำท่านขับรถเที่ยวชมเมืองหลวงที่คราคร่ำไปด้วยตึงสูงทันสมัยหลายตึก จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ King Kalid Grand Mosque สุเหร่าสีขาวที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของซาอุดิอาระเบีย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Crown Plaza Hotel Riyadh***** หรือเทียบเท่า

วันที่แปด ริยาด - หมู่บ้านมรดกโลกอัดดิรอียะฮ์ - ป้อมโบราณมัสมัค - สุเหร่า อัลราจิ แกรนด์มอสค์

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านมรดกโลกอัดดิรอียะฮ์ (Al Diriyah)ตั้งอยู่ชานเมืองทางทิศตะวันตกของเมืองหลวง รียาด (Riyadh) และเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกขององค์กรยูเนสโกที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงเก่าของซาอุดิอาระเบียและเป็นบ้านของครอบครัว Al Saud นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความทันสมัยและความเป็นประวัติศาสตร์ของตัวเมือง ด้านที่เป็นความทันสมัยจะมีคาเฟ่ ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถข้ามสะพานถนน Wadi Hanifah ไปยังเขต Al Turaif ที่มีที่พักอาศัยของราชวงศ์โบราณ พิพิธภัณฑ์ Diriyah Museum และชิ้นส่วนทางประวัติศาสตร์อีกมากมายของเมือง Ad Diriyah จากเขต Al Turaif นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของแหลางมรดกโลกอัดดิรอียะฮ์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเข้าชมป้อมปราการมัสมัค (Masmak Fortress) กองทหารรักษาการณ์เก่าที่คอยปกป้องประเทศมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของความสวยงามด้านนอกที่ีเป็นป้อมปราการดิน ซึ่งในภายหลังได้กลายมาเป็นคลังเก็บอาวุธยุทธภัณฑ์ และหลังจากที่โดน Ibn Saud โจมตีป้อมปราการในปี ค.ศ. 1902 สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นเรือนจำแทน นำท่านเข้าชมพระราชวังประวัติศาสตร์มูร์รับบา (Murabba Palace) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่โด่งดังในเมืองรียาด พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นพระราชวังของกษัตริย์และสร้างในสไตล์ Najdean ซึ่งได้มีการจัดแสดงของใช้ส่วนตัว ของที่ระลึกและพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์ นอกจากนั้นจะได้เห็นรถโรลส์-รอยซ์ของกษัตริย์ที่ท่านได้รับเป็นของขวัญจากนายกรัฐมนตรีชาวอังกฤษ วินสตันเชอร์ชิลล์ในปี ค.ศ. 1946 อีกด้วย จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (National Museum) เพื่อย้อนรอยประวัติศาสตร์ ชีวิตความเป็นอยู่ และ ข้าวของเครื่องใช้ในอดีตของชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ที่นี่ ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับสุเหร่า อัลราฮิด (Al Rajhi Grand Mosque) ซึ่งเป็นสุเหร่าใหญ่ประจำกรุงรียาด (ไม่อนุญาตให้คนที่ไม่ใช่มุสลิมเข้าไปในสุเหร่าแห่งนี้)

18.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินริยาด

20.00 น. ออกเดินทางสู่เจดดาห์ โดยเที่ยวบิน SV1047 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.40 ชั่วโมง)

21.40 น. เดินทางถึงสนามบินเจดดาห์ รับกระเป๋าสัมภาระ

เช็คอินเคาน์เตอร์การบินไทย (TG)

วันที่เก้า เจดดาห์ - กรุงเทพ

01.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน TG (ใช้เวลาบินประมาณ 8.30 ช.ม.)

12.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP