เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook
เดินทางโดย : HY-อุซเบกิสถาน แอร์เวย์
โรงแรม : 4 ดาว |  จำนวนวัน : 8 วัน 6 คืน
อุซเบกิสถาน - คีว่า : ทาซเค้นท์ - คีว่า - บูคาร่า - กิซห์ดูวาน - ซามาร์คานด์

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - สนามบินเมืองทาซเคนท์ - เมืองทาซเค้นท์ อุซเบกิสถาน - จัตุรัสอิสรภาพ - ผ่านชม อนุสาวรีย์และจัตุรัสอาเมียร์ ตีมูร์ - โรงเรียนสอนศาสนาคูเคลดาสห์ - สุเหร่าจูมา - สถานีรถไฟใต้ดิน
สนามบินเมืองทาซเคนท์ - บินภายในสู่ เมืองอูร์เก้นซ์ - เมืองคีว่า - ป้อมคุนยาอาร์ค - มัสยิดประจำเมืองมัสยิด จูมา - พระราชวังทัช คอบลี - โรงเรียนสอนศาสนาอัลลา คูลี ข่าน - ที่ฝังศพของคุทลุก มูราด อีนาค - ศูนย์การค้าอับอัล โบโด
เมืองบูคาร่า (มรดกโลก) - ไลอับบี เฮ้าซ์ - หอโพลิ คัลยาน
ป้อมดิอาร์ค - โบโล เค้าซ คอมเพล็ก - ที่ฝังพระศพของอีสมาอิล ซามานิดส์ - ที่ฝังศพของชัสห์มา อายุบ - โรงเรียนสอนศาสนา มิริ อาหรับ - ชมการแสดงของชนพื้นบ้านที่สวยงาม
พระราชวัง ซิโนราน โมคี โคซา - เมืองกิซห์ดูวาน - ชมการทำเครื่องปั้นดินเผา - เมืองซามาร์คานด์ - คาราวานซารายราบาติ มาลิค (มรดกโลก) - เมืองซามาร์คานด์ - Eternal City
จตุรัสเรจีสถาน - สุเหร่าบิบิ คะนุม - ตลาดกลาง - สถานที่ฝังศพกูริ อาเมียร์ - หอดูดาวอูลุก เบค - ชาห์ อิ ซินดา
เมืองทาซเค้นท์ - ตลาดคอร์ซู - ผ่านชมโรงละครอลิสเชอร์ นาวอย - สนามบินทาชเค้นท์
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
ไม่รวม ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น, คนขับรถฯ วันละ 5 USD ต่อท่าน ต่อวัน รวม 7 วัน คิดเป็น 35 USD - ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย วันละ 3 USD ต่อท่าน ต่อวัน รวม 8 วัน คิดเป็น 24 USD หรือขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน - ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (หากมีการปรับขึ้น)
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

อุซเบกิสถาน - คีว่า 8 วัน 6 คืน

ดินแดนแห่งพันหนึ่งทิวา...อาหรับราตรี

ทาซเค้นท์-คีว่า-บูคาร่า-กิซห์ดูวาน-ซามาร์คานด์

โดยสายการบินแห่งชาติ อุซเบกิสถาน แอร์ไลน์ (HY)

 

 

เอเซียกลาง/เอเซียไมเนอร์ เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ของโลกมาช้านาน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมยุคแรก ๆ ของโลก

อุซเบกิสถานในปัจจุบันนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน วัฒนธรรมอันหลากหลายได้หลั่งไหลเข้ามายังดินแดนแถบนี้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายพันปีมาแล้ว ซึ่งเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรมองโกล ได้รับเอาวัฒนธรรมฮินดูและอิสลาม ตลอดจนพุทธศาสนาจากอินเดีย และท้ายสุดยังเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโซเวียต อุซเบกิสถานจึงเป็นดินแดนที่ร่ำรวยมากด้วยวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การไปเยือน

รายละเอียดการบิน

วันเดินทาง

เมือง

CODE

เที่ยวบิน

เวลา

วันที่ 1

กรุงเทพฯ

ทาซเค้นท์

BKK – TAS

HY 532

08.10 - 13.10

วันที่ 2

ทาซเค้นท์

อูร์เก้นซ์

TAS - UGC

HY 051

08.00 – 09.30

วันที่ 7

ทาซเค้นท์

กรุงเทพฯ

TAS - BKK

HY 533

22.30 – 06.40+1

โปรแกรมการเดินทาง

วันที่แรก

กรุงเทพฯ ทาซเค้นท์

05.00 น.

พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 แถว Sเคาน์เตอร์สายการบิน อุซเบกิสถาน แอร์ไลน์ (HY) ประตูทางเข้าที่ 8-9 โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัท ฯ คอยให้การต้อนรับ ตรวจเอกสาร และสัมภาระ

08.10 น.

ออกเดินทางสู่ เมืองทาซเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน โดยเที่ยวบิน HY 532 (ใช้เวลาบินประมาณ 06.30 ชั่วโมง) (รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)

 

13.10 น.

เดินทางมาถึง สนามบินเมืองทาซเคนท์ ผ่านพิธีตรวจเอกสารคนเข้าเมืองและศุลกากร

 
 

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองทาซเค้นท์ (Tashkent) เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ทางทิศ ตะวันออกของประเทศ มีความหมายว่า เมืองแห่งศิลา (The City of Stone) เป็นเมืองที่ใหญ่ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมในเอเชียกลาง มีประชากรประมาณ 2 ล้านคนเป็นเมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล นำท่านไปชมความสวยงามของเมืองหลวง ซึ่งเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่ยังคงเหลืออยู่ หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1966 เมืองนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมจากจีนสู่ยุโรป และหลังจากการปฏิวัติเมืองนี้กลายเป็นเมืองที่มีความทันสมัยออกแบบในสไตล์ของโซเวียต

 
 

นำท่านชม จัตุรัสอิสรภาพ(Independence Square) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองของทาซเค้นท์ เริ่มมีการขึ้นในปี ค.ศ.1991 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมาของอุซเบกิสถาน มีพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินทองอันกว้างใหญ่มีคุณค่าในการเพาะปลูก ถึงแม้ว่าจะมีภูมิประเทศที่ไม่เหมือนที่ใดในโลกนี้ และยังเป็นสัญลักษณ์ของดินแดนแห่งใหม่ที่เป็นส่วนร่วมของชุมชนบนโลกใบนี้

 

ผ่านชม อนุสาวรีย์และจัตุรัสอาเมียร์ ตีมูร์ (Amir Timur Monument and Square) เป็นบริเวณที่สวยงามเต็มไปด้วยร่มเงาของต้นไม้และล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ที่มีสีสันสุดที่จะบรรยาย สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นอนุสาวรีย์ของรัฐบุรุษของชาติที่เป็นผู้ก่อสร้างอาณาจักรแห่งนี้ขึ้นมา ในสมัยของจักรวรรดิตีมูริด นอกจากนั้น บริเวณนี้ยังถูกล้อมรอบไปด้วยตึกต่างๆ ซึ่งถูกสร้างสมัยต่างๆในระยะเวลา 300 ปี

 

นำท่านชม โรงเรียนสอนศาสนาคูเคลดาสห์ (Kukeldash Madrassah) เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคของศตวรรษที่ 16 โดยข้าหลวงคูเคลดาสห์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจและยังเป็นพี่น้องร่วมแม่นมกับบารัค ข่าน ผู้ปกครองแห่งเมืองทาซเค้นท์ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสของการค้าขายของพวกที่เป็นกองคาราวาน และได้เป็นศูนย์กลางของชีวิตผู้คนในเมืองนี้ เป็นศูนย์กลางของพวกที่ใช้ฝีมือในการทำงาน เป็นศูนย์กลางการประกาศแจ้งข่าวของเจ้าเมือง เป็นศูนย์รวมแหล่งข่าวและข่าวลือ ที่สำคัญที่สุดเป็นสถานที่ที่ประหารชีวิตคนด้วย

 

นำท่านชม สุเหร่าจูมา (Juma Mosque) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า สุเหร่าของซาร์ (Tsar’s Mosque) สุเหร่าแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1451 โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเชคห์ อูเบย์ดุลลา โคจา อาคห์เรอร์ (Sheikh Ubaydulla Khoja Akhror) ผู้เป็นมหาบุรุษแห่งลัทธิซูฟี ที่สืบสกุลมาจากผู้เผยแพร่ศาสนามุคฮามัด ต่อมาในศตวรรษที่ 19 ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงและได้ทำลายสิ่งก่อสร้างเสียหายไปมากมาย แต่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยคำสั่งของจักรพรรดิของรัสเซีย อะเล็กซานเดอร์ที่ 3 ผู้ที่ได้แบ่งเงินจากคลังสมบัติของพระองค์เอง นำมาเป็นค่าก่อสร้างให้มีรูปลักษณ์สุเหร่าที่เป็นแบบดั้งเดิมทุกอย่าง จนกระทั่งในเวลานั้นสุเหร่านี้ได้ถูกเรียกว่า สุเหร่าของซาร์ แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1997 ก็ได้พังลงมาอีก และก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ให้เป็นสุเหร่าอันดับที่สามของประเทศฯ รองมาจากบีบีคานุมที่ซามาร์คาน และหอคาลยานที่บูคาร่า

 

นำท่านไปชม สถานีรถไฟใต้ดิน (The Tashkent Metro) เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยตามรูปแบบที่สมบูรณ์ ที่เด่นชัด คือ สวยงาม ยั่งยืนทนทาน และใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด รถไฟใต้ดินนี้ได้ถูกออกแบบและก่อสร้างขึ้นมาภายหลังจากที่ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในปี ค.ศ.1966 ทำให้เมืองทาซเค้นท์ได้รับความเสียหาย และสิ่งต่างๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยให้กับการก่อสร้างและต้องพร้อมที่รับมือกับการเกิดแผ่นดินไหว การก่อสร้างสถานีรถไฟใต้ดินจึงถูกสร้างไม่ให้มีความลึกมากนัก และผู้โดยสารก็สามารถเดินลงบันไดไปได้ด้วยความสะดวกสบาย

 

19.30 น.

รับประทานอาหารค่ำ ที่ภัตตาคาร

 

พักที่

CITY PALACE HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า

ทาซเค้นท์

วันที่สอง

ทาซเค้นท์ – อูร์เก้นซ์ - คีว่า

06.00 น.

นำท่านเดินทางไปสนามบิน เพื่อขึ้นเครื่องไปเมืองอูร์เก้นซ์ (รับประทานอาหารเช้าแบบกล่อง)

08.00 น.

ออกเดินทางจากทาซเค้นท์ สู่ เมืองอูร์เก้นช์ โดยเที่ยวบินที่ HY-051

 

09.30 น.

เดินทางมาถึงสนามบินอูร์เก้นช์

 
 

นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองคีว่า ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของอาณาจักรโบราณคาวาเรซม

 

12.00 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

 
 

 จากนั้น นำท่านชม เมืองคีว่า (Khiva) ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นเมืองที่มีโดมนับพันโดม (The City of a Thousand Domes) มีสถานท่องเที่ยวที่สำคัญตั้งอยู่ในกำแพงเมืองเก่า ที่เรียกว่า อินชานคาล่า (Ichankala) ในพื้นที่ประมาณ 165 ไร่ กำแพงดินยาวกว่า 2 กม. ความสูงประมาณ 10 ม. ภายในป้อมปราการจะประกอบไปด้วยสถานที่ต่างๆ พระราชวัง โรงเรียนสอนศาสนา สุเหร่าที่ยิ่งใหญ่ มีหอคอยสูง ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีสันที่สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1990 ให้ท่านได้ชมรูปแบบและศิลปะในการก่อสร้าง ที่บ่งบอกถึงความคิดของคนในสมัยนั้นที่มีความสามารถและความละเอียดอ่อน นอกจากนั้นความสวยงามแบบศิลปะ อิสลามของกระเบื้องทุกแผ่นที่ใช้ในการตกแต่งภายนอกและภายใน สถานที่แห่งนี้ได้ถูกสร้างโดยอิสลาม โคจา (Islam Khoja) ผู้มีบทบาทในการดูแลและเผยแผ่ศาสนาสร้างสุเหร่ามัสยิด โรงเรียน และยังมีหอคอยมินาเรต์ที่สูงที่สุดประมาณ 57 เมตร นอกจากนั้น เขายังได้สร้างพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในเมืองนี้อีกด้วย

 

นำท่านไปชม ป้อมคุนยาอาร์ค (Kunya Ark Fortress) ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของอิชานคาล่า ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งและยังมี โรงเรียนสอนศาสนาของมูฮัมหมัด อามินข่าน (Muhammad Aminkhan Madrassah) ที่มีหอคอยหลายแห่งและสวยงาม ชม โรงเรียนสอนศาสนาราฟาเนค มาดราสซาห์ (Rafanek Madrassah) โมฮัมเมด ราคิม ข่าน (Mohammed Rakim Khan) และโรงเรียนสอนศาสนาที่มีความเก่าแก่ อาเมียร์ ตูร์ (AmirTur) และชมที่ฝังศพของโชอี คาลันดา โบโด (Sho I Kalandar Bodo Mausoleum)

 

ชม มัสยิดประจำเมืองมัสยิด จูมา (DJuma Mosque) สร้างในศตวรรษที่ 18 เป็นมัสยิดหนึ่งที่มีการออกแบบที่แตกต่างจากมัสยิดอื่นซึ่งอยู่ในเมืองคีว่า ตัวมัสยิดเป็นแบบชั้นเดียวมีพื้นที่ประมาณ 2500 ตรม. ประกอบไปด้วยเสาไม้ 215 ต้น จะมีการแกะสลักเสาก่อนจะนำมาสร้างมัสยิด และจากลวดลายการแกะสลักที่เสา เป็นลวดลายแกะสลักแบบอินเดีย แกะสลักด้วยภาษาคูฟิก เสาบางต้นก็แกะสลักเป็นรูปดอกไม้เลื้อย ฯ

 

ชม พระราชวังทัช คอบลี (Tash Khovli /Stone Yard Palace) เป็นพระราชวังฤดูร้อน ที่มีรูปแบบในการก่อสร้างอย่างสวยงามอีกเช่นกัน และมีรูปแบบการใช้งาน และการจัดสรรการใช้งานของห้องต่างๆ ชม ห้องรับแขก ชมห้องนางสนม ชมพระตำหนักของกษัตริย์ ซึ่งมีลวดลายในการตกแต่งอย่าง สวยงาม

 

ชม โรงเรียนสอนศาสนาอัลลา คูลี ข่าน (Alla-Kuli-Khan Madrasah) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 19 ที่มีความสวยงามมากที่สุดในเรื่องการตบแต่ง และโรงเรียนสอนศาสนาอาหรับ โมฮัมเมด ข่าน (Arab Mohamed Khan) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของโรงเรียนสอนศาสนามู ฮัมหมัด อามิน ข่าน ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับโรงเรียนสอนศาสนาที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน แต่จะมีรูปร่างและโครงสร้างในการสร้างที่แตกต่างกัน การตกแต่งด้วยกระเบื้องที่มีสีสันอันเป็นที่ตื่นตาและสวยงาม

 
 

ชม ที่ฝังศพของคุทลุก มูราด อีนาค ( Kutluq-Murad-Inaq Mausoleum) และที่ฝังศพของพาห์ราวาน มัคหมูด ( Pakhlavan Makhmud) ที่ถูกสร้างเป็นโดมสีฟ้าเพียงแห่งเดียวเท่านั้นในคีว่า ชมสถานที่สำคัญในอีกหลายแห่ง เช่น ที่ฝังศพของอุช อวิโอลี (Uch Avlioli Mausoleum) หรือที่เรียกว่า สามนักบุญ (Three Saints)

 

ชม ศูนย์รวมแหล่งช๊อปปิ้งพาลวานคารี (Palvankari Complex) ศูนย์การค้าอับอัล โบโด (Abd al Bodo Complex ) ที่เป็นศูนย์กลางค้าขายของคาราวาน ซึ่งในช่วง ศตวรรษที่ 18 กองคาราวานได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่หยุดพักหลังจากเดินทางมาแรมไกลจากเอเชียไปทางด้านตะวันตกและก็กลับมา และยังเป็นจุดที่มีการแลก เปลี่ยนสินค้าต่างๆ อีกด้วย

19.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

 

พักที่

ERKIN PALACE HOTEL ASIA KHIVA โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า

คีว่า

วันที่สาม

คีว่า– บูคาร่า

06.30 น.

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

 

07.00 น.

ออกเดินทางสู่ เมืองบูคาร่า ระยะทางประมาณ 453 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชม. เมืองบูคาร่า(Bukhara) เป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดบูคาร่า ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ในอดีตเป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขา สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาในฤดูใบไม้ผลิ และยังเป็นเมืองที่กำเนิดงานเขียนของผู้ที่นับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ เป็นที่อยู่ของบุคคลสำคัญ มีสุเหร่า อนุสาวรีย์ อนุสรณ์สถาน โรงเรียนสอนศาสนา ฯ และยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองในเทพนิยาย และที่สำคัญเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าขายที่มีชื่อว่า เส้นทางสายไหม และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1993

 

14.00 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

 

16.00 น.

นำท่านชม ไลอับบี เฮ้าซ์ (Lyab i Hauz) เป็นสถานที่สำหรับสอนศาสนาที่ตั้งอยู่บริเวณริมสระน้ำที่ให้ความร่มรื่นกับผู้ที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1620 และบริเวณมุมรอบๆ สระจะมีต้นมัลเบอร์รี่ (ต้นหม่อน) ที่ได้ปลูกเอาไว้หลายร้อยปี ที่เหลืออีก 3 ด้านของสระน้ำจะประกอบไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนา คูเคลดาสช (Kukeldash) ที่ถูกสร้างขึ้นทางด้านเหนือในปี ค.ศ. 1568-1569 และอีกสองด้านที่เหลือทางด้านตะวันตกจะถูกสร้างเป็นตำหนักสำหรับเป็นบ้านพัก คือ คานาค่า (Khanaka) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1620 และสำหรับด้านตะวันออกจะเป็นสถานที่สำหรับสอนศาสนา คือ นาเดียร์ ดีวาน เบกี (Nadir Divan Begi Madrasah) ที่ถูกสร้างขึ้นในในปี ค.ศ.1622

 

นำท่านชม หอโพลิ คัลยาน(Poli Kalyan Ensemble and Minanet) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1127 โดย อาสลาน ข่าน แห่งราชวงศ์คารานิด อยู่ในการปกครองของบูคาร่า และสามารถทำให้ผู้พบเห็นต้องตกตะลึงถึงความโอ่อ่างดงาม รูปร่างของหอนี้ส่วนที่สูงที่สุดเป็นทรงกลม หอนี้ได้ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการเรียกประชุมชาวมุสลิมเพื่อมาทำละหมาด หอคอยแห่งนี้ได้ถูกซ่อมแซมขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 15 เพราะว่าเกิดการทรุดตัวเนื่องจากพื้นดินอ่อนนิ่มเกินไป

19.00 น.

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

 

พักที่

HOTEL ASIA BUKHARA โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า

บูคาร่า

วันที่สี่

บูคาร่า – กิซห์ดูวาน - ซามาร์คานด์

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

 
 

นำท่านชม ป้อมดิอาร์ค (The Ark Fortress) ซึ่งเป็นป้อมเก่าแก่สร้างในศตวรรษที่ 5 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเมื่อขึ้นไปด้านบนของป้อมจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างชัดเจน และกล่าวกันว่าครั้งหนึ่งในอดีต มีผู้อาศัยอยู่ในป้อมแห่งนี้ถึง 3,000 คน ตัวป้อมสามารถใช้เป็นเกาะกำบังสำหรับป้องกันศัตรูที่จะเข้ามารุกราน ป้อมแห่งนี้มีเนื้อทีกว้างใหญ่ประมาณ 25 ไร่ มีกำแพงล้อมรอบมีความยาวประมาณ 800 เมตร ส่วนของกำแพงมีความสูงถึง 16-20 เมตร ถูกสร้างด้วยอิฐหนาทึบและสูงใหญ่ ส่วนประตูมีซุ้มโค้งและหอคอยทั้งสองด้าน ซึ่งในอดีตภายในถูกใช้เป็นศูนย์กลางการปกครอง

 

นำท่านไปชม โบโล เค้าซ คอมเพล็ก (Bolo Khauz Complex ) เป็นอาคารสุเหร่าในสมัยกลาง ถูกสร้างขึ้นไปปี ค.ศ.1712-1713 รูปแบบในการก่อสร้างประกอบไปด้วยเสาไม้ที่มีความสูงมาก อาคารด้านหน้ามีเสาไม้ประดับมากกว่า 20 ต้นรองรับดาดฟ้าหลังคา ต่อมาในปี ค.ศ.1917 ก็ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสุเหร่าอย่างเป็นทางการมาจนถึงปัจจุบันนี้

 

นำท่านชม ที่ฝังพระศพของอีสมาอิล ซามานิดส์ (Ismail Samanids Mausoleum) ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าบริเวณสวนสาธารณะซามานี สร้างโดย กษัตริย์ซามานิดส์ ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ได้เคยปกครองอยู่ที่นครนี้ ในสมัยของอาณาจักรเปอร์เซียที่รุ่งเรืองที่ปกครองเอเซียกลาง ที่ฝังศพนี้สร้างในปี ค.ศ. 892 และสำเร็จในปี ค.ศ. 943 ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม

 

นำท่านชม ที่ฝังศพของชัสห์มา อายุบ (Chashma Ayub) ซึ่งเป็นนักบุญที่เคยเดินทางมาที่เมืองนี้ และมีบ่อน้ำซึ่งเชื่อกันว่านักบุญอายุบ ใช้ไม้เท้าเนรมิตบ่อน้ำนี้เพื่อเป็นน้ำที่รักษาโรคได้

13.00 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ที่ภัตตาคาร

 
 

นำท่านชม โรงเรียนสอนศาสนา มิริ อาหรับ (Miri Arab Madrassah) เอเมียร์ อาลิม ข่าน (Amir Alim Khan) ที่ถูกสร้างอยู่ในบริเวณเดียวกันกับสุเหร่าคัลยาน ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ในสมัยของราชวงศ์ไซบานิค ชื่อสถานที่แห่งนี้ได้ถูกตั้งตามชื่อของครูที่มาสอน มิริ อาหรับ ซึ่งมีความหมายว่า เจ้าแห่งอาหรับ

นำท่านเลือกซื้อสินค้าที่โดมอันยิ่งใหญ่มาก คือ ทากิ (Taqi Trading Domes) มีอยู่ 3 ส่วน คือ ทากิ ซาร์การอน(Taqi Zargaron) ซึ่งเป็นโดมที่พวกอินเดียทำการค้าขายและแลกเงินตรา ทากิ ซาร์ราฟอน (Taqi Sarrafon) เป็นโดมที่ค้าขายเกี่ยวกับสิ่งมีค่า อัญมณีต่างๆ และ ทากิ เทลปัก ฟูรูโช่น (Taqi Telpak Furushon) เป็นโดมที่ค้าขายของที่เป็นสินค้า สำหรับทั่วๆไป รวมทั้งของที่ระลึก เช่น ชาหอม หมวกขนแกะ พรม ผ้าที่เย็บด้วยมือ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

19.30 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร พร้อมกับชม การแสดงของชนพื้นบ้านที่สวยงาม

 

พักที่

HOTEL ASIA BUKHARA โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า

บูคาร่า

วันที่ห้า

บูคาร่า – กิซห์ดูวาน - ซามาร์คานด์

07.30 น.

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

08.30 น.

นำท่านชม พระราชวัง ซิโนราน โมคี โคซา (Sitoran Mokhi-Khosa Palace) ซึ่งเป็นของข่าน อาเมียร์ อักคาด (Amir Akhadkhan ) ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 19 เป็นการผสมผสาน ระหว่างศิลปะตะวันตกกับศิลปะร่วมสมัย โดยการส่งช่างสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ไปยังเมืองเซ้นต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อศึกษาดูงานการก่อสร้างที่สวยที่สุด

 
 

นำท่านออกเดินทางไป เมืองกิซห์ดูวาน (Gizhduvan City) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียง เหนือ ระยะทางห่างประมาณ 40 กม.

 
 

เมืองกิซห์ดูวาน เป็นหมู่บ้านที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 10 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในการปกครองของราชวงศ์ซามานิด นักโบราณคดีได้มีการขุดค้นและพบว่าในบริเวณนี้ได้มีการอยู่อาศัย และตั้งหลักแหล่งก่อนที่พวกอาหรับจะเข้ามายึดครอง และในราวศตวรรษที่ 16 กิซห์ดูวานได้กลายเป็นเมืองหน้าด่านในการป้องกันต่อสู้กับศัตรู และในปี ค.ศ.1972 ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบูคาร่า

ในอดีตกิซห์ดูวานเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม ที่พ่อค้ากองคาราวานที่จะเดินทางไปยังอินเดียและจะกลับไปจีน จะตัองมาหยุดพักค้างแรมที่แห่งนี้ จนทำให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงและเป็นศูนย์กลางของการค้าขาย และสิ่งที่สำคัญ คือ เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในการทำเครื่องปั้นดินเผา ทำถ้วยชาม เครื่องใช้ต่างๆ และพวกเซรามิคส์ ซึ่งสิ่งของส่วนใหญ่ได้รับความชื่นชอบและความนิยมจากชาวอุซเบค และผู้คนในบริเวณเอเชียกลางเกือบทุกประเทศ

 

นำท่านไป ชมการทำเครื่องปั้นดินเผา ได้มีการเริ่มมาจากบ้านในครอบครัวของสองพีน้องอับดุลลาห์ นาร์ และอลิสเชอร์ ซูลลาเอฟ (Abdullah and Alisher Narzullaev) ซึ่งมีชื่อเสียงไปยังทั่วโลก ในการทำเครื่องปั้นต้องใช้ความสามารถที่ได้ถูกถ่ายทอดต่อมาหลายรุ่นซึ่งใช้เวลานานประมาณ 60 ปีเล้ว จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก และจากรุ่นลูกสู่ยังหลาน ที่ยังคงเก็บรักษาฝีมือในการทำเครื่องปั้น เซรามิคส์ ให้เป็นที่มีความสวยงาม และยังไว้ให้ดีที่สุดในอุซเบกิสถาน 

12.00 น.

รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร ในหมู่บ้านทำเซรามิค

 
 

ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย เลือกชมและซื้อสินค้าที่ท่านชื่นชอบ

 
 

นำท่านออกเดินทางไป เมืองซามาร์คานด์ (Samarkand) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 140 กม.

 
 

ระหว่างทางให้ท่านได้ชม คาราวานซารายราบาติ มาลิค (Rabati Malik Caravanserai) ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่พักแรมของกองคาราวานบนเส้นทางสายไหม ตามคำสั่งของคาราคานิด ชามส์ อัล มัค นาสร์ บุตรชายของทัมกาชข่าน อิบรากิม ผู้ที่ปกครองในดินแดนซามาร์คานด์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1068-1088 เป็นโบราณสถานที่มีค่าที่สุดทางด้านประวัติศาสตร์ในดินแดนแห่งตะวันออกกลาง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 2008

ราบาติ มาลิค เป็นสถานที่ที่มีความพิเศษในด้านประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมของเปอร์เซียโบราณมีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 8,277 ตร.เมตร โดยเฉพาะประตูทางเข้าด้านหน้าได้ถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรและมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลวด

ลายของส่วนโค้งที่ถูกก่อขึ้นด้วยก้อนอิฐที่มีขนาดใหญ่ แต่ละก้อนที่วัดได้ คือ ขนาด 25x25x4 ซม. และขอบประตูยังถูกตกแต่งด้วยรูปดาวแปดเหลี่ยมที่ต่อกันอย่างสวยงามไปยังส่วนด้านบนของประตู และต่อลงมาทางด้านล่างของอีกด้านหนึ่ง

 

ได้เวลาพอสมควร นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองซามาร์คานด์

 
 

เมืองซามาร์คานด์ (Samarkand)เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดเมือง หนึ่งในเอเชียกลาง ตั้งอยู่ในโอเอซิส ซึ่งได้รับน้ำมาจากคลองที่ขุดมาจากแม่น้ำซารัฟชาน อเล็กซานเดอร์ มหาราชได้ผ่านมาเมืองนี้ เพื่อที่จะเดินทางไปยังอินเดีย จึงได้ยึดครองเอาไว้ ต่อจากนั้น ก็เป็นพวกเติร์ก พวกอาหรับและพวกเปอร์เซียก็ได้เข้ามาปกครองต่อๆกันมา เมืองนี้ได้มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในยุคกลาง และในปี ค.ศ.1215 เจงกิส ข่านได้แผ่อาณาจักรเข้ามาควบคุมเส้นทางสายไหม และเข้ายึดเมืองนี้ในปี ค.ศ. 1221 และอีกประมาณร้อยปีต่อมา เมืองนี้ก็เหลือแต่ซากปรักหักพัง และจากนั้นตีมูร์ ข่านก็ได้สร้างอาณาจักรแห่งนี้ให้มีความเจริญขึ้นมา ซึ่งเมืองนี้ได้รับสมญานามว่า เมืองแห่งโดมสีฟ้า (The City of Blue Domes) ในประวัติศาสตร์ ถ้านับย้อนหลังไปหลายร้อยปี และยังได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งนิยาย 1001 อาหรับราตรี (1001 Arabian Nights) และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกใน ปีค.ศ. 2001

 

จากนั้น นำท่านเยี่ยมชม Eternal City สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ บนพื้นที่ 11 เฮกตาร์ เป็นเมืองโบราณจำลองที่ได้สร้างขึ้นจากประวัติศาสตร์และประเพณีของดินแดนอุซเบกิสถานอย่างถูกต้อง ประกอบด้วยร้านค้ามากมายของศิลปิน และช่างฝีมือ นอกจากนี้ท่านสามารถลิ้มลองอาหารประจำชาติจากยุคและภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ และยังได้ชมการแสดงตามท้องถนนขนานแท้อีกด้วย

20.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

 

พักที่

HOTEL ALEKSANDR โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว

ซามาร์คานด์

วันที่หก

ซามาร์คานด์

07.30 น.

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

 

08.30 น.

นำท่านชม จตุรัสเรจีสถาน( Registan Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่งดงามไปด้วยศิลปะอิสลาม ซึ่งถูกกล่าวขานว่ามีความงดงามที่สุดในเอเชียกลาง ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้าตัดขอบด้วยสีเหลือง รายล้อมไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนา (Madrasah) ถึง 3 แห่ง คือ อูลุค เบก (Ulug Beg) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1417-1420 และ เชียร์ ดอร์ (Shir Dor) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1619-1636 โดยเลียนแบบมาจากอูลุค เบค ผนังกำแพงมีลวดลายรูปทรงเลขาคณิต และซุ้มประตูมีรูปเสือลายพาดกลอน ที่แตกต่างไปจากสถาปัตยกรรมทั่วๆไปของศาสนาอิสลาม

ส่วน ทิลยา คารี (Tilya Kari) ถูกสร้างขึ้นอยู่ทางด้านเหนือ ในศตวรรษที่ 17 และใช้เวลาสร้างประมาณ 20 ปี ซึ่งผนังและซุ้มในกำแพงมีการปิดทองมากกว่าที่อื่นใด

 

ชม สุเหร่าบิบิ คะนุม (Bibi Khanum Mosque) เป็นสุเหร่าที่ถูกสร้างขึ้นมาและใหญ่ที่สุดในโลกอิสลาม เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่สามารถปกครองดินแดนได้มากกว่าใครในประวัติศาสตร์ ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1399 ใช้เวลาก่อสร้างนาน 5 ปี ใช้ช่างฝีมือ 200 คน แรงงาน 500 คน ช้างอีก 95 เชือก ด้านประตูทางเข้าสร้างเป็นอาคารสูงประมาณ 35 เมตร ทางเข้าสร้างเป็นรูปวงรี สูง 18 เมตร ตัวหอบัง สูงประมาณ 50 เมตร ตรงทางเข้าสู่จัตุรัสมัสยิดมีขนาดพื้นที่ยาวประมาณ 167 เมตร และกว้าง 109 เมตร และสองข้างยังมีมัสยิด ขนาดเล็ก โดยเฉพาะตัวโดมได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนแกะสลักโมเสครูปร่างต่างๆ เคลือบด้วยสีฟ้างดงาม เขียนภาพและอักษรด้วยน้ำเงินและทอง และที่หน้าสุเหร่ายังมีแท่นซึ่งเดิมวางคัมภีร์อัลกุรอ่านที่ใหญ่ถึง 2 เมตร

 

นำท่านไปเดินชม ตลาดกลาง (Central Market/Siyab Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียง มีความประหลาดที่น่าทึ่ง และเป็นหนึ่งเดียวของซามาร์คาน ที่ผู้คนยังคงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เป็นวัฒนธรรมของชาวอุซเบก และสวมหมวกที่สวยงาม

อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่บาซาร์ ซึ่งมีสินค้าต่างๆมากมายที่ราคาถูก และสวยงามเช่น ผลไม้สด พืชผักต่างๆ ขนมหวาน องุ่นแห้งที่มีทั้งสีเหลืองและดำ

12.00 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

 
 

นำท่านชม สถานที่ฝังศพกูริ อาเมียร์ (Gure Amir Mausoleum) ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่ฝังศพของสุลต่าน มูฮัมหมัด (Sultan Muhammad) ซึ่งเป็นหลานรักที่เสียชีวิตในเปอร์เซีย สร้างขึ้นโดย ข่าน ตีมูร์ในปี ค.ศ. 1403 มีประตูทางเข้าก่ออิฐถือปูนตั้งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าซุ้มโค้ง มีโดมสีฟ้าผิวลอนกระดูกงู สูงประมาณ 36 เมตร ผนังห้องและเพดานโค้ง ภายในประดับด้วยกระเบื้องอิฐเผาลงด้วยลายสีทอง สีอำพัน สีฟ้าน้ำทะเล แต่ก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ. 1380 อาเมียร์ ตีมูร์ได้โปรดให้สร้างที่ฝังศพของพระองค์เตรียมไว้ก่อนที่บ้านเกิด คือ เมืองชาห์ริซาบซ์ แต่ในระหว่างที่ได้ยกทัพไปบุกจีน ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อปี ค.ศ. 1405 จึงได้นำพระศพเดินทางกลับมาภายใน 24 ชม. เพื่อฝังตามหลักศาสนา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทันเวลา จึงได้ฝังไว้ที่ กูริ อาเมียร์ และต่อมาก็ได้ใช้เป็นสุสานของผู้ปกครองนครซามาร์คานด์หลายพระองค์ สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก

 

จากนั้นชม หอดูดาวอูลุก เบค (Ulug Beg Observatory) เป็นสถานที่เก็บอุปกรณ์ที่ใช้ดูดาว สร้างโดย ข่านอูลุข เบค ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะทางดาราศาสตร์ของท่าน ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1428-1429 เป็นอาคาร 3 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร มีด้านบนยอดคล้ายกับโดม สถานที่แห่งนี้แสดงถึงเรื่องราวทางดาราศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ดูดาวของท่านข่าน ที่ท่านเคยคำนวณรอบปีผิดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่ท่านเสียชีวิต สถานที่แห่งนี้ได้รับความเสียหายจากพวกขโมยและพวกคลั่งศาสนา แต่ชั้นล่างมิได้ถูกทำลาย และต่อมาได้รับการซ่อมแซมขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1929

 

นำท่านชม ชาห์ อิ ซินดา (Shah i Zinda Complex) ซึ่งมีความหมายว่า เป็นที่อยู่ของกษัตริย์ (The Living King /Necropolis) เป็นสถานที่รวมสุสานขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา อัฟราซิยาบ (Afrasiyab) นอกกำแพงเมืองเก่า ใช้เป็นที่ฝังศพมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9-14 และเป็นความคิดของข่าน ตีมูร์ที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของที่ฝังศพของบุคคลที่มีชื่อเสียง มีอาคารหลายยุคหลายสมัยมากกว่า 20 แห่งให้ศึกษารวมทั้งกระเบื้องเคลือบโบราณที่สวยงามมาก

 

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

 

พักที่

HOTEL ALEKSANDR โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว

ซามาร์คานด์

วันทิ่เจ็ด

ซามาร์คานด์-ทาชเค้นท์-กรุงเทพฯ

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

 
 

จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองทาซเค้นท์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)

 

13.00 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

 

บ่าย

นำท่านไปชม ตลาดคอร์ซู (Chorsu Bazaar) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นตลาดที่ยิ่งใหญ่ในเอเชียกลางและบนเส้นทางสายไหม ที่อยู่ภายใต้โดม 7 โดม ซึ่งได้ถูกแบ่งเป็นแหล่งสินค้าต่างๆจากพ่อค้า เกษตรกรที่ขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ สัมผัสกับบรรยากาศแบบย้อนยุคอย่างที่เป็นในสมัยโบราณ แต่ได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ให้ท่านได้พักผ่อน และสนุกกับการซื้อสินค้าในตลาดบาซาร์ที่มีผ้าแพรพรรณ พรม เครื่องทองเหลือง ผ้าขนสัตว์ เครื่องหนัง และสินค้าพื้นเมืองมากมาย 

 

ผ่านชม โรงละครอลิสเชอร์ นาวอย (Alisher Navoi Opera and Ballet Theatre ) เป็นอนุสรณ์สถานที่มีชื่อเสียง และเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งของอุซเบกิสถาน เพื่อระลึกถึงนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่มีผลงานทางด้านการประพันธ์ ศิลปะ และดนตรี และที่สำคัญยังมีบทบาททางด้านการเมืองด้วย ถูกออกแบบสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1947 โดยสถาปนิกชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียงอยู่ในกรุงมอสโคว์ ชื่อ อเล็กเซย์ ชูเซฟ (Aleksey Shchusev) ซึ่งเคยเป็นผู้ออกแบบที่ฝังศพของเลนิน มาก่อน และต่อมาได้ถูกสร้างจนเสร็จเรียบร้อยในกลางศตวรรษที่ 20 โดยใช้แรงงานชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งถูกจับเป็นเชลยศึกในสมัยของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในโรงละครแห่งนี้มี 6 ห้องโถง ซึ่งแต่ละห้องได้ถูกสร้างขึ้นตามวัฒนธรรมของเมืองต่างๆ และได้ตั้งชื่อตามเมืองนั้นๆ เช่น ห้องทาซเค้นท์ ห้องบูคาร่า ห้องโคเรซม ห้องซามาร์คานด์ ห้องเฟอร์กาน่า และห้องเทอร์เมซ

 

18.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

 

19.00 น.

ออกเดินทางสู่สนามบินทาชเค้นท์

22.30 น.

ออกเดินทางจากทาซเค้นท์ สู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ HY 532

วันทิ่แปด

กรุงเทพฯ

06.40 น.

เดินทางมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ/กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 

*** ราคา และโปรแกรมทัวร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของเงินบาทที่ไม่คงที่ /การเปลี่ยนแปลงเวลาของสายการบิน / สภาวะทางอากาศซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ทางบริษัทฯ จะยึดถือผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ ***

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP