เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ตุรกี

 รหัส : Z9815
เดินทางโดย : TK-เตอร์กิช แอร์ไลน์
โรงแรม : 5 ดาว |  จำนวนวัน : 9 วัน 6 คืน
PREMIUM in TURKIYE : บ้านพระแม่มารี - พิพิธภัณฑ์เมฟลานา - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ - พระราชวังโดลมาบาห์เช - ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส - ตลาด สไปซ์ มาร์เกต - สุเหร่าสีน้ำเงิน - โบสถ์เซนต์โซเฟีย - อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน - แกรนด์บาร์ซาร์ - พระราชวังทอปกาปึ
พิเศษทานอาหาร ณ ภัตาคารที่เหล่า Blogger เเละ Celebrity นิยม Seven Hill Restaurant - Nusr-Et Steakhouse - บินภายใน 2 ครั้ง - ทริป VIP กรุ๊ปเล็ก พักโรมแรม 5 ดาว - พักโรงแรมสไตล์ถ้ำที่คัปปาโดเกีย 2 คืน รวม 6 คืน

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
อิสตันบูล - บินภายในสู่ อิสเมีย - เอเฟซัส - บ้านพระแม่มารี - ปามุคคาเล่
ปามุคคาเล่ - พิพิธภัณฑ์เมฟลานา - คอนย่า
คอนย่า - คัปปาโดเกีย - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่
คัปปาโดเกีย - แวะชม โรงงานเพชร จิวเวอร์รี่, โรงงานเซรามิค และ โรงงานทอพรม
คัปปาโดเกีย - บินภายในสู่ อิสตันบูล - พระราชวังโดลมาบาห์เช - ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส - ตลาด สไปซ์ มาร์เกต - พาแวะชิมร้าน Cand
อิสตันบูล - ฮิปโปโดรม - สุเหร่าสีน้ำเงิน - โบสถ์เซนต์โซเฟีย - อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน - แกรนด์บาร์ซาร์
อิสตันบูล - พระราชวังทอปกาปึ - อิสระช้อปปิ้ง
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
ไม่รวม ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋า - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว รวมถึงค่าอาหารพิเศษนอกเหนือจากที่ทัวร์จัด เช่น อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ และอาหารอิสลาม มุสลิม - ค่าทำ Vaccine Passport หรือ ลงทะเบียน E-Vaccine Passport
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

PREMIUM in TURKIYE 9 วัน 6 คืน

บินตรง โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ + บินภายใน 2 ครั้ง

ทริป VIP กรุ๊ปเล็ก พักโรมแรม 5 ดาว - พักโรงแรมสไตล์ถ้ำที่คัปปาโดเกีย 2 คืน รวม 6 คืน

พิเศษทานอาหาร ณ ภัตาคารที่เหล่า Blogger เเละ Celebrity นิยม

Seven Hill Restaurant - Nusr-Et Steakhouse

กำหนดการเดินทาง

วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2566 (1) กรุงเทพ - อิสตันบูล

20.00น. คณะพบกันที่จุดนัดพบ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4

ประตูทางเข้าที่ 8 เคาน์เตอร์ S สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก

22.55น. นำท่านเดินทางสู่กรุงอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาเดินทาง 10 ชม. 50 นาที)

วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2566 (2) อิสเมีย - เอเฟซัส – บ้านพระแม่มารี - ปามุคคาเล่

05.45น. คณะเดินทางถึงสนามบินนานาชาติอาตาเติร์ก ณ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี

09.00น. คณะเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองอิสเมีย โดยเที่ยวบิน TK2316

(ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 10 นาที)

10.10น. คณะเดินทางถึงสนามบินอิสเมีย (IZMIR) 

สาย ออกเดินทางสู่เมืองเอเฟซัส (ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที 70 km.)

นำชม บ้านพระแม่มารี (THE VIRGIN MARY'S HOUSE) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหารย์โดยแม่ชีตาบอด ชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช (Anna Catherine Emmerich) ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลง มีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่ง พระสันตปาปา โป๊ปเบเนดิกส์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่ บริเวณด้านนอกของบ้าน มีก๊อกน้ำสามก๊อกที่เชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แทนความเชื่อในเรื่อง สุขภาพ ความร่ำรวย และความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็น กำแพงอธิษฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นความจริง ให้เขียนลงในผ้าฝ้ายแล้วนำไปผูกไว้แล้วอธิษฐาน

จากนั้น นำท่านสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (EPHESUS) อดีตเป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน ชมอาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของนครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส (LIBRARY OF CELSUS) และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (TEMPLE OF HADRIAN) ซึ่งสร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก จากนั้นนำชมสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุสคือ โรงละคร (GREAT THEATRE) ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น (10 km. จากบ้านนางมารี ˜ 15 นาที)

ระหว่างทางพาท่านชมโรงงานเครื่องหนังที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งแบรนด์เนมต่างๆ ของโลก ล้วนแต่สั่งซื้อหนังชั้นดีนี้จากตุรกี หนังได้รับการพัฒนาให้มีความคงทน ดูแลรักษาง่าย และยังสามารถใส่ได้ในเมืองร้อนแถบเอเชีย และแม้กระทั่งประเทศไทยเรา

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่ปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) (200 km. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.) เมืองซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นที่ตั้งของลานแคลเซียม กว้าง 300 เมตร ยาว 2,600 เมตร เป็นที่ตั้งของนครโบราณ เฮียราโปลิส และบ่อน้ำแร่ ในอดีตเคยเป็นสระน้ำร้อน ปัจจุบันเป็นลานน้ำแร่ที่มีอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส ประกอบด้วยหินปูน และเกลือแร่ ไหลเป็นน้ำตกจากที่สูง 100 เมตรลงสู่พื้น สายน้ำที่ถูกอากาศเย็นตัวลง ทำให้แคลเซียมตกตะกอน เกิดเป็นอ่างแคลเซียมธรรมชาติ ขนาดมหึมา 

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก / นำท่านเข้าที่พัก Richmond Thermal Hotel, Pamukkale หรือเทียบเท่า 5* (สามารถเตรียมชุดว่ายน้ำ เพื่อลงแช่สระน้ำแร่ได้ค่ะ)

วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566 (3) ปามุคคาเล่ – พิพิธภัณฑ์เมฟลานา - คอนย่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (COTTON CASTLE) โดยลักษณะที่โดดเด่นของที่นี่จะเป็นเนินเขาสีขาวโพลนเนื่องจากที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยส่วนประกอบของแคลเซี่ยม มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิด

จากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซี่ยมคาร์บอเนตมาตกตะกอน โดยบ่อน้ำพุ เกลือแร่ร้อนนี้นี่เอง ที่ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆ หลายชั้น และผลจากการแข็งตัวของแคลเซี่ยมทำให้เกิดเป็นแห่งหินสีขาวราวกับหิมะไหลหลั่นเป็นทางน้ำยาว ที่มีความสวยงามมากๆ

***เกร็ดความรู้ ***

ด้วยความเชื่อในสมัยโบราณว่า ปามุคคาเล่ เป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษาบำบัดอาการต่างๆ ทำให้ในอดีต ชนเผ่ากรีก-โรมันได้เข้ามาสร้างเมืองอยู่บนบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ และขนานนามเมืองนั้นว่า ฮีเอราโพลิส อันหมายถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์ และปามุคคาเล่ ก็ได้ถูกใช้เป็นสปาบำบัดโรคมานานกว่าพันปี จนเมื่อปี 2531 องค์การยูเนสโก้ ขึ้นทะเบียนให้เปามุคคาเล่ เป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการร่วมกับเมือง ฮีเอราโพลิส จึงได้มีการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปอาบแช่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้สถานที่แห่งนี้เกิดความเสียหาย

ออกเดินทางสู่ Konya (400 km. ใช้เวลาเดินทาง 5 ชม.)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum ) หรือสำนักลมวน เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลานา เจลาเลคดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่า ชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน

แวะชมคาราวานสไลน์ Caravanserai ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ

นำท่านเข้าที่พัก Bayir Diamond Hotel & Convention Center, Konya หรือ

เทียบเท่า 5*

วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2566 (4) คอนย่า – คัปปาโดเกีย - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (240 km. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านชมความสวยงามของ เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย Cappadocia เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า “ดินแดนม้าพันธุ์ดี” ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยสและภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณ จนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมาจากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปีจนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรงดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” ในปีค.ศ.1985 ยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี

นำท่านชม นครใต้ดิน Underground City of Derinkuyu or Kaymakli เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูนครใต้ดินไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ Goreme Open Air Museum ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา St. Barbar Church โบสถ์มังกร Snake Church และ โบสถ์แอปเปิ้ล Apple Church

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม

พิเศษ !! Turkish Night & Belly Dance Show

(พร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ท้องถิ่น (local drink) ไม่อั้น!)

นำท่านเข้าที่พัก Anatolian Houses Cave Hotel & SPA หรือเทียบเท่า 5*

วันอังคารที่ 7 มีนาคม 2566 (5) คัปปาโดเกีย

05.00 น. ท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ (ทัวร์นั่งบอลลูนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 280 ดอลล่าสหรัฐในกรณีชำระด้วยเงินสด/ 308 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีชำระด้วยบัตรเครดิต) เจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูนรอรับท่าน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด พร้อมกับประกาศนียบัตรที่รอมอบให้กับทุกท่าน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำชมปล่องไฟนางฟ้า (FAIRY CHIMNEYS) เกิดจากภูเขาไฟที่พ่นลาวาออกมาในสมัยก่อน ผ่านแรงลมหลายร้อยปีจนเกิดเป็นแท่งหินทรงกรวยหลากหลายรูปแบบ และให้เวลาอิสระจากนั้น แวะชม โรงงานเพชร จิวเวอร์รี่, โรงงานเซรามิค และ โรงงานทอพรม

อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านชม เที่ยว และ shopping

ตลาดท้องถิ่น Downtown อิสระกับการเลือกซื้อสินค้า และของที่ระลึก

มีร้านขายของมากมาย ร้านอาหารน่ารัก ร้านกาแฟน่านั่ง ให้ท่านได้ใช้เวลาสบายๆ ชิลๆ ตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก /

นำท่านเข้าที่พัก Anatolian Houses Cave Hotel & SPA หรือเทียบเท่า 5*

วันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 (6) คัปปาโดเกีย - อิสตันบูล

05.00 น. ท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ (Optional) หากพลาดในเช้าวันแรก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

12.05 น. ออกเดินทางสู่กรุงอิสตันบูล โดย TK 2017 (ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 35 นาที)

13.40 น. ถึงสนามบินอตาเติร์ก นครอิสตันบูล

นำคณะเดินทางเข้าสู่ กรุงอิสตันบูล (ISTANBUL)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ไกด์พาทานเคบับ Street Food (ลูกค้าดูแลค่าใช้จ่ายเอง)

บ่าย นำท่านชม พระราชวังโดลมาบาห์เช (DOLMABAHCE PALACE) พระราชวังสุดหรูหราตั้งอยู่ริมชายฝั่ง

ทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป ในพระราชวังนี้มีจุดเด่นหลายๆ อย่าง แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ โคมไฟแชนเดอเลียร์ ของขวัญจากอังกฤษทำจากแก้ว คริสทัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหนักถึง 5000 กิโลกรัม ประดับดวงไฟ 750 ดวง และยังมีพรมทอมือผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสาหินอ่อนบันไดทางขึ้นห้องโถงตรงราวทำด้วยไม้วอลนัต ลูกกรงราวบันไดทำด้วยแก้วคริสทัล สวยงามน่าทึ่งมาก จุดที่หน้าสนใจที่น่าสังเกตคือมีนาฬิกาวางประดับไว้มากมาย ทุกเรือนจะชี้บอกเวลา 09:06 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ ออตาเติร์ก หรือ ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกีถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2484 สิ่งที่ไม่ควรพลาดชมคือ ห้องที่วีรบุรุษแห่งชาติ ผู้นำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นที่ชื่ออตาเติร์กได้นอนเสียชีวิตบนเตียงที่มีธงชาติตุรกีคลุมอยู่ พร้อมนาฬิกาตั้งบอกเวลาเสียชีวิตคือ 09.06 น. เมื่อ 70 ปีมาแล้ว การเข้าชมภายในพระราชวังก็ต้องเข้าชมเป็นคณะ เป็นรอบๆ มีเวลา มีมัคคุเทศก์ของวังนำชมทีละห้องทีละอาคาร และไม่สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกภาพภายในได้

นำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black sea) เข้ากับ "ทะเลมามาร่า" (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตรจนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรป และสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่

นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง ในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจนกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่า กรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อนเลย ทั้งนี้เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี้เอง

ปี ค.ศ. 1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัสซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชีย และยุโรปสะดวกมากขึ้น ขณะที่ล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็น พระราชวังโดลมาบาชเช่ หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น

จากนั้น นำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาด สไปซ์ มาร์เกต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย พาแวะชิมร้าน Cand

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตราคาร SEVEN HILLS RESTAURANT

นำท่านเข้าที่พัก Golden Tulip Bayrampasa Istanbul หรือเทียบเท่า 5*

วันพฤหัสที่ 9 มีนาคม 2566 (7) อิสตันบูล

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านชมกรุงอิสตัลบูล (ISTANBUL) มหานครของสองทวีป เอเชีย และยุโรป เป็นเมืองที่มีความงดงามในประวัติศาสตร์โลกมานานหลายศตวรรษ นับแต่ยุคสมัยของกรีก และโรมัน ในสมัยของพวกกรีก ก็คือเมืองไบแซนติอุม มีอายุอยู่ในระหว่าง 675 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงปี ค.ศ.330 จึงได้เสียให้แก่อาณาจักรโรมัน และเคยเป็นเมืองหลวงของโรมันทางด้านตะวันออก ในนามของ กรุงคอนสแตนติโนเปิล จนกระทั่งถึง ค.ศ.1453 จึงได้ถูกพวกออตโตมัน ทำลายลง และเปลี่ยนชื่อมาเป็น อิสตันบูล และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1985

นำท่านชม ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) หรือจัตุรัสสุลต่านอาห์เมต สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุส เซเวรุส เพื่อใช้เป็นที่จัดแสดงกิจกรรมต่างๆ ของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดมได้รับการขยายให้กว้างขึ้น ตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณ ในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธี แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิสสุลต่านอะห์เมต ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้นคือ เสาที่สร้างในอียิปต์ เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ตุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูล เสาต้นที่สองคือ เสางู และเสาต้นที่สามคือเสาคอนสแตน

ตินที่ 7

จากนั้นนำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอะห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันให้มีความงดงามและยิ่งใหญ่กว่า โบสถ์เซนต์โซเฟียของจักรวรรดิ ไบแซนไทน์ให้ได้ 

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนต์โซเฟีย (ST. SOPHIA) ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบเซนไทน์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทน์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์ ซึ่งโบสถ์เซนต์โซเฟียนี้สร้างประจันหน้ากับสุเหร่าสีน้ำเงิน

จากนั้นนำท่านชม อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน (UNDERGROUND CISTERN) สิ่งก่อสร้างที่เป็นสิ่งก่อสร้างของชาวโรมันในอดีต ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศวรรษที่ 6 ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้นและมีเสาต้นที่เด่นมากคือ เสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูป และชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่

******** จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ แกรนด์บาร์ซาร์ ***********

จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่นที่ตลาดแกรนด์บาร์ซาร์ (GRAND BAZAAR) ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่สร้างใน สมัยกลาง ค.ศ. 15 เป็นตลาดค้าพรม และทองที่ใหญ่ที่สุดของตุรกี มีร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกีอย่างจุใจ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ Nusr-Et Steakhouse Sandal Bedesteni ของเชฟ Salt Bae ชื่อดัง

*ภาพเพื่อประกอบร้านอาหารเท่านั้น

มาทริปตุรกีทั้งที ต้องมีโอกาสได้มาทานร้านสเต็กของเชฟสัญชาติตรุกีคนดัง Saltbae ที่มีท่าโรยเกลือเป็นเอกลักษณ์ ปัจจุบันร้าน Nusr-Et Steakhouse นี้มีอยู่หลายเมืองในตุรกี และยังมีสาขาที่ New York, Miami, Doha, Dubai และ Mykonos ..พื้นที่ร้านกว้างขวาง และพนักงานจะมา​ entertain โดยมาแสดงท่า ​Saltbae ​โชว์​ อันนี้อย่าให้โชว์เยอะเพราะจะเค็มไป ..อร่อย และสนุกสนาน เต็มอิ่มแน่นอน

นำท่านเข้าที่พัก Golden Tulip Bayrampasa Istanbul หรือเทียบเท่า 5*

วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 (8) อิสตันบูล

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านแวะชม พระราชวังทอปกาปึ (TOPKAPI PALACE) ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิตภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเบิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร

พระราชวังทอปกาปึนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มารา ภายในพระราชวังประกอบด้วยตำหนักน้อยใหญ่ พลับพลา พระคลังมหาสมบัติ มัสยิดหอพัก โรงเรียน ฯลฯ ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่า อาทิ เช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านในแต่ละยุคสมัย และพลาดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปจากเฉลียงด้านบนของพระราชวัง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ Galata Tower

บ่าย พาท่านนำชมถนนแห่งแฟชั่น

************ อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย **************

สถานที่ / สินค้าแนะนำ

  • จัตุรัสทักซิม (TAKSIM SQUARE) ถือเป็นหัวใจสำคัญของความทันสมัยแห่งอิสตันบูล อนุสาวรีย์อิสรภาพซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของถนนคนเดิน ตลอดถนนเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด และบาร์ ซึ่งจะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งยามค่ำคืน ดวงตาปิศาจ (Evil Eye) ตาสีฟ้าของชาวตุรกี ตาสีฟ้า หรือที่นักท่องเที่ยวทั่วไปมักจะเรียกว่า BLUE EYES เป็นของที่ระลึกอย่างหนึ่งที่ใครมาเที่ยวตุรกีแล้ว มักจะหาซื้อกลับไปเป็นของฝาก ตาสีฟ้าที่จริงแล้วเป็น “เครื่องราง” อย่างหนึ่งของชาวตุรกีที่มักจะนิยมแขวนไว้ตามบ้านเรือนทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณ ทางเข้าบ้าน ความเชื่อที่ว่า ความประสงค์ร้ายสามารถส่งผ่านทางดวงตา ได้นำไปสู่การสร้างดวงตาเพื่อมาขับไล่ดวงตาแห่งความชั่วร้าย เพื่อขับไล่ดวงตาแห่งความอิจฉาริษยา เดิมทีดวงตาดังกล่าวนี้ทำด้วยดินเผาแล้วนำมาย้อมสี ต่อมาได้มีการนำเอาแก้วมาทำเป็นดวงตา ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยเมโสโปเตเมีย ในอนาโตเลีย ดวงตาสีฟ้านี้สามารถหาซื้อได้โดยทั่วประเทศตุรกี

17.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองอิสตันบูล

20.55 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพโดยเที่ยวบินที่ TK 64 (ใช้เวลาเดินทาง 9 ชม. 15 นาที)

วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566 (9) กรุงเทพฯ

10.10 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ และความประทับใจ

ตารางการบิน

วันที่เดินทาง

วันที่

ไฟล์

เส้นทาง

เวลา

เที่ยวบินขาไป

Fri 3 Mar 23

TK 65

กรุงเทพ (BKK) – อิสตันบูล (IST)

22:55 - 05:45 (10.5 hrs.)

Domestic 1

Sat 4 Mar 23

TK 2316

อิสตันบูล (IST) – อิสเมียร์ (ADB)

09:00 - 10:10 (1.10 hrs.)

Domestic 2

Wed 8 Mar 23

TK 2017

คัปปาโดเกีย (ASR) - อิสตันบูล (IST)

12:05 - 13:40 (1.35 hrs.)

เที่ยวบินขากลับ

Fri 10 Mar 23

TK 64

อิสตันบูล (IST) - กรุงเทพ (BKK)

20:55 - 10:10 (9.15 hrs.)

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP