เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ยุโรป

 รหัส : Z9928
เดินทางโดย : WY-โอมานแอร์
โรงแรม : 3 ดาว & 4 ดาว |  จำนวนวัน : 7 วัน 5 คืน
Germany - France - Swiss - Italy : จัตุรัสโรเมอร์ - ล่องเรือแม่น้ำไรน์ - ถ่ายภาพมหาวิหารโคโลญ - ปราสาทไฮเดลเบิร์ก - โบสถ์เซนต์มาร์ติน - สะพานไม้ชาเปล - แองเกิลเบิร์ก - ทิตลิส - โคโม่ - มหาวิหารมิลาน - อนุสาวรีย์พระเจ้าเอ็มมานูเอลที่ 2 - ห้างสรรพสินค้า Galleria Vittorio Emanuele Ll - Serravalle Outlet
เมนูพิเศษ ขาหมูเยอรมัน - โหลดน้ำหนักกระเป๋า 30 กก.

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แวะเปลี่ยนเครื่อง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต - แฟรงก์เฟิร์ต, เยอรมนี - จัตุรัสโรเมอร์ - ซังกอร์ - บ๊อบพาร์ต - ล่องเรือแม่น้ำไรน์ - โคโลญ - ถ่ายภาพมหาวิหารโคโลญ
ไฮเดลเบิร์ก - ปราสาทไฮเดลเบิร์ก - สตราสบูร์ก - จัตุรัสเกลแบร์ - อิสระช้อปปิ้ง
กอลมาร์ - โบสถ์เซนต์มาร์ติน - ลูเซิร์น - อนุเสาวรีย์สิงโต - สะพานไม้ชาเปล - แองเกิลเบิร์ก (อิสระอาหารค่ำ)
แองเกิลเบิร์ก - ทิตลิส - โคโม่ - มิลาน
มิลาน - จัตุรัสกลางเมือง - มหาวิหารมิลาน - อนุสาวรีย์พระเจ้าเอ็มมานูเอลที่ 2 - ห้างสรรพสินค้า Galleria Vittorio Emanuele Ll - Serravalle Outlet - สนามบินมิลาน (อิสระอาหารเที่ยง, อาหารค่ำ)
แวะเปลี่ยนเครื่อง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต - กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
ไม่รวม ค่าวีซ่าเชงเก้น และค่าบริการยื่นวีซ่า (ค่าวีซ่าโดยประมาณ 4,500-5,000 บาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนของสถานทูตกำหนด) - ค่าทิปคนขับรถ, มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 3,000 บาท ชำระที่สนามบินก่อนออกเดินทาง - ค่าทิปหัวหน้าทัวร์คนไทย ตามมาตรฐานการให้ทิปโดยปกติวันละ 100 บาท ต่อท่าน ต่อวัน - ค่าธรรมเนียมน้ำมัน และภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา - ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก - ค่าตรวจ RT-PCR TEST (ถ้ามี) - ค่าทำ Vaccine Passport หรือ ลงทะเบียน E-Vaccine Passport - ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทางระบบขนส่ง ตรงถึง Center แผนกวีซ่า - ค่าแปลเอกสารที่ต้องรับรอง เป็นภาษาอังกฤษ (ถ้ามี / ทางบริษัทไม่มีนโยบาลแปลเอกสารให้)
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

Germany France Swiss Italy 7 วัน 4 คืน

\n

เดินทางโดยสายการบิน Oman Air

\n

บริการด้วยเครื่องบินใหม่ ดรีมไลน์เนอร์ ที่นั่งกว้างให้ท่านสะดวกสบาย พร้อมบริการเครื่องดื่ม ตลอดการเดินทาง พร้อมระบบ Entertainment บนเครื่องด้วยจอส่วนตัวทุกที่นั่ง

\n

น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 30 กก.

\n

เมนูพิเศษ ขาหมูเยอรมนัน

\n

วันแรก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ -ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต

\n

17.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 6 เคาน์เตอร์ M สายการบิน OMAN AIR (WY) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง

\n

***เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน เนื่องจากการจัดที่นั่งบนเครื่องบินเป็นสิทธิ์ของทางเจ้าหน้าที่เช็คอิน ซึ่งทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้

\n\n

20.40 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY816 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) (เวลาประเทศโอมานช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง)

\n

23.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาที)

\n

วันที่สอง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต – แฟรงก์เฟิร์ต – จัตุรัสโรเมอร์- ซังกอร์ – บ๊อบพาร์ต

\n

ล่องเรือแม่น้ำไรน์ - โคโลญ – ถ่ายภาพมหาวิหารโคโลญ - / กลางวัน / เย็น

\n

02.00 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยสายการบิน OMAN AIR

\n

เที่ยวบินที่ WY115 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง)

\n

07.05 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นประเทศเยอรมันช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) พาท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากร หลังรับสัมภาระเรียบร้อย

\n

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐเฮ็สเซิน และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศเยอรมนี นำท่านถ่ายภาพ ณ จัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ที่สุด อีกทั้งด้านข้างยังมี ศาลาว่าการเมือง (The Romer) หรือ Frankfurt City Hall และ มหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral) โดยมีอีกชื่อนึงว่า “มหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิว” มหาวิหารแห่งนี้นับว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ที่มีความสูง 95 เมตร มหาวิหารแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นดั่งศูนย์รวมใจของคนในชาติเยอรมนี และนับเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ซังกอร์ (St.Goar) (ระยะทาง 118 กม./ 1.45 ชม.) เมืองนี้ตั้งอยู่ใจกลางช่องเขา Rhine Gorge ขึ้นชื่อเรื่องปราสาทโบราณ และไร่องุ่น ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำไรน์ทางด้านตะวันตก

\n

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! ขาหมูเยอรมัน

\n\n

นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำไรน์ ชมความสวยงามระหว่างเมืองซังกอร์ และเมือง บ๊อบพาร์ต (Boppard) คุณจะได้ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมที่สวยงาม วิจิตร ในช่วงยุคกลางประวัติศาสตร์ของเยอรมัน อิสระให้ท่านชมวิวทิวทัศน์ และเก็บภาพถ่ายระหว่างล่องเรือ (ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 1 ชม.) จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมือง โคโลญ (Cologne) (ระยะทาง 139 กม. / 2 ชม.) เมืองที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับที่สี่ของประเทศเยอรมนี รองจากเมือง เบอร์ลิน แฮมเบิร์ก และมิวนิค เป็นศูนย์กลางทางการค้า งานศิลปะและอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมออดิโคโลญ 4711 อันลือชื่อ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศในเขตลุ่มแม่น้ำไรน์ ทำให้มีสภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ และมักเกิดปัญหานำท่วมอยู่บ่อยครั้งในช่วงน้ำขึ้น ทำให้เมืองมีระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างจริงจัง ก่อสร้างกำแพงกั้นน้ำแบบถาวรไว้ที่บริเวรอาคารที่ใกล้ และติดกับแม่น้ำ นอกจากนี้ยังมีระบบคาดคะเนแจ้งเตือนระดับน้ำ และมีสถานีสูบน้ำเตรียมพร้อมไว้เสมอ นำท่านถ่ายภาพกับ มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นมหาวิหารที่ใหญ่และสูงในโลกในสมัยนั้น สร้างและตกแต่งด้วยสถาปตัยกรรมแบบกิก โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ความสูง 157.38 เมตรเป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองโคโลญคู่กับสะพานโฮเอินซอลเลิร์น ที่ทอดข้ามแม่น้ำไรน์ สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์ และพระแม่มารี ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานของหีบสามกษัตริย์อันล้ำค่า ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ รวมถึงเป็นแหล่งเก็บสะสมและจัดแสดงผลงานประติมากรรม โบราณวัตถุ และศิลปะเก่าแก่ทางศาสนา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1996

\n

เย็น รับประทานอาหารเย็น ภัตตาคาร

\n

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Mercure Hotel Kolen West หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

\n

วันที่สาม ไฮเดลเบิร์ก – ปราสาทไฮเดลเบิร์ก - สตราสบูร์ก – จัตุรัสเกลแบร์ - อิสระช้อปปิ้ง เช้า/กลางวัน /เย็น

\n

เช้า บริการอาหารเช้า ห้องอาหารของโรงแรม

\n

จากนั้นพาท่านเดินทางต่อไปยังเมือง ไฮเดลเบิร์ก หรือ ไฮเดลแบร์ก (Heidelberg) เมืองที่สุดแสนโรแมนติก ตั้งอยู่ในรัฐบาเดน-เวิร์ทเทมแบร์ก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมัน ถือเป็นเมืองที่เก่าแก่อายุกว่าพันปีและเป็นเมืองมรดกโลก UNESCO เนื่องจาก มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงาม ความสง่า ความสงบร่มรื่น ซึ่งในอดีตเมืองแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการศึกษาและเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเยอรมันอีกด้วย (ระยะทาง 252 กม./ 3.45 ชม.)

\n

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ภัตตาคาร

\n

นำท่านถ่ายภาพ ปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castel) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเชิงเขาเหนือแม่น้ำเน็กคาร์ ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทรรศน์ของเมืองได้โดยรอบ โดยตัวปราสาทสร้างด้วยหินทรายแดง ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมที่เห็นจึงมีหลากหลายตามยุค โดยเริ่มก่อสร้างจากยุคโกธิค ในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้ารูเพรชท์ที่ 3 ปราสาทได้รับความเสียหายในปี 1622 ซึ่งอยู่ในช่วงสงคราม 30 ปี และมาถูกเผาทำลายถึง 2 ครั้งในปี 1689 และ 1693 ในช่วงสงครามกับฝรั่งเศส ภายหลังต่อมาได้รับการบูรณะใหม่อีกครั้ง ภายในมี ประตูคืนเดียว (Elisabeth’s gate) สร้างขึ้นโดยคำสั่งของพระเจ้าเฟเดลิกเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดแด่พระมเหสีอลิซาเบธ ซึ่งสร้างเสร็จภายในคืนเดียว

\n

จากนั้นเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) หนึ่งในเมืองท่าริมแม่น้ำที่สำคัญของฝรั่งเศส และเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและการค้าขายด้วย (ระยะทาง 133 กม./ 2 ชม.) แวะเที่ยวชมบริเวณ จัตุรัสเกลแบร์ (Place Kleber) จัตุรัสใหญ่กลางเมืองที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเรียบร้อยแล้ว ในบริเวณจัตุรัสนี้นอกจากจะสวยด้วยอาคารต่างๆ ที่รายล้อมแล้ว ยังมากมายด้วยร้านค้าและซ็อปมากมาย ทำให้เป็นย่านการค้ายอดนิยมแห่งหนึ่ง อิสระให้ท่านเดินเล่น ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

\n

เย็น รับประทานอาหารเย็น ภัตตาคาร

\n

นำท่านเข้าสู่ที่พัก 7 Hotel & Spa หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

\n

วันที่สี่ กอลมาร์ – โบสถ์เซนต์มาร์ติน – ลูเซิร์น - อนุเสาวรีย์สิงโต - สะพานไม้ชาเปล - แองเกิลเบิร์ก เช้า / กลางวัน /-

\n

เช้า บริการอาหารเช้า ห้องอาหารของโรงแรม

\n

นำท่านเดินทางสู่ กอลมาร์ (Colmar) เมืองหลวงแคว้นอาลซัสทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ได้ชื่อว่าเป็น เมืองหลวงแห่งไวน์อาลซาเชียน นอกจากนี้ยังสวยงามและขึ้นชื่อในการเป็นเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี มากมายด้วยสถาปัตยกรรม แลนด์มาร์ก และพิพิธภัณฑ์มากมายให้เยี่ยมชม (ระยะทาง 68 กม./ 1 ชม.) พาท่านชมเมืองกอลมาร์ เมืองที่ได้ชื่อว่า ลิตเติ้ลเวนิส ด้วยเพราะสายน้ำมากมายที่ตัดผ่านตัวเมือง และอาคารต่างๆ ที่สร้างเลียบริมคลอง ทำให้ได้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับที่เวนิสนั่นเอง แม้จะเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่แต่น่าดึงดูดด้วยความเงียบสงบ และความสวยของอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในแบบของตัวเองที่เป็นแบบผสมผสานระหว่างสไตล์เยอรมันและฝรั่งเศส

\n

 แวะชมและถ่ายภาพ โบสถ์เซนต์มาร์ติน (St. Martin’s Church) โบสถ์หลักของเมืองกอลมาร์มาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 สวยและงดงามด้วยศิลปะการออกแบบสไตล์โกธิค โดดเด่นด้วยหอคอยที่สูงตระหง่านถึง 71 เมตร เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่พลาดไม่ได้ของเมืองกอลมาร์เลย

\n

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมือง ลูเซิร์น (Lucerne) เมืองเล็กๆ เกือบใจกลางประเทศที่ชวนอบอุ่น

\n

อยู่ริมฝั่ง ทะเลสาบลูเซิร์น” (Lake Lucerne) มองเห็นแนวเทือกเขาแอลป์เรียงสลับเป็นทิวสวยงามทุก

\n

ฤดูกาล และนอกจากทิวเขาแล้วลูเซิร์นยังมีป่าไม้ค่อนข้างหนาแน่นและทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ตามแนวเชิงเขา ความดีงามของลูเซิร์นคือเป็นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ของพื้นที่ไว้ได้อย่างดี แบ่งเขตชัดเจนระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ เที่ยวเขตไหนก็ประทับใจไปเสียหมด (ระยะทาง 68 กม./ 1 ชม.)

\n

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ภัตตาคาร

\n

นำท่านถ่ายภาพคู่กับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) สัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก และเป็นเกียรติแก่เหล่าทหารหาญชาวสวิสซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์นมากกว่า 700 คนที่ออกรบและเสียชีวิตในฝรั่งเศสเมื่อครั้งเกิดสงครามปฏิวัติยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งเป็นการเจาะเนื้อหินและแกะสลักขึ้นรูปเป็นประติมากรรมสิงโตตัวใหญ่สวยงามมากแม้จะมีใบหน้าโศกเศร้าดังที่ว่าก็ตาม และอีกจุดหนึ่งที่น่าชมมากในย่านนี้ก็คือ สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่ดูไม่เหมือนสะพานและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี ที่ว่าไม่เหมือนสะพานก็เพราะแวบแรกอาจดูคล้ายอาคารกลางน้ำ แต่จริงๆ แล้วสร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งแม่นํ้ารอยซ์

\n

** อิสระอาหารเย็น เพื่อสะดวกต่อการเดินเล่น และช้อปปิ้ง **

\n

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมือง แองเกิลเบิร์ก (Engleberg) เมืองรีสอร์ทบรรยากาศแสนดีท่ามกลางหุบเขาสูงสวยๆ ที่รายล้อม ที่เมืองแองเกิลเบิร์กนี้เองที่เป็นจุดขึ้นเคเบิ้ลคาร์ที่จะพาเราขึ้นไปยังภูเขาด้านบน เพื่อชมวิวของยอดเขาทิตลิส (Titlis)

\n

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Terrace หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

\n\n

วันที่ห้า แองเกิลเบิร์ก – ทิตลิส - โคโม่ – มิลาน เช้า / กลางวัน / เย็น

\n

เช้า บริการอาหารเช้า ห้องอาหารของโรงแรม

\n

นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาทิตลิส” (Titlis) โดย กระเช้าหมุนไฟฟ้า Rotair Titlis ที่หมุน ได้ 360 องศา ระหว่างชมวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ (The Alps) ที่มีความสวยงาม ยอดเขาทิตลิสมีความสูง 3,028 เมตร ถูกปกคลุมไปดว้ยหิมะตลอดทั้งปี เป็นยอดเขาที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสกี และทำกิจกรรมบนลานหิมะเป็นจำนวนมาก และบนยอดเขาท่านจะได้ชม ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier Grotto) ที่มีความยาวถึง 130 เมตร และมีความลึกที่สุดถึง 15 เมตร อิสระให้ท่านได้เก็บถาพความประทับใจบนยอดเขาตามอัธยาศัย

\n

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ภัตตาคารบนยอดเขา ** Panorama Restaurant**

\n

จากทิตลิสนั่งกระเช้ากลับลงมาที่เมืองแองเกิลเบิร์ก จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามไปยัง ประเทศอิตาลี โดยมีเป้าหมายที่ โคโม่ (Como) เมืองที่เพียบพร้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ทั้งเทือกเขาแอลป์สูง และทะเลสาบโคโม่ ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ยังไม่นับผลงานศิลปะชั้นเลิศมากมายทั่วเมือง โบสถ์เก่าแก่ โรงละคร และพิพิธภัณฑ์อีกมากมาย (ระยะทาง 204 กม./ 3 ชม.) นำท่านเดินเที่ยวชมเมืองโคโม่ ชมวิวสวยๆ ริมทะเลสาบโคโม่ ทะเลสาบมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของอิตาลี ด้วยพื้นที่กว้างถึง 146 ตารางกิโลเมตร และด้วยความลึกสูงสุดถึง 400 เมตร ทำให้เป็นหนึ่งเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดของทวีปยุโรปเลยทีเดียว

