เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ตุรกี

 รหัส : A00268
เดินทางโดย : TK-เตอร์กิช แอร์ไลน์
โรงแรม :  |  จำนวนวัน : 10 วัน 7 คืน
บินตรงอิสตันบูลให้หายคิดถึง
- เข้าชมพระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) - ม้าไม้จำลองเมืองทรอย (Troy Wooden House) - เมืองโบราณเอฟฟิซุส (EPHESUS) - นครใต้ดิน (UNDERGROUND CITY) - เมืองเฮียราโพลิส HIERAPOLIS - ปราสาทปุยฝ้าย ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้น - เพอกามัม(Pergamon) ขึ้นกระเช้าเข้าสู่อาณาจักรโบราณตั้งบนหุบเขา
เดินทาง :
รายการนี้ยังไม่มีพีเรียดเดินทาง
Download PDF

วันที่1 กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)

20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบิน TURKISH (TK) AIRLINES พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

23.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตัลบูล ประเทศตุรกี โดยสายบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK69 (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 10.20 ชั่วโมง) บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อนบนเครื่อง

วันที่2 ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตัลบูล - เมืองชานัคคาเล่ – ม้าโทรจัน – แหล่งโบราณคดีทรอย IRIS HOTEL

06.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตัลบูล ประเทศตุรกี

07.15 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล่ (CANAKKALE) (4.30 ชั่วโมง ระยะทาง 281 กิโลเมตร) ชานัคคาเล่ เป็นเมืองท่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของตุรกี มีดินแดนอยู่ในยุโรป และเอเชียเช่นเดียวกับอิสตันบูล เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 1  เพราะที่ชานัคคาเล่นี้ทหารสัมพันธมิตรได้ยกพลขึ้นบก และทำการรบในสงครามกาลิโปลี (Gallipoli) หรือ กัลป์ลิโปลีโดยในทุกๆ ปีจะมีการจัดงานรำลึกให้กับผู้เสียชีวิตในวัน ANZAC Day ทุกวันที่ 25 เมษายน ทุกปี ในสงครามโลกครั้งที่1 ตุรกีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่กลับชนะในสงครามกัลป์ลิโปลี จนทำให้นายพล มุสตาฟา เคมาล ปาชา (Mustafa Kemal Pasha) กลายเป็นมหาวีรบุรุษสำคัญของชาติ ซึ่งต่อมา มุสตาฟา เคมาล ปาชา ก็คือ อตาเติร์ก บิดาแห่งชาติตุรกี

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำทุกท่านแวะถ่ายรูปกับ ม้าโทรจัน หรือม้าไม้เมืองทอยจำลอง ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ชานัคคาเล่ ม้าไม้เมืองทรอยตามเรื่องเล่านั้นเกิดจากการต่อสู้ระหว่างกองทัพกรีก และกรุงทรอย ต่อสู้กันนานนับสิบปี กองทัพกรีกจึงคิดแผนการที่จะตีกรุงทรอยโดยการ สร้างม้าไม้โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในซอกต่างๆ ของม้า และเข็นไปไว้หน้าเมืองทรอยชาวเมืองทรอยเห็นก็นึกว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพยอมแพ้ไป และมอบม้าไม้จำลองเป็นของขวัญ จึงเข็นเข้าไปไว้ในเมือง ตกกลางคืนชาวทรอยนอน หลับหมดทหารที่ซ่อนอยู่ในม้าก็ออกมาเปิดประตูให้กองทัพกรีกเข้ามาทำการยึด และเผากรุงทรอยจนย่อยยับ

และเดินทางต่อไปที่ แหล่งโบราณคดีทรอย(Archaeological site of Troy) ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกีซึ่งตั้งแต่สมัยโบราณได้รับการระบุโดยหลายคนว่าเป็นทรอยที่กล่าวถึงในตำนาน สงครามทรอยเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และไซต์ในตุรกีตะวันตกเฉียงเหนือนั้นคือเมืองทรอยคนเดียวกันหรือไม่ ยังคงเป็นประเด็นถกเถียง ชื่อตุรกีสมัยใหม่สำหรับไซต์คือ Hisarlik

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เข้าสู่ที่พัก IRIS HOTEL *4 Star* หรือเทียบเท่า

วันที่3 เมืองเพอร์กามอน - เมืองคูซาดาซึ – เมืองโบราณเอฟิซุส - MARINA HOTEL KUSADASI

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเพอร์กามอน (Bergama) (3.30 ชั่วโมง ระยะทาง 211 กิโลเมตร) และนำท่านขึ้นกระเช้าสู่เมืองเพอร์กามอน (ในกรณีที่ลมแรงขออนุญาติเปลี่ยนการเดินทางเป็นรถเล็กแทนกระเช้าไฟฟ้า) มหานครยุคเฮลเลนิสติค (Hellenistic civilization) อันยิ่งใหญ่ เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม การค้า และการแพทย์ มีความเจริญถึงขีดสุดเทียบเท่ากับเมืองในแถบเมดิเตอร์เรเนียนอย่างเอเฟซุส และอันติออค เพอร์กามอนตั้งอยู่ในบริเวณอนาโตเลีย เขตจังหวัดอิซเมียร์ (Izmir) ห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.

ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส มีสถานที่ที่สำคัญก็คือ วิหารอะโครโปลิส (Acrop-olis) ซึ่งในสมัยนั้นมักเลือกสร้างสถานที่สำคัญอย่างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ วิหารบูชาเทพเจ้า พระราชวังและพื้นที่ใช้งานสาหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงไว้บนที่สูง เป็นเนินเขา ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นหน้าผาชัน รายล้อมด้วยป้อมปราการ ขณะที่ชาวเมืองคนธรรมดาทั่วไปจะอยู่ส่วนด้านล่าง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย เดินทางไปยังเมืองคูซาดาซี (Kusadasi) เข้าชมเมืองโบราณเอฟิซุส (Ephesus) เป็นเมืองกรีกโบราณที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของอานาโตเลียในจังหวัดอิซมีร์ในประเทศตุรกีปัจจุบัน เอฟิซัสเป็นหนึ่งในสิบสองเมืองของสหพันธ์ไอโอเนีย (Ionian League) ในสมัยกรีกคลาสสิก ในสมัยโรมันเอฟิซัสเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นสองของจักรวรรดิโรมันรองจากโรมที่เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิอยู่เป็นเวลานาน เอฟิซัสมีประชากรกว่า 250,000 คนในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราชซึ่งเท่ากับทำให้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นสองของโลกในยุคนั้นด้วย

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เข้าสู่ที่พัก MARINA HOTEL KUSADASI *4 Star* หรือเทียบเท่า

วันที่4 เมืองปามุกคาเล่ – เมืองโบราณเฮียราโปลิส – เนโครโปลิส - PAM THERMAL HOTEL

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุกคาเล่ (PAMUKKALE) 3 ชั่วโมง ระยะทาง 189 กม.

ปามุคคาเล่ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นตลอดทั้งปีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และฤดูใบ้ไม้ผลิ เพราะจะเป็นช่วงที่น้ำจะเต็มทุกบ่อ   และอากาศไม่ร้อน หรือหนาวจนเกินไปจึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวปามุคคาเล่ที่สุด

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม เมืองโบราณเฮียราโปลิส (HIERAPOLIS) เฮียราโปลิส มีความหมายว่า เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สันนิษฐานกันว่าเมืองนี้มีอายุกว่า 2,200 ปี ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ประมาณ 133 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 2 (Eumenes II) แห่งอาณาจักรเพอร์กามอน (Pergamon) บริเวณทางเข้าของเฮียราโพลิส คือสุสานของบุคคลสำคัญในสมัยโบราณจำนวนมาก

พื้นที่บริเวณนี้เรียกว่า เนโครโปลิส (NECROPOLIS) ภายในมีซากของสิ่งก่อสร้างต่างๆจากยุคโบราณอยู่ภายในเมืองโบราณ เฮียราโพลิสมีทั้งโรงละครโรมัน (Roman Theatre) ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 2 สร้างโดยการสกัดเข้าไปในไหล่เขาเพื่อทำเป็นอัฒจันทร์สำหรับให้คนนั่งชมการแสดง การแข่งขัน และมีใช้สำหรับจัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ โรงละครโบราณนี้คนได้มากถึง ประมาณ 12,000 คน

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก PAM THERMAL HOTEL *5 Star* หรือเทียบเท่า

วันที่5 เมืองคัปปาโดเกีย –คาราวานซาราย - หุบเขาพาซาแบค – หุบเขานกพิราบ – USHISAR KAYA HOTEL

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA)  8ชั่วโมง ระยะทาง 650  กม.

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านแวะถ่ายรูปที่ คาราวานซาราย (CARAVANSERAI)

เป็นที่พักแรมและที่แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน ตั้งอยู่ในเส้นทางไปเมืองคอนย่า Konya อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูค ในช่วงปี ค.ศ. 1071 – 1308 เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคตอนกลางของตุรกี คาราวานซารายมีขนาดใหญ่ที่สุดในอนาโตเลียชื่อว่า Sultan Han สร้างโดยกษัตริย์เซลจุก อาเลดดิน เดยูะบาทที่ 1 ในปี 1772 สร้างบนพื้นที่ 6,120 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยลานกว้าง ห้องนอน ห้องครัว ห้องอาบน้ำ ห้องเสบียง ห้องสวดมน (Kioak Masjit) ห้องนวดเตอร์กิซบาธ ห้องทำขนมปัง คอกม้า ภายในให้ความรู้สึกเหมือนปราสาทที่ตกแต่งสวยงามแข็งแรง

นำท่านเข้าชม หุบเขาหุบเขาพาซาแบค (PASABAG VILLAEY) เป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่มีปล่องไฟนางฟ้าซึ่งงอกมาจากพื้นดินกลางไร่องุ่นราวกับเห็ดยักษ์ เฉพาะหินที่ก่อตัวอย่างน่าอัศจรรย์นี้ก็ควรค่าแก่การชมมากพอแล้ว แต่ภูมิภาคอันไม่ธรรมดาซึ่งมีภูมิประเทศคล้ายดาวอังคารแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าเรียนรู้และไร่องุ่นที่ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจขึ้นไปอีก เข้าร่วมทัวร์ที่มีไกด์ซึ่งจะพาชมดินแดนเหมือนฝันและเรียนรู้เกี่ยวกับผู้วิเศษที่มาพักอาศัยในปล่องไฟนางฟ้าแห่งนี้

จากนั้นนำท่านเข้าชม หุบเขานกพิราบ (PIGEON VALLEY) หุบเขานกพิราบอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย จากจุดนี้ นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (Uchisar Castle) ได้จากระยะไกล

ที่นี่เต็มไปด้วยนกพิราบมากมายที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ โดยที่จุดชมวิวจะมีอาหารนกพิราบขายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้ออาหารเลี้ยงนก บริเวณริมผาซึ่งเป็นจุดชมวิวที่หุบเขานกพิราบมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น ด้วยเรื่องของความเชื่อกับผู้คนนั้นเป็นของคู่กันมาเนิ่นนาน เช่นกันกับดินแดนแถบนี้ที่มีความเชื่อเรื่องนัยน์ตาปิศาจ โดยเชื่อกันว่าบุคคลพิเศษบางคนมีดวงตาชั่วร้ายที่สามารถจ้องเพื่อทำอันตรายผู้อื่นได้ ซึ่งสิ่งที่จะช่วงปกป้องภัยร้ายจากดวงตาปิศาจนี้ก็คือดวงตาสีฟ้า

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก USHISAR KAYA HOTEL *4 Star* หรือเทียบเท่า

วันที่6 นครใต้ดิน – พิพิธภัณฑ์เกอราม่า – ระบำ Belly dance - USHISAR KAYA HOTEL

  • สำหรับท่านที่ให้ความสนใจในการขึ้นบอลลูนชมความสวยงามคัปปาโดเกีย จะต้องเดินทางออกจากโรงแรมประมาณ 05.00 น โดยจะมีรถท้องถิ่นพร้อมไกด์ นำท่านไปขึ้นบอลลูน เพื่อชมความสวยงามในมุมที่หาชมได้ยากใช้เวลาอยู่บนบอลลูน 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขึ้นบอลลูนจะอยู่ที่ 250 ดอลล่าร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล
  • โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์จะไม่รวมอยู่ในการขึ้นบอลลูนและเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดิน เมืองนี้ขยายตัวและลึกซึ้งขึ้นอย่างมากในยุคโรมันตะวันออก (ไบแซนไทน์)เมื่อถูกใช้เพื่อป้องกันการบุกรุกของชาว อาหรับมุสลิมในช่วงสี่ศตวรรษของสงครามอาหรับ-ไบแซนไทน์ เมืองเชื่อมต่อกับเมืองใต้ดิน Derinkuyuผ่านอุโมงค์หลายไมล์ สิ่งประดิษฐ์บางอย่างที่ค้นพบในการตั้งถิ่นฐานใต้ดินเหล่านี้เป็นของยุคไบแซนไทน์กลาง ระหว่างศตวรรษที่ 5 ถึงศตวรรษที่ 10 เมืองเหล่านี้ยังคงถูกใช้โดยชาวคริสเตียนเพื่อปกป้องจากการรุกรานของTimurของมองโกเลียในศตวรรษที่ 14

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (GOREME OPEN AIR MUSEUM) ซึ่งองค์กรยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้ ให้เป็นมรดกโลก ซึ่งเป็น ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของ ชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านชมการแสดงพื้นเมือง ระบำหน้าท้อง (Belly Dance) เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6,000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เร-เนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่นสวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน

นำท่านเข้าสู่ที่พัก USHISAR KAYA HOTEL *4 Star* หรือเทียบเท่า

วันที่7 อังการา - ทะเลสาบเกลือ – สุสานอะตาเติร์ก - มัสยิดโคจาเท็ป - THE ANKARA HOTEL

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองอังการา (4 ชั่วโมง ระยะทาง 331 กิโลเมตร) เป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี อังการาเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล ตั้งอยู่ในจังหวัดอังการา มีประชากรประมาณ 3.9 ล้านคน

อังการาตั้งอยู่บริเวณกลางคาบสมุทรอานาโตเลีย จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจ  และอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรกี และเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ อังการายังเป็นศูนย์กลางของทางหลวง และเส้นทางรถไฟทำให้เป็นศูนย์กลางของการค้าขาย สินค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองคือผลิตภัณฑ์จากขนโมแฮร์ที่ได้จากแพะอังโกราขนอังโกราที่ได้จากกระต่ายอังโกรา แมวอังโกรา ลูกแพร์ น้ำผึ้ง และองุ่นท้องถิ่น

นำทุกท่านแวะถ่ายรูป ทะเลสาบเกลือ (LAKE TUZ) ทะเลสาบเกลือแห่งนี้ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศตุรกี ซึ่งสาเหตุที่มีน้ำทะเลเป็นสีแดงก็เพราะว่า แท้จริงแล้วมันคือสีของสาหร่าย Dunaliellam salina นั่นเอง ในช่วงหน้าฝนก็จะมีน้ำอยู่ในทะเลสาบมองเห็นเป็นเงาสะท้อน แต่เมื่อหน้าร้อนมาถึงน้ำจะเหือดแห้งเหลือแต่เพียงเกลือกองเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซนติเมตร มองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดลูกหูลูกตา และที่ทะเลสาบเกลือแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง Star War อีกด้วย

นำท่านเข้าชม สุสานอะตาเติร์ก (ATATURK MAUSOLEUM) ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ Emin Onat โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างฮิตไทต์ และอนาโต-เลียโบราณ ภายในมีโลงศพ (แต่ไม่ได้บรรจุศพไว้) ของ มุสตาฟา เคมาล อะตาเติร์ก ประธานาธิบดีคนแรก และรัฐบุรุษ รวมทั้งเป็นบุคคลอันเป็นที่เคารพรักอย่างสูงสุดของชาวตุรกี สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งทางรัฐบาลได้กำหนดให้แขกทางการทูตทุกคนต้องมาเคารพสุสาน และลงชื่อเยี่ยมคารวะในสมุดอนุสรณ์เป็นการให้เกียรติด้วย สุสานอะตาเติร์กคือหนึ่งในสถานที่ The Must to See ของเมืองอังการา เป็นสถาปัตยกรรมตุรกีสมัยใหม่ เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเฉลิมฉลอง และการเกิดสาธารณรัฐ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม มัสยิดโคจาเท็ป (KOCATEPE MOSQUE) หนึ่งในสถานที่เที่ยวขึ้นชื่อ และเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดของกรุงอังการา ประเทศตุรกี เป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมออตโตมันยุคเก่า และใหม่เข้าด้วยกัน เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1967 สร้างเสร็จปี 1987 ในสมัย สุลต่านอาห์เมตที่ 1 เมห์เมต อาอา (Mehmet) สถาปนิกผู้สร้างสรรค์มัสยิดแห่งนี้ ต้องการแสดงให้โลกรู้ว่าเขามีความสามารถเหนืออาจารย์ และสถาปนิกที่ออกแบบวิหารเซนต์โซเฟีย จึงบรรจงออกแบบจนอลังการ

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เข้าสู่ที่พัก THE ANKARA HOTEL *4 Star* หรือเทียบเท่า

วันที่ 8 อังการา - อิสตันบูล – พระราชวังโดลมาบาห์เช – ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส – สไปซ์บาซาร์ – GOLDEN WAY HOTEL

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) (5 ชั่วโมง ระยะทาง 443 กิโลเมตร) เมืองที่มีความสำคัญที่สุด และเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในตุรกี ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์เป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูล มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ไบแซนเทียม คอนสแตนติโนเปิล นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดใน ประเทศตุรกี เป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาห์เช (DOLMABAHCE PALACE) สร้างโดยสุลต่านอับดุลเมซิดในปี 2399 ใช้เวลาสร้างถึง 30 ปี สร้างด้วยหินอ่อนศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มารา ในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป

จุดเด่นของวังแห่งนี้คือมีการประดับตกแต่งด้วยความประณีตวิจิตรตระการตา มีทั้งเฟอร์นิเจอร์พรม โคมไฟ เครื่องแก้วเจียระใน และรูปเขียนรูปถ่ายต่างๆ ที่มีชื่อเสียงมาก ได้แก่ โคมไฟแชนเดอเลียร์ ของขวัญจากอังกฤษทำจากแก้วคริสตัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหนักถึง 5,000 กิโลกรัม ประดับดวงไฟ 750 ดวง พรมทอมือผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสาหินอ่อนบันไดทางขึ้นห้องโถง ตรงราวทำด้วยไม้วอลนัต ลูกกรงราวบันไดทำด้วยแก้วคริสตัล พรมชั้นเลิศราคาแพงที่สุดในโลก เครื่องแก้วเจียระไนจากโบฮีเมียที่ดีที่สุดในโลก ของสาธารณรัฐเช็ก หินอ่อนจากอียิปต์มาทำ ห้องอาบน้ำ (ซาวน่า)

นำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส จุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับทะเลดำเข้ากับทะเลมาร์มาร่า แล้วยังมีจุดชมวิวที่สำคัญ คือสะพานแขวนบอสฟอรัส เป็นสะพานที่ทำขึ้นเพื่อให้รถยนต์สามารถวิ่งข้ามฝั่งยุโรป และเอเชียได้ เป็นสะพานแขวนที่มีความยาวถึง 1,560 เมตร นอกจากนั้นระหว่างล่องเรือสามารถมองเห็นสถานที่สำคัญเช่น พระราชวังโดลมาบาห์เช และบ้านเรือนของเศรษฐีตุรกี ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำตลอดความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร โดยมีความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร

นำท่านเดินทางสู่ย่านช้อปปิ้ง สไปซ์บาซาร์ (SPICE BAZAAR) หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากคุณภาพดีได้ในราคาย่อมเยาไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชา กาแฟ ผลไม้อบแห้ง หรือเตอกิสดีไลท์ สินค้าอันเลื่องชื่อของตุรกีซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก GOLDEN WAY HOTEL *4 Star* หรือเทียบเท่า

  • ในกรณีที่โรงแรมสไตล์ถ้ำเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการจัดโรงแรมระดับเทียบเท่าให้โดยที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • มีเจ้าหน้าที มาตรวจ RT-PCR ให้ที่โรงแรมเพื่อออกเอกสารสำหรับเช็คอินขากลับประเทศ ไทย ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่รวมอยู๋ในค่าทัวร์มีค่าใช้จ่ายประมาณ 35 USD

วันที่ 9 สุเหร่าสีน้ำเงิน – ฮิปโปโดรม - โบสถ์ฮาเจียโซเฟีย - พระราชวังโทพคาปี – หอคอยกาลาตา ย่านทักซิมสแควร์ – ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

  • คำแนะนำ โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า
    • การเข้าชมสุเหร่า จำเป็นต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพ และต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม
    • สุภาพสตรี : ควรสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ
    • สุภาพบุรุษ : ควรสวมกางเกงขายาว และเสื้อแขนยาวไม่รัดรูป

นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอะห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิไบแซนไทน์ให้ได้ โดยสุเหร่านี้สร้างใกล้กับ โบสถ์เซนต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซนต์โซเฟีย ก็ยังเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกี

จากนั้นนำท่านเข้าชม ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) คือสิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (Chariot Racing) โดยคำว่า ฮิปโปส และโดรโมส ปัจจุบันถูกนำไปใช้ในภาษาฝรั่งเศสด้วย หมายถึง การแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอส-โคว์ (Central Moscow Hippodrome) ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพังของ ฮิปโปโดรมของกรุงคอนสแตนติโนเปิลในอดีต ปัจจุบันเหลือเพียง เสา 3 ต้น คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) เสาต้นที่ 2 คือ เสางู เป็นรูปสลักงู 3 ตัวพันกัน จากเมือง เดลฟี (Delphi) แล้วถูกขนย้ายมาตั้งที่นี่เมื่อ ศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งต้น และเสาต้นสุดท้ายคือ เสา อิยิปต์ หรือเสาโอเบลิส (Obelisk of- Thutmose)

จากนั้นนำทุกท่านเข้าชม โบสถ์ฮาเจียโซเฟีย (HAGIA SOPHIA) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ พระเจ้าจักรพรรดิคอนสแตนติน เป็นผู้สร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายหลายครั้ง เพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม จวบจนถึงรัชสมัยของพระเจ้าจัสตินเนียน โดยสร้างโบสถ์ฮาเจียโซเฟียขึ้นใหม่โดยใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี

เมื่อประมาณปี ค.ศ 1435 พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุด ได้พยายามหาสิ่งของมีค่าต่างๆ มาประดับไว้มากมาย หลังจากสร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลอง กันอย่างมโหฬาร ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจน เรียบร้อยในสภาพเดิม เมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสตินเนียนถึงสมัยพระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม จึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าของชาวอิสลาม

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม พระราชวังโทพคาปี (TOPKAPI PALACE) พระราชวังโทพคาปึ เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูลในประเทศตุรกี เดิมเป็นที่ประทับหลักของสุลต่าน แห่งจักรวรรดิออตโตมันเป็นเวลราว 400 ในช่วง 600 ปีที่มีอำนาจ จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 

ในปัจจุบันพระราชวังโทพคาปึเป็นสถานที่จัดงานรับรองของรัฐ และเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว และเป็นที่เก็บรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมุสลิม เช่นเสื้อคลุม และดาบของมุฮัม-มัด และตั้งอยู่ในบริเวณประวัติศาสตร์ของอิสตันบูลที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติในปี ค.ศ. 1985 หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมันในปี ค.ศ. 1921 พระราชวังโทพคาปิ ก็เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ตามรัฐประกาศของวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1924 ภายใต้การบริหารของกระทรวงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวแห่งตุรกี

นำท่านแวะถ่ายรูป หอคอยกาลาตา (GALATA TOWER) หรือบางทีเรียกว่า Christea Turris ซึ่งแปลว่า หอคอยแห่งพระคริสต์ในภาษาละติน เป็นหอคอยหินยุคกลางในเขตกาลาตา-คาราค็อย (Galata – Karaköy) ของนครอีสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญที่โดดเด่นที่สุดของเมือง เนื่องจากลักษณะทรงกระบอกสูง ของหอคอยที่โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้า ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงาม ของคาบสมุทร และบริเวณโดยรอบของเมืองอีสตันบูล นอกจากนี้ตลอดแนวถนน ยังเต็มไปด้วยอาคาร และร้านค้า ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ที่สวยงามและแปลกตาอีกด้วย

นำท่านช๊อปปิ้ง ย่านทักซิมสแควร์ (TAKSIM SQUARE) เป็นย่านคึกคักที่สุดในมหานครอิสตันบลู และเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และถือเป็นหัวใจของเมืองอิสตันบูลสมัยใหม่ ตั้งอยู่ในเขตยุโรปของนครอิสตันบูล

เย็น รับประทานอาหารอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

21.00 น.  นำทุกท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล ประเทศตุรกี

วันที่10 กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)

01.55 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK68

15.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

เดินทางโดย Turkish Airlines (TK)
หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP