เชจู - ปูซาน - โพฮัง 5 วัน 3 คืน
โดยสายการบิน JEJU AIR (บินเข้าเชจู, บินกลับปูซาน)
ทัวร์คุณภาพไม่แน่นอน เมื่อชำระยอดเต็มแล้ว ไม่สามารถยกเลิก, เปลี่ยนวันเดินทาง ทุกกรณี
ไม่รวม ค่าบริการ (Service Charge) 1,500 บาท - ค่าลงทะเบียน K-ETA
ค่าปรับ หรือค่าธรรมเนียม หากไม่สามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง - ชาวต่างชาติมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 3,000.-
โปร 1 แถม 1 จองด่วน จำนวนจำกัด
พักเชจู 2 คืน - ปูซาน 1 คืน











 
Non Refund
❌เมื่อชำระแล้ว ไม่สามารถยกเลิกได้ทุกกรณี
❌เมื่อชำระแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
❌K-ETA ไม่ผ่านไม่สามารถยกเลิกได้ เปลี่ยนคนเดินทางได้ แจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วันทำการก่อนเดินทาง
❌ไม่มีหัวหน้าทัวร์ไทย มีไกด์ท้องถิ่นรอรับที่เกาหลี นำเที่ยวตามรายการ
กองตรวจคนเข้าเมืองเกาหลี ขอความร่วมมือในการคัดกรอง ผู้มีจุดประสงค์แอบแฝงมาเป็นนักท่องเที่ยว แต่กลับหลบหนีด้วยจุดประสงค์อื่น เช่น ค้าแรงงานผิดกฎหมาย จึงมีการสุ่มตรวจ และเก็บเงินประกันการเดินทาง ว่าผู้เดินทางต้องไปท่องเที่ยวพร้อมคณะ และเดินทางกลับประเทศไทย พร้อมคณะเท่านั้น เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท หรือ 400,000 วอน หากผู้เดินทางไป-กลับถูกต้องตามเงื่อนไข จะได้รับเงินประกันคืนเต็มจำนวนหลังจากเดินทางกลับไทยประมาณ 15 วันทำการ
แต่หากผู้เดินทางผิดต่อเงื่อนไข หรือไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ทั้งไทย-เกาหลี จะถูกริบเงินประกันเต็มจำนวน ไม่สามารถเรียกร้องคืนได้ทุกกรณี

หากผู้เดินทางไม่ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ บริษัทไม่มีอำนาจใดๆ หรือส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ผู้เดินทางต้องจัดการเอกสารส่วนตัว เที่ยวบิน และค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นเองทั้งหมด และขอสงวนสิทธิไม่คืนเงินประกันทุกกรณี


คำแนะนำ : ก่อนจอง และชำระค่าเดินทาง โปรดศึกษาเงื่อนไขการจอง และการยกเลิก
ทัวร์อย่างละเอียด เพื่อรักษาสิทธิ์ในการเดินทางของท่าน


โปรแกรมการเดินทาง
ชายหาดอีโฮเทอู - วัดยักชอนซา - คามิลเลีย ฮิลล์ - สวนส้มไร้เมล็ด - ไร่ชาเขียวโอซุลล็อค
ศูนย์น้ำมันสนเข็มแดง - ภูเขาไฟซองซาน อิลจุลบง - ชายหาดโขดหิน ควังชีกี - หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ - ชายหาดวอลจองรี
ตลาดชองฮา - คลีนิคทันตกรรมหมอยุน - สเปซ วอล์ค สะพานอวกาศ โพฮัง - วัดแฮดง ยงกุงซา - ชายหาดแฮอุนแด
ตลาดแฮอุนแดไนท์มาร์เก็ต - ศูนย์แสดงชุดเครื่องนอนSESA LIVING - รถรางแคปซูลบลูไลน์แฮอุนแด - ศูนย์เครื่องสำอาง -
ล็อตเต้ดิวตี้ฟรีปูซาน - ตลาดวอล์คกิ้งสตรีทนัมโพดง - ตลาดปลาจากัลชิ - หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน


จุดนัดพบแรกสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นสนามบินนานาชาติประจำประเทศไทย เวลานัดหมาย : 22:00-23.00(ขอสงวนสิทธิ์ สายการบิน เวลาบิน เที่ยวบิน เส้นทางบิน เปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบวล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับผู้จัดทำตามความเหมาะสม)เที่ยวบินออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา : 02.25-03.30 เที่ยวบิน : 7C2244 สายการบินเจจูแอร์ JEJU AIR ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6ชั่วโมง






พาท่านเดินทางถึงสนามบินเชจูอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์พอร์ต หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าที่สายพาน ออกมาพบกับผู้นำทัวร์เพื่อทำการยืนยันตัวตนการเข้าร่วมทัวร์ และเตรียมตัวบริเวณจุดนัดพบเพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกัน

รับประทานอาหารกลางวัน เมนูขึ้นชื่อประจำเกาะเชจู Jeon Bok Juk หรือโจ๊กหอยเป๋าฮื้อ ที่โด่งดังแบบใครที่มาเที่ยวเชจูต้องลองมาลิ้มรสให้ได้ และที่สำคัญนอกจากความอร่อยของตัวข้าวโจ๊กที่ถูกปรุงเป็นพิเศษแล้ว ยังมีหอยเป๋าฮื้อจากท้องทะเลเกาะเชจู มาเป็นชิ้นพอดีคำแบบน่ารับประทานมากๆ เมนูนี้บอกเลยว่านอกจากอร่อยแล้วยังได้ประโยชน์ เพิ่มกำลังวังชาอีกด้วย


พาท่านท่องเที่ยวชายหาดขึ้นชื่อบนเกาะเชจู \"อีโฮเทอู\" นอกจากความสวยงามของท้องทะเล คาเฟ่น่ารักๆต่างๆแล้ว ยังมีสัญลักษณ์ที่มองลงมาจากเครื่องบินจะเห็นทันทีที่ถึงเกาะเชจู นั่นก็คือประภาคารรูปม้าสีขาว และสีแดง ม้าถือว่าเป็นสัตว์ประจำเกาะเชจู และใครๆที่มาเที่ยวก็นิยมมาถ่ายรูปและเช็คอินกันที่นี่เสมอ

พาทุกท่านเดินทางสู่ วัดยักชอนซา (Yakcheonsa Temple) ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีน้ำแร่ไหลออกมา จากพื้นดินตลอดทั้งปี ในฝั่งซอกวีโพบนเกาะเชจู วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น โดยมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรม ของวัดทางพุทธศาสนา ในสมัยต้นราชวงศ์โชซอน บริเวณของวัดครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,305 ตารางเมตร ด้วยขนาดของวัดที่ใหญ่และสวยงาม ทำให้วัดแห่งนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยม และนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

จากนั้นพาท่านเยี่ยมชม คามิลเลีย ฮิลล์ สวนดอกไม้แห่งความรักและการพักผ่อน (Camellia Hill The Forest of love and healing) เริ่มจากการปลูกต้นคามิลเลียที่ออกดอกในช่วงฤดูหนาว ด้วยความรักในดอกไม้จึงปรับเปลี่ยนที่นี่เป็นสวนดอกไม้ที่สามารถท่องเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดูกาล ทำให้นักท่องเที่ยวได้ความรู้สึกว่า สถานที่เดียวกันแต่ได้ความแตกต่าง มาเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อเลยทีเดียว ด้านในมีการแบ่งโซนจัดสรรพื้นที่ได้ดีมาก ไม่ซับซ้อน สามารถเดินเที่ยว ถ่ายรูป สูดอากาศบริสุทธิ์ได้สบายๆมาก ฤดูหนาว (Winter Season) ที่แห่งนี้จะเบ่นบานไปด้วยดอกคามิลเลีย หลากหลายสายพันธ์ สีสันสวยๆ สลับเรียงรายกัน พร้อมมุมที่ถ่ายรูปมากมาย ฤดูใบไม้ผลิ (Spring Season) แน่นอนว่าช่วงที่ทุกคนรอคอย Cherry Blossom หรือซากรุกะนั่นเอง ที่นี่ก็มีให้ได้มาชมเช่นกัน ฤดูร้อน (Summer Season) ช่วงนี้สวยไฮไลท์เช่นกัน เป็นช่วงที่ดอกไฮเดรนเยียเบ่งบาน เป็นพุ่มใหญ่ หลากสี เยอะมากจนใครๆต้องมาให้ได้เชียว ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn Season) ไฮไลท์ของฤดูกาลนี้คือ ทุ่งหญ้าสีชมพูพิงค์มูลี่ Pink Muhly เป็นอะไรที่ทุกคนรอคอย 1ปี1ครั้งกับ ต้นหญ้าที่เป็นสีชมพูโดยธรรมชาติ สวย หวาน น่ารักมาก
จากนั้นพาท่านเยี่ยมชม สวนส้มไร้เมล็ด (Orange Farm) อีกหนึ่งสิ่งโด่งดัง และมีชื่อเสียงไปทั่วโลกคือ ส้ม ที่ปลูกบนเกาะเชจู ด้วยความพิเศษ รสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ ปลอดสารเคมี และดกมาก ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา ต้องมองเหลียวหลังกันเลยทีเดียว ชาวบ้านบนเกาะเชจูได้ปลูกกันเยอะมากขึ้น หลังจากเป็นที่ต้องการมากขึ้น ทำให้สร้างรายได้ เลี้ยงครอบครัว และเศรษฐกิจบนเกาะที่ดีขึ้น เอกลักษณ์ของส้มบนเกาะเชจู คือไร้เมล็ด รสชาติกลมกล่อม วิตามินซีสูง ปัจจุบันหลายๆสวนส้ม ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูป และได้ลองชิมส้มสดๆ จากต้น จากสวน ถือเป็นอีกกิจกรรมยอดฮิต เมื่อมาเยือนเกาะเชจู ช่วงฤดูกาลส้มเลยทีเดียว 1ปีมี1ครั้ง คือช่วงหน้าหนาวเท่านั้น
พาท่านเดินทางสู่ ไร่ชาเขียวโอซุลล็อค ขึ้นชื่อที่สุดแห่งเกาะเชจู O\'Sulloc ซึ่งจะแบ่งเป็นโซนไร่ชากลางแจ้ง และโซนพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงเรื่องราวของชา ร้านคาเฟ่ และร้านขายของฝาก ซึ่งท่านสามารถเยี่ยมชมได้ทุกๆโซน เกาะเชจูเป็นดินแดนที่ได้รับของขวัญจาธรรมชาติ ปลูกชาเขียวได้คุณภาพสูง ผสมผสานกับนวัตกรรมสมัยใหม่ จนทำให้ชาที่นี่ส่งออกไปขายทั่วโลก นักท่องเที่ยวทั้งเกาหลีและต่างชาติมักมีจุดมุ่งหมายที่จะมาลิ้มรสความอร่อยของชาที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ถึงแหล่งผลิต โดยเฉพาะไอศรีมชาเขียว เค้กโรล เครื่องดื่มชาเขียวทั้งร้อนและเย็น รับประกันความฟินไปตามๆกัน ส่วนใครที่เน้นการชมวิวถ่ายรูป สวยทุกมุมจนกดชัตเตอร์รัวๆแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นโซนไร่ชา หรือขึ้นไปจุดชมวิวด้านบนสุดของพิพิธภัณฑ์ ก็จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของไร่ชาที่นี่
รับประทานอาหารเย็น พร้อมเสริฟด้วยเมนู เทจี ยังนยอม คัลบี้ อาหารเกาหลีแบบปิ้งย่างที่มีชื่อเสียงของเกาหลี เป็นการนำเนื้อหมูส่วนซี่โครงมาหมักกับเครื่องปรุงจนเนื้อนุ่ม เสิร์ฟให้ท่านได้ย่างสดๆ ร้อนๆ ร่วมรับประทานด้วยกัน วิธีการทานให้ได้อรรถรส ต้องตัดหมูเป็นชิ้นๆ นำผักสด กระเทียม กิมจิ และเครื่องเคียงต่างๆ มาห่อรวมกัน รับประทานคำโตๆแบบสไตล์คนเกาหลี หรือทานกับข้าวสวยร้อนๆที่เรามีเสิรฟให้ไม่อั้นก็ได้เช่นกัน

ที่พัก Sea & Hotel / Jeju in Hotel / Jeju Nice Hotel หรือเทียบเท่า


รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก เป็นสไตล์บุฟเฟ่ต์แบบฉบับเกาหลี
จากนั้นพาท่านไปรู้จักกับ สมุนไพรที่มีชื่อเสียงของประเทศเกาหลีใต้ Red Pine Oil หรือ น้ำมันสนเข็มแดง ตามตำรับยาโบราณสมัยราชวงศ์โชซอน ที่ถูกบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ปัจจุบันได้นำมาสกัดด้วยวิธีที่ทันสมัยดึงสรรพคุณที่ดีที่สุดออกมาในรูปแบบที่ทานได้ง่าย และบำรุงสุขภาพได้ดีที่สุด น้ำมันสนเข็มแดงมีสรรพคุณช่วยในการทำความสะอาดระบบหลอดเลือด เคลียร์หลอดเลือดที่อุดตัน ลดคลอเลสเตอรอล ความดัน เบาหวาน ป้องกันเส้นเลือด ตีบ แตก ตัน อีกทั้งยังช่วยให้การผ่อนคลาย หลับสนิทมากขึ้น ผิวพรรณดูมีสุขภาพดี รับประทานเป็นประจำ ร่างกายแข็งแรงขึ้นตามลำดับ

จากนั้นนำท่านชม ภูเขาไฟซองซาน อิลจุลบง (SEONGSAN ILCHULBONG ) หรือที่ถูกขนานนามว่า “Sunrise Peak” มีอายุกว่า 5000 ปี ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด จึงเป็นสถานที่โด่งดังที่ผู้คนมาขอพรและชมพระอาทิตย์ขึ้น ป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากมาสัมผัส จึงถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ทางธรรมชาติ ภูเขาไฟลูกนี้สงบลงเป็นที่เรียบร้อย แต่ทิ้งความสมบูรณ์และสวยงามเอาไว้ โดยรูปทรงที่กลมขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 600 เมตร มีรอยหยักมองแล้วลักษณะเหมือนทรงมงกุฏเลย และเป็นการเชื่อมโยงกับเกาะเชจูแบบธรรมชาติ ด้วยธารลาวา ปัจจุบันจึงสามารถไปเที่ยวจุดนี้ด้วยรถยนต์ และใครที่อยากได้บรรยากาศปากปล่องภูเขาไฟ พร้อมชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ต้องเอาชนะใจตัวเองด้วยการเดินขึ้นไปพิชิตถึงยอดปากปล่อง ความสูงจากระดับน้ำทะเล 182 เมตรเท่านั้น

จากนั้นพาท่านชมความงามที่แปลกตาของ ชายหาดโขดหิน ควังชีกี จุดตรงนี้เป็นทางเชื่อมต่อไปยังภูเขาไปซองซานอิลจูบง และเป็นมุมที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟลูกนี้แบบเต็มๆ ถือเป็นวิวที่สวยมาก และเมื่อเวลาน้ำลงจะมีโขดหิมโผล่ขึ้นมาพร้อมตะไคร่สีเขียวสด ตัดกับน้ำทะเลที่ใสมาก เป็นความงามที่แปลกตา ทำให้นักท่องเที่ยวอดใจไม่ได้ที่จะต้องแวะถ่ายรูปก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวซองซานอิลจูบงนั่นเอง

รับประทานอาหารกลางวันบริการท่านด้วย ทแวจีพุลแบ็ก เป็นการนำเนื้อหมูหมักกับเครื่องปรุงรสสูตรพิเศษ ก่อนนำไปผัดคลุกเคล้าพร้อมผักและน้ำซุปแบบขลุกขลิก นักท่องเที่ยวนิยมรับประทานเพราะมีรสชาติกลมกล่อมและเผ็ดเล็กน้อย คล้ายหมูผัดพริกแกงบ้านเรา เมื่อสุกรับประทานกับ ผักสด กิมจิ เครื่องเคียงต่าง และข้าวสวยร้อนๆ เป็นอาหารพิเศษที่ขอแนะนำอย่างยิ่ง

จากนั้นพาท่านเยี่ยมชม หมู่บ้านวัฒนธรรม \"ซองอึบ\" (SONGEUB FOLK VILLAGE) เป็นหมู่บ้านโบราณอายุมากกว่า 300 ปี ที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่จริง เมื่อไปถึงจะมีชาวบ้านมาต้อนรับและพาเราเดินชมวิถีชีวิตต่างๆ ในหมู่บ้าน พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวของคนที่นี่ให้ฟังแบบสนุกสนาน เราจะได้รู้จักรูปปั้นเทพพระเจ้า ทอลฮารุบัง ที่มีอยู่ทั่วเกาะ บ้านที่สร้างจากก้อนหินทั้งหลัง แหล่งน้ำจืดที่หายากมาก อาชีพหลักของชาวเกาะ ความไม่เท่าเทียมของหญิงชายในอดีต สัตว์เลี้ยงประจำเกาะ ไหหรือโอ่งโบราณที่ได้มีไว้หมักกิมจิ เหมือนที่อื่นๆ และที่พลาดไม่ได้สินค้า Otop ของหมู่บ้านที่มีมาช้านาน เป็นที่เลื่องชื่อว่ามาเกาะเชจูต้องมาชิม และช้อปสักครั้ง นั่นก็คือผลิตภัณฑ์แคลเซียมธรรมชาติจากกระดูกม้า และน้ำหมักเบอร์รี่ป่า แบล็คราสเบอรี่ หรือที่เรียกันว่า Omija (โอมิจา) ถ้าได้ดื่มจะสดชื่นมากๆ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ชายหาดวอลจองรี Woljeongri Beach ชายหาดสุดชิคบนเกาะเชจู ที่เป็นรูปโค้งทรงเสี้ยวพระจันทร์ ทรายสีขาวละเอียดตัดกับน้ำทะเลสีมรกต ลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งปี ตลอดเส้นถนนจะมีร้านคาเฟ่เก๋ๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเชคอิน ดื่มกาแฟ เบเกอรี่อร่อยๆ หลายร้านมาก ทุกร้านจะมีรูปแบบสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ให้ความรู้สึกคล้ายการเที่ยวทะเลทางยุโรป และช่วงหน้าร้อนก็เป็นที่นิยมของกลุ่มรักกีฬาทางน้ำ เซิร์ฟต่างๆ ด้วย หนึ่งสิ่งที่ทุกคนพลาดไม่ได้กับการมาเที่ยวที่ชายหาดวอลจองรีนี้ คือการนั่งถ่ายรูปบนเก้าอี้หลากสี ที่ตั้งเรียงราย หันหน้าออกสู่ทะเล ชิว ชิค ถูกใจวัยรุ่นมาก

รับประทานอาหารเย็น เมนูใหม่อยากให้ท่านได้ลิ้มลอง ตั๊กฮันมารี ซุปไก่ตุ๋นสไตล์เกาหลีแท้ๆ ที่นำไก่ทั้งตัวมาตุ๋นให้น้ำซุปที่หอม หวานจากหัวไชท้าว และผักต่างๆ เนื้อไก่จะนุ่ม ท่านง่าย เสิรฟพร้อมกับข้าวเกาหลี เหนียวนุ่ม เครื่องเคียงต่างๆเช่น กิมจิผักกาด หรือเครื่องเคียงตามฤดูกาล


ที่พัก Sea & Hotel / Jeju in Hotel / Jeju Nice Hotel หรือเทียบเท่า


รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก เป็นสไตล์บุฟเฟ่ต์แบบฉบับเกาหลี
พาท่านเดินทางสู่สนามบินภายในประเทศ สนามบิน Jeju Airport
(ไฟล์ทบิน / เวลาบิน / สนามบิน / สายการบิน สงวนสิทธิ์ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับบริษัท)

พาท่านไปตามรอยซีรีย์จุดถ่ายทำหลักของเรื่อง Hometown Cha Cha Cha ที่ตลาดชองฮา วิถีชีวิตของชาวบ้านเมืองโพฮัง ซึ่งที่ตลาดจะมีร้านขายอุปกรณ์ตกปลา ร้านอาหาร ร้านซุปเปอร์โพรา อนุสาวรีย์ปลาหมึก และร้านกาแฟ ซึ่งใครได้ดูเรื่องนี้ก็จะจำฉากเหล่านี้ที่เห็นในซีรีย์ได้แน่นอน ปัจจุบันก็จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูป เช็คอิน ตามรอยพระนางในเรื่องกันมากมาย


พาท่านรับประทานอาหารท้องถิ่น รสชาติจัดจ้าน ทเวจีดูลลูชีกี หรือหมูผัดเผ็ดกะทะร้อน ซึ่งเป็นเมนูที่นิยมในตลาดชองฮา เมืองโพฮัง ซึ่งคนที่นี่มักจะทานอาหารที่มีรสจัดกว่าในเมือง จึงนำหมูมาผัดกับซอสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ร้าน เข้าเนื้อ จนหมูนุ่ม อร่อย ทานคู่กับข้าวสวย และเครื่องเคียงต่างๆ เช่น กิมจิ ถั่วงอก แตงกวา พร้อมผักสด และกระเทียมทานแกล้ม

พาท่านมาเช็คอินถ่ายรูปคลินิคหมอฟันของคุณหมอยุน นางเอกในเรื่อง Hometown Cha Cha Cha เป็นโลเคชั่นในการถ่ายซีรีย์เรื่องนี้นั่นเอง ซึ่งคลีนิคหันหน้าออกทะเล ที่มีวิวทะเลที่สวยมากๆ เงียบสงบ ถือว่าเป็นคลินิกในฝันของหมอหลายๆคนเลยทีเดียว







พาท่านมาเช็คอิน “โพฮัง สเปซ วอล์ก” แลนด์มาร์กใหม่ของเมืองโพฮัง ตั้งอยู่ในสวนฮวานโฮ หากได้มาลองเดินดูแล้วจะต้องลืมการเดินสะพานแบบเดิมๆไปได้เลยเพราะที่นี่บอกเลยว่าไม่ธรรมดาตั้งแต่ดีไซน์ที่ประหนึ่งงานศิลป์คล้ายกับรางรถไฟเหาะ แถมยังเป็นสกายวอร์คที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้อีกต่างหาก ระยะทางเดินของตัว space walk 333 เมตร ความสูง 25 เมตร มีชื่อเล่นว่า \"Cloud\" เพราะมีลักษณะเหมือนเมฆที่กำลังคล้อยต่ำ และสามารถเห็นวิวเมือง อ่าวยังกิลและหาดยังกิล ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองที่มาแล้วต้องโดน
พาทุกท่านเดินทางสู่ วัดแฮดง ยงกุงซา ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ของเมืองปูซาน เป็นวัดที่สร้างบนเหล่าโขดหินริมชายหาด ที่แตกต่างไปจากวัดส่วนใหญ่ ซึ่งมักจะสร้างอยู่ตามเชิงเขา วัดแห่งนี้ก่อตั้งโดย พระผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีนามว่า พระนาองซูโดซา ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์คงมินวังแห่งโครยอ เมื่อทุกท่านเดินเท้าเข้าสู่วัดแห่งนี้ จากประตูซุ้มมังกรสีทองอร่าม เดินผ่านอุโมงค์ขนาดเล็ก ไปสู่บันไดหิน 108 ขั้นและโคมไฟหิน ซึ่งเป็นจุดสำหรับชมวิว และความงดงามของท้องทะเลสีฟ้าคราม ก่อนจะเดินต่อลงไปสู่บริเวณซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์สีดำ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนโขดหิน และมีท้องทะเลกว้างเป็นฉากหลังและเมื่อคุณเดินไปตามสะพานที่ทอดยาว และนำพาคุณเข้าสู่บริเวณภายในของวัด ซึ่งประกอบไปด้วยวิหารและศาลา ที่เรียงรายลดหลั่นกันไปตามโขดหิน โดยบริเวณด้านหน้าของวิหารหลัก มีเจดีย์หินสูง 3 ชั้น และสิงโต 4 ตัว เป็นสัญลักษณ์ของความสนุก, ความโกรธ, ความเศร้า และความสุข นอกจากนี้ภายในวัด ยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิม, พระสังกัจจายน์องค์สีทองอร่าม, ศาลเจ้า และพุทธสถานอื่นๆ อีกหลายแห่ง

ชายหาดแฮอุนแด Haeundae Beach ชายหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ ชายหาดทรายละเอียด ยาว 1.5 กิโลเมตร และยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ถูกตั้งชื่อโดยนักปราชญ์นามว่า ชอย ชี วอน (Choi Chi-won) ในยุคสมัยของรวงค์ชิลลา เดินทางมาที่ชายหาด แล้วประทับใจในความสวยงาม จึงเขียนคำว่า “Haeundae : แฮอุนแด ” ไว้บนกำแพงหิน คนท่องถิ่นเลยเรียกใช้ชื่อนี้เรื่อยมา ชายหาดแฮอุนแดมีความยาว 1.5 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 58,400 ตารางเมตร
ตลาดแฮอุนแด เป็นถนนเล็กๆ ที่มีร้านอาหารเปิดขายกันตั้งแต่เช้าเรื่อยไปจนถึงเที่ยงคืน ปัจจุบันย่าน ตลาดแฮอุนแด มีการก่อสร้างถนน และอาคารใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เรียกว่า ยิ่งดึก ยิ่งคึกคัก ถึงแม้ว่าความเจริญจะรายล้อมเข้ามามากมาย แต่ความน่าสนใจของตลาดแบบดั้งเดิม ตลาด Haeundae Traditional Market ก็ยังมีเสน่ห์มาจนถึงทุกวันนี้ อาหารแนะนำ ของทอด โอเด้งเสียบไม้ ข้าวห่อสาหร่าย และต๊อกโบกี เป็นถนนสายอาหารแบบดั้งเดิมที่อยู่คู่กับชายหาด Haeundae
(อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย)




ที่พัก IBIS BUDGET / Toyoko Inn Busan Haeundae2 หรือ เทียบเท่า



รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก เป็นสไตล์บุฟเฟ่ต์แบบฉบับเกาหลี
พาท่านเข้าชมและเลือกซื้อชุดเครื่องนอน Sesa Living เพื่อสุขภาพอันดับหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้ Sesa Living ที่ใช้เส้นใยในการถักทอถึง 15400 เส้น กันไรฝุ่นได้100% มีการใช้หยกในการทำเส้นใย จึงมีคุณสมบัติในเรื่องของการบำบัดขณะนอนหลับ ซึ่งเนื้อผ้าจะมีสัมผัสที่นุ่ม ลื่น ไม่มีเสียงดังเมื่อขยับตัว และยังปรับอุณหภูมิที่คงที่ให้ร่างกายขณะนอนหลับพักผ่อนอีกด้วย และโชว์รูมแห่งนี้สามารถคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

พาท่านสัมผัสประสบการณ์ใหม่ กับการนั่งสกายแคปซูล บนรางรถไฟลอยฟ้า เลียบทะเลแฮอุนแด เมืองท่าอันดับ1ของประเทศเกาหลีใต้ ตัวแคปซูลหนึ่งคันจะนั่งได้ 4ท่าน แต่ละแคปซูลก็จะมีสีสันสดใส น้ำเงิน แดง เหลือง เขียว แล่นสลับๆกันไป สีสวยตัดกับท้องฟ้า แล่นคู่ขนานกับรถไฟชมทะเลด้านล่าง ระหว่างนั่งในแคปซูลท่านจะได้ชมวิวเมืองปูซานได้ทั้งซ้ายและขวา แคปซูลจะแล่นช้าๆให้เราไปชื่นชมความงาม ของวิวทะเล และวิวตัวเมือง ถือว่าเป็นที่เที่ยวเปิดใหม่ล่าสุด ที่น่าไปเที่ยวมากๆเลยทีเดียว

พาท่านเดินทางสู่ ศูนย์รวมเครื่องสำอาง (COSMETIC SHOP) ประเภทเวชสำอางค์ที่หมอศัลยกรรมเกาหลีร่วมออกแบบมากมาย มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นสิว มีริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำใบหน้าหมองคล้ำ อยากผิวขาวสว่างใส ไร้ริ้วรอย แต่งหน้าเบาๆโชว์ผิวแบบสาวเกาหลี โดยไม่ต้องศัลยกรรม

พาทุกท่านเดินทางสู่ ล็อตเต้ดิวตี้ฟรีปูซาน เป็นร้านค้าปลอดภาษีชั้นนำระดับโลก และสถานที่สำหรับการช้อปปิ้ง ที่มีการบริการแบบครบวงจร ภายในมีร้านบูติก แบรนด์ชั้นนำกว่า 50 ร้านค้า และสินค้าปลอดภาษี มีสินค้าหลากหลายประเภท ให้ได้เลือกซื้อเลือกหา ได้แก่ น้ำหอม, เครื่องสำอาง, สินค้าแฟชั่น, แว่นตา, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ผ้าปูที่นอน, นาฬิกา และอื่นๆ อีกมากมาย
นำทุกท่านเดินทางสู่ ตลาดตลาดวอล์คกิ้งสตรีทนัมโพดง (Nampodong) แหล่งช้อปเมืองปูซาน แหล่งช้อปปิ้งอันดับต้นๆที่ขาช้อปแหลกทั้งหลายรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะย่านนี้ถือเป็นศูนย์รวมแฟชั่นชั้นน าของหนุ่มสาวปูซาน และนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ หากอยากดูเทรนด์การแต่งตัว เหล่สาวหน้าเด้ง หรือจะมองหนุ่มหน้าใส มาที่นี่รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ค่ะ ถ้าจะให้เปรียบก็คล้ายๆกับย่านสยามของบ้านเรานั่นเอง รวมถึงอาหารฟู๊ดสตรีท อาหารท้องถิ่นต่างๆอีกเพียบ
อิสระอาหารกลางวัน






ตลาดปลาจากัลชิ Jagalchi Market เป็นตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี และเป็นตลาดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมานาน ที่คุณจะได้ลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก ที่พร้อมปรุงให้ได้ทานกันสดๆ แถมราคายังไม่แพงอีกด้วย ตลาดมีทั้งที่อยู่กลางแจ้ง และในอาคารหลังคาโค้งรูปเกลียวคลื่น ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลย นอกจากอาหารทะเลสดๆ แล้ว บริเวณตลาดยังมีร้านอาหารทั้งแบบเมนูปกติ และเมนูบุฟเฟต์ อร่อยกันแบบไม่อั้นเลยทีเดียว


พาทุกท่านเดินทางสู่ Gamcheon Culture Village (หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน) เป็นหมู่บ้านที่เกิดจากการตั้งรกราก ย้ายถิ่นฐานของชาวเกาหลี ซึ่งหนีภัยจากสงครามเกาหลี ในระหว่างปี ค.ศ. 1950 -1953 และอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยลักษณะการสร้างบ้านเรือนผ่านถนนทุกสาย ที่เรียงรายไปตามแนวภูเขา จนเป็นขั้นบันไดที่เป็นระเบียบ และดูสวยงามแปลกตา ไปกับสีสันที่สลับไปมาของตัวบ้านและหลังคา จึงกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของหมู่บ้านแห่งนี้ จนได้รับฉายาว่า “มาชูปิกชูแห่งปูซาน” ในปี ค.ศ. 2015 นอกเหนือไปจากความสวยงามแปลกตา ของหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ภายในหมู่บ้านยังมีสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งทำให้คุณเพลิดเพลิน ไปกับการเดินท่องเที่ยวภายในหมู่บ้าน ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก, ร้านศิลปะ, ร้านขายของที่ระลึก, คาเฟ่, ร้านกาแฟ, ร้านอาหารหลากหลายประเภท และอื่นๆ อีกมากมาย
19.00-20.30 น. ถึงเวลาอันสมควรพาทุกท่านเดินทางกลับประเทศไทย สายการบิน JEJU AIR/JIN AIR Flight : 7C2251 (หรือเทียบเท่า) โดยมีเจ้าหน้าคอยดูแลขั้นตอนการเช็คอิน ตั๋วเครื่องบิน และอำนวยความสะดวก เพื่อส่งทุกท่านกลับด้วยความสวัสดิภาพ และความประทับใจ