\n\n

จากนั้น มุ่งหน้าสู่ มิลาน (Milan) หนึ่งในเมืองหลักของประเทศอิตาลี เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการค้า ศิลปะ เศรษฐกิจ และการศึกษา และได้ชื่อว่าเป็น เมืองหลวงแห่งแฟชั่นและการออกแบบ (ระยะทาง 51 กม./ 45 ชม.)

\n\n

เย็น รับประทานอาหารเย็น ภัตตาคาร

\n

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Ibis Milana Fiera หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

\n\n

วันที่หก มิลาน - จัตุรัสกลางเมือง - มหาวิหารมิลาน – อนุสาวรีย์พระเจ้าเอ็มมานูเอลที่ 2 - ห้างสรรพสินค้า Galleria Vittorio Emanuele ll - SERRAVALLE OUTLET - สนามบินมิลาน เช้า / - / -

\n

เช้า บริการอาหารเช้า ห้องอาหารของโรงแรม

\n

พาท่านเที่ยวชมแลนด์มาร์กของเมืองมิลานจัตุรัสกลางเมือง (Piazza del Duomo) ที่จัตุรัสแห่งนี้โดดเด่นนั้นนอกจากจะเป็นศูนย์กลางเมืองแล้ว ก็ด้วยเพราะเป็นสถานที่ตั้งของ มหาวิหารมิลาน (Milan Cathedral) มหาวิหารประจำเมืองขนาดใหญ่แห่งนี้ เป็นวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิตาลีรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ตั้งอยู่ที่นครรัฐวาติกันเท่านั้น เด่นด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ตกแต่งด้านนอกด้วยยอดแหลมจำนวนมากถึง 135 ยอด ด้วยความสูง 157 เมตรและกว้างถึง 92 เมตร จึงได้ชื่อว่าเป็นมหาวิหารแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยรูปแกะสลักจากหินอ่อนจำนวนมากที่ประดับอยู่โดยรอบ **ไม่รวมค่าบัตรเข้าชมมหาวิหาร ประมาณ 5 ยูโร (EUR) หรือ ท่านละประมาณ 200 บาท** ที่บริเวณจัตุรัสแห่งนี้ยังมีสัญลักษณ์เด่นอยู่ นั่นก็คือ อนุสาวรีย์พระเจ้าเอ็มมานูเอลที่ 2 (Monument to Vittorio Emanuele II) อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1896 เพื่อเป็นเกียรติแด่พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ที่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์แรกของอิตาลีในปี 1861 เป็นรูปปั้นทรงม้าในอิริยาบถกำลังออกรบอยู่บนแท่นหินอ่อน อิสระช้อปปิ้งที่ Galleria Vittorio Emanuele II ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของมหาวิหารมิลาน เป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลี โดยสร้างขึ้นในปี 1877 มากมายด้วยร้านค้า ร้านอาหาร มากมายในอาคารขนาด 4 ชั้นสองข้างทางเดินกว้าง ที่โดดเด่นมากก็คือหลังคาทรงโดมเป็นกระจกใส ทำให้สามารถช้อปปิ้งได้ในทุกสภาพอากาศ

\n\n

**อิสระอาหารกลางวันและอาหารเย็นเพื่อให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายภาพ และเดินเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย**

\n

บ่าย นำทุกท่านช้อปปิ้งต่อที่ SERRAVALLE OUTLET ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆ อีกมากมาย ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินมิลาน เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

\n

22.05 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน OMAN AIR (WY) เที่ยวบินที่ WY144 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชม.)

\n

วันที่เจ็ด ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

\n

06.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง เพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาที)

\n

08.50 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดย สายการบิน OMAN AIR (WY) เที่ยวบินที่ WY815

\n

(ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 10 นาที) 

\n

18.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP