วันศุกร์ที่
12 เม.ย. 67 | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ทาชเคนต์ - ชมเมือง - โรงเรียนสอนศาสนาคูเคลดาสห์ - สุเหร่า จูมา - สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน - ตลาดคอร์ซู |
05.00 น. | บริษัทฯ ขอเชิญท่านที่จุดนัดพบ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าเลขที่ 8 เคาน์เตอร์ S สายการบินอุซเบกิสถาน แอร์เวย์ (UZBEKISTAN AIRWAYS) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ รอคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแด่ท่านก่อนขึ้นเครื่อง.... |
08.10 น. | Qเหินฟ้าตรงสู่ กรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถานโดยสายการบินอุซเบกิสถาน แอร์เวย์ เที่ยวบินที่HY532(ใช้เวลาบินโดยรวม 7 ชั่วโมง) |
13.10 น. | เมื่อเครื่องบินสัมผัสขอบฟ้า นำท่านเข้าสู่น่านฟ้าของประเทศอุซเบกิสถาน คณะเดินทางถึง
ท่าอากาศยานนานาชาติทาชเคนต์ (Tashkent International Airport) แห่งกรุงทาชเคนต์ เมืองหลวงแห่งปรเทศอุซเบกิสถานซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลและล้อมรอบด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล (Double - Landlocked Countries) มีความหมายว่า เมืองแห่งศิลา (The City of Stone) เป็นเมืองใหญ่ที่ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมในเอเชียกลาง(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าเวลาของประเทศไทย 2 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ ผ่านกรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางหัวหน้าทัวร์และมัคคุเทศน์ท้องถิ่นจะนำคณะท่านฯ ขึ้นรถปรับอากาศแล้วออกเดินทางเข้าสู่ ตัวเมือง |
พาท่านเดินชม โรงเรียนสอนศาสนาคูเคลดาสห์ (Kukeldash Madrassah) สิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคของศตวรรษที่ 16 สร้างด้วยอิฐสีเหลืองและมีรูปทรงสี่เหลี่ยมแบบดั้งเดิมที่มีประตูขนาดใหญ่และลานด้านใน ผนังรอบลานด้านในมีพื้นที่ๆนักเรียนอาศัยอยู่ ประตูมีความสูง 20 เมตร และมีหอคอยสองแห่งอยู่ด้านข้าง สร้างโดยข้าหลวงคูเคลดาสห์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจและยังเป็นพี่น้องร่วมแม่นมกับบารัค ข่าน ผู้ปกครองแห่งเมืองทาซเคนต์ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสของการค้าขายของพวกที่เป็นกองคาราวาน และได้เป็นศูนย์กลางของชีวิตผู้คนในเมืองนี้...ชมสุเหร่า
จูมา (Juma Mosque) ที่อยู่ด้านข้างๆ สุเหร่าแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1451 โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของท่านเชคห์ อูเบย์ดุลลา โคจา อาคห์เรอร์ (Sheikh Ubaydulla Khoja Akhror) ผู้เป็นมหาบุรุษแห่งลัทธิซูฟีย์ ที่สืบสกุลมาจากผู้เผยแพร่ศาสนาอิสลาม จากนั้นเดินลงใต้ดิน เพื่อชมความงดงามของ สถานีรถไฟใต้ดิน (The Tashkent Metro) สิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยตามรูปแบบที่สมบูรณ์ที่เด่นชัด ถูกออกแบบและก่อสร้างขึ้นมาภายหลังจากที่ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในปี ค.ศ.1966 |
อิสระเลือกซื้อของฝากพื้นเมือง ณ ตลาดคอร์ซู หรือ ตลาดตะวันออก (Chorsu or East- Bazaar) ตลาดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายไหม ที่ตั้งอยู่กลางเมือง โดดเด่นเพราะตั้งอยู่ในอาคารรูปโดมขนาดใหญ่ ภายในจำหน่ายผลไม้สด ผลไม้แห้ง ของสดจำพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ เครื่องเทศ ขนมปัง และถั่วอีกมากมาย เป็นที่ๆท่านจะได้เห็นวิถีชีวิต และการกินอยู่ของคนอุซเบกอย่างชัดเจน ให้ท่านได้จับจ่ายตามอัธยาศัย.... |
เย็น | ä ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ค่ำ | ã พักค้างคืน ณ GARNET HOTEL,TASHKENT หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันเสาร์ที่
13 เม.ย. 67 | ทาชเคนต์ - สถานีรถไฟความเร็วสูงทาชเคนต์ - นั่งรถไฟความเร็วสูง (สู่) บูคาร่า (Unesco) ชมเมือง - ป้อมปราการ - มัสยิดโบโล เฮาซ์ - ที่ฝังพระศพอิสมาอิลซามานิดส์ - ที่ฝังศพ
ชาสฮ์มา อายุบ - กลุ่มสถาปัตยกรรมโพลิ คัลยัน - คาราวานซารายนูไก - ไลอับบี เฮ้าซ์ ตลาดทากิ - ไฮไลท์! ชมการแสดงพื้นเมือง |
เช้า | äอรุณสวัสดิ์.....รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม |
06.45 น. | vนำคณะท่านฯสู่ สถานีรถไฟความเร็วสูงทาชเคนต์เพื่อสัมผัสการนั่งรถไฟความเร็วสูง Afrosiyab High-Speed Train ขบวน 762 รอบ 07.30 น. ด้วยความเร็ว 210 กม./ต่อชั่วโมง
(ใช้เวลาเดินทางโดยรวม 4 ชั่วโมง 6 นาที) |
11.20 น. | คณะถึง สถานีรถไฟความเร็วสูงแห่งกรุงบูคาร่า (Bukhara) จุดศูนย์กลางสำคัญทางการค้าบนเส้นทางสายไหม (Route of Silk Road) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอุซเบกิสถาน เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1993 เป็นเมือง 1 ใน 3 ที่สำคัญในประเทศที่เป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลามในเอเชียกลาง |
เที่ยง | ä ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางไปชมความยิ่งใหญ่ของ ป้อมปราการแห่งบูคาร่า (The Ark of Bukhara) สถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์อันสะท้อนให้เห็นถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ ถูกขุดค้นและตรวจสอบพบว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 ตัวป้อมมีพื้นที่ถึง 25 ไร่ กำแพงที่ล้อมรอบยาวเกือบ 800 เมตร
มีความสูงตั้งแต่ 16-20 เมตร ซึ่งใช้เป็นเกาะกำบังสำหรับป้องกันศัตรูที่จะเข้ามารุกราน…….
ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมของเมือง ถัดเข้าไปข้างในด้านบนสุด เป็นที่ตั้งของ Jama Masjidมีสถาปัตยกรรมโดดเด่นอยู่ตรงเสาไม้แกะสลักทั้งหมด 16 ต้น ที่ตั้งอยู่บนเสาหิน รอบๆตัวอาคารจะมีประตูและหน้าต่างรวมกันทั้งหมด 8 บาน ซึ่งเป็นการสื่อถึงทางเข้าสู่ประตูสวรรค์ตามความเชื่อโบราณ ปัจจุบันภายในเป็นพื้นที่จัดแสดงคัมภีร์อัลกุรอานโบราณ |
แวะชม มัสยิดโบโล เฮาซ์ (Bolo Haouz Mosque) ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1712-1713 สำหรับพระมารดาของอับดุล ฟายุด ข่าน (Abdul Fayud Khan) ปัจจุบันเป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา จุดเด่นของอาคารนี้ คือ เสาที่ค้ำยันเพดานส่วนหน้าของอาคาร เป็นไม้แกะสลักและระบายสีต้นผอมบางจำนวน 20 ต้น ชม ที่ฝังพระศพอิสมาอิลซามานิดส์ (Ismail Samanids Mausoleum) หนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นพิเศษของบูคาร่า และเป็นสถาปัตยกรรมอิสลามที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 เพื่อใช้เป็นที่ฝังพระศพของอะหมัด อิบน์ อาซาด (Ahmad Ibn Assad) ผู้ซึ่งเป็นบิดาของอิสมาอิล ซามานิด (Ismail Samani) ผู้สถาปนาราชวงศ์ซามานิดส์ และ ที่ฝังศพชาสฮ์มา อายุบ (Chashma Ayub Mausoleum) ตามตำนานเล่าว่า นักบุญอายุบได้เดินทางมาที่เมืองนี้ และช่วยเหลือผู้คนที่กำลังทุกข์ทรมานจากการขาดแคลนน้ำ ด้วยการเอาไม้เท้าเคาะไปที่พื้น ทันใดนั้นก็เกิดน้ำใสบริสุทธิ์พวยพุ่งขึ้นมา เชื่อกันว่าเป็นน้ำที่รักษาโรคภัยต่างๆ ได้ |
ต่อด้วยเดินชม กลุ่มสถาปัตยกรรมโพลิ คัลยัน (Po-i-Kalyan Architecture Complex) ซึ่งประกอบไปด้วยอนุสรณ์สำคัญ 4 แห่งได้แก่ มัสยิดคัลยัน (Kalyan Mosque) สร้างขึ้นราว
ค.ศ. 1514 ในยุคสมัยของข่านแห่งบูคารา , โรงเรียนสอนศาสนามีร์ อิ อาหรับ (Mir-i Arab Madrassah) โดยชื่อของโรงเรียนมีความหมายว่า “เจ้าแห่งอาหรับ” เพราะตั้งเพื่ออุทิศให้แก่ครูสอนศาสนาที่เป็นเจ้าชายเยเมน “เชค อับดุลลาห์ ยามานิ” ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ของอุไบดุลลาห์ข่านและลูกชายอับดุล อาซิส ข่าน เก็บภาพความประทับใจคู่ หอคอยคัลยัน (Kalyan Minaret)สัญลักษณ์สำคัญของกรุงบูคาร่า ตัวหอมีความสูงถึง 45.6เมตร ถูกสร้างตั้งแต่สมัยของผู้ปกครองที่ชื่อว่า
อาสลาน ข่าน (Arslan-Khan) ใน ค.ศ. 1127 หอคอยนี้มีอีกชื่อว่า “หอคอยแห่งความตาย” เพราะในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา มีการประหารชีวิตนักโทษด้วยการจับโยนลงมาจากด้านบน และ โรงเรียนสอนศาสนาอาเมียร์ อาลิม ข่าน (Amir-Allimkhan Madrassah) |
v นำท่านสู่ คาราวานซารายนูไก (Nughai Caravansarai) ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 16 โดยข่านมูฮัมหมัด ราฮิมบี่ (Khan Muhammad Rahimbiy) เพื่อให้เป็นที่พักสำหรับกองคาราวานของพ่อค้าที่เดินทางเข้ามายังเมืองบูคาร่า.... แวะชม ไลอับบี เฮ้าซ์ (Lyab i Hauz) สถานที่สำหรับสอนศาสนาที่ตั้งอยู่บริเวณริมสระน้ำอันร่มรื่น ถูกสร้างในปี ค.ศ.1620 และบริเวณรอบๆ สระจะมีต้นมัลเบอร์รี่ (ต้นหม่อน) อีก 3 ด้านของสระน้ำจะประกอบไปด้วย โรงเรียนสอนศาสนา
คูเคลดาสช (Kukeldash) ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1568-1569 และอีกสองด้านที่เหลือทางด้านตะวันตกจะถูกสร้างเป็นตำหนักสำหรับเป็นบ้านพัก คือ คานาค่า (Khanaka) สร้างขึ้นในปี
ค.ศ. 1620 และสำหรับด้านตะวันออกจะเป็นสถานที่สำหรับสอนศาสนา คือ นาเดียร์ ดีวาน เบกี (Nadir Divan Begi Madrasah) ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1622 ปัจจุบันเป็นแห่งพักผ่อนย่อนใจของขาวเมืองและจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง......อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อสินค้าที่มีโดมครอบ ตลาดทากิ (Taqi Trading Domes) ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยราชวงศ์ชัยบานีย์ เป็นศูนย์การค้าในยุคโบราณบนเส้นทางสายไหม แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ทากิ ซาร์การอน (Taqi Zargaron) โดมที่ทำการแลกเปลี่ยนเงินตรา และเป็นแหล่งค้าขายของชาวอินเดีย ทากิ ซาร์ราฟอน (Taqi Sarrafon) โดมค้าขายเครื่องอัญมณี และของมีค่าต่าง ๆ และทากิ เทลปัก ฟูรูโซ่น (Taqi Telpak Furushon) โดมค้าขายสินค้าทั่วไป และงานฝีมือแขนงต่าง ๆ เช่น ชาหอม หมวกขนแกะ พรม ผ้าทอมือ ฯลฯ สะท้อนถึงบรรยากาศการค้าขายในยุคก่อนได้อย่างดี จากนั้นพาท่านไป ชมการแสดงของ
ชนพื้นเมือง (Bukhara traditional Dance) ที่งดงาม แสดงถึงศิลปะและวัฒนธรรมของชาวอุเบกฯ |
เย็น | ä ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ค่ำ | ã พักค้างคืน ณ OMAR KHAYAM HOTEL,BUKHARA หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันอาทิตย์ที่
14 เม.ย. 67 | บูคาร่า - ซามาร์คานด์ (Unesco) - แหล่งโบราณสถานอัฟราซิยาบ - จัตุรัสเรจิสถาน - มัสยิดบิบิ คานุม - ตลาดกลาง - สถานที่ฝังศพกูริ อามีร์ - หอดูดาวอูลุก เบค - กลุ่มสถาปัตยกรรมชาห์ อิ ซินดา - ศูนย์การท่องเที่ยว Silk Road Samarkand Complex |
เช้า | äอรุณสวัสดิ์.....รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม |
vนำคณะมุ่งหน้าสู่ ซามาร์คานด์ (Samarkand) ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง เมืองอัญมณีแห่งอิสลาม ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 2001 รวมทั้งเป็นเมืองสำคัญบนเส้นทางสายไหมอีกด้วย…แล้วเดินทางไปชม แหล่งโบราณสถานอัฟราซิยาบ (Afrasiyab Ruins) ชื่อเนินมีความหมายว่า ถัดจากแม่น้ำดำ (Beyond the Black River) ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเมือง เป็นสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยซากโบราณสถานอายุ 700-600 ปีก่อนคริสตกาล สะท้อนอารยธรรมของพวกซ๊อกเดียน ที่ตั้งเมืองขึ้นบริเวณริมแม่น้ำ และบนที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ ที่ต่อมากลายเป็นส่วนหนึ่งของเมือง
ซามาร์คานด์ และพาไปเดินชมจัตุรัสกลางเมืองที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ ณ จัตุรัสเรจิสถาน (Registan Square) งดงามไปด้วยศิลปะอิสลาม ซึ่งถูกกล่าวขานว่ามีความงดงามที่สุดในเอเชียกลาง ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้าตัดขอบด้วยสีเหลือง รายล้อมไปด้วย โรงเรียนสอนศาสนา (Madrasah) ถึง 3 แห่ง คือ อูลุคเบก (Ulug Beg) ฝั่งซ้ายเชียร์ ดอร์ (Shir Dor) ฝั่งขวา และ ทิลยาคารี (Tilys Kari) ตรงกลาง ถือเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนศาสนาอิสลามของโลกยุคกลาง โดยเฉพาะ Ulugh bed Madrasah ได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียกลาง และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยอิสลามที่ดีที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 15 |
แวะชม มัสยิดบิบิ คานุม (Bibi Khanym Mosque) เป็นมัสยิดที่ตีมูร์ตั้งใจจะสร้างให้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อแสดงถึงพลังอำนาจที่สามารถปกครองดินแดนได้มากกว่าผู้ใดในโลกอิสลาม ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1399 ด้วยเร่งรัดในการก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็ว แต่สุดท้ายพระองค์ก็เสด็จสวรรคตก่อนที่มัสยิดนี้จะเสร็จสมบูรณ์ และหลังจากนั้นไม่นาน มัสยิดแห่งนี้ก็เริ่มพังทลายจนกลายเป็นซากปรักหักพัง โดยเฉพาะตัวโดมได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ภายในยังตกแต่งด้วยหินอ่อน แกะสลักโมเสครูปร่างต่างๆ เคลือบด้วยสีฟ้างดงาม เขียนภาพและอักษรด้วยน้ำเงินและทอง และที่หน้าสุเหร่ายังมีแท่นซึ่งเดิมวางคัมภีร์อัลกุรอ่านที่ใหญ่ถึง 2 เมตร อิสระเดินชมตลาดกลาง / ซิยอป โบซาริ (Central Market/Siyab Bozori Bazaar) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เป็นตลาดที่มีชื่อเสียง และเต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่นมากมายราคาไม่แพง ให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชม |
เที่ยง | ä ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำท่านชม สถานที่ฝังศพกูริ อามีร์ (Guri Emir, Amir Temur Mausoleum) ซึ่งชื่อของสุสานเป็นภาษาเปอร์เซีย มีความหมายว่า “สุสานของกษัตริย์” ด้านในคือหลุมที่ฝังศพของติมูร์,ชารุคฮ์ และมิราน ชาห์ ลูกชายของติมูร์ รวมทั้งผู้ปกครองรุ่นหลานอย่าง อูลุกเบก ผู้ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกอิสลาม และสุลต่าน มูฮัมหมัด (Muhammad Sultan) ซึ่งเป็นหลานรักของตีร์มูที่เสียชีวิตในเปอร์เซีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1403 มีประตูทางเข้าก่ออิฐปูนตั้งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าซุ้มโค้ง มีโดมสีฟ้าผิวลอนกระดูกงูสูงประมาณ 36 เมตร ผนังห้องและเพดานโค้ง ภายในประดับด้วยกระเบื้องอิฐเผาลงด้วยลายสีทอง สีอำพัน สีฟ้าน้ำทะเล สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก |
พาคณะท่านฯสู่ หอดูดาวอูลุก เบค (Ulugh Beg Observatory) เป็นหอดูดาวที่ใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 15 สร้างโดยข่านอูลุก เบค ผู้ปกครองดินแดนเอเชียกลาง หลานชายของติมูร์ ถูกสร้าง
ในปี ค.ศ. 1428-1429 เป็นอาคาร 3 ชั้นสูง 30 เมตร ด้านบนยอดคล้ายโดมพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวการสำรวจทางดาราศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้อุปกรณ์ดูดาว สะท้อนอัจฉริยภาพของข่านอูลุกเบก ที่ท่านได้คำนวณรอบปีเฉียดไปเพียงเล็กน้อย อีกทั้งแผนที่โลกเองยังถูกวาดขึ้นครั้งแรกที่นี่ รวมถึงท่านยังเป็นผู้คิดค้นสูตรคณิตศาสตร์อีกด้วย |
ชมความอลังการและงดงามของ กลุ่มสถาปัตยกรรมชาห์ อิ ซินดา (Shah i Zinda Complex) เป็นภาษาเปอร์เซีย หมายถึง ที่อยู่ของกษัตริย์ (The Living King /Necropolis) เป็นสถานที่รวมสุสานขนาดใหญ่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ซึ่งเป็นความคิดของข่านทามาเลนที่ต้องการให้ชาคี ซินดา แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของสุสานของบุคคลที่มีชื่อเสียง ทั้งยังเป็นที่แสวงบุญของชาวอิสลามเทียบเท่าได้กับนครเมกกะ ประกอบด้วยอาคารหลายยุคหลายสมัย ที่งดงามด้วยกระเบื้องเคลือบโบราณ |
ต่อด้วยเยี่ยมชม ศูนย์การท่องเที่ยว Silk Road Samarkand Complex ที่มีความหลากหลายและล้ำสมัยในภาคตะวันออกของซามาร์คานด์ ซึ่งประกอบด้วยที่พักระดับโลก พื้นที่ส่วนกลางอันกว้างขวาง โรงแรมบูติกที่ผสมผสานกับศูนย์สุขภาพอันหลากหลาย ร้านอาหารและการพักผ่อนที่หลากหลาย พื้นที่สำหรับนันทนาการและการกีฬา รวมถึงหอประชุมใหญ่ที่เหมาะกับการพบปะระดับโลก ครอบคลุมพื้นที่ 280 เฮกตาร์ โดดเด่นในด้านขนาดและความทันสมัย แต่ยังสะท้อนกับประวัติศาสตร์อันโด่งดัง \"เส้นทางสายไหมซามาร์คานด์\" อีกด้วย |
เย็น | ä ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ค่ำ | ã พักค้างคืน ณ HOTEL DIYORA,SAMARKAND หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3) |
วันจันทร์ที่
15 เม.ย. 67 | ซามาร์คานด์ - โรงไวน์ โคฟเรนโก - ทาชเคนต์ - ชมเมืองโดยรอบ - จัตุรัสอิสรภาพ - จัตุรัสอามีร์ ตีมูร์ - อิสระช้อปปิ้ง - สนามบินทาชเคนต์ |
เช้า | äอรุณสวัสดิ์.....รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม |
นำท่านเดินทางไปยัง โรงไวน์ โคฟเรนโก(Khovrenko Winery and Museum) ซึ่งเป็นโรงงานไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลางเข้าชมไร่องุ่นและพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมไวน์ที่ดีที่สุดที่ผลิตโดยโรงงานซามาร์คันด์ในศตวรรษที่ 20 รวมถึงโอกาสในการชิมไวน์ในบ้านของพ่อค้าชาวรัสเซีย Filatov ผู้ก่อตั้งโรงกลั่นเหล้าองุ่นแห่งแรกในอุซเบกิสถานย้อนกลับไปในปี 1868 ปัจจุบันโรงกลั่นไวน์แห่งนี้ผลิตไวน์ บรั่นดี และวอดก้าหลายประเภท และได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากกว่า 80 รางวัลสำหรับไวน์สายพันธุ์ใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้น.... |
vนำท่านออกเดินทางกลับสู่ ทาชเคนต์ อีกครั้ง ที่อยู่ทางด้านเหนือห่างประมาณ 320 กิโลเมตร |
เที่ยง | ä ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชมเมืองโดยรอบ และสวนสาธารณะ โดยมีฉากหลังเป็น หอโทรทัศน์แห่งทาชเคนต์ (TV Tower) ซึ่งมีความสูงประมาณ 365 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1978 โดยการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมของเทอร์ซิเอฟแห่งบริษัท ซารูค๊อฟและเซมาสห็โค เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในเอเชียกลาง ปัจจุบันเป็นหอคอยที่สูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลก ตัวหอคอยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1978 ชม จัตุรัสอิสรภาพ (Independence Square)หรือฮัสตีอิหม่าม (Hasti Imam Square) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นหัวใจของเมืองที่แสดงถึงการเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ.1991 แสดงถึงความเป็นมาของอุซเบกิสถาน ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีต้นไม้อันร่มรื่น |
นอกจากนี้ท่านยังสามารถชม อนุสรณ์พระแม่แห่งความสุข (Happy Mother Monument) รูปปั้นแกะสลักผู้หญิงที่กำลังอุ้มทารกอยู่เบื้องหน้าเสาอิฐที่มีลูกโลกอยู่ด้านบน เป็นสัญลักษณ์แทนความหมายของการเป็นถิ่นกำเนิด ถัดมา อนุสรณ์พระแม่ผู้เศร้าโศก (Sad Mother Monument) ถูกสร้างในปี 1999 เป็นสัญลักษณ์แห่งความโศกเศร้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อเป็นเกียรติแด่ทหารชาวอุซเบกิสถานผู้เสียสละชีพตนเพื่อปกป้องครอบครัวและประเทศของเขา โดยด้านหน้ามีคบเพลิงเล็กๆ อยู่บริเวณพื้นดินที่ไม่มีวันดับ...และบริเวณด้านหน้าของอนุสาวรีย์แห่งนี้ มีซุ้มประตูขนาดใหญ่ ด้านบนประดับด้วยนกกระสาที่หมายถึง ความสงบสุข นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบ ยังมีสถานที่ราชการที่สำคัญและที่ทำงานของประธานาธิบดีและรัฐมนตรีต่างๆหลายกระทรวง
*** หมายเหตุ - ไม่อนุญาตให้ท่านเก็บภาพสถานที่ *** ผ่านชมวังโรมานอฟ(Former Residence of Prince Romanov / The Palace of Grand Duke Nicholas Constantinovich) ที่ประทับของเจ้าชายนิโคไล คอนสแตนติโนวิช หลานชายของซาร์นิโคลัสที่ 1 แห่งราชวงศ์โรมานอฟของรัสเซีย ที่ได้เสด็จหนีออกมาอยู่ที่ทาชเคนต์ในปี ค.ศ.1877 โดยวังที่พักแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นราว ค.ศ.1891 และอยู่ในวังแห่งนี้จนเสียชีวิตในปี ค.ศ.1918 งดงามด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบที่ล้ำยุคแห่งกาลเวลาของเบน๊อตและเกย์ท เซลแมน แล้วพาชมภายนอก โรงละครอลิสเชอร์ นาวอย (Alisher Navoi Opera and Ballet Theatre) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1947 โดยสถาปนิกชาวรัสเซีย อเล็กเซย์ ชูเซฟ (Aleksey Shchusev) ซึ่งเคยเป็นผู้ออกแบบที่ฝังศพของเลนินมาก่อน สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงและเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งของอุซเบกิสถาน เพื่อระลึกถึงนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีผลงานทางด้านการประพันธ์ ศิลปะ และดนตรี และที่สำคัญยังมีบทบาททางด้านการเมืองอีกด้วย จากนั้นนำท่านสู่ จัตุรัสอามีร์ ตีมูร์ (Amir Temur Square) อีกหัวใจของเมือง โดดเด่นด้วยอนุสาวรีย์ของรัฐบุรุษของชาติ ในช่วงยุคศตวรรษที่ 14 อามีร์ ติมูร์ (Amir Temur) ผู้ก่อสร้างอาณาจักรแห่งนี้ และสถาปนาจักรวรรดิติมูร์ ตัวอนุสาวรีย์ทำจากสัมฤทธิ์ อิสระให้ท่านเก็บภาพคู่กับท่านตีมูร์ที่ประทับบนหลังม้าอย่างสง่างาม… |
พาท่านช้อปปิ้ง ณ ห้างซามาร์กานด์ ดาร์โวซ่า (The Mall Samarqand Darvoza) เพื่อละลายเงินซอมอุซเบกิสถานเป็นห้างจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงของทาชเคนต์ มีทั้งอัญมณีที่สวยงาม ไหม พรมต่างๆ เครื่องเซรามิค ถ้วยชาม รูปวาดที่สวยงาม ไม้แกะสลักต่างๆ ฯลฯ ที่ได้ถูกผลิตขึ้นมาจากฝีมือของชาวอุซเบก |
เย็น | ä ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
19.00 น. | จนได้เวลาอันสมควร...นำท่านเดินทางไปยัง สนามบินทาชเคนต์ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ |
22.30 น. | Q เดินทางสู่ประเทศไทย โดยสายการบินอุซเบกิสถาน แอร์เวย์ เที่ยวบินที่HY531 (ใช้เวลาบินโดยรวม 6 ชั่วโมง 10 นาที) |
วันอังคารที่
16 เม.ย. 67 | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ |
06.40 น. | ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ...พร้อมความประทับใจ J |
|
จำนวนวัน :
5 วัน 3 คืน
