Day1 สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินนาริตะ - ฟุกุชิมะ

05.00 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน

08.05 ออกเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน JAPAN AIRLINES เที่ยวบินที่ JL0708 พร้อมบริการอาหารบนเครื่อง (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 15 นาที)

15.55 เดินทางถึง สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบของสนามบิน หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง “ฟุกุชิมะ” เป็นเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ภูมิภาคโทโฮคุ ถึงแม้ว่าเมืองฟุกุชิมะจะตั้งอยู่ใกล้เมืองหลวงก็ตาม แต่ก็ยังคงเป็นเมืองที่สามารถยังคงรักษาวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไว้ได้ และยังเป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสินค้ารวมที่ถูกส่งออกสูงที่สุดในฮอกไกโดและภูมิภาคโทโฮะคุ ระหว่างทางแวะพัก เมืองอิวากิ(ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที)

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

ที่พัก Grand Park Hotel, Iwaki ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day2 ชมใบแปะก๊วยสนามกีฬาอาซูมะ - จุดถ่ายรูป “บันไดอาซูมะ สกายไลน์” - ทะเลสาบโกชิคินุมะ - ศาลเจ้าฮะนิทสึ บ้านพักเท็นเคียวคะคุ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำเดินทางไปยังจุดชมใบแปะก๊วยที่ สนามกีฬาอาซูมะ (Azuma Sports Park) ซึ่งสนามกีฬาแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดชมใบแปะก๊วยระดับท็อป ที่ปลูกเรียงไว้อย่างสวยงามเป็นสีเหลืองทองอร่ามตลอดแนวทางเดิน

จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง ทะเลสาบโกชิคินุมะ (Goshikinuma Pond) ระหว่างทางแวะ จุดถ่ายรูป “บันไดอาซูมะ สกายไลน์” หนึ่งในถนนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น และยังถือว่าเป็นเส้นทางที่เหมาะแก่ชมใบไม้แดงบนภูเขาอาซุมะ ซึ่งมีระยะทาง 29 กิโลเมตรโดยประมาณ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านชม ทะเลสาบโกชิคินุมะ หรือที่รู้กันในฉายา ทะเลาบห้าสี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติบันไดอาซาฮี ซึ่งในบริเวณนี้จะประกอบไปด้วยทะเลสาบ บึงน้อยใหญ่และบ่อน้ำพุร้อนในบริเวณจะมีบึงอยู่ทั้งหมด 9 บึง แต่ละบึงก็จะมีสีสันสดใสแตกต่างกันไป ระหว่างบึงจะเป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้ด้วย ตลอดเส้นทางที่เดินจะรายล้อมไปด้วยสีสันของใบไม้ตัดกับสีของน้ำทะเลสาบที่มีตั้งแต่ฟ้าครามไปจนถึงเขียวอมแดง เป็นภาพธรรมชาติที่สวยแปลกตาและหาชมได้ที่นี่เท่านั้น

นำท่านไปยัง ศาลเจ้าฮะนิทสึ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับศาลเจ้าที่นิกโก้ และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ ศาลเจ้าฮะนิทสึเป็นที่เก็บกระดูกของนายโฮชินะ มะสะยูกิ ซึ่งมีตำแหน่งใหญ่ที่สุดของไอสึ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีศาลเจ้าแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีแดงของใบเมเปิ้ล เปรียบเสมือนดั่งปูพรมตอนรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม

จากนั้นเดินทางต่อไปยัง บ้านพักเท็นเคียวคะคุ เป็นวิลล่าที่อดีตเคยเป็นของตระกูลอาริสึกาวะโนะมิยะ สมาชิกราชวงศ์ของอดีตจักรพรรดิ ถูกสร้างขึ้นในปี 1908 เป็นบ้านพักต่างอากาศที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ ทะเลสาบอินะวะชิโระ “เท็นเคียวคะขุ วิลล่า” ได้รับการออกแบบให้เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกทั้งภายนอกและการตกแต่งภายในรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็ถูกออกแบบมาอย่างดี จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองไอสึ (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง)

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

ที่พัก Higashiyama Grand Hotel, Aizu ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day3 ปราสาทสึรุงะ - หมู่บ้านโออุจิ จูคุ - นิกโก้ - ศาลเจ้าโทโชกุ - สะพานชินเคียว - ทะเลสาบชูเซนจิ - โตเกียว

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางชม ปราสาทสึรุงะ หรือ “ปราสาทนกกระเรียน” เป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ ปราสาทหลังคาสีเเดงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองไอสุวาคามัทซึ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟไอสุวาคามัทซึ เดิมมีชื่อว่า ปราสาทคุโระคะวะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1384 โดยตระกูลอะชินะ แต่เกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1611 ทำให้ปราสาทเสียหายหนักและได้มีการบูรณะและปรับจากปราสาท 7 ชั้น เหลือเพียง 5 ชั้นเท่านั้น ปราสาทแห่งนี้ ถือเป็นอนุสรณ์สถานที่ยังทิ้งร่องรอยของเหล่านักรบซามูไรกลุ่มสุดท้ายในญี่ปุ่นที่ได้เลือกปลิดชีพตัวเองลง ณ สถานที่นี้

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโออุจิ จูคุ บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะถูกสร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนาๆ เรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร โดยรวมมีบ้านโบราณประมาณ 40-50 หลัง ในอดีตสมัยเอโดะ การคมนาคมยังไม่สะดวกสบาย

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นเสมือนแหล่งที่พัก ตั้งขนาบข้างถนนหลักที่มีชื่อว่าถนนชิโมสึเคะ ถนนเส้นนี้เคยเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมและการค้า เมื่อ พ.ศ.2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ

ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโออุจิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักแบบญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีนักท่องมาเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้กว่า 1.2 ล้านคนต่อปี

นำท่านชม ศาลเจ้าโทโชกุ (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เป็นศาลเจ้าประจำตระกูลโทกุงาวะที่โด่งดังในอดีตและยังเป็นสุสานของ “โทกุงาวะ อิเอยะสุ” โชกุนผู้พลิกชะตาชีวิตของชาวญี่ปุ่น พร้อมสักการะเทพเจ้าคุ้มครองและปกป้องลูกหลานของตระกูลและบรรดาผู้เลื่อมใส ชมเจดีย์ 5 ชั้น สถานที่รวบรวมพระธรรมคำสอน บทสวดมนต์ และสิ่งของมีค่า แล้วชมงานแกะสลัก อันเป็นโบราณวัตถุล้ำค่าที่มีมากกว่า 5,000 ชิ้น แล้วตื่นตากับซุ้ม ประตูโยเมมง อันเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ศิลป์ของญี่ปุ่นและยังเป็นศิลปะชิ้นเอกและมีชื่อเสียงของประทศญี่ปุ่น

ศาลเจ้าโทโชกุ เป็นที่ที่มีสถาปัตยกรรมวิจิตรงดงามมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งซุ้มโยเมมง ที่ประดับประดาด้วยสิงห์และมังกรในท่วงท่าและลีลาที่ต่างกันอย่างมากมาย  ตัวเสาทำจากไม้เคยากิรองรับน้ำหนัก 12 ต้น โดยในอดีตจะมีเพียงซามูไรชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถผ่านเข้าออกประตูนี้ได้แต่ต้องทิ้งดาบไว้ด้านนอกเสียก่อนตามธรรมเนียมด้านความปลอดภัย

หรับงานไม้แกะสลักที่มีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์ ของศาลเจ้าโทโชกุ คือ งานแกะสลักปริศนาธรรม รูปลิงปิดหู ปิดตา และปิดปาก เป็นการสอนให้ผู้คนละเว้นการดู การฟัง และการพูดในสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งปริศนาาธรรมนี้ได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นการผสมผสานที่เข้ากันอย่างลงตัวของลัทธิเต๋า และศาสนาชินโต

นอกจากนี้ที่คานในฉนวนทางเดินจะมีรูปสัตว์อีกหนึ่งรูปที่โด่งดัง ก็คือ รูปแมวหลับ ที่ดูเหมือนแมวนี้กำลังนอนหลับ แต่แท้จริงแล้วแมวตัวที่เห็นนี้ไม่ได้หลับ  แต่จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเดินไปที่ด้านหลังของภาพแมวหลับนี้  แล้วจะได้เห็นรูปนกกระจอกที่กำลังตื่นตระหนกอยู่คู่หนึ่ง แผ่นภาพแกะสลักนี้สื่อถึงว่ารัฐบาลทหารเอโดะที่มองเผินๆเหมือนแมวหลับอยู่นี้  ในความจริงเป็นแมวที่พร้อมจะกระโดดตระครุบนกอยู่  หากแว่นแคว้นใดไม่อยู่ในร่องรอยแล้วรัฐบาลเอโดะก็พร้อมจะบด ขยี้ในทันที  ทั้งนี้ยังมีประติมากรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์และจินตนาการอย่างมากมาย เช่น มังกร 100 หัว, แมวนอนหลับ, มังกร หัวเราะ เป็นตัน ให้ท่านได้เลือกมุมประทับใจบันทึกภาพความงามตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านผ่านชม สะพานชินเคียว ซึ่งเป็นของศาลเจ้าฟูทาราซัง เป็น 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นร่วมกับสะพานคินไตเคียว ที่อิวาคูนิกับสะพานซารุฮาชิ ที่ยามานาชิ, โอสึกิ  สะพานชินเคียวเป็นสะพานโค้งสีแดง ทอดข้ามแม่น้ำไดยะ ตรงเชิงปากทางขึ้นสู่แหล่งมรดกโลก ชื่อว่าสะพานชินเคียว หรือ สะพานอสรพิษคู่ มีความยาว 28 เมตร กว้าง 7 เมตร สูงจากระดับน้ำประมาณ 10 เมตร สร้างจากไม้โดยมีเสาหิน รองรับน้ำหนัก ซึ่งเป็นสะพานที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของบรรดาสะพานไม้ของญี่ปุ่น ทาด้วยสีแดง สมัยก่อนสะพานนี้ใช้เฉพาะเจ้านายชั้นสูงหรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นในการข้ามแม่น้ำไดยะ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเก็บภาพประทับใจกับ ทะเลสาบชูเซ็นจิ เชิงเขานันไต เกิดจากทะเลสาบที่ก่อตัวจากการระเบิดของหินละลายจากภูเขาไฟนันไตในอดีต ซึ่งเป็นทะลสาบที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เหนือระดับน้ำทะเล 1,270 เมตร ทำให้อากาศที่นี่เย็นตลอดปี (โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งอาจจะมีลมพัด ทำให้รู้สึกหนาวมากขึ้น ควรเตรียมเสื้อหนาวและเสื้อกันลมมาให้พร้อม) เพลิดเพลินกับการนั่งชมวิวบนรถบัสที่ขึ้นเขาสูงชันและโค้งหักศอกอันเป็นความมหัศจรรย์ในการสร้างทางโดยแต่ละโค้งจะมีชื่อโค้งเป็นของตัวเอง

นำท่านเดินทางสู่ กรุงโตเกียว (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีความสวยงามในทุกฤดู มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต แฟชั่นมากมาย สวรรค์ของนักช้อปปิ้ง

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! บุฟเฟ่ต์ยากินิคุ สไตล์ญี่ปุ่น

ที่พัก Shinjuku Washington Hotel, Shinjuku ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day4 สวนโชวะคิเนน - วัดอาซากุสะ - ถนนนากามิเสะ - ช้อปปิ้งทาเคยะ (ตึกม่วง) - ถนนต้นแปะก๊วยเมจิจิงกูไกเอ็น ดิวตี้ฟรี - ช้อปปิ้งชินจูกุ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สวนโชวะคิเนน ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของจักรพรรดิโชวะ มีขนาดใหญ่ถึง 16,300 เอเคอร์ ภายในแบ่งโซนออกเป็น 2-3 สวน โดยเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางสำหรับเดินเท้าและจักรยาน โดยทุกท่านจะได้ชมต้นกิงโกะและต้นเมเปิ้ลล้อมรอบสวนญี่ปุ่น ที่มีสีเหลืองอร่ามและแดงอวดโฉมทั่วทั้งพื้นที่ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ซึ่งจะสวยงามมากในช่วงในฤดูใบไม้ร่วง จึงเป็นสถานที่ที่นิยมมักมาเดินเล่นพักผ่อน, อ่านหนังสือ, ปิคนิก, ทำบาบีคิว, ดูนก, ปั่นจักรยาน, พายเรือ, ออกกำลังกาย, และกิจกรรมอื่นๆ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! บุฟเฟ่ต์ชาบู

จากนั้นนำท่านชม วัดอาซากุสะ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว เข้านมัสการขอพรจากพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำ  นอกจากนั้นท่านยังจะได้พบเก็บภาพประทับใจกับโคมไฟขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตรซึ่งแขวนอยู่บริเวณประตูทางเข้าวัด และยังสามารถเลือกซื้อเครื่องรางของขลังได้ภายในวัด ฯลฯ

หลังจากนั้นนำท่านเพลิดเพลิน ถนนนาคามิเซ (Nakamise Street) ถนนช้อปปิ้งที่มี ชื่อเสียงของวัด มีร้านขายของที่ระลึกมากมายไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางของขลัง ของเล่นโบราณ และตบท้ายด้วยร้านขายขนมที่คนญี่ปุ่น มายังวัดแห่งนี้ต้องมาต่อคิวกันเพื่อลิ้มลองกับรสชาดสุดแสนอร่อย

ขนาดองค์จักรพรรดิ์ยังรับสั่งคนสนิทให้มาซื้อที่นี่!!! นั่นก็คือ “เมล่อนปัง” เป็นขนมปังแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น บางคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นขนมปังสอดไส้เมล่อน แต่จริงๆแล้วคือขนมปังอบแล้วยด้านบนมีลายแตกๆ ซึ่งเหมือนผิวเมล่อนของญี่ปุ่น เป็นที่มาของชื่อ “เมล่อนปัง” นั่นเอง

นำท่านช้อปปิ้ง ทาเคยะ หรือที่รู้จักกันในนาม “ตึกม่วง” จุดช้อปปิ้งอีกหนึ่งจุดที่ยอดฮิตทั้งนักท่องเที่ยวเองและคนญี่ปุ่น มีของให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งมากมาย อาทิ ขนม ของกินญี่ปุ่น ชาญี่ปุ่น เครื่องดื่มสำเร็จรูป อาหารเสริม วิตามิน กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องสำอางนอกจากนี้ยังมีพวกนาฬิกาแบรนด์เนม เครื่องใช้ไฟฟ้า กระเป๋าเดินทาง ฯลฯ พร้อมมีเคาน์เตอร์ Duty free ทำเรื่องปลอดภาษีได้อีกด้วย

นำท่านชม ถนนต้นแปะก๊วยเมจิจิงกูไกเอ็น ที่ถนนแห่งนี้มีต้นแปะก๊วยอยู่มากกว่ากว่า 100 ต้นเรียงรายเต็มสองฝั่งถนนและเกาะกลางยาวกว่า 300 เมตร ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีถนนทั้งสายจะเต็มไปด้วยความสวยงามสีทองอร่ามราวกับภาพวาด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมใบแปะก๊วยที่สวยที่สุดในใจกลางกรุงโตเกียว

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี ดิวตี้ฟรี ต่อจากนั้นอิสระทุกท่านเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งที่ ย่านชินจุกุ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการจับจ่ายซื้อสินค้านานาชนิดได้จากที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ร้านซานริโอะ ร้านขายเครื่องอิเลคทรอนิกส์ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องสำอาง ต่างๆ กันที่ร้าน Matsumoto แหล่งรวมเหล่าบรรดาเครื่องสำอางมากมาย อาทิ มาร์คเต้าหู้, โฟมล้างหน้า Whip Foam ที่ราคาถูกกว่าบ้านเรา 3 เท่า, ครีมกันแดดชิเซโด้ แอนเนสซ่าที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี  และสินค้าอื่น ๆ  หรือให้ท่านได้สนุกกับการเลือกซื้อสินค้า แบรนด์ดังอาทิ Louis Vuitton, Uniqlo, กระเป๋าสุดฮิต Bao Bao Issey Miyake, เสื้อ Comme Des Garcons, H&M หรือเลือกซื้อรองเท้า หลากหลายแบรนด์ดัง อาทิ Nike, Converse, New Balance, Reebok ฯลฯ ได้ที่ร้าน ABC Mart

ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน

ที่พัก Shinjuku Washington Hotel, Shinjuku ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day5 วัดนาริตะซัน ชินโชจิ - ถนนนาริตะซัง โอะโมะเทะซังโด - ชิซุย พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท - สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม วัดนาริตะซัง ตั้งอยู่บนเนินเขากลางเมืองนาริตะ วัดที่ได้รับความศรัทธาอย่างสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันขึ้นปีใหม่จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์นับแสนเพื่อขอพรจากหลวงพ่อ “ฟุโดเมียว” อันศักดิ์สิทธิ์เลือกซื้อ “เครื่องราง” หรือ “ฮู้” ต่างๆ รวมทั้งสินค้าที่ระลึกต่างๆ ในราคาย่อมเยา

นำท่านช้อปปิ้ง ถนนนาริตะซัง โอะโมะเทะซังโด ที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ในบรรยากาศย้อนยุค และวัดสำคัญของย่านนี้ สองฝั่งตลอดสายเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆมากกว่า 150 ร้านค้า บวกกับบรรยากาศบ้านเรือนที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคโบราณ ทำให้การเดินช็อปปิ้งมีสีสันและอินกับความญี่ปุ่นขึ้นไปอีก

เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน

จากนั้นให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่ ชิซุย พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท (Shisui Premium Outlet) แหล่งรวมสินค้านำเข้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่ดังไปทั่วโลก กว่า 150 ร้าน อาทิเช่น Coach, Gap, Samsonite, Rayban เลือกดูเครื่องประดับ และนาฬิกาหรูอย่าง Citizen, G-Shock, Fossil, Seiko ฯลฯ รองเท้าแฟชั่น Adidas, Nike, ABC Mart, Puma, Reebok, Timberland ฯลฯ  อีกทั้งยังมีร้านอาหารให้ท่านได้เลือกชิม เลือกลิ้มลอง มากกว่า  20 ร้านให้เลือกไม่ว่าจะเป็น อาหารญี่ปุ่น ราเม็ง อาหารจีน หรือแม้กระทั่งพิซซ่า ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น

18.10 นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน JAPAN AIRLINES เที่ยวบินที่ JL0707 พร้อมบริการอาหารบนเครื่อง (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 40 นาที)

23.35 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